Title : CUTE & COOL
Pairing : OH SEHUN x LUHAN
NOTE : อยากมีเมีย
“เฮ้ย จงอิน วันนี้ไปกินไรกันดีวะ”
((โทษนะเว้ยวันนี้กูจะไปดูหนังกับคยองซู ไปแดกคนเดียวก่อนนะ))
“ไรวะ... ฮัลโหล หวงจื่อเทา ทำเห้ไร ไปกินข้าวกัน”
((มึงเพี้ยนรึเปล่าวะ... กูบอกไปแล้วว่าวันนี้กูต้องพาจุนมยอนไปดินเนอร์))
“พวกมึงแหล่ะเป็นเหี้ยไรกันวะ แต่ก่อนพวกมึงไม่มีแฟนก็แดกกับกูได้อยู่เลย”
((หาเมียสิวะเซฮุน
แค่นี้นะ...ไม่มีอะไรครับจุนจุน คนมาขายประกัน))
“อ้าวไอ้เวรนี่ กูขายประกันซะงั้น”
ตู๊ดตู๊ดตู๊ด...
“ว่ากูตุ๊ดอีก..สะเด้ย!”
โอเซฮุนไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้เขาจะได้มารับรู้ถึงคำว่าเหงา...
สำหรับผู้ชายที่ใช้เวลาไปกับการเรียน เล่นเกม
เที่ยวไปกินไปอย่างเขา หัวสมองไม่เคยจะนึกถึงคำว่าแฟนสักครั้งเพราะมีเพื่อนคอยไปไหนไปกันอยู่เสมอ
จนกระทั่งตอนนี้ เพื่อนๆต่างมีแฟนแล้วค่อยๆแยกออกไป ขนาดนี่แค่หนึ่งอาทิตย์ก่อนวันวาเลนไทน์
ก็พากันตื่นเต้นดี๊ด๊า ซ้อมกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย
ชายหนุ่มวัยยี่สิบสามผู้ใช้ชีวิตนักศึกษาช่วงปลายๆลากเท้าไปตามถนนท่ามกลางผู้คนที่เดินสวนกันไปกันมา
ชายหนุ่มเบ้ปากให้กับคู่รักที่เดินจูงมือกันกระหนุงกระหนิง ตาบอดกันเหรอวะถึงต้องมาเดินจูงมือกันเนี่ย
หันหน้าหนไปอีกทางก็เจอคนป้อนขนมกันอยู่ตรงร้านเล็กๆข้างทาง นี่ก็เป็นง่อยกันรึไง
“น่าเบื่อว่ะ”หยิบมือถือมาถูๆไถๆฆ่าเวลาก่อนจะย่างเท้าไปตามลำพังอย่างเหงาหงอย
ชีวิตที่เรียกได้ว่าช่างอับเฉาสิ้นดีทำให้เขาไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรทั้งนั้น ให้พูดตามตรงเขาไม่เคยสนใจคำว่าเหงานะ
จนกระทั่งโดนเพื่อนหนีไปหาแฟนกันหมดนี่แหล่ะ สงสัยคืนนี้คงต้องนอนดูหนังอย่างอับเฉาอยู่ห้องอีกแล้วละมั้ง
ชีวิตโสดสนิทของเซฮุนเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่เขาก็ไม่ทราบได้
แต่เขาก็มั่นหน้ามั่นโหนกตนเองพอสมควรว่าไม่ใช่คนหน้าตาเลวร้ายอะไร (ออกจะหน้าตาดีจนแมวมองมาทาบทามไปโฆษณากางเกงใน)
แต่เขาก็ไม่มีคำตอบว่าทำไมเขาถึงใช้ชีวิตโสดอย่างคงกระพันขนาดนี้ เซฮุนเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลาง
(เอียงไปทางมีจะกินนิดๆ) ขยันตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่
สุขภาพดีเพราะวิ่งหนีหมากลางซอยมาขึ้นรถเมล์แทนการออกกำลังทุกวัน
ผิดกับหวงจื่อเทาที่เที่ยวทุกคืนจนขอบตาดำ หรือคิมจงอินที่เป็นผู้ชายดูไม่เอาอะไร
เกาตูดเกาตีนไปวันๆ ไม่รู้ว่าพวกมันไปหาคนคุยด้วยมาจากไหนนักหนา
“ศาลเจ้าแม่ยอลยอลเปิดบริการแล้วจ้า
ขอพรอะไรก็สมหวังทุกสิ่งสิ้น ห้าร้อยวอนจ้า ห้าร้อยวอนเท่านั้น!”
เสียงเชิญชวนทำให้เซฮุนที่กำลังเดินเท้าท่อมๆไปตามถนนเงยหน้ามองอย่างสงสัย
จนเห็นว่าศาลเจ้าแม่ข้างมหาวิทยาลัยกำลังเปิดให้ผู้คนเข้าไปขอพร ศาลที่นี่ค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของนักศึกษาพอสมควร
(เขาเองก็เคยมาบนไว้แล้วต้องเต้นบัลเล่ต์แก้บนตอนตีสองเพราะอายคนมาเห็น)
ไม่รู้ว่าเทพเจ้าดลใจหรืออะไรเข้าสิง ทำให้เซฮุนเปลี่ยนวิถีเดินเท้าตรงไปที่ศาลเจ้า
ก่อนจะพบกับชายหนุ่มตัวเล็กๆใส่ชุดซินแสสีเทายิ้มหยีเป็นหมีได้นูเทลล่าอยู่อย่างนั้น
“สนใจขอพรกับเจ้าแม่มั้ยจ๊ะ ห้าร้อยวอนจ้า”ร่างสูงล้วงกระเป๋าเขย่าหาเงินสักครู่ก็ส่งเงินให้กับอีกฝ่าย
“โซว แท้งขิ่วทีชเช่อ เชิญขอพรได้เลยจ้า คิวต่อไปเชิญจ้า”
เซฮุนเหลือบมองทีท่าผู้ดูแลศาลที่ดูคล้ายๆไดโนเสาร์นิดๆก็รีบปลีกวิเวกเข้ามาด้านใน
ก่อนจะพบรูปปั้นหญิงสาวใส่ชุดคาบาเร่ต์สีแดงอุ้มริลัคคุมะเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านใน เซฮุนควักเหรียญร้อยวอนขึ้นมาอีก
ก่อนจะดีดลงไปในที่กล่องด้านล่างรูปปั้นพร้อมประกบมือก่อนจะส่งเสียงดัง
“ท่านเง็กเซียน!!”
“เฮ้ย..เจ้าแม่ยอลยอล...”เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นและเซฮุนก็ส่งเสียงอีกครั้ง
“เอ้อ..เจ้าแม่ยอลยอล!..ผมไม่ได้มาขอพร..มาขอเมีย!”
“...”เสียงของชายหนุ่มทำเอาทุกคนนิ่งสงัดไปหมด โดยที่เซฮุนก็พรูคำพูดออกมาอย่างอัดอั้น
“ขอสวยๆ สวยแบบทุกคนมองตาค้าง
อิจฉาลงไปชักดิ้นชักงอ สวยแบบนางฟ้า น่ารักใจดีมีเวลาให้ จะพาไปกินข้าว จะพาไปเดททุกที่แม่ง
ทุกวันนี้ปั่นเรือเป็ดคนเดียวไม่ไหวแล้วครับเรือแม่งเอียง ถ้าสมหวังจะถวายริลัคคุมะชุดคู่รักของแท้จากซานเอ็กซ์เลยครับ! สาธุครับ!!”ขอเสร็จก็ไหว้หนึ่งครั้งแล้วจ้ำพรวดออกมาด้วยความอับอายเล็กน้อยถึงปานกลาง
แม้ว่าพี่ไดโนเสาร์ซินแสจะปรบมือสามครั้งให้กำลังใจก็ตามที
หลังจากกลับมาที่หอพัก สั่งจาจังมยอนมากินพร้อมกับดูหนัง
เซฮุนก็ลืมสิ่งที่ขอไปเสียจนหมดสิ้น
แน่นอนว่าสำหรับเขามันแค่ระบายความคับแค้นอึดอัดในหัวใจเท่านั้นและไม่ได้หวังให้ได้สมปรารถนาอะไรทั้งนั้น
.. แม้แต่หนังที่ฉายช่องฟรีทีวีก็ยังเป็นหนังรัก จาจังมยอนที่สั่งมาก็ยังมีโปรโมชั่นคู่รัก
เซฮุนเบะปากรัวๆแล้วจึงใช้เวลาที่เหลือของค่ำคืนนี้ไปกับชีวิตส่วนตัวของตนเองไปตามลำพัง
จนกระทั่งปิดไฟเข้านอน ในช่วงหนึ่งเขารู้สึกเหมือนว่าลมที่หน้าต่างพัดเข้ามา แต่คงไม่เป็นไรหรอกทั้งเพราะเขาเองก็อยู่ชั้นสี่
คงไม่มีโจรที่ไหนขยันปีนขึ้นมาปล้นหรอกมั้ง...
ติ๊ด..ติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ด...ติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ด...
“...”
เซฮุนลืมตาขึ้นในตอนเช้าวันถัดมา
เมื่อปรับแสงสายตาเรียบร้อยก็ยันกายขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกมึนงง
ชายหนุ่มที่สวมเสื้อยืดกับบ็อกเซอร์ตัวเดียวในห้องพักเดี่ยวอันเงียบเหงาชันกายขึ้นมาปิดนาฬิกาปลุก
เหลียวมองผ้าม่านที่มีแสงส่องรำไรเข้ามาก็ถอนใจเฮือก เซฮุนตลบผ้าห่มเตรียมลุกขึ้น
ก่อนจะสะดุดใจกับอะไรบางอย่างบนเตียง
“เหยดแหม่”
อุทานเบาๆเมื่อ(เพิ่ง)มองเห็นสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่บนเตียงนอนของตน
เป็นมนุษย์ร่างเล็กผิวสีน้ำนม สวมชุดสีขาว เส้นผมสีน้ำตาล ใบหน้าหวานหยด
จะมือจะเท้าก็ดูน่ารักไปหมด เจ้าตัวกำลังนอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องอยู่ตรงกองผ้าห่ม
เซฮุนรู้สึกเหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดเข้ากลางศีรษะจนมึนงง
เมื่อจู่ๆใครที่ไหนก็ไม่รู้มาอาศัยนอนในห้องของเขาแบบนี้
“เฮ้! เธอ..เธอเป็นใคร
ทำไมมานอนในห้องฉัน..เมาเข้าห้องผิดรึเปล่าวะ”ปลายประโยคพึมพำกับตนเอง แต่ก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้แน่เพราะอีกคนจะเข้ามาได้ไงเมื่อไม่มีกุญแจกับการ์ดห้องของเขา
“...”ดวงตาของอีกฝ่ายค่อยๆขยับยุกยิก แพขนตายาวขยับเยิบทำเอาเจ้าของห้องได้แต่ทำตาปริบๆ
เซฮุนจ้องมองอีกฝ่ายๆที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมองเขา
เป็นดวงตากลมโตสวยแบบธรรมชาติไม่ได้เพิ่มบิ๊กอายแบบสาวๆที่เคยเจอ
ก่อนที่มือเล็กๆจะเข้าขยี้ตาตนไปมา “อรุณสวัสดิ์...”
“อรุณสวัสดิ์อะไรเล่า นี่! เข้ามาที่นี่ได้ไง! มันบุกรุกห้องคนอื่นไม่รู้เหรอ?!”เซฮุนส่งเสียงโวยวายอยู่อย่างนั้น
แม้ฝ่ายตรงข้ามจะน่ารักแต่เขาขอโวยวายไปก่อนสักหน่อย โดยที่อีกคนก็ขยับกายลุกขึ้นนั่ง
คอเสื้อกว้างๆที่ไหลตกไหล่จนเห็นเนินเนื้อขาวนวลส่งผลให้คนที่เห็นตัวแข็งทื่อพลันเสตาไปทางอื่น
“ห้องนี้แหล่ะ..ไม่ผิดหรอก”
“ห่ะ”
“ก็เจ้าแม่ส่งฉันมา”ถ้อยคำเรียบง่ายพร้อมกับท่าทางจะเทคตัวลงไปนอนต่อทำให้เซฮุนผวาลงไปยื้อตัวอีกคนไว้ทันที
“เฮ้ย! เจ้าแม่อะไร!!”
“ก็ไปขออะไรไว้ล่ะ!”อีกคนส่งเสียงหงุดหงิดปล่อยให้เซฮุนนิ่งอึ้ง
“จากนี้นับไปเจ็ดสิบสองชั่วโมง ฉันเป็นแฟนของนายนะ ยังไงครบเจ็ดสิบสองชั่วโมงก็ซื้อตุ๊กตาไปแก้บนด้วย
เจ้าแม่ถือว่าของแก้บนน้อยไป ได้แค่นี้”
“เฮ้ย..จะบ้าเหรอ..ตอนนั้นฉัน...บ้าเหรอ..แบบนี้ก็ได้เหรอ”พร่ำพูดอยู่คนเดียวปล่อยให้ร่างอีกคนค่อยๆจมลงเตียงไปตามระเบียบเวลา
เซฮุนขยี้ศีรษะ จะเป็นไปได้ยังไง.. หรือคนๆนี้จะได้ยินที่เขาขอไว้
แต่เขามั่นใจนะว่าเขาไม่เห็นคนๆนี้ที่ศาลเจ้าแน่นอน...
หน้าตาน่ารักแบบนี้ใครลืมลงก็บ้าแล้ว...
“เดี๋ยวๆ มาคุยให้รู้เรื่องก่อน”เซฮุนตลบผ้าห่มขึ้นก่อนจะทำตาโตแล้วหันไปทางอื่นเพราะอีกฝ่ายใส่เสื้อสีขาวตัวเดียวและมันก็ถลกจนเกือบเห็นก้น
“แต่งตัวดีๆดิ คุยกันก่อน มานอนแบบนี้ไม่ได้นะ!”
“ก็บอกแล้วไงเล่า...เป็นแฟนต้องตามใจกันนะรู้มั้ย”ปากเล็กพ่นคำฉอดๆไปมาแล้วลุกกขึ้นมานั่งขยี้ตาอีกรอบแต่โดยดี
ตอนนี้เซฮุนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จึงได้แต่เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“นายว่าเจ้าแม่ส่งนายมา”
“ฮื่อ”
“เจ็ดสิบสองชั่วโมง”
“ช่าย อยากต่อโปรโมชั่นก็ไปแก้บน”
“ถ้าไม่แก้บนล่ะ”
“เจ้าแม่จะสาปนาย”ดวงตาสวยลืมขึ้นจ้องไปที่ชายหนุ่มที่หน้าซีดเล็กน้อย
“ให้จู๋เหี่ยว จู๋หด ใช้งานไม่ได้ เป็นขันที โดนตุ๋ยไปชั่วชีวิต...”
“เฮ้ยพอๆ...แล้วฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่านายไม่ใช่คนที่มาหลอก”
“แล้วทำไมฉันต้องหลอก”ใบหน้าหวานนั่นเอียงลงเล็กน้อย
“หลอกไปทำไม โจร? ถ้าฉันเป็นโจรฉันยกเค้าไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วสิ”
“เฮ้ยไม่ใช่แบบนั้น..แต่แบบ”
“นายคิดว่านายจะเข้ามาห้องนี้ที่อยู่ชั้นสี่ยังไง”ร่างเล็กๆกอดอกเชิดปาก
“ฉันมีหน้าที่ทำความปรารถนาของนายให้เป็นจริง โซวอนึน
มาแรบวา
อ่ามจี้หนี่ฟ้ออยู่โบ๋ย”
“ร้องเพลงปุ๊บแม่งเหมือนคนบ้าเลยอะครับ”เซฮุนพูดขึ้นในที่สุด
“แล้วฉันต้องทำยังไง..แล้วยังไง...อะไรยังไงดี”
“ก็นายบอกว่าอยากมีแฟนไว้ทำอะไร
ขี้เกียจปั่นเรือเป็ดใช่ไหม เดี๋ยวช่วยปั่น ขอตอนเย็นนะแดดร่มๆ แดดแรงๆฉันไม่ชอบ”เจ้าตัวเชิดหน้าอีกครั้ง
และเซฮุนก็มองว่าน่ารักน่าชังดี
“ฉันมีเรียน”
“ก็ไปเรียนสิ”ว่าก่อนจะมองอีกคนที่ทำสีหน้าไม่มั่นใจ
“บอกแล้วไงว่าไม่ยกเค้าหรอก”
“รู้..แต่ว่า”
“ไปด้วยกันมั้ยล่ะ”ยื่นหน้ามาใกล้เสียจนเซฮุนต้องผงะ
เมื่อเห็นแก้วตาสีน้ำตาลใสระยะประชิด “ไปเลยก็ได้ ป่ะ”
“เฮ้ย ไปชุดนี้น่ะเหรอ”
“ชุดนี้น่ะสิ”
“มัน..โป๊”สีหน้าจริงจังเองเรื่องนั้นทำให้ใบหน้าหวานขยับยิ้ม
“สรุปเป็นแฟนแล้วใช่มั้ยล่ะ”
“ได้มาแล้วก็ต้องเป็นล่ะ”เซฮุนกอดอก “ฉันเปิดออนไลน์แป๊บนึง
ต้องซื้อเสื้อ..รองเท้า เธอจะใส่คัทชูหรือสลิปเปอร์ล่ะ”
“ฉันเป็นผู้ชายนะ ผ้าใบสิ”
“อ้าว”
“อ้าวอะไร นายไม่ได้ขอนี่ว่าต้องมีแฟนเป็นผู้หญิง”
“คือขอเมียไป...”
“ผู้ชายก็เป็นเมียได้..ดูหน้าฉันซิคิดว่าจะเป็นผัวใคร”ปาหมอนใส่ปิดท้ายด้วยความหงุดหงิดจนเซฮุนหงายเงิบไปข้างๆ
สุดท้ายก็สั่งชุดสองชุดมาส่งพร้อมกับรองเท้าโดยจ่ายด้วยเครดิตของแม่ แม่เขาก็ไม่สงสัยหรอกเพราะซื้อเสื้อผ้าผู้ชาย
คงดีตรงนี้ ถ้าเขาสั่งเสื้อผ้าผู้หญิงแม่เขาคงช็อคที่ได้ลูกสาวแน่นอน
“เดี๋ยวของมาส่ง...ว่าแต่ชื่ออะไรล่ะ”เซฮุนนั่งลงหน้ากระจกแต่งตัวมองคนที่นั่งจุ้มปุ๊กบนเตียง
“ต้องบอกด้วยเหรอ?”
“ไม่บอกแล้วจะให้เรียกอะไรล่ะ...หรือให้ตั้งให้”
“ตัวเอง”
“ห่ะ?”เซฮุนขยับคิ้วพร้อมกับอีกฝ่าย
แต่เหมือนว่าฝั่งตรงข้ามเป็นการขยับแบบท้าทายนิดๆ
“เรียกฉันว่าตัวเอง
จะได้จำไว้ว่าถ้านายทำอะไรไม่ดีกับฉัน ไม่ว่าจะคำพูดหรือการกระทำ
มันคือนายกำลังทำร้ายตัวเอง”
“เหอ...เน่าน่ะ”
“ฉันก็จะเรียกแบบนั้นเหมือนกัน...โอเคนะ ตัวเอง”ใบหน้าหวานส่งยิ้มมาให้ก็ทำให้ใจของเซฮุนพองโตอย่างประหลาด
เขากะพริบตาปริบๆพลางพยักหน้ารับเหมือนโดนป้ายยา ไม่นานนักของก็มาส่ง
เขาแบ่งของใช้ส่วนตัวพวกแปรงสีฟันที่ซื้อสำรองไว้ให้อีกคนไป
ก่อนจะปล่อยให้คนตัวเล็กๆไปอาบน้ำก่อนแล้วก็นั่งมึนงงกับชีวิตอยู่แบบนั้น...
เจ็ดสิบสองชั่วโมง...สามวัน เขาควรจะทำอะไร...
“นุ่มจัง เค้าชอบ”
“...”เซฮุนหันขวับไปมองอีกฝ่ายที่สรรพนามเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเซฮุนก็แค่กะจะแวะมาเช็คชื่อแล้วพาแฟนระยะสั้นคนนี้ไปสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต(?)
หลังจากที่เคยเหน็บแนมคนมีแฟนว่าตาบอดหรืออย่างไรต้องมาเดินจูงมือกัน
เขาก็ได้มาจูงคนตาดีเดินไปตามถนนบ้างจนได้
“หิวแล้วนะ”
“หิวได้ด้วยเหรอ”
“อ้าว คนนะไม่ใช่ตุ๊กตายาง จะได้ไม่เหนื่อยไม่หิว”ต่อปากต่อคำเก่งอีก...
ได้เป็นเมียจริงๆนี่ซวยชิบหาย ได้แต่คิดในใจแบบนั้นพลันพยักหน้าอย่างยินยอมไป
ไม่ติดว่าน่ารักนี่อาจจะกระเด็นไปสามวาได้
เห็นงี้ก็เรียนมวยไทยมาสามสี่คอร์สเลยนะเออ
“จะกินอะไรล่ะ”
“ตัวเองจะเลี้ยงอะไรล่ะ”ชิบหายอีกที...ต้องเลี้ยงอีกเหรอวะ
เอาเหอะแค่สามวัน คิดซะว่าออกเงินค่าเข้าค่ายลูกเสือ
“เลี้ยงแล้วกินมั้ย รีเควสได้แต่อย่ารีเควสแพง”
“เช็ทธรรมดาก็พอ กินหรูไปทำไม อึเหมือนเดิมล่ะ”เออ..ดูเลี้ยงง่าย
เซฮุนพาอีกคนไปที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย ผู้คนต่างจ้องมองร่างเล็กๆใบหน้าหวาน
ดวงตากลมสวยขนตายาวราวกับตากวาง ปากนิดจมูกหน่อยผู้กำลังถูกโอเซฮุนปีสามผู้ที่ดูเหมือนชีวิตนี้จะไม่มีแฟนกับชาวบ้านจูงมือฝ่าเกาหลีไปอย่างมาดแมน
เสียงซุบซิบเล็กน้อยดังขึ้นจนกระทั่งเซฮุนพาลู่หานไปปล่อยอยู่ที่โต๊ะว่างตัวหนึ่ง
“นั่งรออยู่นี่ล่ะ เดี๋ยวมานะ”
“อื้อ”
“พูดหวานๆหน่อยดิ๊
นี่พาแฟนมากินข้าวนะเว้ยไม่ใช่พาเจ้าหนี้มาเลี้ยง”
“เค้าจะรออยู่นี่แหล่ะ รีบมาไวๆ เค้าหิวแล้ว!”นอกจากจะไม่ฟังยังวีนกลับซะอย่างนั้น
เซฮุนเหลือกตามองบน เริ่มไม่แน่ใจว่าชีวิตแบบไม่โสดมันดีแล้วจริงๆหรือไม่
สุดท้ายก็จำใจไปต่อแถวซื้อเซ็ตอาหารสองเซ็ตตามระเบียบ แอบเหลือบไปมองก็เห็นว่าคนตัวเล็กๆที่แทนตัวเองว่าเค้า
และแนะนำกับเขาว่าชื่อตัวเองกำลังพับทิชชูเล่นอยู่ที่เดิม.. เด็กดีเหมือนกันแหล่ะเนอะ
“มารอใครเหรอครับ...ใส่ชุดไปรเวทแบบนี้หรือมาทัศนศึกษาเอ่ย”
“มาดูที่เรียนรึเปล่า พี่แนะนำได้นะ”
เซฮุนเหลือกตามองไฟเพดานอีกครั้งเมื่อถือถาดกลับมาก็เจอเพื่อนของเขาทั้งสองคนกำลังนั่งชวนยัยตัวเองคุยอยู่อย่างกอร่อกอติก
โดยที่นิ้วเล็กๆก็กำลังพับทิชชูเป็นเรืออย่างตั้งอกตั้งใจ
สุดท้ายเขาก็วางถาดอาหารลงก่อนจะทักทายเพื่อนทั้งสองของเขาเรียบๆ
“มานั่งหูดำไรแถวนี้พวกมึง แฟนๆมึงไปไหนกันวะ”
“ก็ไปเรียนอะดิถามได้... เห็นน้องนั่งคนเดียวกลัวจะเหงาเลยเข้ามาคุยเนี่ย”จื่อเทาว่าพร้อมกับจงอินที่พยักหน้าสนับสนุน
“ถูกครับ เห็นน้องมานั่งรอที่นี่ เราก็เป็นคนดี
แนะนำสถานที่ให้น้องเขา”
“แดกรองเท้ากูกันมั้ยจะได้ไม่ต้องพูดมาก ใครนั่งคนเดียว”เซฮุนอึกอักไปเล็กน้อย
“เขามากับกู”
“ห๋า? มากับมึง? เขาหลงทางเหรอ”
“ใครฝากน้องไว้กับมึง เดี๋ยวกูดูแลแทนได้”
“ไม่ได้หลงทาง ไม่มีใครฝากหรอก”เสียงของยัยตัวเองดังขึ้น
และเซฮุนก็มองไปยังใบหน้าหวานที่เงยขึ้นมองท่ามกลางคนในโรงอาหารที่หันมามองพวกเขาแทบจะเป็นตาเดียว
ดวงตากลมโตนั่นหรี่หยีตามด้วยรอยยิ้มหวานหยดจนแทบจะละลายเขาให้ไปกองกับพื้นอย่างง่ายๆ
เซฮุนไม่เข้ใจนักว่าทำไมเจ้าแม่ต้องส่งคนที่น่ารักมากแบบนี้มาให้กับเขาด้วย
แต่ทันทีที่ประโยคสั้นๆหลุดออกมาจากริมฝีปากเล็กๆนั่น
เขาก็รู้สึกเหมือนว่าได้ขึ้นสวรรค์ทั้งที่ยังอยู่บนพื้นดิน...
“เราเป็นแฟนกัน”
****************
แฟนรุ่นทดลอง
#คิวท์แอนด์คูล