วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559

4(four) - (sehun x luhan)














Title : 4 (sehun x luhan)
Author: RUNAWAY05
Note : เหตุการณ์ในเรื่องเป็นเหตุการณ์สมมติ ไม่มีเค้าโครงจริงใดใดทั้งสิ้น


*****************************



สี่ปีที่แล้ว...โอเซฮุนเคยนอนไม่หลับมาก่อน

ในวันนั้นมันเป็นวันที่ทีเซอร์ของเขากับใครสักคนออกครั้งแรก...

เขาได้แต่เดินวนไปวนมา...จนถูกใครสักคนกอดเอาไว้...

ใครคนนั้นชื่อลู่หาน...





ลู่หานเป็นคนจีนแก่กว่าเขาสี่ปี ตอนที่รู้จักกันครั้งแรก พวกเขาถูกทักว่าหน้าตาคล้ายๆกัน

ชีวิตที่ต้องเป็นเทรนนี่อย่างอดทน มีความหมายขึ้นเมื่อชีวิตของเขาได้รู้จักกับลู่หาน

ลู่หานเป็นพี่ชายที่อ่อนโยน แต่ก็เป็นพี่ชายที่เด็ดขาด

“ฉันไม่ได้ใจดีกับนายหรอกนะ...นายเป็นแค่ช่วงนึงของชีวิตฉันเท่านั้น อย่ายึดติดกับฉันนักเลย”

ลู่หานบอกเขาแบบนั้น... แต่ก็ชอบลูบผมของเขา ชอบกอดเอาไว้หลวมๆ

บางครั้งชอบพูดจาเย็นชาเหมือนคนเข้มแข็ง แต่ก็มีมุมอ่อนแอเหมือนคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

ความสนิทชิดเชื้อนั้นคือความรัก... ความรักที่ซ่อนอยู่ในสังคมมือถือสากปากถือศีล

เกลียดเพศที่สาม แต่ก็หากินกับคู่จินตนาการ โอเซฮุนเคยหัวเราะให้เรื่องเหล่านี้

เขาใช้ช่องว่างพวกนี้ใกล้ชิดกับอีกคน เขารู้ว่าลู่หานรักเขา...

แม้อีกฝ่ายจะไม่พูดออกมาก็ตาม





*


2012



ปีที่เปิดตัวพวกเขาเป็นครั้งแรก โอเซฮุนจำได้ว่าตอนนั้นตัวเองทั้งตื่นเต้นเงอะงะงุ่มง่าม

เขาไม่สนิทใจกับสายตาผู้คนที่มองมานัก

ทุกครั้งที่เขาเสียการควบคุม ลู่หานจะพยายามบอกเขาว่าไม่เป็นไร

“ไม่เป็นไร..เซฮุน..มันจะผ่านไป ถ้านายกลัว...นายจะเดินบนทางนี้ไม่ได้นะ”

เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ได้รับโอกาสที่มากพอ...เซฮุนต้องฝึกอีกมากนัก...

เขาไม่สามารถร้องเพลงได้อย่างลู่หาน

ไม่สามารถเต้นได้อย่างสะกดคนดูเหมือนจงอิน

ไม่สามารถทำให้ผู้คนหลงรักได้แบบแบคฮยอน

ไม่สามารถแร็พได้แบบคริสหรือชานยอล

เซฮุนต้องฝึกอีกมาก...




ในขณะที่เดบิวต์ด้วยเสียงชื่นชมและกระแสต่อต้าน

แม้จะต้องคอยวิ่งหนีพวกซาแซงที่เริ่มคุกคาม

เซฮุนก็ยังฝึกอยู่...




ฝึกไปกับความเหนื่อยล้าต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์...

แต่เพียงแค่ลู่หานกอดเขา แตะคางเบาๆ

เขาก็เหมือนกับซูเปอร์ฮีโร่ผู้ไม่เกรงกลัวอะไรบนโลกใบนี้






*

2013



เอ็กโซไม่มีการโปรโมทใดใดอีกหลังจากมินิอัลบั้มแรกโปรโมทเสร็จสิ้น

จนกระทั่งมีการวางแพลนสำหรับอัลบั้มใหม่...สิ่งที่เซฮุนเริ่มกลัวนิดๆก็เกิดขึ้น

เขาไม่มีมิตรหรือศัตรู... เขานับถือทุกคนคือพี่ชาย...

แต่เมื่อสมาชิกคนหนึ่งยังไม่กลับจากบ้านเกิด ทุกคนก็เริ่มกังวล

มีเพียงลู่หานที่ยังเฉยๆกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“เขาแค่คิดถึงบ้าน...นายก็รู้ ว่านานๆครั้งจะได้กลับ อี้ฝานก็เหมือนมีปีกเป็นของตัวเองอยู่แล้ว”

“พี่หมายความว่ายังไง”

“เขาไม่ได้มาเพื่อจุดนี้...นายก็เห็นการปฏิบัติของฉันกับนายต่างกัน ถ้าพวกเราเป็นอย่างนี้ สักวันฉันก็คงไป”

“พี่จะไปไหน”

“กลับบ้านน่ะ”

“ผมไม่ให้ไปนะ...พี่ฝึกมานาน จะไปเฉยๆได้ยังไง เคสให้เห็นก็มีนี่นา”

“ที่นี่ไม่ใช่บ้านของฉันน่ะสิ”

ลู่หานพูดแบบนั้น...

แค่ประโยคนั้น...โอเซฮุนก็หนาวในอกอย่างไม่เคยเป็น...





หลังจากกังวลกันไปหลายวัน..ในที่สุดพี่ชายที่กลับบ้านก็กลับมาปกติ...

แต่ครั้งนี้เหมือนรอยร้าวค่อนข้างชัดเจน บางครั้งเขาเองก็ไม่อยากจะยุ่ง

มีเพียงลู่หานที่เฝ้ามองดูทุกอย่างอยู่เฉยๆ...ลู่หานเป็นคนไม่ค่อยพูด...เพราะพูดอะไรไปก็แทงใจดำคน

บางครั้งเซฮุนก็รู้สึกเหนื่อย...แทนที่จะมารับรู้ปัญหา...เขาก็ซ้อมอีกครั้ง...

และหาที่ไปอยู่กับลู่หานสองคน



อัลบั้มแรกของพวกเขาเปิดตัวได้ดี เหมือนสลายความขัดแย้งก่อนหน้าไปได้ระยะหนึ่ง

พวกเขายังโปรโมทอย่างต่อเนื่อง แฟนคลับก็เริ่มเพิ่มขึ้นทีละน้อย...

แม้จะโปรโมทแยกกัน แต่เซฮุนก็ยังติดต่อลู่หานเสมอ แม้จะเป็นวันที่ซ้อมเหนื่อยๆ

แต่พอมองตัวอักษรของอีกคน...เขาไม่เคยเหนื่อย...



และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ไตเติ้ลรีแพ็กเกจพวกเขาทำยอดถล่มทลายจนพวกเขาแทบไม่อยากเชื่อ

ตอนนั้นพวกเขาดีใจกันมากและมีความสุขกันอย่างที่สุด งานต่างๆถูกป้อนเข้ามาอย่างไม่หวาดไม่ไหว

พวกเขาฉลองกันทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ต่างพูดถึงความฝันของตัวเองในอนาคตว่ารายได้ที่ได้รับจะเอาไปทำอะไร



ในตอนนั้น..แม้กับลู่หานที่เฉยเมยต่อผู้คนก็ยังมีรอยยิ้ม

พวกเขาจูบ...พวกเขาสัญญา...พวกเขาพูดอะไรกันหลายอย่าง...


“มันโอเคพี่เห็นมั้ย...พี่ห้ามกลับบ้านเลยนะ”

“งั้นก็พัฒนากว่านี้สิ...ถ้าพวกเราอยู่สักพัก เราออกยูนิตกันก็ได้ เราจะได้ได้ไปไหนด้วยกันสองคนบ่อยขึ้นไง”

“อ่าใช่...ผมโดนเรียกไปคุยเรื่องให้แยกกันแล้ว บ้าชะมัด”

“โตแล้ว...เลิกสบถคำหยาบเป็นเด็กๆซะทีน่า”

“ผมเชื่อพี่”

“...”

“เพราะผมรักพี่...พี่รู้ใช่มั้ยครับ?”




เซฮุนชอบดวงตาของลู่หานในตอนนั้นเหลือเกิน

ดวงตาโตหวานที่หรี่ลงจนดูฉ่ำ

ริมฝีปากเล็กๆที่มีแผลเป็นด้านล่างวาดเป็นรอยยิ้ม ...

รอยยิ้มของลู่หานในตอนนั้นมันช่างเป็นความสุขสำหรับโอเซฮุนจนเขาคิดว่าเขาเองช่างโชคดี




หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกวาไรตี้โชว์ ถ่ายโฆษณา ร้องเพลง เป็นที่รู้จักเรื่อยๆ

จนกระทั่งข้อเสนอและแผนอนาคตถูกส่งมา

มินิอัลบั้มต่อไป...พร้อมกับคอนเสิร์ตครั้งแรกของพวกเขา...





*


2014


เหมือนรอยร้าวที่เคยหายไปกลับมาอีกครั้ง...

เซฮุนรู้สึกลำบากใจราวกับให้เลือกว่าจะอยู่กับพ่อหรืออยู่กับแม่

ความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกครั้ง และลู่หานก็เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ

ลู่หานเริ่มเก็บตัวแม้แต่กับเขา... แม้อีกคนจะบอกไม่ให้เขาคิดมาก หรือยึดติดอะไรมาก

แต่เซฮุนก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างในแววตา หรือคำพูดของลู่หานเสมอ


การโปรโมทมินิอัลบั้มผ่านไปด้วยความระคายเคืองในใจของเซฮุน

และเรื่องที่เขากลัวก็เกิดขึ้น...



พี่ชายคนหนึ่งของเขาตัดสินใจยุติกิจกรรมในขณะที่กำลังจะมีคอนเสิร์ตอีกหนึ่งอาทิตย์

ทุกอย่างโกลาหล ดูวุ่นวายไปหมด...

แต่เซฮุนรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายต้องไป... เขาจึงไม่ได้ตัดพ้ออะไรมากนัก

เขาแค่เสียดายว่าควรจะอยู่บนเวทีด้วยกันสักครั้ง..สู้กันมาถึงขนาดนี้แล้ว

แต่เขาก็รู้ดีว่าคอนเสิร์ตนี้ไม่ได้จบง่ายๆ... มันเหมือนการบังคับฝึกฝนไปในตัว

ในตอนนั้นลู่หานเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับพี่ชายผู้ใจดีของเขา

ลู่หานบอกเขาเหมือนที่เคยพูด “แล้วมันจะผ่านไป”

ลู่หานไม่มีน้ำตา...ในขณะที่คนอื่นยังคงความอึดอัดในหัวใจแทบทุกคน...





ไม่นานนัก กระแสข่าวเดทก็โถมมาที่วงต่อ

พี่ชายอีกคนผู้ร่าเริงก็ไม่ร่าเริงเหมือนเคย ทุกอย่างตึงเครียด

พวกเขายอมทิ้งเรื่องทุกอย่างดูแลสมาชิกที่ยังอยู่

ข้อความร้ายกาจยังถูกส่งมาหาพวกเขาอย่างต่อเนื่องราวกับรอเวลานี้มาเนิ่นนาน

ลู่หานยังไม่แสดงอารมณ์อะไรเหมือนเก่า..ยังกอดปลอบสมาชิกอยู่เช่นเดิม

“อดทนไว้..แบคฮยอน..เหมือนนายฉีดยา...มันไม่เจ็บมากหรอก ฉีดแล้วจะมีภูมิคุ้มกัน”

“ถ้าแฟนคลับคนไหนทิ้งนาย...ก็อย่าเสียดาย...เขามีทางเลือก”

“คนที่รักนายจริงจะไม่ทิ้งนาย..จำพี่ไว้..พวกเขาจะศรัทธานายเสมอ”

พี่ชายคนนั้นกอดลู่หานเอาไว้ก่อนจะร้องไห้ออกมาเงียบๆ

และเซฮุนก็ได้แต่ภาวนาให้เรื่องเลวร้ายนี้จบลงเสียที...





พวกเขายังแสดงคอนเสิร์ตต่อไป จนเซฮุนเริ่มรู้สึกถึงความเย็นชาของลู่หานที่เพิ่มมากขึ้น

สุดท้ายลู่หานก็ล้มป่วยลง เพราะแบกรับหน้าที่และความเหน็ดเหนื่อยมาตลอดจนไม่สามารถมาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยได้

เขายังคงทำงานต่อ แต่ใจเขาทั้งกังวล ทั้งเป็นห่วง เขายอมรับว่าเขาเริ่มระแวง

เขาได้แต่หวังว่าลู่หานจะไม่ไป

เขาได้แต่หวังว่าลู่หานจะยังไม่หมดหวังในตัวเขา





และแล้ว..ลู่หานก็บอกกับทุกคนว่าจะยุติกิจกรรมในวงหลังจากจบคอนเสิร์ตที่บ้านเกิดตัวเอง

ตอนนั้นทุกคนนิ่งเงียบไป... จุนมยอนหนีไปร้องไห้ที่ห้องน้ำ จื่อเทาที่เดินหนีเข้าห้องนอนไปเงียบๆ

สมาชิกบางคนก็ตามไปดูคนที่แยกออกไป บ้างก็เข้ามากอดลู่หานเอาไว้พร้อมกับเอ่ยว่าเข้าใจ...

เหมือนกับการที่มีคนออกไปแล้ว พอออกไปอีกก็เจ็บน้อยลง

เซฮุนไม่มีน้ำตาให้กับลู่หาน...ลู่หานผู้ไม่เคยพูดว่ารักเขาสักครั้ง...

เขาแค่พยักหน้าเป็นเชิงว่ารับรู้...




คอนเสิร์ตที่ผ่านไปเซฮุนดูแลลู่หานอย่างดี เพราะอีกฝ่ายยังร่างกายไม่เข้าที่

มิหน้ำซ้ำยังเจ็บดวงตาจนตาบวม...

ลู่หานยังยิ้ม ยังโบกมือเล่นกับทุกคน... โอบกอดสมาชิกกับวันสุดท้ายที่ปฏิบัติหน้าที่โดยที่แฟนคลับส่วนใหญ่ไม่รู้

แต่ก่อนนั้นที่อู๋อี้ฝานอยู่บนเวทีครั้งสุดท้ายเซฮุนไม่ได้สังเกต

ทว่าตอนนี้ที่ลู่หานโบกมือรับเสียงเรียกของแฟนคลับกลับตราตรึงที่สมองของเซฮุนอย่างชัดเจน...

เขาไม่ได้ร้องไห้...

เพราะลู่หานบอกเขาว่าเป็นลูกผู้ชายต้องไม่มีน้ำตา...




เก้าตุลาคม ลู่หานก็ตัดสินใจยื่นฟ้องบริษัท ทำเอาซีอีโอถึงกับโมโหจัดส่งเสียงเอะอะลั่นออฟฟิศ

ข้าวของของลู่หานถูกขนไปจนหมด... ในระหว่างนั้นลู่หานเป็นรูมเมทกับสมาชิกคนอื่นอยู่

ทุกคนแปลกใจที่เขาไม่ได้ร้องไห้หรือมีท่าทีฟูมฟายเสียใจอะไรนัก...

แม้เซฮุนดูเหมือนคนที่ลู่หานปล่อยทิ้งไว้อย่างง่ายดาย...

แต่เซฮุนรู้ดี... ว่าลู่หานไม่ใช่คนแบบนั้น...

“นี่...เซฮุน ลู่หานเขาทิ้งโทรศัพท์เอาไว้ บอกว่าฝากไว้ให้กับนายน่ะ”

เขารับมือถือมาในหลายวันให้หลัง... และมีดราฟในโทรศัพท์ที่เขียนไว้สั้นๆ



“เซฮุน...รักนะ”



ในตอนนั้น...เซฮุนคิดว่าการร้องไห้ร้องห่มเหมือนคนบ้าสักครั้งก็เป็นการฉีดภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่ง...





*


2015



เขาได้รับข้อความจากลู่หานอยู่สองครั้ง คือแฮปปี้นิวเยียร์กับแฮปปี้เบิร์ธเดย์

มีการโปรโมทอัลบั้มที่สอง...ความขัดแย้งเดิมๆ

ไม่มีลู่หานคอยมองเรื่องราวพวกนั้นอย่างเฉยเมยอีก...และเซฮุนก็เป็นคนทำหน้าที่นั้นแทน

ไม่นานจื่อเทาก็ยุติการทำกิจกรรมไปอีกคน...

มันเหมือนเรื่องชินชาสำหรับพวกเขาไปแล้ว...  ต่อให้คิมยองมินบอกจะยุบบริษัทเซฮุนก็เชื่อว่าพวกเขาก็ยังคงเฉยๆ

ในตอนนั้น...จุนมยอนที่คอยประคับประคองทุกอย่างก็บอกให้พวกเขาสู้อีกครั้ง...

คอนเสิร์ตใหม่ครั้งนี้พวกเขาไม่เห็นกำหนดจบ เหมือนเป็นการเล่นไปเรื่อยๆสลับกับรับงานทั่วไป... เพื่อชดเชยค่างบดุลที่ใช้ไปกับการฟ้องร้องและเรื่องจิปาถะ รุ่นพี่เข้ากรม รุ่นน้องเดบิวต์

เซฮุนยังไม่มีท่อนร้องยาวๆ...แต่การเต้นของเขาก็พัฒนาขึ้น

สมาชิกคนอื่นก็เริ่มรับงานอื่นๆมากขึ้น...

พอๆกับที่เซฮุนคอยมองผลงานของสมาชิกที่ออกไป...






วันหนึ่งที่เขาไปเล่นคอนเสิร์ตที่จีน...วันที่เขาไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไป

ระหว่างที่พักผ่อนที่โรงแรม ลู่หานก็ปรากฏตัวขึ้น

ทุกคนโอบกอดลู่หานไว้ โดยที่เขายังยืนนิ่งอย่างไม่กล้าแม้จะเข้าไปหา

“โตขึ้นเยอะเลยนะ”

ลู่หานทักเขาแบบนั้น...เขาใช้เวลาของคืนนั้นทั้งคืนกับลู่หาน พูดคุย ตัดพ้อ สื่อสารต่อกันหลายอย่าง

“เห็นนายตอนนี้เหมือนฉันเห็นตัวเองตอนยังอยู่ในวงเลย”

“พี่ทำให้ผมเป็นแบบนี้”

“ขอโทษนะ...ขอโทษที่รักษาสัญญาไม่ได้ ฉันรักษาสัญญาไม่ได้...ไม่ได้แปลว่าฉันไม่รักนายแล้ว ฉันบอกแล้วว่าที่นั่นไม่ใช่บ้าน...ทุกคนต้องกลับบ้าน”

“พี่รู้มั้ย...ว่าเพราะที่นั่นคือบ้าน ผมเลยออกจากบ้านไม่ได้...ผมอยากตามพี่มา... ถ้าผมเด็กกว่านี้ ผมรับรองว่าผมจะทำ...แต่ความเป็นผู้ใหญ่เปลี่ยนพวกเราไปแล้ว”

“อยู่ตรงนั้นเถอะ...”

“...”

“อยู่ให้ฉันมองเห็น...ฉันจะเป็นแฟนคลับของนายอยู่เสมอ”

ในตอนนั้นดวงตาของลู่หานทั้งเศร้าสร้อยและเหนื่อยล้า... แต่ก็ไม่ใช่ลู่หานคนที่เย็นชากับทุกอย่าง...เป็นลู่หานที่มีชีวิต...

และเขาก็ทำได้แค่จูบหลังจากพยักหน้าไปแล้วเท่านั้น...




พวกเขาที่เหลือเริ่มกลับมานั่งคุยกันกับสิ่งที่ผ่านมาและสิ่งที่ควรเป็นไปจากนี้...

แน่นอนว่าปัญหาหนักตกอยู่ที่พี่อี้ชิงที่จะกลายเป็นซับเมมเบอร์ เพราะบริษัทส่งงานที่จีนให้มากขึ้นเพื่อไปสู้กับคนที่ออกไป

แผนการตลาดอะไรเซฮุนไม่อยากรับรู้...อะไรให้เขาทำเขาก็ทำ

เซฮุนหัดการแสดงและเริ่มเรียนภาษาจีน... เขามีความหวังว่าเขาจะได้ไปเจอกับลู่หานในงานไหนสักงานอีกครั้ง...





*

2016



โอเซฮุนกำลังใช้นิ้วไถโทรศัพท์ที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้ราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแม้จะเพิ่งเล่นคอนเสิร์ตเสร็จไม่นาน...

โอเซฮุนผู้ไม่หยั่งรู้อนาคตก็ได้แต่หวังให้ปีนี้เป็นปีที่ดี...สำหรับเขาและลู่หาน...


มือถือเล่นทีเซอร์แรกของพวกเขาไปสามสิบกว่าวินาทีก็หยุด...

และเซฮุนก็กดเล่นใหม่ราวไม่รู้เบื่อ...




*

สี่ปีที่แล้วเซฮุนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับอย่างไร

สี่ปีต่อมาเซฮุนก็ยังคิดถึงลู่หานจนนอนไม่หลับอยู่เช่นนั้น...



#fouryearshh