วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[SF] 0627[OHSIXTWOSEV] {WUYIFAN xPARKCHANYEOL} 2/3









Title : 0627[OHSIXTWOSEV]  2/3
Author : RUNAWAY05
Couple : WUYIFAN x PARKCHANYEOL
Note : พัคชัลเป็นเคะขี้บ่น




“เฮ้ยๆชานยอล วันนั้นไปหาที่ห้องทำไมไม่อยู่วะ”

“อือ ย้ายห้องแล้ว”

“เฮ้ยมีตังย้ายห้องเลยเหรอวะ...”

“แกก็ดูพักนี้แม่งธรรมดาที่ไหน แต่งตัวเนี้ยบเชียวนะ ไอโฟนที่ถอยมาใหม่นี่อีก”

“มีเจ๊ที่ไหนเลี้ยงเนี่ย”

เจ๊เชี่ยไรล่ะ...ผมคิดในใจก่อนจะเบนหน้าหนีออกไปยังไวท์ฮอล..พรุ่งนี้ที่สดใสรอเราอยู่ กูไม่ได้ถูกเจ๊เลี้ยงต้อยแต่กูไปขายตูดให้อิพี่กาแลคซี่เพื่อความอยู่รอด ช้ำกว่าเก่าอีก ผมเบนสายตามองท้องฟ้า อยากออกไปแตะขอบฟ้าแต่โชคชะตาไม่เข้าใจครับ นี่ก็พล่ามอะไรจัง ก็เนี่ยแหล่ะครับพอเข้าไปอยู่ในห้องรหัส0627แล้วชีวิตก็ดี๊ดี ไม่ดีอย่างเดียวคือเจ็บตูด แต่จะว่าไปมันก็ได้ฟีลนะ หู้ยอย่าไปพูดอะไรมากมายครับผมคนขี้อาย

“ชานยอล...แกมีเจ๊เลี้ยงสินะ”

“...”

“หรือแกไปปล้ำลูกคุณหนูมา”

“...ไปแดกข้าว กูไม่อะไรทั้งนั้นแหล่ะ กูดีกับแม่กูแล้ว”โกหกไปงั้นครับขี้เกียจตอบ พวกมันก็ไมได้อยากจะรับฟังอะไรผมนักหรอก พูดง่ายๆคือมาเสือก ผมอะแต่ไหนแต่ไรแล้วกับเรื่องเพื่อนฝูง ไม่เอาจริงๆครับ ความทรงจำมันก็ค่อนข้างเลวร้ายประมาณนึง ไม่พร้อมจะให้สัมภาษณ์ตอนนี้

“เหยจริงดิ...มิน่าล่ะ แม่แกตามกลับไปรับมรดกแล้วใช่มั้ย”ผมทำหน้าปวดขี้ใส่พวกมันแล้วลากตีนออกมา โดยพวกมันก็ตามมาด้วยทำไมก็ไม่รู้

“โอ๊ะ!”หนึ่งในนั้นเหมือนว่ามันจะเผลอไปชนไหล่พวกรุ่นพี่เข้า ซึ่งกลุ่มนี้เท่าที่เคยได้ยินมาก็เหมือนว่าจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ ผมรีบปลีกตัวออกปล่อยให้มันขอโทษขอโพยเขาอยู่นั่นแหล่ะ จะได้ไม่ต้องไม่ตามมาถามหาในวันที่ชีวิต...เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน อะไรงี้อะครับ..

พูดตรงๆผมยังไม่เข้าใจตัวเองเลยคุณเอ๊ย...




“อา...”

“...”

“นี่แหล่ะ..มื้อในฝันเลย”

“...”

ผมมองอิพี่กาแลคซี่พูดอย่างมีความสุขในสภาพเสื้อยืดกางเกงขาสั้นถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ โดยผมนั่งคร่อมพี่แกหันหน้าใส่พร้อมกับป้อนข้าวผัดกิมจิให้กิน แม่งมีความสุขตรงไหนวะเนี่ยถูกมัดอยู่ไม่ใช่เรอะ? ผมโกยข้าวยัดปากแก(พี่เค้าบอกป้อนดีๆเค้าไม่ฟินน่ะครับ) เอาช้อนแหกปากเคาะเงิงไปสองสามรอบก็ครบถ้วนกระบวนความ เอาทิชชู่ขยี้ๆปากแกก็เรียบร้อยครับ ความมาโซคิสต์อะครับแรกๆก็ตกใจ ไปๆมาๆก็ลองเปลี่ยนจากช้อนเป็นทัพพีบ้าง พลั่วมือบ้างก็ว่ากันไป

จากที่พอศึกษาและอาศัยมานะครับ พี่กาแลคซี่(เรียกงี้ถนัดกว่าอะ) เป็นมาโซที่ค่อนข้างจะเก็บกดเอาเรื่อง แก้เป็นผู้จัดการบริษัทอะไรไม่รู้ครับ วันๆเซนแต่เอกสาร เป็นหัวหน้าที่ดีสำหรับทุกคน เบื้องบนด่ามาแกก็ยิ้มเป้ยๆรับเฉยไม่สะทกสะท้าน เนี่ยละมั้งครับถึงได้ดิบได้ดี แต่ไปเรื่อยๆดูแกไม่ปกติพิกล ก็เพี้ยนๆบ๊องๆไปตามเรื่องตามราวอะครับ ทำอะไรขัดหน้าขัดตาแต่แกก็น่ารักดีครับ(ถ้าไม่รวมกับบางวันชอบเอาผ้าไปมัดขาผูกกับเสาแล้วดิ้นกระแด่วๆกลางห้องนะ)

“ทำไมพี่เป็นงี้วะ ที่ทำงานไม่รู้เหรอ” ผมวางถ้วยข้าวก่อนจะนั่งทับตักแกอยู่งั้นแหล่ะ นี่ก็ความสุขครับ ไม่มีอะไรทำก็ดีดหัวนมพี่แกเล่น

“ไม่รู้หรอกครับ ที่ทำงานพี่ไม่ค่อยมีคนฉลาด”...กูจะอัดเทปให้เค้ามารุมตีนมึงอิเหยิน-_-

“ปากเหอะ...วันนี้เหนื่อยป้ะ”

“มาเหนื่อยกันครับม่ะ”

“จะยันลงพื้นก็กลัวพี่ฟินว่ะ”ผมทำหน้าเหม็นตดใส่พี่กาแลคซี่ไปที

“แล้วน้องแฮปปี้เนสอยากไปไหนครับ”

“อยากกินนาร์โชอะ...ในทีวีโคตรน่ากิน”

“ในโรงหนังมีขายนะ งั้นดูหนังมั้ย”

“คราวนั้นพี่ก็เข้าไปนอนครับอย่ามา”

“อยากดูด้วยกันก็บอกสิหนู”

“พี่แม่ง...”ด่าได้แค่นี้ครับ ลงมือลงไม้อะไรไปนี่นางอร๊าวตลอด ชอบเค้าแหล่ะ หาเรื่องโดนตบกบาลตลอด เอาจริงๆนี่โดนตีนผมไปกี่รอบแล้วไม่รู้ ต่างคนต่างฟินที่จะทำร้ายร่างกายกันอะครับงืม...

“ขอแก้มัดก่อนนะครับไว้ไปเที่ยวกัน”ผมลุกขึ้นมายืนมองแกแกะเชือกอย่างทุลักทุเลก่อนจะถอนหายใจ สมัยนี้คนไม่เต็มก็มีเยอะแยะเกินไปบนโลกนะครับ พัคชัลรู้สึกหนักหน่วงถ่วงตับ...

หลังจากกินข้าวแล้วพี่แกก็สำนึกได้ครับว่านี่มันคืนวันศุกร์... คือถ้าเป็นคืนวันศุกร์พี่กาแลคซี่จะชอบพาไปเที่ยวผับครับ แต่มันไม่ใช่ผับเย้วๆเหมือนที่เคยแอบไปตลอดอะ เป็นผับคนรวย เหล้าช็อตละหมื่นวอน ขนหนาแข้งพี่แกไม่ร่วงครับแต่ผมพัคชัลนี่ร่วงกระจายพร้อมรังแคเลย ผมสอบสวนถามได้ความมาว่าพี่แกต้องไปอมเหล้าช็อตละหมื่นวอนทุกศุกร์ครับ เพราะเป็นหน้าตาทางสังคมแบบหนึ่งเพราะแกไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที กลัวคนมาเสือกสงสัยรสนิยมอะไรแบบนี้เลยต้องหิ้วเด็กมาแถวนี้ตลอด เด็กก็หลงว่าแกจะดิบเถื่อนรวยแบบลุงเกรย์สิครับ ที่ไหนได้ นอนอร๊าวๆอยู่ที่บ้านนั่นแหล่ะดีละ-_-

“กินอะไรดีเรา”

“สั่งมาเหอะผมไม่รู้จัก”ผมพูดไปตามตรง กับทรงผมที่ผมไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่เพราะแสกข้างหวีแบบคุณชายเรียบร้อยเชียวครับ ไอ่เราก็พี่เป้สลิ่มมาตลอดเจอแนวนี้ก็ตึ้บ ไหนจะสูทพอดีตัวแล้วโซฟาหลุยส์ดีๆก็ไม่ได้นั่ง ต้องมานั่งตักเสี่ยอีกก็ไม่ได้นั่งแบบอิหนูอะไรนะครับแหม พาดขาขวางตักพี่กาแลคซี่แกไปงั้นแหล่ะ หน้าเน่อนี่ถูกแต่งเต็ม เหลียวมองหน้าพี่แกก็สะดุ้งนิดหน่อยหน้าขาวยิ่งกว่านางชฎา สงสัยรองพื้นแล้วลืมคอนทัวร์... โมเมพาเพลินมั้ยพี่...

“เฮ้ย วันนี้หิ้วเด็กมาอีกแล้วสิ”เสียงงใครไม่รู้เอ่ยทักพี่แกไปครับ ผมก็ได้แต่เบือนหน้าออกไปทางอื่น กลัวชาวบ้านจะเห็น=_=

“อือ นายอะได้มั่งรึยัง”

“ยังเลย..นี่ไปฉกนายแบบจากไหน ขาสวยนะเรา”ตีนผมกระตุกเล็กน้อยเนื่องจากถูกลูบไล้ต้นขา ผมหันไปชักสีหน้าแต่อิพี่กาแลคซี่ก็ฉวยมือเขาซะก่อน

“เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย....^^

“...นิดเดียวน่า”คำว่าเฮ้ยนี่เหมือนคำว่ารักเลยครับดูมีความหมายอันยิ่งใหญ่ ลุงคนนั้นถูกพี่กาแลคซี่บีบมือด้วยรอยยิ้มนุ่มละมุนก่อนจะปล่อยให้โดยดี แกสะบัดมือเล็กน้อยก่อนจะถามพี่กาแลคซี่ขึ้น “หวงอะไรนักหนาวะ จริงจังไปได้”

“ก็คนนี้จริงจัง”

“...”

ผมนี่สตั๊นท์ทำหน้าดาวพระศุกร์ไปพักใหญ่...มายโสรยาอย่าไปพูดแบบนั้นดินี่เอาจริงนะ ปอกลอกหลายปีเลยนะไม่กลัวเหรอวะ... ผมเหลือบตามองอิพี่กาแลคซี่ที่หันมายักคิ้วให้ผมสองจึกก่อนจะโบกมือลาเพื่อนที่มาสาวหุ่นสะบึมมาเข้าชาร์จก่อนจะพาไปที่อื่น ผมเหลียวหน้ามองแกอีกครั้งก่อนจะย้ายเบ้าออกไปทางอื่นเหมือนกัน

“เขินเหรอครับ”

“เขินเหี้ยไรล่ะ ผมไม่เขินหรอก”

“ทำไงจะเขินล่ะครับ”

“เขินแล้วได้อะไร?”

“ได้พี่ไง..ฟินนะ”

อิหน้าด้าน...ผมหันหน้าไปทางอื่นก่อนจะรู้สึกว่าพี่แกโอบเอวผมเอาไว้หลวมๆ ผมเอาคางเกยไหล่แกไปงั้นเหรอครับเมื่อยคอ แหม่เสือกสั่งน้ำส้มมาให้นี่เห็นผมเป็นพจมานในบ้านทรายทองเหรอครับ เห็นงี้ดื่มสาโทเป็นนะเออ
“น้องแฮปปี้เนส...ง่วงแล้วเหรอครับ”

“เปล่าครับ”

“ง่วงก็บอกพี่นะ”แกว่าพลางเอามือข้างนึงลูบหัวข้างนึงลูบหลังเหมือนอุ้มแมว... แมวเฟี้ยอะไรตัวยาวอย่างกับงูเหลือม... แต่ก็ดีครับพอเคลิ้ม มันไม่เคลิ้มตรงแกพูดต่อเนี่ย “ถ้าง่วงแล้วหลับแบบไม่บอกพี่จะหนักนะ”

“ให้ผมลงมั้ยล่ะ”

“ข้างล่างงี้เหรอ”

“ไปนั่งพื้นไป”

“หูยเหวี่ยง...เดี๋ยวพาไปส่งเพจเมียดุบอกด้วยเลยนี่”

“เดี๋ยวตบ”ผมว่าโดยที่พี่แกก็หัวเราะใส่เบาๆ

“ชอบ เอาดิ”

“ชอบให้ตบ? เออพี่มันมาโซนี่หว่า”

“ชอบเราอะครับ”

“สัส”ผมสบถเมื่อโดนคอมโบ้ติดต่อกันแบบกะไม่ให้หายใจ ด้วยความหล่อเหลาเลยหันหน้าไปทางอื่นครับ... ก่อนจะพบบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ต้องรีบซุกหน้ากับซอกคออิพี่กาแลคซี่อย่างด่วนครับ ออหอเลย ออหออ่อน ออหอเร่งกลางจนออหอแรง ก็เคยคิดนะครับว่าร้านเหล้าแพงๆพวกเพื่อนๆมันไม่มีปัญญามาหรอก ฉะนั้นสบายใจได้ว่าจะไม่มีการปะทะหน้ากันเกิดขึ้น


ซะที่ไหนละครับ...



“นาร์โชได้แล้วครับคุณคริส”

แม่งเป็นเด็กเสิร์ฟ...กวยยยยยยยยยยยยยยย

“ขอบใจนะ เบิ้ลชีสเหมือนเดิมมั้ย”

“เหมือนเดิมเลยครับ..ว่าแต่เด็กใหม่คุณคริสเหรอครับ..ขี้อายจัง”

หยุดเสือกแล้วกลับไปได้แล้ว...เพื่อนรัก...

“เพิ่งมาเลยยังไม่ชินกลางคืนน่ะ เด็กอนามัย...โอ๊ะ ฮ่าฮ่า”แม่งมีการมาแซะ ทุบแม่งเลยนี่แน่ะ-_- อิพี่กาแลคซี่ก็ทำหัวเราะครับเจอทุบไปอั่กนึง ผมเอาหน้าซุกหลบอยู่อย่างนั้นจนได้ยินเสียงเพื่อนผมดังขึ้นมาอีกที

“หลับแล้วมั้งครับ ไม่เห็นหันหน้ามาเลย”

“ขี้อ้อนแบบนี้แหล่ะ”อิพี่มันว่าพร้อมกับลูบหลังผมเบาๆไปมา งื๊อสิครับรออะไร เอ้ยไม่ใช่ ทำยังไงก็ได้ให้อิเพื่อนโคจรออกไปก่อนเถ๊อออ

“งั้นตามสบายนะครับ”

ฟู่เลยครับ โล่งใจing ในที่สุดมันก็ออกไปซะที ผมค่อยๆยกเบ้าออกมาจากที่ซ่อนโดยที่อิพี่กาแลคซี่ก็หันมายิ้มกรุ้มกริ่มใส่ผม ตอนนั้นแหล่ะผมถึงได้รู้ว่าผมไซ้ซอกคอพี่เขาอยู่ตั้งนาน อห. เขินซ้ำเขินซ้อน เขินซ่อนเงื่อน...

“เอ่อคุณคริสครับผมลืมเก็บแก้ว...เฮ้ย ชานยอล?!



เพื่อนทรยศ....

อิกิ๊บก๋ายยยยยยยหก่กสฟ่ดสฟ่ดสเสกสเสกเสดแ




ตอนนี้ผมกำลังทำหน้าเจื่อนๆอยู่ข้างๆอิพี่กาแลคซี่และเพื่อนผมที่กำลังทำหน้างงอย่างรุนแรงอยู่หลังร้าน หลังจากที่โป๊ะแตก มันเห็นเบ้าหน้าผม แถมยังเห็นผมนอนทับอิพี่กาแลคซี่อยู่ในร้านเหล้าไฮโซนี่อีก... จิครายครับ ชีวิตยากดูลำบากกันเลยทีเดียว มันมองหน้าผมกับอิพี่สลับไปสลับมาเมื่อพากันออกมาสลอนที่หลังร้าน

“งี้เหรอวะที่ฉันไปหาที่ห้องแล้วไม่อยู่อะ”

“...”ผมเม้มปากเล็กน้อย “ก็...อือ”

“นี่แกเป็นเด็กคุณคริส..ลูกค้าวีไอพีของร้านนี้เนี่ยนะ แกเอาอะไรคิดวะชานยอล?! แล้วแม่แกรู้จะว่ายังไง”

“อย่าเพิ่งบอกดิวะ”

“ทำไมล่ะ?”

“เอ่อ...”ผมอ้าปากค้างก่อนจะพูดขึ้น “เอาน่ะ อย่าเพิ่งบอกใครทั้งนั้นแหล่ะ”

“แกจะให้ฉันปิดเรื่องแกมีเสี่ยเลี้ยงเป็นความลับเนี่ยนะ!

“เอ่อ...เข้าใจอะไรผิดแล้วมั้งครับ”จู่ๆพี่กาแลคซี่ก็ก็เกาคอแกรกๆส่งเสียงขึ้นมาหลังจากยืนอมเหล้าในปากเป็นนาน ผมกับเพื่อนหันไปมองพี่แกที่ส่งยิ้มน้อยๆ “พี่ไม่ได้เลี้ยงเค้าอะ”

“อ้าว”

“คบกันอยู่ เป็นแฟนไง”

“อะไรนะครับคุณคริส!”ไอ้เพื่อนก็ร้องสิครับ ว่าแต่ร้องเชี่ยไร... ไม่เคยเห็นผู้ชายเป็นแฟนกันเหรอ... แฟนเหรอวะยังไม่ได้คบซะหน่อยนี่..

“เฮ้ยพี่ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบมีแฟนปุบปับ”

“เอ่อ..อืม...ยังไม่เป็นแฟนกันนะ แต่อยู่กินกันแล้วล่ะ ว่าจะดูใจกันสักยี่สิบสามสิบปี”เอ้าหอกแล้วครับ อิพี่หันไปตอบเพื่อนผมตาใส นี่มันเลวร้ายกว่าเดินอีกโฟ้ยยยยยยยยยยยยย ไอ่เพื่อนก็มองหน้าผมพะงาบไปมา สีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อครับว่าเพื่อนสุดแมนของมันอย่างผมจะมีผัว ถึงอิพี่แกจะไม่ค่อยสมประกอบไปหน่อยแต่คือกูหลวมตัวไปแล้วครับเพื่อนรัก... แส้ของพัคชัลเลือกผู้ที่เหมาะสมแล้วแง้ะ

“ชานยอลถ้าแม่แก...”

“เรื่องคุณแม่เดี๋ยวทางนี้จะติดต่อไปเองครับ..แต่เห็นว่าชานยอลยังไม่พร้อมเลยไม่ได้ทำอะไรที่เป็นทางการไป”พี่กาแลคซี่ขัดขึ้นโดยที่ผมก็หันหน้าไปมองพี่แกตาปริบๆ... “เราอาจจะเคยเห็นว่าฉันเคยพาคนอื่นๆมาบ้าง นั่นคือที่ผ่านมานะ อย่างน้อยฉันก็อยากให้เราเชื่อว่า ฉันจริงจังมากๆกับเพื่อนของเรา ชานยอลเป็นคนดี และฉันเองก็ชอบเขาเอามากๆ”

“คุณคริส...”

“ยังไงซะ...ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคตจะดีกว่ามั้ย?”

“เอ่อ..ถ้าคุณคริสพูดแบบนั้น...”ผมมองเพื่อนผมที่ทำสีหน้าไม่แน่ใจก่อนจะเงยหน้ามองผม “ชานยอล...”

“ไร?”

“ได้ดีอย่าลืมเพื่อนนะ เพื่อนจะเอาใจช่วยเอง”

“...”

“ไปแล้วนะ เจอกันที่โรงเรียน..เพื่อนรัก”มันโบกมือใส่ผมก่อนจะระเห็จไปตามเสียงเรียกของผู้จัดการที่เดินออกมาก่อนจะชะงักนิดหน่อยที่เห็นพี่กาแลคซี่ยืนเอาเงิงตากลมเย็นๆอยู่เคียงข้าง ผมหันไปเบิกตาใส่พี่แกเล็กน้อยก่อนจะตั้งท่าจะเดินกลับไปที่รถ

“น้องแฮปปี้เนสครับ รอพี่ก่อน”

“...”ไม่ต้องมาง้อ เพื่อนกูรู้เลยว่ามีผัว... จะไปนั่งฟันเหยินที่ไหนก็ไป...

“รอพี่ก่อนสิครับ”

“...”ไปเอาดิออร์กับชาแนลมาหยุดกูเดี๋ยวนี้ครับ...

“อย่ารีบเดินครับ...”อิพี่แกยังร้องอยู่แบบนั้นจนกระทั่งแกมาใกล้ๆ ผมถึงสังเกตในมือแกถืออะไรบางอย่างอยู่..คือดี..ดีออก จำนาร์โชที่สั่งได้มั้ยครับแล้วไม่ทันได้สวบเพราะไอ่เพื่อนดันจำหน้าผมได้ก่อน แกไปสั่งห่อกลับมาครับ สรุปคือแม่งไม่มีใจจะง้อเลย เสียดายของสั่งแต่ไม่ทันแดกซะงั้น หน้าก็ขาวกว่านางชฎามาเดินข้างๆตอนกลางคืนอีก ถ้าพี่แกฟ้อนขึ้นมานี่ผมวิ่งอะ-_-

“ห่วงกินนี่หว่า”

“กล่องตั้งสองหมื่นวอนเลยนะ”

“แพงสัสครับ ใช้น้ำมันสกัดจากพุงจอมมารบูมาทอดเหรอ”ผมมองถุงดูดีมีระดับที่บรรจุนาร์โช..ไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนทำงานที่นี่อะครับ ไม่งั้นให้มันช่วยฝากงานดีกว่ามาเสียตูดให้ไอ่ลุงบ๊องๆนี่ ...หรือแม่งแพงที่ถุงวะ

“ก็เราบอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ?”

“...”

ตึกเลยครับ... ไม่ใช่ตึกรามบ้านช่องแต่มันคือตึก..ตึกตึกโป๊ะตึกตึก... อย่ามาอบอุ่นอ่อนหวานแถวนี้เดี๋ยวพ่อรัวแส้ไม่ยั้งเลยนี่ ทำมาจดมาจำได้ นาร์โชไม่เคยกินแต่เคยกินข้าวเกรียบปลาห่อละห้าร้อยวอนนะเว้ยบอกไว้ก่อน ขโมยอิลุงที่ปั๊มน้ำมันกินมา ไม่ใช่ไม่เคยกินของแนวนี้ พี่ผ่านมาทุกเมนู ยูอย่ากดรสนิยมทางอาหารพัคชัลครัช ของแบบนั้นคิดเหรอว่าจะเอามากิน แพงจะตัย

“ไปไหนต่อมั๊ย?”

“อยากกลับแล้ว”ผมพึมพำอ่อนพร้อมกับขยี้ตาให้รู้ว่ากูง่วงจริงไม่ใช่สแตนอินไม่ใช้สตั๊นท์ พี่กาแลคซี่แกก็ส่งยิ้มครุคริมาให้ก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัว(ศีรษะ)ของผมอย่างนุ่มนวลชวนฝันหลับสนิทตลอดคืน ก่อนจะต้อนผมเข้ารถแล้วขับพากลับ

จริงๆผมชอบชีวิตกลางคืนนะ...ผมชอบแสงไฟสองข้างทางท่ามกลางความมืด...ชอบแสงไฟของร้านค้าในตอนกลางคืน ผู้คนที่ออกมาในยามวิกาลเพื่อหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายในตัวเอง และที่ดีที่สุดคือการนั่งรถตอนกลางคืน ผมชอบมากเลยครับ ไม่รู้สิครับ... บางครั้งผมก็คิดว่ากลางคืนมันสงบ มันเงียบ และมันก็เหมาะกับผม

“คิดอะไรอยู่เรา”พี่กาแลคซี่ถามขณะที่ขับรถกลับบ้าน ผมก็นั่งแดกนาร์โชที่พี่แกหิ้วมาจากร้านไปด้วย คีบั่บ..แหม ไม่อยากกินหรอกครับแต่เสียดาย เพราะดูท่าอิพี่กาแลคซี่ไม่กินแน่นอน

“นั่งรถตอนกลางคืนสบายดีครับ ผมชอบ”

“ชอบเหรอ? ออกมาบ่อยๆมั้ย?”

“แค่วันหยุดก็พอครับ มาบ่อยก็เบื่ออะ”

“เป็นงั้นไป”พี่แกยิ้มให้บางๆก่อนจะเลี้ยวเมื่อถึงเป้าหมาย พวกเรากลับมาที่ห้องต่างคนต่างแยกย้ายกันถอดรองเท้าปลดกระดุมเพื่ออาบน้ำอาบท่า จะว่ายังไงดีละครับก็คงมันไม่ได้รักอะเนอะ จะมาเตงขราถอดกระดุม แก้เนคไทมันก็แปลกๆ เป็นเด็กแกนี่ครับไม่ใช่เมียแก ผมถอดเสื้อถอดผ้าโยนสวิงไปรอบห้องโดยอิพี่กาแลคซี่แกก็เดินเก็บให้ จนผมนึกอะไรออกจึงได้เอ่ยกับพี่แกเบาๆ

“พี่ๆ พรุ่งนี้เดี๋ยวพาไปเลือกรองพื้นนะ”

“ทำไมล่ะ นี่ไม่ดีเหรอ?”

“หน้าลอยยิ่งกว่ากระทงอีกครับ ใครซื้อให้วะเนี่ย”ผมเดินมาที่โต๊ะหน้ากระจกก่อนจะรื้อเครื่องประทินคุณชายแกออกมาดู

“พนักงานเชียร์อะครับ บอกว่าแมนๆไม่ต้องใช้เยอะ”

“ขาวกว่าซาดาโกะก็หน้าพี่นี่แหล่ะ เดี๋ยวผมพาไปเลือกใหม่ พี่ผมเป็นช่างแต่งหน้าอะ ชอบเอาหน้าผมไปลองบ่อยๆเลยพอรู้ พรุ่งนี้นะอย่าเฉื่อย”ผมบ่น วุ้ยขัดใจครับ ของดีๆใช้แต่เลือกไม่ถูกกับหน้า ขัดใจมาก ขัดใจแรง ผมบึนปากอยู่พักก่อนจะได้ยินเสียงพี่กาแลคซี่แกหัวเราะเบาๆ

“คึคึ”

“ขำไรครับ...”ผมหันไปหรี่ตาแรงใส่โดยที่พี่แกก็ยิ้มน้อยๆ

“ขำคนขี้บ่น”

“เดี๋ยวตบเปรี้ยงเลย”ลืมแม่งละครับใครเลี้ยง ใครเสี่ยใครเด็ก ผมทำหน้าคันตีนใส่พี่แกที่หัวเราะร่วนแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง

“บ่นกันไปนานๆก็ดีสินะ”

“พี่มันมาโซนี่หว่า”ถอนใจให้ความระรื่นของแกสักทีนึงครับ แล้วจึงหยิบคลีนซิ่งและสำลีไปเซาะความขาวเกินจำเป็นบนหน้าแก อยู่กันแบบนี้ไม่รู้เรื่องส่วนตัวแกเลยนะครับบอกก่อน ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ ไม่รู้ด้วยว่าแม่แกจะคิดยังไงที่ลูกชายเลือกรองพื้นผิดแบบนี้ เลือกผิดแล้วหน้าขาวยังดูน่ารักครับ ผมนี่พี่สาวแต่งให้ครั้งแรกผิดไปอย่างมหันต์ ไปที่ไหนใครก็ทัก เขินจนหน้าเทาอะไรงี้ เจ็บตับไปอีก

“เช็ดไม่หมดสิวขึ้นนะ”ถูสำลีชุบคลีนซิ่งถูหน้าแกไปเรื่อยๆครับ มีการบอกเบาไปถูแรงๆอีก-_- พอถูเสร็จคว้าไม้แขวนเสื้อได้เลยสงเคราะห์กันไปสองเพี้ยะครับ ก่อนจะปล่อยไปอาบน้ำ หมันไส้แรงมาก หมันไส้อย่างมหาศาล- - แล้วแกสลดมั้ยก็ไม่อะครับ

หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยก็มานอนกระดิกตีนให้เสี่ยทาครีมให้ก่อนนอนครับ คือแรกๆก็ทำเองนะ แต่พี่กาแลคซี่แกอาสาครับก็เลยตามใจเสี่ย ให้พูดกันตามจริงพี่กาแลคซี่เป็นประเภทชอบดูแลคนอื่นน่ะครับ อาจเพราะแบบนี้แกเลยค่อนข้างทำงานแบบสบายๆหน่อย ไม่ค่อยมีปัญหากับใคร เป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบ มนุษย์แพทเทิร์นในอุดมคติที่สาวๆถวิลหา จนไม่รู้แท้แล้วแกเป็นมาโซคิสต์ถึงได้เป็นคนชอบดูแลชาวบ้าน นี่พูดเฉยๆน้ำตาจะไหลขอแชร์นะครับเลยนะเนี่ย...

“พี่ง่วงแล้ว ไวๆดิ”

“ไม่เล่นกันก่อนเหรอครับ”ยังจะมาทำหน้าละห้อย ที่เอ็งมัดตัวเองกับเก้าอี้ดิ้นแด่วๆเมื่อเย็นอะยังไม่พอเหรอ- -

“ง่วงแล้วครับ เหนื่อยด้วย”

“ยังไม่ทำเหนื่อยได้ไง”

“ตบปากแหกเลย”นี่พูดครับไม่ได้คิดในใจ ผมเอาหน้าซุกหมอนอย่างง่วงเหงาหาวนอน ก่อนจะรู้สึกถึงสัมผัสของอิพี่กาแลคซี่ที่กระดึ๊บตัวมาใกล้ๆ ผมเนียนนิ่งไม่ไหวติงราววิญญาณออกจากร่าง แต่ก็รับรู้ได้นะครับว่าแกกำลังลูบผมที่ไม่ค่อยจะมีของผมไปมาเบาๆ พร้อมเสียงพึมพำแถวๆหูงุ้งๆงิ้งๆตามกิจวัตรประจำวันครับ

“นอนยังครับ”

“นอนแล้วครับ นี่เสียงตอบรับอัตโนมัติ กรุณาฝากข้อความ”ผมตอบไปแบบนั้น..จริงๆผมก็กวนตีนเหมือนกันแฮะ._.

“น้องแฮปปี้เนส...พี่พูดจริงๆนะ เรื่องที่ร้านเหล้าอะ ถ้าเราโอเค พี่ก็อยากจะคุยกับแม่เรานะ”

“จะไม่เร็วไปหน่อยเหรอพี่”

“เสียงตอบรับอย่าตอบกลับดิ”อ้าวผิดอีก- - “เอ่อ..นั่นแหล่ะ ถ้าเราไม่มั่นใจ ไว้เราอยู่กันสักพัก โอเคนะ”

“...”

“อ้าวไม่ตอบพี่เหรอครับ”

“ไอ้พี่...”ผมสบถ ก่อนจะทำการอัญเชิญแส้เบอร์หกที่สถิตหัวเตียงฟาดตูดพี่แกอย่างพิโรธปนหมั่นไส้ มีแต่ความหมันไส้ครับพูดตรงๆ ไล่ฟาดตูดแกสักพักก็เหนื่อย ง่วงก็ง่วงยังเจอกวนตีนอีกนะชีวิต

“น้องแฮปปี้เนส?”

“...”ผมทิ้งตัวนอนตาปรือ เหนื่อยแล้วครับ เชี่ยนี่ไม่เจ็บมั่งไง๊ สักพักก็รู้สึกเหมือนลอยได้ครับ ไม่ได้แฟนตาซีอะไรหรอกอิเสี่ยมันคงอุ้มผมเองล่ะ

“ชานยอล”

“...”

“ฝันดีนะครับ”

เรียกน้องแฮปปี้เนสมานานนึกว่าลืมชื่อกันแล้วครัช คืออยากบอกว่าหัวใจเต้นแรงหน้าแดงทุกที เอาจริงก็รู้นี่หว่าผมชื่ออะไร แล้วทำไมต้องแกล้งไม่รู้ ทำไมถึงทำเป็นไม่เข้าใจ ยิ่งง่วงยิ่งเพ้อครับพอแค่นี้ก่อน มรสุมชีวิตมากมาย เหนื่อยเปลี้ยเพลียร่าง รีบๆหลับจะได้ชาร์จพลังกันครับ

ใครจูบอะไรหน้าผากผม..ไม่มีครับผมละเมอ...ไม่รู้ไม่เห็นอิอิกำ





วันรุ่งขึ้นผมก็มีนัดซื้อรองพื้นให้พี่กาแลคซี่แกครับ ถึงจะเขินนิดหน่อยที่แกแอบเรียกชื่อจริงตอนผมจะหลับก็เหอะ แต่ฟินอะ คือดี ซื้อรองพื้นแล้วเดี๋ยวพาไปตลาดแส้ดีกว่าครับ จะได้เลือกแบบที่เสี่ยแกพอใจ โหย อินล้งอินเลิฟอะไรครับไม่มีหรอก คนอย่างผมเหรอจะอินเลิฟ บอกแล้วว่าไม่ใช่คนมีแฟนเร่งด่วน ไม่ต้องมองผมแบบนั้นเลยนะครับ- 3-

ผมหลังจากไปธุระเล็กๆน้อยๆก็เข้ามารอพี่กาแลคซี่ที่ห้าง หลลังจากขอดตัวไปซื้อซอฟท์ครีมแล้วหาแลนด์มาร์กวางรากในร้านก็รอครับ รูดหน้าจอรอไปเรื่อยๆ สักสามสี่โมงก็คงจะมาแหล่ะ ผมนั่งเท้าคางมองนั่งมองนี่ไปเรื่อยหลังจากซอฟท์ครีมในมือหมดไป มันจะแบบ...ผมนั่งรอแล้วพี่แกไม่มา แล้วผมก็เลยโทรหาตากาแลคซี่ แล้วถ้าพบว่าแกกำลังเดินกับผู้หญิงอื่นนี่มันสูตรสำเร็จไปมั้ยครับ แต่ละครเรื่องไหนๆก็ทำกันง่ะ เอามั่งดีปะวะ ...

ตรู๊ดด

(ฮัลโหลครับ)

อ้าว..เสือกรับอีก...

“พี่อยู่ไหนแล้วอะ”

(พี่กำลังจะไปถึงแล้วครับ อยู่ไฟแดงตรงนี้เอง)

“โอเคๆ ผมอยู่ร้านไอติมตรงทางเข้านะ”

(ครับ คิดถึงแล้วเนี่ย)

“รีบๆมาว่ะ”

กริบ...

ไม่สำเร็จแล้วอะครับ อดได้เป็นฉากในละครเลยโธ่ ...ผมนั่งหน้าหมีอยู่ที่โต๊ะเหมือนเดิมก็เล่นเกมเลี้ยงแมวเอาซูชิมาล่อแมวให้เข้าบ้านอะครับ สะสมแมวหายากเหลืออีกสองตัว ผมกดเข้าเกมก่อนจะสตั๊นท์ไปเล็กน้อยเมื่อพบว่าถาดอาหารว่างเปล่าพร้อมกับสารร่างของอิแมวอ้วนที่นอนลูบพุงสบายอารมณ์

“อิแมวเชี่ย ให้ปลาน้อยแล้วยังมาแดกของแพงอีก”บ่นพอให้หายหงุดหงิดอะครับก่อนจะรู้สึกถึงการมาของใครคนหนึ่ง ซึ่งก็น่าจะเป็นอิพี่เงิงนั่นแหล่ะ ผมหันหลับไปเตรียมจะบ่นแต่ก็ต้องนิ่งไปเพราะไม่ใช่พี่กาแลคซี่น่ะสิครับ

“รวยแล้วสินะ...ถึงไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง”

“...”คนตรงหน้าผมเป็นคนที่ผมเกลียดที่สุดในชีวิต เขามาคนเดียวและสีหน้าไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ เหมือนกำลังวางแผนอะไรที่ผมไม่ชอบ ผมไม่เคยชอบอะไรในตัวเขาสักอย่างและมันแย่จริงๆที่เรามาพบกันวันนี้

เขาคือพ่อเลี้ยงของผมเอง...

“ฉันไปเจอเพื่อนแก..แล้วเพื่อนแกก็หลุดปากมาว่าแกย้ายมาอยู่แถวๆนี้ ทำงานอะไรล่ะ? แม่แกน่ะขายของเดือนนี้กำไรไม่ค่อยดีซะด้วยสิ”

“ต้องการอะไร”

“ไม่คิดจะให้เงินแม่บ้างเหรอ? อย่าอกตัญญูนักซี่”

“ถ้าจะให้เดี๋ยวจะกลับไปให้เองแหล่ะ น่ารำคาญ”ผมลุกขึ้นก่อนจะนิ่งไปเมื่อมันตะปบมือเข้ากับไหล่ ผมชาไปทั้งหน้าทันทีที่ได้ยินเสียงมันพูดขึ้นแม้จะไม่ดังนัก

“หรือจะรอให้แม่แกรู้ก่อน...ว่าวันนั้นเกิดอะไร...”

“...”

“ฉันก็ไม่อยากจะทำแบบนี้หรอกนะ...แต่ทำไงได้ล่ะ ก็แม่แกมันโง่”

“ไอ้!”ผมสบถแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นมือของใครอีกคนบีบไหล่ทั้งสองข้างของผู้ชายคนนั้นเอาไว้ มันผงะเล็กน้อยก่อนจะเบี่ยงหน้าไปมา ซึ่งคนที่มาบีบไหล่ทั้งสองข้างของมันก็คือพี่กาแลคซี่คนดีของผมเองล่ะครับ._.

“อะไรครับ..ไถตังเด็กเหรอ? แก่แล้วทำไมไม่น่ารักเลยล่ะครับ”

“กะ..แกเป็นใคร”

“แก่ไปไม่เสือกนะลุง...ปล่อยมือจากน้องแฮปปี้เนสของผมได้แล้ว”

“แฮปปี้เนสอะไร! นี่ชานยอลลูกชายของฉัน”

“หน้าด้าน”ผมเงิบเลยครับจู่ๆอิพี่กาแลคซี่ก็พูดออกมาด้วยสีหน้าระรื่นได้อีก “เป็นแค่พ่อเลี้ยงอย่ามากร่างสิครับ เกาะผู้หญิงกินไม่พอยังมาเกาะลูกชายเขาอีกเหรอ? หูย...ทำไมเป็นคนแบบนี้ล่ะครับ”

“อะ..อะไรกัน..”มันเลิกลั่กไปพักเมื่อชาวบ้านชาวช่องเริ่มหันมามอง ผมสะบัดตัวออกจากมันพร้อมกับเสียงของพี่กาแลคซี่ดังขึ้นอีกที

“ถ้าเอาเรื่องวันนี้ไประบายอารมณ์กับคุณแม่ล่ะก็...ผมไม่รับประกันว่าจะมีใครบุกเข้าไปในบ้านนะครับ ทางที่ดีอย่าใช้กำลังดีกว่า”

“แกเป็นใครกันแน่..ใหญ่มาจากไหนถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!

“ผม...มิสเตอร์กาแลคซี่ครับ”คือ...แม่งบอกยูสเนมกับชาวบ้านหน้าตาเฉย... พ่อเลี้ยงมันเห็นว่ารปภ.ห้างเริ่มมองแรงแถมทำอะไรไม่ได้ละมั้งครับเลยถอยทัพกลับออกไปก่อน พอเหตุการณ์สงบขึ้นแกก็เข้ามาลูบหัวเถิกของผมอย่างละมุนละไม

“เกือบไปแล้วนะ...ลุงคนนี้ตามเรามาสักพักแล้วล่ะ คงจะไปเค้นถามกับเพื่อนเราด้วย”

“น่ารำคาญอะ...”ผมบ่นก่อนจะนึกขึ้นได้ “พี่รู้ได้ไงอะครับ...แล้วที่ว่ามีคนเฝ้าหน้าบ้าน”

“รู้ว่าตามเราเพราะยามที่คอนโดมาฟ้องว่าลุงคนนี้มาด้อมๆมองๆเวลาเราเลิกเรียนกลับบ้านน่ะ...เฝ้าหน้าบ้านเหรอ โม้อะ..ไม่มีหรอก”

แล้วแม่งก็พูดซะอย่างกับเป็นมาเฟีย-_-...

“พี่แม่งขี้โม้”

“พี่ไม่มีอะไรเลยนะ มีแต่น้องแฮปปี้เนสคนเดียวเลยเนี่ย”

“ตอแหลง่ะ”ผมชมพี่เขาสั้นๆก่อนจะโดนโอบออกไปจากร้าน พวกเราซื้อข้าวซื้อของกัน เดินห้างดูหนังชิลๆก็มืดแล้วครับ เรานั่งรถกลับมาที่ห้อง แต่จู่ๆพี่กาแลคซี่แกก็ชะลอรถลง จุ๊งเล็กน้อยครับไปทำอะไรให้เสี่ยคันตีนรึเปล่า ว่าตอแหลทีเดียวเองนะ.-.

“พี่ลืมถามอะครับ”

“?”

“วันนั้นเกิดอะไรเหรอ...กับคนๆนั้นน่ะ”

ผมนิ่งไปสักพัก...จะว่าไปมันเป็นจุดเริ่มต้นของอาการของผมเลยก็ว่าได้ครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะพูดดีมั้ย สายตาของพี่แกก็ยังทอดมองนิ่งๆอยู่แบบนั้น แกก็ไม่ได้คาดคั้นอะไรหรอกครับ เหมือนอยากจะรับฟังผมซะมากกว่า ผมพรูลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเบาๆให้พี่เขาได้ยิน

“มัน...เคยจะปล้ำผมน่ะ”

---------------------
ฟาดแส้กลับเลยลูก
แท็ก #ฟิคพี่หมีฮุน ก่ะ