Title : 4 (sehun x luhan)
Author: RUNAWAY05
Note : เหตุการณ์ในเรื่องเป็นเหตุการณ์สมมติ
ไม่มีเค้าโครงจริงใดใดทั้งสิ้น
*****************************
สี่ปีที่แล้ว...โอเซฮุนเคยนอนไม่หลับมาก่อน
ในวันนั้นมันเป็นวันที่ทีเซอร์ของเขากับใครสักคนออกครั้งแรก...
เขาได้แต่เดินวนไปวนมา...จนถูกใครสักคนกอดเอาไว้...
ใครคนนั้นชื่อลู่หาน...
ลู่หานเป็นคนจีนแก่กว่าเขาสี่ปี
ตอนที่รู้จักกันครั้งแรก พวกเขาถูกทักว่าหน้าตาคล้ายๆกัน
ชีวิตที่ต้องเป็นเทรนนี่อย่างอดทน
มีความหมายขึ้นเมื่อชีวิตของเขาได้รู้จักกับลู่หาน
ลู่หานเป็นพี่ชายที่อ่อนโยน แต่ก็เป็นพี่ชายที่เด็ดขาด
“ฉันไม่ได้ใจดีกับนายหรอกนะ...นายเป็นแค่ช่วงนึงของชีวิตฉันเท่านั้น
อย่ายึดติดกับฉันนักเลย”
ลู่หานบอกเขาแบบนั้น... แต่ก็ชอบลูบผมของเขา
ชอบกอดเอาไว้หลวมๆ
บางครั้งชอบพูดจาเย็นชาเหมือนคนเข้มแข็ง
แต่ก็มีมุมอ่อนแอเหมือนคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ความสนิทชิดเชื้อนั้นคือความรัก... ความรักที่ซ่อนอยู่ในสังคมมือถือสากปากถือศีล
เกลียดเพศที่สาม แต่ก็หากินกับคู่จินตนาการ
โอเซฮุนเคยหัวเราะให้เรื่องเหล่านี้
เขาใช้ช่องว่างพวกนี้ใกล้ชิดกับอีกคน
เขารู้ว่าลู่หานรักเขา...
แม้อีกฝ่ายจะไม่พูดออกมาก็ตาม
*
2012
ปีที่เปิดตัวพวกเขาเป็นครั้งแรก
โอเซฮุนจำได้ว่าตอนนั้นตัวเองทั้งตื่นเต้นเงอะงะงุ่มง่าม
เขาไม่สนิทใจกับสายตาผู้คนที่มองมานัก
ทุกครั้งที่เขาเสียการควบคุม
ลู่หานจะพยายามบอกเขาว่าไม่เป็นไร
“ไม่เป็นไร..เซฮุน..มันจะผ่านไป
ถ้านายกลัว...นายจะเดินบนทางนี้ไม่ได้นะ”
เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ได้รับโอกาสที่มากพอ...เซฮุนต้องฝึกอีกมากนัก...
เขาไม่สามารถร้องเพลงได้อย่างลู่หาน
ไม่สามารถเต้นได้อย่างสะกดคนดูเหมือนจงอิน
ไม่สามารถทำให้ผู้คนหลงรักได้แบบแบคฮยอน
ไม่สามารถแร็พได้แบบคริสหรือชานยอล
เซฮุนต้องฝึกอีกมาก...
ในขณะที่เดบิวต์ด้วยเสียงชื่นชมและกระแสต่อต้าน
แม้จะต้องคอยวิ่งหนีพวกซาแซงที่เริ่มคุกคาม
เซฮุนก็ยังฝึกอยู่...
ฝึกไปกับความเหนื่อยล้าต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์...
แต่เพียงแค่ลู่หานกอดเขา แตะคางเบาๆ
เขาก็เหมือนกับซูเปอร์ฮีโร่ผู้ไม่เกรงกลัวอะไรบนโลกใบนี้
*
2013
เอ็กโซไม่มีการโปรโมทใดใดอีกหลังจากมินิอัลบั้มแรกโปรโมทเสร็จสิ้น
จนกระทั่งมีการวางแพลนสำหรับอัลบั้มใหม่...สิ่งที่เซฮุนเริ่มกลัวนิดๆก็เกิดขึ้น
เขาไม่มีมิตรหรือศัตรู...
เขานับถือทุกคนคือพี่ชาย...
แต่เมื่อสมาชิกคนหนึ่งยังไม่กลับจากบ้านเกิด ทุกคนก็เริ่มกังวล
มีเพียงลู่หานที่ยังเฉยๆกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“เขาแค่คิดถึงบ้าน...นายก็รู้
ว่านานๆครั้งจะได้กลับ อี้ฝานก็เหมือนมีปีกเป็นของตัวเองอยู่แล้ว”
“พี่หมายความว่ายังไง”
“เขาไม่ได้มาเพื่อจุดนี้...นายก็เห็นการปฏิบัติของฉันกับนายต่างกัน
ถ้าพวกเราเป็นอย่างนี้ สักวันฉันก็คงไป”
“พี่จะไปไหน”
“กลับบ้านน่ะ”
“ผมไม่ให้ไปนะ...พี่ฝึกมานาน
จะไปเฉยๆได้ยังไง เคสให้เห็นก็มีนี่นา”
“ที่นี่ไม่ใช่บ้านของฉันน่ะสิ”
ลู่หานพูดแบบนั้น...
แค่ประโยคนั้น...โอเซฮุนก็หนาวในอกอย่างไม่เคยเป็น...
หลังจากกังวลกันไปหลายวัน..ในที่สุดพี่ชายที่กลับบ้านก็กลับมาปกติ...
แต่ครั้งนี้เหมือนรอยร้าวค่อนข้างชัดเจน
บางครั้งเขาเองก็ไม่อยากจะยุ่ง
มีเพียงลู่หานที่เฝ้ามองดูทุกอย่างอยู่เฉยๆ...ลู่หานเป็นคนไม่ค่อยพูด...เพราะพูดอะไรไปก็แทงใจดำคน
บางครั้งเซฮุนก็รู้สึกเหนื่อย...แทนที่จะมารับรู้ปัญหา...เขาก็ซ้อมอีกครั้ง...
และหาที่ไปอยู่กับลู่หานสองคน
อัลบั้มแรกของพวกเขาเปิดตัวได้ดี
เหมือนสลายความขัดแย้งก่อนหน้าไปได้ระยะหนึ่ง
พวกเขายังโปรโมทอย่างต่อเนื่อง
แฟนคลับก็เริ่มเพิ่มขึ้นทีละน้อย...
แม้จะโปรโมทแยกกัน แต่เซฮุนก็ยังติดต่อลู่หานเสมอ
แม้จะเป็นวันที่ซ้อมเหนื่อยๆ
แต่พอมองตัวอักษรของอีกคน...เขาไม่เคยเหนื่อย...
และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ไตเติ้ลรีแพ็กเกจพวกเขาทำยอดถล่มทลายจนพวกเขาแทบไม่อยากเชื่อ
ตอนนั้นพวกเขาดีใจกันมากและมีความสุขกันอย่างที่สุด
งานต่างๆถูกป้อนเข้ามาอย่างไม่หวาดไม่ไหว
พวกเขาฉลองกันทุกครั้งที่มีเวลาว่าง
ต่างพูดถึงความฝันของตัวเองในอนาคตว่ารายได้ที่ได้รับจะเอาไปทำอะไร
ในตอนนั้น..แม้กับลู่หานที่เฉยเมยต่อผู้คนก็ยังมีรอยยิ้ม
พวกเขาจูบ...พวกเขาสัญญา...พวกเขาพูดอะไรกันหลายอย่าง...
“มันโอเคพี่เห็นมั้ย...พี่ห้ามกลับบ้านเลยนะ”
“งั้นก็พัฒนากว่านี้สิ...ถ้าพวกเราอยู่สักพัก
เราออกยูนิตกันก็ได้ เราจะได้ได้ไปไหนด้วยกันสองคนบ่อยขึ้นไง”
“อ่าใช่...ผมโดนเรียกไปคุยเรื่องให้แยกกันแล้ว
บ้าชะมัด”
“โตแล้ว...เลิกสบถคำหยาบเป็นเด็กๆซะทีน่า”
“ผมเชื่อพี่”
“...”
“เพราะผมรักพี่...พี่รู้ใช่มั้ยครับ?”
เซฮุนชอบดวงตาของลู่หานในตอนนั้นเหลือเกิน
ดวงตาโตหวานที่หรี่ลงจนดูฉ่ำ
ริมฝีปากเล็กๆที่มีแผลเป็นด้านล่างวาดเป็นรอยยิ้ม
...
รอยยิ้มของลู่หานในตอนนั้นมันช่างเป็นความสุขสำหรับโอเซฮุนจนเขาคิดว่าเขาเองช่างโชคดี
หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกวาไรตี้โชว์ ถ่ายโฆษณา
ร้องเพลง เป็นที่รู้จักเรื่อยๆ
จนกระทั่งข้อเสนอและแผนอนาคตถูกส่งมา
มินิอัลบั้มต่อไป...พร้อมกับคอนเสิร์ตครั้งแรกของพวกเขา...
*
2014
เหมือนรอยร้าวที่เคยหายไปกลับมาอีกครั้ง...
เซฮุนรู้สึกลำบากใจราวกับให้เลือกว่าจะอยู่กับพ่อหรืออยู่กับแม่
ความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกครั้ง
และลู่หานก็เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ
ลู่หานเริ่มเก็บตัวแม้แต่กับเขา... แม้อีกคนจะบอกไม่ให้เขาคิดมาก
หรือยึดติดอะไรมาก
แต่เซฮุนก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างในแววตา
หรือคำพูดของลู่หานเสมอ
การโปรโมทมินิอัลบั้มผ่านไปด้วยความระคายเคืองในใจของเซฮุน
และเรื่องที่เขากลัวก็เกิดขึ้น...
พี่ชายคนหนึ่งของเขาตัดสินใจยุติกิจกรรมในขณะที่กำลังจะมีคอนเสิร์ตอีกหนึ่งอาทิตย์
ทุกอย่างโกลาหล ดูวุ่นวายไปหมด...
แต่เซฮุนรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายต้องไป...
เขาจึงไม่ได้ตัดพ้ออะไรมากนัก
เขาแค่เสียดายว่าควรจะอยู่บนเวทีด้วยกันสักครั้ง..สู้กันมาถึงขนาดนี้แล้ว
แต่เขาก็รู้ดีว่าคอนเสิร์ตนี้ไม่ได้จบง่ายๆ...
มันเหมือนการบังคับฝึกฝนไปในตัว
ในตอนนั้นลู่หานเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับพี่ชายผู้ใจดีของเขา
ลู่หานบอกเขาเหมือนที่เคยพูด “แล้วมันจะผ่านไป”
ลู่หานไม่มีน้ำตา...ในขณะที่คนอื่นยังคงความอึดอัดในหัวใจแทบทุกคน...
ไม่นานนัก กระแสข่าวเดทก็โถมมาที่วงต่อ
พี่ชายอีกคนผู้ร่าเริงก็ไม่ร่าเริงเหมือนเคย
ทุกอย่างตึงเครียด
พวกเขายอมทิ้งเรื่องทุกอย่างดูแลสมาชิกที่ยังอยู่
ข้อความร้ายกาจยังถูกส่งมาหาพวกเขาอย่างต่อเนื่องราวกับรอเวลานี้มาเนิ่นนาน
ลู่หานยังไม่แสดงอารมณ์อะไรเหมือนเก่า..ยังกอดปลอบสมาชิกอยู่เช่นเดิม
“อดทนไว้..แบคฮยอน..เหมือนนายฉีดยา...มันไม่เจ็บมากหรอก ฉีดแล้วจะมีภูมิคุ้มกัน”
“ถ้าแฟนคลับคนไหนทิ้งนาย...ก็อย่าเสียดาย...เขามีทางเลือก”
“คนที่รักนายจริงจะไม่ทิ้งนาย..จำพี่ไว้..พวกเขาจะศรัทธานายเสมอ”
พี่ชายคนนั้นกอดลู่หานเอาไว้ก่อนจะร้องไห้ออกมาเงียบๆ
และเซฮุนก็ได้แต่ภาวนาให้เรื่องเลวร้ายนี้จบลงเสียที...
พวกเขายังแสดงคอนเสิร์ตต่อไป จนเซฮุนเริ่มรู้สึกถึงความเย็นชาของลู่หานที่เพิ่มมากขึ้น
สุดท้ายลู่หานก็ล้มป่วยลง
เพราะแบกรับหน้าที่และความเหน็ดเหนื่อยมาตลอดจนไม่สามารถมาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยได้
เขายังคงทำงานต่อ แต่ใจเขาทั้งกังวล ทั้งเป็นห่วง
เขายอมรับว่าเขาเริ่มระแวง
เขาได้แต่หวังว่าลู่หานจะไม่ไป
เขาได้แต่หวังว่าลู่หานจะยังไม่หมดหวังในตัวเขา
และแล้ว..ลู่หานก็บอกกับทุกคนว่าจะยุติกิจกรรมในวงหลังจากจบคอนเสิร์ตที่บ้านเกิดตัวเอง
ตอนนั้นทุกคนนิ่งเงียบไป... จุนมยอนหนีไปร้องไห้ที่ห้องน้ำ
จื่อเทาที่เดินหนีเข้าห้องนอนไปเงียบๆ
สมาชิกบางคนก็ตามไปดูคนที่แยกออกไป
บ้างก็เข้ามากอดลู่หานเอาไว้พร้อมกับเอ่ยว่าเข้าใจ...
เหมือนกับการที่มีคนออกไปแล้ว พอออกไปอีกก็เจ็บน้อยลง
เซฮุนไม่มีน้ำตาให้กับลู่หาน...ลู่หานผู้ไม่เคยพูดว่ารักเขาสักครั้ง...
เขาแค่พยักหน้าเป็นเชิงว่ารับรู้...
คอนเสิร์ตที่ผ่านไปเซฮุนดูแลลู่หานอย่างดี เพราะอีกฝ่ายยังร่างกายไม่เข้าที่
มิหน้ำซ้ำยังเจ็บดวงตาจนตาบวม...
ลู่หานยังยิ้ม ยังโบกมือเล่นกับทุกคน...
โอบกอดสมาชิกกับวันสุดท้ายที่ปฏิบัติหน้าที่โดยที่แฟนคลับส่วนใหญ่ไม่รู้
แต่ก่อนนั้นที่อู๋อี้ฝานอยู่บนเวทีครั้งสุดท้ายเซฮุนไม่ได้สังเกต
ทว่าตอนนี้ที่ลู่หานโบกมือรับเสียงเรียกของแฟนคลับกลับตราตรึงที่สมองของเซฮุนอย่างชัดเจน...
เขาไม่ได้ร้องไห้...
เพราะลู่หานบอกเขาว่าเป็นลูกผู้ชายต้องไม่มีน้ำตา...
เก้าตุลาคม ลู่หานก็ตัดสินใจยื่นฟ้องบริษัท
ทำเอาซีอีโอถึงกับโมโหจัดส่งเสียงเอะอะลั่นออฟฟิศ
ข้าวของของลู่หานถูกขนไปจนหมด...
ในระหว่างนั้นลู่หานเป็นรูมเมทกับสมาชิกคนอื่นอยู่
ทุกคนแปลกใจที่เขาไม่ได้ร้องไห้หรือมีท่าทีฟูมฟายเสียใจอะไรนัก...
แม้เซฮุนดูเหมือนคนที่ลู่หานปล่อยทิ้งไว้อย่างง่ายดาย...
แต่เซฮุนรู้ดี... ว่าลู่หานไม่ใช่คนแบบนั้น...
“นี่...เซฮุน
ลู่หานเขาทิ้งโทรศัพท์เอาไว้ บอกว่าฝากไว้ให้กับนายน่ะ”
เขารับมือถือมาในหลายวันให้หลัง...
และมีดราฟในโทรศัพท์ที่เขียนไว้สั้นๆ
“เซฮุน...รักนะ”
ในตอนนั้น...เซฮุนคิดว่าการร้องไห้ร้องห่มเหมือนคนบ้าสักครั้งก็เป็นการฉีดภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่ง...
*
2015
เขาได้รับข้อความจากลู่หานอยู่สองครั้ง
คือแฮปปี้นิวเยียร์กับแฮปปี้เบิร์ธเดย์
มีการโปรโมทอัลบั้มที่สอง...ความขัดแย้งเดิมๆ
ไม่มีลู่หานคอยมองเรื่องราวพวกนั้นอย่างเฉยเมยอีก...และเซฮุนก็เป็นคนทำหน้าที่นั้นแทน
ไม่นานจื่อเทาก็ยุติการทำกิจกรรมไปอีกคน...
มันเหมือนเรื่องชินชาสำหรับพวกเขาไปแล้ว... ต่อให้คิมยองมินบอกจะยุบบริษัทเซฮุนก็เชื่อว่าพวกเขาก็ยังคงเฉยๆ
ในตอนนั้น...จุนมยอนที่คอยประคับประคองทุกอย่างก็บอกให้พวกเขาสู้อีกครั้ง...
คอนเสิร์ตใหม่ครั้งนี้พวกเขาไม่เห็นกำหนดจบ
เหมือนเป็นการเล่นไปเรื่อยๆสลับกับรับงานทั่วไป... เพื่อชดเชยค่างบดุลที่ใช้ไปกับการฟ้องร้องและเรื่องจิปาถะ
รุ่นพี่เข้ากรม รุ่นน้องเดบิวต์
เซฮุนยังไม่มีท่อนร้องยาวๆ...แต่การเต้นของเขาก็พัฒนาขึ้น
สมาชิกคนอื่นก็เริ่มรับงานอื่นๆมากขึ้น...
พอๆกับที่เซฮุนคอยมองผลงานของสมาชิกที่ออกไป...
วันหนึ่งที่เขาไปเล่นคอนเสิร์ตที่จีน...วันที่เขาไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไป
ระหว่างที่พักผ่อนที่โรงแรม ลู่หานก็ปรากฏตัวขึ้น
ทุกคนโอบกอดลู่หานไว้ โดยที่เขายังยืนนิ่งอย่างไม่กล้าแม้จะเข้าไปหา
“โตขึ้นเยอะเลยนะ”
ลู่หานทักเขาแบบนั้น...เขาใช้เวลาของคืนนั้นทั้งคืนกับลู่หาน
พูดคุย ตัดพ้อ สื่อสารต่อกันหลายอย่าง
“เห็นนายตอนนี้เหมือนฉันเห็นตัวเองตอนยังอยู่ในวงเลย”
“พี่ทำให้ผมเป็นแบบนี้”
“ขอโทษนะ...ขอโทษที่รักษาสัญญาไม่ได้
ฉันรักษาสัญญาไม่ได้...ไม่ได้แปลว่าฉันไม่รักนายแล้ว ฉันบอกแล้วว่าที่นั่นไม่ใช่บ้าน...ทุกคนต้องกลับบ้าน”
“พี่รู้มั้ย...ว่าเพราะที่นั่นคือบ้าน
ผมเลยออกจากบ้านไม่ได้...ผมอยากตามพี่มา... ถ้าผมเด็กกว่านี้ ผมรับรองว่าผมจะทำ...แต่ความเป็นผู้ใหญ่เปลี่ยนพวกเราไปแล้ว”
“อยู่ตรงนั้นเถอะ...”
“...”
“อยู่ให้ฉันมองเห็น...ฉันจะเป็นแฟนคลับของนายอยู่เสมอ”
ในตอนนั้นดวงตาของลู่หานทั้งเศร้าสร้อยและเหนื่อยล้า...
แต่ก็ไม่ใช่ลู่หานคนที่เย็นชากับทุกอย่าง...เป็นลู่หานที่มีชีวิต...
และเขาก็ทำได้แค่จูบหลังจากพยักหน้าไปแล้วเท่านั้น...
พวกเขาที่เหลือเริ่มกลับมานั่งคุยกันกับสิ่งที่ผ่านมาและสิ่งที่ควรเป็นไปจากนี้...
แน่นอนว่าปัญหาหนักตกอยู่ที่พี่อี้ชิงที่จะกลายเป็นซับเมมเบอร์
เพราะบริษัทส่งงานที่จีนให้มากขึ้นเพื่อไปสู้กับคนที่ออกไป
แผนการตลาดอะไรเซฮุนไม่อยากรับรู้...อะไรให้เขาทำเขาก็ทำ
เซฮุนหัดการแสดงและเริ่มเรียนภาษาจีน... เขามีความหวังว่าเขาจะได้ไปเจอกับลู่หานในงานไหนสักงานอีกครั้ง...
*
2016
โอเซฮุนกำลังใช้นิ้วไถโทรศัพท์ที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้ราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแม้จะเพิ่งเล่นคอนเสิร์ตเสร็จไม่นาน...
โอเซฮุนผู้ไม่หยั่งรู้อนาคตก็ได้แต่หวังให้ปีนี้เป็นปีที่ดี...สำหรับเขาและลู่หาน...
มือถือเล่นทีเซอร์แรกของพวกเขาไปสามสิบกว่าวินาทีก็หยุด...
และเซฮุนก็กดเล่นใหม่ราวไม่รู้เบื่อ...
*
สี่ปีที่แล้วเซฮุนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับอย่างไร
สี่ปีต่อมาเซฮุนก็ยังคิดถึงลู่หานจนนอนไม่หลับอยู่เช่นนั้น...
#fouryearshh