วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Cute & Cool (Sehun x Luhan) 1/2











Title : CUTE & COOL 
Pairing : OH SEHUN x LUHAN
NOTE : อยากมีเมีย



“เฮ้ย จงอิน วันนี้ไปกินไรกันดีวะ”

((โทษนะเว้ยวันนี้กูจะไปดูหนังกับคยองซู ไปแดกคนเดียวก่อนนะ))

“ไรวะ... ฮัลโหล หวงจื่อเทา ทำเห้ไร ไปกินข้าวกัน”

((มึงเพี้ยนรึเปล่าวะ... กูบอกไปแล้วว่าวันนี้กูต้องพาจุนมยอนไปดินเนอร์))

“พวกมึงแหล่ะเป็นเหี้ยไรกันวะ แต่ก่อนพวกมึงไม่มีแฟนก็แดกกับกูได้อยู่เลย”

((หาเมียสิวะเซฮุน แค่นี้นะ...ไม่มีอะไรครับจุนจุน คนมาขายประกัน))

“อ้าวไอ้เวรนี่ กูขายประกันซะงั้น”

ตู๊ดตู๊ดตู๊ด...

“ว่ากูตุ๊ดอีก..สะเด้ย!

โอเซฮุนไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้เขาจะได้มารับรู้ถึงคำว่าเหงา...

สำหรับผู้ชายที่ใช้เวลาไปกับการเรียน เล่นเกม เที่ยวไปกินไปอย่างเขา หัวสมองไม่เคยจะนึกถึงคำว่าแฟนสักครั้งเพราะมีเพื่อนคอยไปไหนไปกันอยู่เสมอ จนกระทั่งตอนนี้ เพื่อนๆต่างมีแฟนแล้วค่อยๆแยกออกไป ขนาดนี่แค่หนึ่งอาทิตย์ก่อนวันวาเลนไทน์ ก็พากันตื่นเต้นดี๊ด๊า ซ้อมกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย

ชายหนุ่มวัยยี่สิบสามผู้ใช้ชีวิตนักศึกษาช่วงปลายๆลากเท้าไปตามถนนท่ามกลางผู้คนที่เดินสวนกันไปกันมา ชายหนุ่มเบ้ปากให้กับคู่รักที่เดินจูงมือกันกระหนุงกระหนิง ตาบอดกันเหรอวะถึงต้องมาเดินจูงมือกันเนี่ย หันหน้าหนไปอีกทางก็เจอคนป้อนขนมกันอยู่ตรงร้านเล็กๆข้างทาง นี่ก็เป็นง่อยกันรึไง

“น่าเบื่อว่ะ”หยิบมือถือมาถูๆไถๆฆ่าเวลาก่อนจะย่างเท้าไปตามลำพังอย่างเหงาหงอย ชีวิตที่เรียกได้ว่าช่างอับเฉาสิ้นดีทำให้เขาไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรทั้งนั้น ให้พูดตามตรงเขาไม่เคยสนใจคำว่าเหงานะ จนกระทั่งโดนเพื่อนหนีไปหาแฟนกันหมดนี่แหล่ะ สงสัยคืนนี้คงต้องนอนดูหนังอย่างอับเฉาอยู่ห้องอีกแล้วละมั้ง

ชีวิตโสดสนิทของเซฮุนเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่เขาก็ไม่ทราบได้ แต่เขาก็มั่นหน้ามั่นโหนกตนเองพอสมควรว่าไม่ใช่คนหน้าตาเลวร้ายอะไร (ออกจะหน้าตาดีจนแมวมองมาทาบทามไปโฆษณากางเกงใน) แต่เขาก็ไม่มีคำตอบว่าทำไมเขาถึงใช้ชีวิตโสดอย่างคงกระพันขนาดนี้ เซฮุนเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลาง (เอียงไปทางมีจะกินนิดๆ) ขยันตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ สุขภาพดีเพราะวิ่งหนีหมากลางซอยมาขึ้นรถเมล์แทนการออกกำลังทุกวัน ผิดกับหวงจื่อเทาที่เที่ยวทุกคืนจนขอบตาดำ หรือคิมจงอินที่เป็นผู้ชายดูไม่เอาอะไร เกาตูดเกาตีนไปวันๆ ไม่รู้ว่าพวกมันไปหาคนคุยด้วยมาจากไหนนักหนา

“ศาลเจ้าแม่ยอลยอลเปิดบริการแล้วจ้า ขอพรอะไรก็สมหวังทุกสิ่งสิ้น ห้าร้อยวอนจ้า ห้าร้อยวอนเท่านั้น!

เสียงเชิญชวนทำให้เซฮุนที่กำลังเดินเท้าท่อมๆไปตามถนนเงยหน้ามองอย่างสงสัย จนเห็นว่าศาลเจ้าแม่ข้างมหาวิทยาลัยกำลังเปิดให้ผู้คนเข้าไปขอพร ศาลที่นี่ค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของนักศึกษาพอสมควร (เขาเองก็เคยมาบนไว้แล้วต้องเต้นบัลเล่ต์แก้บนตอนตีสองเพราะอายคนมาเห็น) ไม่รู้ว่าเทพเจ้าดลใจหรืออะไรเข้าสิง ทำให้เซฮุนเปลี่ยนวิถีเดินเท้าตรงไปที่ศาลเจ้า ก่อนจะพบกับชายหนุ่มตัวเล็กๆใส่ชุดซินแสสีเทายิ้มหยีเป็นหมีได้นูเทลล่าอยู่อย่างนั้น

“สนใจขอพรกับเจ้าแม่มั้ยจ๊ะ ห้าร้อยวอนจ้า”ร่างสูงล้วงกระเป๋าเขย่าหาเงินสักครู่ก็ส่งเงินให้กับอีกฝ่าย “โซว แท้งขิ่วทีชเช่อ เชิญขอพรได้เลยจ้า คิวต่อไปเชิญจ้า”

เซฮุนเหลือบมองทีท่าผู้ดูแลศาลที่ดูคล้ายๆไดโนเสาร์นิดๆก็รีบปลีกวิเวกเข้ามาด้านใน ก่อนจะพบรูปปั้นหญิงสาวใส่ชุดคาบาเร่ต์สีแดงอุ้มริลัคคุมะเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านใน เซฮุนควักเหรียญร้อยวอนขึ้นมาอีก ก่อนจะดีดลงไปในที่กล่องด้านล่างรูปปั้นพร้อมประกบมือก่อนจะส่งเสียงดัง

“ท่านเง็กเซียน!!

“เฮ้ย..เจ้าแม่ยอลยอล...”เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นและเซฮุนก็ส่งเสียงอีกครั้ง

“เอ้อ..เจ้าแม่ยอลยอล!..ผมไม่ได้มาขอพร..มาขอเมีย!

“...”เสียงของชายหนุ่มทำเอาทุกคนนิ่งสงัดไปหมด โดยที่เซฮุนก็พรูคำพูดออกมาอย่างอัดอั้น

“ขอสวยๆ สวยแบบทุกคนมองตาค้าง อิจฉาลงไปชักดิ้นชักงอ สวยแบบนางฟ้า น่ารักใจดีมีเวลาให้ จะพาไปกินข้าว จะพาไปเดททุกที่แม่ง ทุกวันนี้ปั่นเรือเป็ดคนเดียวไม่ไหวแล้วครับเรือแม่งเอียง ถ้าสมหวังจะถวายริลัคคุมะชุดคู่รักของแท้จากซานเอ็กซ์เลยครับ! สาธุครับ!!”ขอเสร็จก็ไหว้หนึ่งครั้งแล้วจ้ำพรวดออกมาด้วยความอับอายเล็กน้อยถึงปานกลาง แม้ว่าพี่ไดโนเสาร์ซินแสจะปรบมือสามครั้งให้กำลังใจก็ตามที

หลังจากกลับมาที่หอพัก สั่งจาจังมยอนมากินพร้อมกับดูหนัง เซฮุนก็ลืมสิ่งที่ขอไปเสียจนหมดสิ้น แน่นอนว่าสำหรับเขามันแค่ระบายความคับแค้นอึดอัดในหัวใจเท่านั้นและไม่ได้หวังให้ได้สมปรารถนาอะไรทั้งนั้น .. แม้แต่หนังที่ฉายช่องฟรีทีวีก็ยังเป็นหนังรัก จาจังมยอนที่สั่งมาก็ยังมีโปรโมชั่นคู่รัก เซฮุนเบะปากรัวๆแล้วจึงใช้เวลาที่เหลือของค่ำคืนนี้ไปกับชีวิตส่วนตัวของตนเองไปตามลำพัง จนกระทั่งปิดไฟเข้านอน ในช่วงหนึ่งเขารู้สึกเหมือนว่าลมที่หน้าต่างพัดเข้ามา แต่คงไม่เป็นไรหรอกทั้งเพราะเขาเองก็อยู่ชั้นสี่ คงไม่มีโจรที่ไหนขยันปีนขึ้นมาปล้นหรอกมั้ง...



ติ๊ด..ติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ด...ติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ด...

“...”

เซฮุนลืมตาขึ้นในตอนเช้าวันถัดมา เมื่อปรับแสงสายตาเรียบร้อยก็ยันกายขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกมึนงง ชายหนุ่มที่สวมเสื้อยืดกับบ็อกเซอร์ตัวเดียวในห้องพักเดี่ยวอันเงียบเหงาชันกายขึ้นมาปิดนาฬิกาปลุก เหลียวมองผ้าม่านที่มีแสงส่องรำไรเข้ามาก็ถอนใจเฮือก เซฮุนตลบผ้าห่มเตรียมลุกขึ้น ก่อนจะสะดุดใจกับอะไรบางอย่างบนเตียง

“เหยดแหม่”

อุทานเบาๆเมื่อ(เพิ่ง)มองเห็นสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่บนเตียงนอนของตน เป็นมนุษย์ร่างเล็กผิวสีน้ำนม สวมชุดสีขาว เส้นผมสีน้ำตาล ใบหน้าหวานหยด จะมือจะเท้าก็ดูน่ารักไปหมด เจ้าตัวกำลังนอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องอยู่ตรงกองผ้าห่ม เซฮุนรู้สึกเหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดเข้ากลางศีรษะจนมึนงง เมื่อจู่ๆใครที่ไหนก็ไม่รู้มาอาศัยนอนในห้องของเขาแบบนี้

“เฮ้! เธอ..เธอเป็นใคร ทำไมมานอนในห้องฉัน..เมาเข้าห้องผิดรึเปล่าวะ”ปลายประโยคพึมพำกับตนเอง แต่ก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้แน่เพราะอีกคนจะเข้ามาได้ไงเมื่อไม่มีกุญแจกับการ์ดห้องของเขา

“...”ดวงตาของอีกฝ่ายค่อยๆขยับยุกยิก แพขนตายาวขยับเยิบทำเอาเจ้าของห้องได้แต่ทำตาปริบๆ เซฮุนจ้องมองอีกฝ่ายๆที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมองเขา เป็นดวงตากลมโตสวยแบบธรรมชาติไม่ได้เพิ่มบิ๊กอายแบบสาวๆที่เคยเจอ ก่อนที่มือเล็กๆจะเข้าขยี้ตาตนไปมา “อรุณสวัสดิ์...”

“อรุณสวัสดิ์อะไรเล่า นี่! เข้ามาที่นี่ได้ไง! มันบุกรุกห้องคนอื่นไม่รู้เหรอ?!”เซฮุนส่งเสียงโวยวายอยู่อย่างนั้น แม้ฝ่ายตรงข้ามจะน่ารักแต่เขาขอโวยวายไปก่อนสักหน่อย โดยที่อีกคนก็ขยับกายลุกขึ้นนั่ง คอเสื้อกว้างๆที่ไหลตกไหล่จนเห็นเนินเนื้อขาวนวลส่งผลให้คนที่เห็นตัวแข็งทื่อพลันเสตาไปทางอื่น

“ห้องนี้แหล่ะ..ไม่ผิดหรอก”

“ห่ะ”

“ก็เจ้าแม่ส่งฉันมา”ถ้อยคำเรียบง่ายพร้อมกับท่าทางจะเทคตัวลงไปนอนต่อทำให้เซฮุนผวาลงไปยื้อตัวอีกคนไว้ทันที

“เฮ้ย! เจ้าแม่อะไร!!

“ก็ไปขออะไรไว้ล่ะ!”อีกคนส่งเสียงหงุดหงิดปล่อยให้เซฮุนนิ่งอึ้ง “จากนี้นับไปเจ็ดสิบสองชั่วโมง ฉันเป็นแฟนของนายนะ ยังไงครบเจ็ดสิบสองชั่วโมงก็ซื้อตุ๊กตาไปแก้บนด้วย เจ้าแม่ถือว่าของแก้บนน้อยไป ได้แค่นี้”

“เฮ้ย..จะบ้าเหรอ..ตอนนั้นฉัน...บ้าเหรอ..แบบนี้ก็ได้เหรอ”พร่ำพูดอยู่คนเดียวปล่อยให้ร่างอีกคนค่อยๆจมลงเตียงไปตามระเบียบเวลา เซฮุนขยี้ศีรษะ จะเป็นไปได้ยังไง.. หรือคนๆนี้จะได้ยินที่เขาขอไว้ แต่เขามั่นใจนะว่าเขาไม่เห็นคนๆนี้ที่ศาลเจ้าแน่นอน...

หน้าตาน่ารักแบบนี้ใครลืมลงก็บ้าแล้ว...

“เดี๋ยวๆ มาคุยให้รู้เรื่องก่อน”เซฮุนตลบผ้าห่มขึ้นก่อนจะทำตาโตแล้วหันไปทางอื่นเพราะอีกฝ่ายใส่เสื้อสีขาวตัวเดียวและมันก็ถลกจนเกือบเห็นก้น “แต่งตัวดีๆดิ คุยกันก่อน มานอนแบบนี้ไม่ได้นะ!

“ก็บอกแล้วไงเล่า...เป็นแฟนต้องตามใจกันนะรู้มั้ย”ปากเล็กพ่นคำฉอดๆไปมาแล้วลุกกขึ้นมานั่งขยี้ตาอีกรอบแต่โดยดี ตอนนี้เซฮุนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จึงได้แต่เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

“นายว่าเจ้าแม่ส่งนายมา”

“ฮื่อ”

“เจ็ดสิบสองชั่วโมง”

“ช่าย อยากต่อโปรโมชั่นก็ไปแก้บน”

“ถ้าไม่แก้บนล่ะ”

“เจ้าแม่จะสาปนาย”ดวงตาสวยลืมขึ้นจ้องไปที่ชายหนุ่มที่หน้าซีดเล็กน้อย “ให้จู๋เหี่ยว จู๋หด ใช้งานไม่ได้ เป็นขันที โดนตุ๋ยไปชั่วชีวิต...”

“เฮ้ยพอๆ...แล้วฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่านายไม่ใช่คนที่มาหลอก”

“แล้วทำไมฉันต้องหลอก”ใบหน้าหวานนั่นเอียงลงเล็กน้อย “หลอกไปทำไม โจร? ถ้าฉันเป็นโจรฉันยกเค้าไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วสิ”

“เฮ้ยไม่ใช่แบบนั้น..แต่แบบ”

“นายคิดว่านายจะเข้ามาห้องนี้ที่อยู่ชั้นสี่ยังไง”ร่างเล็กๆกอดอกเชิดปาก “ฉันมีหน้าที่ทำความปรารถนาของนายให้เป็นจริง โซวอนึน มาแรบวา อ่ามจี้หนี่ฟ้ออยู่โบ๋ย”

“ร้องเพลงปุ๊บแม่งเหมือนคนบ้าเลยอะครับ”เซฮุนพูดขึ้นในที่สุด “แล้วฉันต้องทำยังไง..แล้วยังไง...อะไรยังไงดี”

“ก็นายบอกว่าอยากมีแฟนไว้ทำอะไร ขี้เกียจปั่นเรือเป็ดใช่ไหม เดี๋ยวช่วยปั่น ขอตอนเย็นนะแดดร่มๆ แดดแรงๆฉันไม่ชอบ”เจ้าตัวเชิดหน้าอีกครั้ง และเซฮุนก็มองว่าน่ารักน่าชังดี

“ฉันมีเรียน”

“ก็ไปเรียนสิ”ว่าก่อนจะมองอีกคนที่ทำสีหน้าไม่มั่นใจ “บอกแล้วไงว่าไม่ยกเค้าหรอก”

“รู้..แต่ว่า”

“ไปด้วยกันมั้ยล่ะ”ยื่นหน้ามาใกล้เสียจนเซฮุนต้องผงะ เมื่อเห็นแก้วตาสีน้ำตาลใสระยะประชิด “ไปเลยก็ได้ ป่ะ”

“เฮ้ย ไปชุดนี้น่ะเหรอ”

“ชุดนี้น่ะสิ”

“มัน..โป๊”สีหน้าจริงจังเองเรื่องนั้นทำให้ใบหน้าหวานขยับยิ้ม

“สรุปเป็นแฟนแล้วใช่มั้ยล่ะ”

“ได้มาแล้วก็ต้องเป็นล่ะ”เซฮุนกอดอก “ฉันเปิดออนไลน์แป๊บนึง ต้องซื้อเสื้อ..รองเท้า เธอจะใส่คัทชูหรือสลิปเปอร์ล่ะ”

“ฉันเป็นผู้ชายนะ ผ้าใบสิ”

“อ้าว”

“อ้าวอะไร นายไม่ได้ขอนี่ว่าต้องมีแฟนเป็นผู้หญิง”

“คือขอเมียไป...”

“ผู้ชายก็เป็นเมียได้..ดูหน้าฉันซิคิดว่าจะเป็นผัวใคร”ปาหมอนใส่ปิดท้ายด้วยความหงุดหงิดจนเซฮุนหงายเงิบไปข้างๆ สุดท้ายก็สั่งชุดสองชุดมาส่งพร้อมกับรองเท้าโดยจ่ายด้วยเครดิตของแม่ แม่เขาก็ไม่สงสัยหรอกเพราะซื้อเสื้อผ้าผู้ชาย คงดีตรงนี้ ถ้าเขาสั่งเสื้อผ้าผู้หญิงแม่เขาคงช็อคที่ได้ลูกสาวแน่นอน

“เดี๋ยวของมาส่ง...ว่าแต่ชื่ออะไรล่ะ”เซฮุนนั่งลงหน้ากระจกแต่งตัวมองคนที่นั่งจุ้มปุ๊กบนเตียง

“ต้องบอกด้วยเหรอ?”

“ไม่บอกแล้วจะให้เรียกอะไรล่ะ...หรือให้ตั้งให้”

“ตัวเอง”

“ห่ะ?”เซฮุนขยับคิ้วพร้อมกับอีกฝ่าย แต่เหมือนว่าฝั่งตรงข้ามเป็นการขยับแบบท้าทายนิดๆ

“เรียกฉันว่าตัวเอง จะได้จำไว้ว่าถ้านายทำอะไรไม่ดีกับฉัน ไม่ว่าจะคำพูดหรือการกระทำ มันคือนายกำลังทำร้ายตัวเอง”

“เหอ...เน่าน่ะ”

“ฉันก็จะเรียกแบบนั้นเหมือนกัน...โอเคนะ ตัวเอง”ใบหน้าหวานส่งยิ้มมาให้ก็ทำให้ใจของเซฮุนพองโตอย่างประหลาด เขากะพริบตาปริบๆพลางพยักหน้ารับเหมือนโดนป้ายยา ไม่นานนักของก็มาส่ง เขาแบ่งของใช้ส่วนตัวพวกแปรงสีฟันที่ซื้อสำรองไว้ให้อีกคนไป ก่อนจะปล่อยให้คนตัวเล็กๆไปอาบน้ำก่อนแล้วก็นั่งมึนงงกับชีวิตอยู่แบบนั้น... เจ็ดสิบสองชั่วโมง...สามวัน เขาควรจะทำอะไร...

“นุ่มจัง เค้าชอบ”

“...”เซฮุนหันขวับไปมองอีกฝ่ายที่สรรพนามเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเซฮุนก็แค่กะจะแวะมาเช็คชื่อแล้วพาแฟนระยะสั้นคนนี้ไปสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต(?) หลังจากที่เคยเหน็บแนมคนมีแฟนว่าตาบอดหรืออย่างไรต้องมาเดินจูงมือกัน เขาก็ได้มาจูงคนตาดีเดินไปตามถนนบ้างจนได้

“หิวแล้วนะ”

“หิวได้ด้วยเหรอ”

“อ้าว คนนะไม่ใช่ตุ๊กตายาง จะได้ไม่เหนื่อยไม่หิว”ต่อปากต่อคำเก่งอีก... ได้เป็นเมียจริงๆนี่ซวยชิบหาย ได้แต่คิดในใจแบบนั้นพลันพยักหน้าอย่างยินยอมไป ไม่ติดว่าน่ารักนี่อาจจะกระเด็นไปสามวาได้ เห็นงี้ก็เรียนมวยไทยมาสามสี่คอร์สเลยนะเออ

“จะกินอะไรล่ะ”

“ตัวเองจะเลี้ยงอะไรล่ะ”ชิบหายอีกที...ต้องเลี้ยงอีกเหรอวะ เอาเหอะแค่สามวัน คิดซะว่าออกเงินค่าเข้าค่ายลูกเสือ

“เลี้ยงแล้วกินมั้ย รีเควสได้แต่อย่ารีเควสแพง”

“เช็ทธรรมดาก็พอ กินหรูไปทำไม อึเหมือนเดิมล่ะ”เออ..ดูเลี้ยงง่าย เซฮุนพาอีกคนไปที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย ผู้คนต่างจ้องมองร่างเล็กๆใบหน้าหวาน ดวงตากลมสวยขนตายาวราวกับตากวาง ปากนิดจมูกหน่อยผู้กำลังถูกโอเซฮุนปีสามผู้ที่ดูเหมือนชีวิตนี้จะไม่มีแฟนกับชาวบ้านจูงมือฝ่าเกาหลีไปอย่างมาดแมน เสียงซุบซิบเล็กน้อยดังขึ้นจนกระทั่งเซฮุนพาลู่หานไปปล่อยอยู่ที่โต๊ะว่างตัวหนึ่ง

“นั่งรออยู่นี่ล่ะ เดี๋ยวมานะ”

“อื้อ”

“พูดหวานๆหน่อยดิ๊ นี่พาแฟนมากินข้าวนะเว้ยไม่ใช่พาเจ้าหนี้มาเลี้ยง”

“เค้าจะรออยู่นี่แหล่ะ รีบมาไวๆ เค้าหิวแล้ว!”นอกจากจะไม่ฟังยังวีนกลับซะอย่างนั้น เซฮุนเหลือกตามองบน เริ่มไม่แน่ใจว่าชีวิตแบบไม่โสดมันดีแล้วจริงๆหรือไม่ สุดท้ายก็จำใจไปต่อแถวซื้อเซ็ตอาหารสองเซ็ตตามระเบียบ แอบเหลือบไปมองก็เห็นว่าคนตัวเล็กๆที่แทนตัวเองว่าเค้า และแนะนำกับเขาว่าชื่อตัวเองกำลังพับทิชชูเล่นอยู่ที่เดิม.. เด็กดีเหมือนกันแหล่ะเนอะ

“มารอใครเหรอครับ...ใส่ชุดไปรเวทแบบนี้หรือมาทัศนศึกษาเอ่ย”

“มาดูที่เรียนรึเปล่า พี่แนะนำได้นะ”

เซฮุนเหลือกตามองไฟเพดานอีกครั้งเมื่อถือถาดกลับมาก็เจอเพื่อนของเขาทั้งสองคนกำลังนั่งชวนยัยตัวเองคุยอยู่อย่างกอร่อกอติก โดยที่นิ้วเล็กๆก็กำลังพับทิชชูเป็นเรืออย่างตั้งอกตั้งใจ สุดท้ายเขาก็วางถาดอาหารลงก่อนจะทักทายเพื่อนทั้งสองของเขาเรียบๆ

“มานั่งหูดำไรแถวนี้พวกมึง แฟนๆมึงไปไหนกันวะ”

“ก็ไปเรียนอะดิถามได้... เห็นน้องนั่งคนเดียวกลัวจะเหงาเลยเข้ามาคุยเนี่ย”จื่อเทาว่าพร้อมกับจงอินที่พยักหน้าสนับสนุน

“ถูกครับ เห็นน้องมานั่งรอที่นี่ เราก็เป็นคนดี แนะนำสถานที่ให้น้องเขา”

“แดกรองเท้ากูกันมั้ยจะได้ไม่ต้องพูดมาก ใครนั่งคนเดียว”เซฮุนอึกอักไปเล็กน้อย “เขามากับกู”

“ห๋า? มากับมึง? เขาหลงทางเหรอ”

“ใครฝากน้องไว้กับมึง เดี๋ยวกูดูแลแทนได้”

“ไม่ได้หลงทาง ไม่มีใครฝากหรอก”เสียงของยัยตัวเองดังขึ้น และเซฮุนก็มองไปยังใบหน้าหวานที่เงยขึ้นมองท่ามกลางคนในโรงอาหารที่หันมามองพวกเขาแทบจะเป็นตาเดียว ดวงตากลมโตนั่นหรี่หยีตามด้วยรอยยิ้มหวานหยดจนแทบจะละลายเขาให้ไปกองกับพื้นอย่างง่ายๆ เซฮุนไม่เข้ใจนักว่าทำไมเจ้าแม่ต้องส่งคนที่น่ารักมากแบบนี้มาให้กับเขาด้วย



แต่ทันทีที่ประโยคสั้นๆหลุดออกมาจากริมฝีปากเล็กๆนั่น

เขาก็รู้สึกเหมือนว่าได้ขึ้นสวรรค์ทั้งที่ยังอยู่บนพื้นดิน...



“เราเป็นแฟนกัน”




****************
แฟนรุ่นทดลอง
#คิวท์แอนด์คูล