Title : LOVERDOSE 2/3
Author : RUNAWAY05
Couple : BYUN BAEKHYUN x DO KYUNGSOO
Note : ก้อนก็รักของก้อนเข้าใจบ้างไหม....
*******************
“ช่าย...แล้วก็นอนห้องใกล้ๆกัน
คยองยังไม่กล้าบุกเข้าไปหรอกนะ ชิงชิงก็รู้นี่ว่าเราไม่ควรบุกเข้าไปก่อน
มันน่าเกลียดจะตายไป”
เด็กชายโดคยองซูวัยสิบสี่ปีกำลังบ่นให้จางอี้ชิงเพื่อนในวัยเดียวกันรับฟังระหว่างวันว่างในโรงเรียน
มือป้อมๆขีดเขียนแบบฝึกหัดไปด้วยผิดจากเด็กคนอื่นๆที่ไม่ค่อยสนใจชีทงานเท่าใดนักจนกว่าคังซึลกิหัวหน้าห้องจะมาเก็บไปส่งอาจารย์ประจำชั้น(และยกเว้นลู่หานเอาไว้คนหนึ่งที่จะมาเก็บเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ...คยองซูล่ะหมันไส้)
อี้ชิงพยักหน้ารับอย่างพอเข้าใจคำพูดของผู้เป็นเพื่อน
ก่อนจะเอ่ยทัดทานจนทำให้คยองซูหันมาสนใจ
“ได้ไปอยู่ใกล้ๆก็ดีแล้วล่ะ...แต่ว่าเขาโสดอยู่ใช่ม่า”
“ไม่รู้อะ”คยองซูเบะปาก “แต่เขาต้องไม่มีใครสิ”
“แต่เรื่องแบบนั้นมันคิดเอาเองไม่ได้หรอกน้า”
“ไม่เห็นบยอนนิมโทรคุยกับสาวที่ไหนเลยนะ
คยองเฝ้าอยู่หน้าห้องเค้าถึงตีสองครึ่ง ไม่ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์กับใครเลยสักคน
ได้ยินแต่เสียงพากย์บอล
ฟังไม่เห็นจะรู้เรื่อง”ปากอิ่มบึนขึ้นใส่อี้ชิงที่พยักหน้าช้าๆ
“แล้วแบบนี้เขาจะไม่มัวแต่มาคิดว่ามันเป็นงานเป็นการเหรอ”
“อือ..คยองก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นอ้ะ”เด็กน้อยก้มหน้าพร้อมกับทำหน้างอก่อนจะถูปลายเท้าไปมาอย่างขัดใจ
“มีเวทย์มนต์อะไรที่จะทำให้บยอนนิมมาสนใจดโยน้า”
“ชิงชิงว่าดโยอะหมกมุ่นกับเวทย์มนต์ไปแล้วน้า
มันไม่มีจริงหรอกน่า”
“อย่าดูถูกเชียวน้า! เพราะเวทย์มนต์นี่น่ะ...บยอนนิมถึงได้จูบคยองน่ะ”คยองซูทำหน้าอูมใส่
“จ้า..จ้า...”
“ว่าแต่มันมีอยู่นี่นา...เวทย์มนตร์ที่จะให้เขาหันมามองเนี่ย”คยองซูแจกแจงแผ่นกระดาษไปมาอยู่สักพัก
ก่อนจะยิ้มหยีออกมาพร้อมกับอ่านออกเสียงเบาๆพอให้อี้ชิงได้ยิน
ฟากเด็กชายอีกคนได้ยินวิธีการก็ถึงกับเลิกคิ้วหน้าตื่น
“อยากให้เขาหันมามอง...เส้นผมเขานี่เเหละจะก่อให้เกิดพลังมหาศาล
ไปหาเส้นผมของคนที่ชอบมาห่อด้วยกระดาษขาว เเล้วพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอด...ถึงมันจะยากกว่าจะได้เส้นผมเค้ามา
เเต่เส้นผมก็มีผลช่วยให้ความปรารถนาของเราสัมฤทธิ์ผลอย่างยิ่งเลย...ชิงชิง~”
“ดโยอ่า...อย่าเชียวนะ”อี้ชิงรีบร้องห้ามเมื่อคยองซูหันมาหาพร้อมด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความหวัง
ริมฝีปากที่ยิ้มหวานเริ่มเปลี่ยนเป็นยิ้มแสยะ ชิงชิงล่ะกลัวเวลาดโยคิดอะไรออกแบบนี้จัง...
จนเมื่อกลับมาห้องถึงช่วงค่ำ
คยองซูไม่ได้กล่าวอะไรมากกว่าสูดบะหมี่ถ้วยมองหน้าแบคฮยอนอย่างมีความสุข
ซึ่งวันนี้แบคฮยอนเองก็ไม่ได้มีเคสด่วนอะไรนักนอกจากทำแผลให้ไอ้คุณอู๋ที่หาเรื่องตายคาตีนเมียซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เขามาทำแผลให้
แบคฮยอนตวัดสายตามองไอ้เด็กเอเลี่ยนอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่นัก ไม่รู้จะมาไม้ไหนอีก
ไว้ใจไม่ได้จริงๆ...
“บยอนนิม”
“เออ”
“จะนอนเมื่อไหร่เหรอ”
“เดี๋ยวก็นอนแล้ว
มีอะไร”ว่าห้วนก่อนจะหันไปกินบะหมี่ถ้วยแบบจนๆต่อ
“กลอนมันพังแล้วงะ...อากาศมันเข้า..เค้าก็หนาว...”
“อย่ามาใช้สรรพนามชวนขนหัวลุกแบบนั้นนะเฟ้ย”
“ก็ก่อนจะมีช่างมาซ่อมประตูเค้าขอนอนด้วยนะ..นะ”
“ไม่ได้”แบคฮยอนกล่าวชัด
“ก็อยู่ในนั้นแหล่ะไม่เป็นไรหรอก ก่อนจะขึ้นชั้นนี้ก็ต้องผ่านประตูที่มีคีย์การ์ดอยู่แล้ว
ไม่มีใครมาทำอะไรได้หรอกน่า”
“แต่ว่า”
“อิ่มแล้ว”แบคฮยอนตัดบทก่อนจะลุกออกไปดื้อๆ..ทิ้งให้คยองซูนั่งปากเป็ดอยู่กับถ้วยบะหมี่ที่ห้องครัว
เด็กชายกินจนเรียบร้อยแล้วก็นั่งลูบเหนียงอย่างสะเทือนใจ
จำได้ว่าตอนประถมเขาไม่มีไอ้ก้อนๆใต้คางนี้นะ..มันมาได้ไงเนี่ยT^T
“...”แต่ด้วยไฟรักสุมทรวง...คยองซูจึงอาศัยจังหวะที่เป็นยามวิกาลดึกสงัดค่อยๆย่องออกจากห้องของตัวเอง
ร่างป้อมกระดึ๊บๆไปตามผนังก่อนจะหยิบกิ๊บติดผมออกมา
คยองซูรู้อยู่แล้วล่ะว่าบยอนนิมต้องไม่ให้เขาเข้าห้องไปง่ายๆ
คยองซูเลยไปขอกิ๊บติดผมของหัวหน้าคังซึลกิมาไว้กันเหนียวน่ะสิ... อา...เขานี่มันอัจฉริยะจริงๆนะเนี่ย
เก่งจนขี้เกียจอวยเลอะ
“อีกนิดน้า..อีกนิดนึง”เด็กน้อยใช้วิชาสะเดาะกุญแจจนสำเร็จ
แต่ไม่ทันจะได้ทำอะไรมากกว่านั้น เสียงบางอย่างก็ดังลอดออกมาซะก่อน
“อา...แทยอนครับ..ดีครับ...”
ใครง่ะ...
“ไม่เจ็บนะ...ผมจะทำเบาๆ”
คยองซูรีบแปะตัวเข้ากับช่องประตูแอบดูเรื่องราวข้างในทันที
และแล้วเด็กน้อยก็ต้องใจสลายเมื่อพบว่าบยอนนิมกำลังทำอะไรกับผู้หญิงคนหนึ่งผมสีน้ำตาล
แม้จะเห็นแค่ด้านหลังของบยอนนิมที่กำลังรัวอยู่บนเตียง
แต่เสียงครางที่ดังออกมาทำให้คยองซูปวดหนึบในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก แทยอนคือใครเหรอ...แล้วทำไมดโยต้องรู้สึกอยากจะร้องไห้แบบนี้ด้วยล่ะ
แย่จัง...
เด็กชายยืนรอให้ทุกอย่างเงียบไปอยู่พักใหญ่
ก่อนจะตัดสินใจลอบเข้าไปด้านในและพบว่าบยอนนิมกำลังกกกอดผู้หญิงคนนั้นซึ่งกำลังนอนคว่ำอยู่..
แต่คยองซูไม่คิดจะโวยวายอะไรออกมานอกจากมองสภาพบนเตียงอย่างรู้สึกโกรธแค้นปนน้อยเนื้อต่ำใจ
ประกายวาววับจากกรรไกรยกขึ้น ก่อนจะตัดฉับเข้ากับเส้นผมของแบคฮยอนหย่อมหนึ่ง
เส้นผมสีน้ำตาลทองของแบคฮยอนอยู่ในมือของคยองซู และมันก็มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คยองซูสูดดมเส้นผมของบยอนนิมเยาะเย้ยหญิงสาวบนเตียงก่อนจะรีบชิ่งกลับมาที่ห้องตัวเอง
เขารีบเอาทิชชู่ห่อเส้นผมของแบคฮยอนเอาไว้
ก่อนจะทำกระดาษแผ่นใหม่และเขียนชื่อแบคฮยอนลงไปเก้าครั้งอีกครั้ง…
“ดโยจะไม่ยอมแค่นี้หรอก...แต่...คุณแทยอนเป็นใครอ่ะ
หาในnaverจะเจอมั๊ยนะ”ปากอิ่มบึนออกมาอย่างงอแงตามประสา
ก่อนจะกอดตุ๊กตาโครงกระดูกผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว...
เจ็บปวดหัวใจจริงๆ...
รุ่งเช้าคยองซูที่คิดแผนไว้ระหว่างฝันก็ออกมาพร้อมกับแบคฮยอนที่สวมเชิ้ตและกางเกงสีดำเป็นชุดทำงาน
ซึ่งค่อยลงไปเปลี่ยนเป็นชุดทำงานด้านล่างทีหลัง เด็กน้อยตัวเล็กสังเกตชายหนุ่มที่ออกจากห้องมาคนเดียวอย่างไม่มีหญิงสาวมาด้วยก่อนจะหันมองตามเสียงของแบคฮยอน
“หาอะไร ไปได้แล้ว”
“อื้อ”คยองซูรับคำก่อนจะทำหน้าซื่อตามเภสัชกรหนุ่มไป
นี่ทิ้งผู้หญิงไว้ในห้องเสวยสุขอย่างนั้นเหรอ..ดโยไม่ยอมหรอก
ดโยจะทวงทุกอย่างที่เป็นของดโยคืน ฮึ่ม!
ร่างกะเปี๊ยกเดินเตาะแตะออกไปหารถที่ขับมารับพร้อมกับโบกมือลาแบคฮยอนที่หันมาโบกมือแกนๆใส่
จะไม่โบกก็ไม่ได้การ์ดสส.จ้องดูอยู่ที่รถอีกคัน
เขายังไปอยากโดนอุ้มฆ่าตอนนี้หรอกนะ
เมื่อแบคฮยอนเปิดคลินิกรอจนจงแดมาพร้อมกับพยาบาลภาคเช้า
จงแดก็ยื่นซองสีเหลืองอ่อนไปให้เพื่อนรักที่รับมามองงงๆ
“ช่วยไปส่งเอกสารให้ฉันทีสิ
จะออกไปซื้อข้าวด้วยใช่มั๊ย?”
“ห๋า? เออ..ได้ๆ”
“แล้วคยองซูเป็นไงบ้าง”
“ก็ดีอะ ถ้าไม่ชอบแอบส่องฉันก็ไม่มีอะไรหรอก
แน่ใจนะว่าเป็นเจอรอนโตฯ ไม่ใช่สคอปทอปฯ
บางวันฉันปิดประตูห้องไม่สนิทเหลือบไปแว้บเดียวลูกตาแม่งมาละ”
“เอาน่ะ น้องเค้าอยากจะสนิทด้วยละมั้ง
นายก็ใจดีกับน้องเขาหน่อยแล้วกัน”
“เออๆ รู้แล้วล่ะน่า
ไปล่ะ”แบคฮยอนสาวเท้าออกมาจากคลินิกหลังจากเปลี่ยนมาสวมเสื้อคลุมไว้สำหรับไปข้างนอกแทนเสื้อกาวน์
และคยองซูที่รอเวลาจนใกล้ถึงโรงเรียนก็ร้องออกมาเบาๆ
“อ๊ะ ดโยลืมของ กลับรถหน่อยสิ”
“แต่ว่า...”
“ถ้าดโยโดนครูตีดโยจะฟ้องพ่อนะ
คิดจะทำให้คะแนนดโยตกต่ำรึไง”เมื่อใช้น้ำเสียงข่มขู่คนขับรถก็ยอมหักเลี้ยวกลับไปให้แต่โดยดี
คยองซูนั่งรอจนกระทั่งรถวกกลับมาถึงคลินิก
เด้กชายจึงรีบวิ่งเข้าไปทำท่าเมียงมองโดยที่จงแดก็อุทานอย่างงุนงง
“อ้าว ทำไมยังไม่ไปโรงเรียนล่ะครับ”
“ดโยลืมสมุดครับ...ดโยต้องส่งวันนี้”ทำตาแป๋วแหววน้ำตาคลอหน่วยจนจงแดพูดอะไรไม่ออก
“แต่ดโยไม่มีคีย์การ์ดขึ้นไปข้างบนฮะ”
“อ๋อ..คีย์การ์ดผมมี เอานี่ไปไว้เลยก็ได้ครับ
ไว้ไม่อยู่แล้วค่อยมาคืนนะ”จงแดที่แม้จะเป็นถึงจิตแพทย์ก็ยังไม่เท่าทันสิ่งมีชีวิตที่เด็กและตัวเล็กกว่าอยู่ดี
คยองซูรับคีย์การ์ดมาก่อนจะรุดหน้าขึ้นไปบนชั้นสาม มือเล็กปลดล็อคประตูก่อนจะไปยืนที่หน้าห้องของบยอนแบคฮยอนพร้อมกับกุมกิ๊บติดผมแน่น
“คุณแทยอน..ตัวเองเจอเค้าแน่....”พูดเสร็จตามแบบฉบับในละครก็จัดการไขกุญแจห้องทันที
ไม่นานนักห้องก็เปิดออกและคยองซูก็เดินวนรอบๆห้องขนาดห้องหอพักธรรมดาซึ่งไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไหร่
เด็กชายเงยหน้ามองโปสเตอร์วงเกิร์ลเจนเนอเรชั่นที่แปะอยู่ด้านหลังประตูก่อนจะสอดส่ายสายตา
เขาเดินไปดูห้องน้ำแต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากกางเกงในของบยอนนิม... ไม่เอาไม่ฉก._.
ฉับพลันนั้นสายตาของคยองซูก็หันไปเจอปอยผมสีน้ำตาลโผล่ออกมาจากกองผ้าห่มที่ม้วนชิดผนัง
ร่างเปี๊ยกแสยะยิ้มก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างย่ามใจ
“คุณแทยอน...แอบอยู่ตรงนั้นก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะครับ”
“...”
“ผมชื่อโดคยองซู...เป็นคนที่มีความสัมพันธ์ล้ำลึกกับคุณหมอแบคฮยอน...คุณน่ะอย่ามาแทรกกลางระหว่างเราสองคนดีกว่า”
“...”
“ทำนิ่งเหรอ ผมชักโมโหแล้วนะครับ!”คยองซูตวาดกร้าวก่อนจะดึงผ้าห่มออกอย่างไม่สนอกสนใจ
บังอาจเพิกเฉยคำพูดของโดคยองซูก็ต้องถูกทำให้อับอายแบบนี้แหล่ะ!
แอ๊ะ...
“...”เด็กชายทำตาปริบๆเมื่อสิ่งที่เขาพบไม่ใช่ร่างของหญิงสาวสวยนามแทยอนอย่างที่เข้าใจ
แต่กลับเป็นตุ๊กตายางอัดลมขนาดเมตรครึ่งนอนนิ่งอยู่บนผืนเตียง
คิ้วหนาของเด็กน้อยขมวดเมื่อพบว่าหล่อนไม่ได้สวมเสื้อผ้า
ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อกีฬาของเจ้าของห้องมาสวมให้
ปากอิ่มเบะเล็กน้อยอย่างคับแค้นและสะเทือนใจ เขาก็อยู่ห้องข้างๆทำไมไม่เรียก... ทำไมต้องมาจุ๊กกรู้ตุ๊กตายาง...แล้วคุณแทยอนคือใคร
... ดวงตาโตของเด็กชายเพ่งไปที่โปสเตอร์ตรงประตูห้องดีๆอีกครั้ง ก่อนจะเห็นชื่อกำกับใกล้ๆภาพหญิงสาวใบหน้าน่ารักที่กำลังทำมือรูปหัวใจ...คิมแทยอน...
พรึ่บ!
คยองซูเดินไปเปิดดูข้าวของบริเวณชั้นวางหนังสือก่อนจะพบนิตยสารของผู้หญิงคนนี้เต็มไปหมด..นี่มันแฟนบอยตัวพ่อเลยนี่หว่า!!
แง...ดโยไม่ให้รักน้า....
ห้ามไปชอบคนอื่นเซ่!!
ฟากแบคฮยอนที่กลับมาจากส่งเอกสารและซื้อข้าวกลับมาก็แปลกใจเล็กน้อยที่ข้างคลินิกประตูเปิดอยู่
แต่ไม่ทันจะได้ทำอะไรก็พบร่างของโดคยองซูกำลังสะพายเป้จนหลังแอ่น
วิ่งกอดอะไรบางอย่างออกมาจากข้างตึก พอเพ่งดีๆถุงข้าวก็แทบหลุดมือเมื่อพบว่าที่เด็กชายโดคยองซูอุ้มแบกออกมานั้นคือตุ๊กตายางขนาดเมตรครึ่งที่ชายหนุ่มมั่นใจเหลือเกินว่าได้หมกไว้กับผ้าห่มเพราะขี้เกียจเก็บ
แบคฮยอนเผลอสบถหยาบคายออกมาก่อนจะวิ่งไปดักหน้าคยองซูเอาไว้
“เข้าไปได้ยังไงวะเนี่ย เอามันกลับขึ้นไปเลยนะ!!”
“ไม่กลับ! บยอนนิมจะทำแบบนี้ไม่ได้น้า!!”
“เอากลับขึ้นไปเด้!!”เกิดเป็นภาพชุลมุนเมื่อเภสัชหนุ่มไล่ตะครุบเด็กชายที่แบกตุ๊กตายางที่สวมเสื้อกีฬาตัวเดียว
จงแดกับนางพยาบาลได้ยินเสียงเอะอะก็ออกมาดู
ก่อนจะนิ่งเมื่อเห็นตุ๊กตายางอัดลมพริ้วไปมาอยู่หน้าคลินิก
“อย่าดื้อน่ะ มันจะมากไปแล้วนะ!!”
“ฮือ...บยอนนิมใจร้าย
ดโยจะพาคุณแทยอนไปรับอิสรภาพ!!”
“แม่งงง อย่าพูดชื่อสิวะเฮ้ย!!”
“บยอนนิมจะกักขังคุณแทยอนแบบนี้ไม่ได้น้า!!”คยองซูตะโกนลั่นสีหน้าจะร้องไห้
ทั้งหึงหวงทั้งน้อยใจ หุ่นเขาดีกว่าจะตายบยอนนิมก็น่าจะเคยเห็นมาแล้ว แล้วทำไมต้องมาลงกับตุ๊กตายางแบบนี้ด้วย
เด็กน้อยอุ้มตุ๊กตายางวิ่งหนีออกไปขณะที่แบคฮยอนยืนหอบ
ก่อนจะโยนกล่องข้าวทิ้งพร้อมกับวิ่งตามออกไปทันที ปล่อยให้จงแดกอดอกมองตามตาปริบๆ
“เพื่อนเราอดอยากถึงขั้นต้องซื้อตุ๊กตายางเป่าลมมาทำเมียแล้วเหรอเนี่ย...
แต่เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆน่าจะซื้อแบบซิลิโคนไปเลยจะดีกว่านะ
หรือช่วงนี้มันจะจนจริงๆ...”ริมฝีปากได้รูปเม้มนิ่ง “หรือเปลี่ยนไปหกสิบสีสิบดีนะ”
แม้วันนี้อากาศจะดีท้องฟ้าสดใส
แต่ภาพชายคนหนึ่งวิ่งไล่ตามเด็กชายที่อุ้มตุ๊กตายางเป่าลมไปตามถนนกลับไม่ใช่ภาพน่าดูเท่าไหร่นัก
ร่างเล็กทั้งร้องไห้ทั้งวิ่งแถมแบกนิตยสารดาราจนปวดหลัง
แต่เด็กน้อยจอมอึดก็ยังไม่ยอมแพ้เมื่อแรงรักเปลี่ยนเป็นเงาแค้นโดคยองซู
ในขณะที่แบคฮยอนก็วิ่งไปหอบไป นี่ก็เล่นคาราเต้ทุกเสาร์อาทิตย์นะทำไมเหนื่อยง่าย..หรือต้องมาเปลี่ยนมาวิ่งออกกำลังกายเนี่ย
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ โดคยองซู!!”
“ไม่หยุด!! เค้าไม่หยุด บยอนนิมใจร้าย!!”เด็กชายแหกปากวิ่งท่ามกลางสายตาประชาชีที่มองตุ๊กตายางผมสีน้ำตาลในอ้อมกอดของคยองซู
หลังจากวิ่งหนีมาจนใกล้เนินริมแม่น้ำ
คยองซูก็ทิ้งเป้ลงพร้อมกันกับแบคฮยอนที่วิ่งเข้ามาใกล้แต่ก็ต้องชะงักถอยเมื่อคยองซูหันมาล็อคคอตุ๊กตายางไว้
“บยอนนิมอย่าเข้ามานะ!
แฮ่ก...ไม่อย่างนั้นเค้าจะโยน..แฮ่ก..แฮ่ก...โยนคุณแทยอนลงแม่น้ำแน่!”
“โอย...แฮ่ก...เฮ้ยๆอย่าซี้ซั้วโยนนะเว้ย...
ซื้อมาแพงนะ แค่ก!..มีไรค่อยๆพูดกัน”แบคฮยอนประนีประนอมสลับหอบ
“บยอนนิมชอบคนรูจมูกเล็กๆทำไมไม่บอกเค้า!”
“แล้วทำไมฉันต้องบอกนายด้วยวะเนี่ย...”
“ก็เค้าน่ะปลื้มบยอนนิมมากนะ
แล้วคุณแทยอนมาจากไหนทำไมได้บยอนนิมไปเล่า!”
“อันนั้นตุ๊กตายางป้ะ”
“หมายถึงดาราเนี่ย!”คยองซูกอดตุ๊กตายางร้องไห้ “เค้าหึงบยอนนิมนะ....ฮืออ”
“ใจเย็น..วางตุ๊กตายางแล้วตั้งสตินะ...”
“ตุ๊กตาอัดลมไม่เห็นเหมือนในโปสเตอร์เลย
ทำไมบยอนนิมเป็นแบบนี้ คนใจร้าย!”
“เลิกเอาแต่ใจแล้วไปเรียนได้แล้ว!!
คิดว่าทำแบบนี้คนอื่นเขาจะเดือดร้อนกันอีกเท่าไหร่ เลิกทำตัวมีปัญหาซะที!!”แบคฮยอนตวาดอย่างชักเหลืออด
ทำให้คยองซูอึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะเบะปากร้องไห้แล้วยกตุ๊กตายางขึ้นสูง
“แง๊!! ใจร้าย!!”
“ชิบหาย! อย่าโยน!”ชายหนุ่มร้องขึ้นโดยที่เด็กชายก็สะดุดกับอะไรบางอย่างจนหน้าทิ่มลงไปในแม่น้ำเช่นกัน
แบคฮยอนสบถลั่นก่อนจะรีบตามลงไปช่วยโดยทันที
และแน่นอนว่าบยอนแบคฮยอนต้องเลือกสิ่งมีชีวิตมากกว่าอยู่แล้ว...
“...”
ตัดภาพมาอีกที...ตอนนี้ทั้งแบคฮยอนและคยองซูก็นั่งแช่น้ำอยู่ตรงส่วนตื้นๆของแม่น้ำมองคุณแทยอน(?)ที่ลอยตุ้บป่องจากไป
ซึ่งแบคฮยอนก็ขี้เกียจไปว่ายน้ำเอามันกลับมาให้เสียเวลาเหมือนกัน
ต่างคนต่างนั่งหอบแฮ่กปรับลมหายใจจนสุดท้ายเภสัชกรหนุ่มก็ลุกขึ้น
“สมใจละดิ จะกลับยัง นั่งนานเดี๋ยวปลิงก็ดูดไข่”
“เค้าเป็นตะคริว”
“ห้ะ”
“จริงๆน้า เพราะวิ่งมานานแน่เลย”คยองซูหันหน้าทำตาบวมใส่แบคฮยอนที่มองบนอยู่พัก
แต่คยองซูลุกไม่ขึ้นจริงๆเพราะวิ่งมาไกลอยู่พอสมควร เด็กชายนั่งแช่นานเบะปากจะร้องใส่แบคฮยอนที่ทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะเดินไปดึงแขน
“ขึ้นมา”
“ลุกไม่ขึ้นนนน”
“ขึ้นหลังมา อย่าเรื่องมาก”หันหลังให้เด็กน้อยเกาะแผ่นหลังก่อนจะยกตัวกลมๆขึ้น
แบคฮยอนแบกเด็กน้อยขึ้นเนินอย่างทรหดพลันเดินไปให้คยองซูเอียงตัวเก็บกระเป๋านักเรียนอย่างทุลักทุเลแล้วจึงได้แบกกลับ
คยองซูที่เจ็บน่องขาก็เฝ้ามองเส้นผมสีน้ำตาลที่ยิ่งกระทบแสงแดดก็ยิ่งเป็นสีทองของอีกฝ่าย
เด็กหนุ่มจดจ้องกลุ่มผมเหล่านั้นก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ...
และ...
ฟืด....ฟึดๆๆๆๆ....
“...”
“ผมบยอนนิมฮ้อม...หอม....”
“...”ไอ้เด็ก....
“เหมือนสายไหมเลยอ่ะ...”
“อย่ากินนะเว้ย
ไม่งั้นฉันไม่สนแล้วว่าพ่อนายจะเป็นใคร ฉันโยนจริงร่วงจริงเจ็บจริง”
“งื้อออ”เจ้าตัวแค่ส่งเสียงในลำคอก่อนจะกอดแน่นราวกับลูกลิง
และแน่นขึ้นเมื่อแบคฮยอนทำท่าเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเพราะหายใจไม่ออก
สุดท้ายชายหนุ่มก็ยอมแพ้ ได้แต่จับเด็กชายยัดเข้าแท็กซี่ก่อนจะบอกปลายทางเป็นคลินิกของคุณหมอจงแดแล้วผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ
หลังจากกลับมาให้โดนบ่นเพราะเปียกม่อลอกม่อแลกทั้งคู่
โชคดีที่วันนี้อี้ฟานกับชานยอลมานอนเล่นที่คลินิกซึ่งแบคฮยอนก็ไม่รู้ว่าจะมากันทำไม
ไหนจะจงอินและจื่อเทาที่ชะโงกหน้ามาดูว่าเกิดอะไรกับแบคฮยอนและคยองซู
“ร้อนเหรอถึงไปเล่นน้ำน่ะ”ชานยอลเอ่ยทักพร้อมกับขยับเสื้อช็อปอาชีวะให้เข้าที่
มองแบคฮยอนที่สีหน้าแบบไม่รู้จะอธิบายยังไง
“อุบัติเหตุนิดหน่อย ผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อย”
“พลาดมากนี่ไม่หัวแหว่งกลับมาเป็นซอมบี้เหรอหมอ”
“เออ ช่างเหอะ จงแดขอคุยอะไรหน่อย”เภสัชหนุ่มหันไปตกลงกับจงแดเกี่ยวกับทำงานวันนี้และลงท้ายด้วยการขอลาหยุดหนึ่งวัน
ซึ่งจงแดเห็นสภาพก็โอเคเพราะยังไงซะก็มีพยาบาลคอยช่วยงานอยู่แล้ว ก่อนที่คยองซูจะเหลือบสายตามาหาจงอินที่วันนี้คอสเป็นมาริลีนมอนโร
ริมฝีปากแดงฉานนั้นบึนนิดหน่อยก่อนที่ดวงตาที่กรีดด้วยเส้นสีดำเฉียบคมจะมองคยองซูอย่างจับผิด
“เสื้อนักเรียนแนบเนื้อเลยนะ”
“...”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่านายคิดการใหญ่อะไรอยู่...”จงอินหรี่ตามองโดยมีจื่อเทาคอยเซลฟี่รูปตัวเองเป็นฉากหลัง
และชานยอลก็เหล่มองคยองซูนิดหน่อยก่อนจะหาวแล้วหันไปนอนซบอี้ฟานที่หลับคอพับอยู่ข้างตัว
“อ้าว ทำไมไม่ไปโรงเรียนล่ะครับ
แล้วทำไมเลอะแบบนี้ล่ะ”เสียงของเซฮุนดังขึ้นปรากฏร่างของคุณครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษที่มากับเด็กชายตัวน้อยหน้าหวานที่อุ้มเบนโตะกล่องใหญ่มาด้วย
โดยที่ชอนซาของคลินิกก็ส่งยิ้มหวานพลันเอ่ยขึ้น
“คุณแม่ได้ข้าวญี่ปุ่นมาเยอะมากเลยครับ ก็เลยทำข้าวกล่องมาให้ทุกคนด้วย”
“ว้าว น่ารัก”ท่าทางของทุกคนเปลี่ยนไปโดยทันที
จงอินที่ทำหน้าหมันไส้คยองซูก็ยิ้มร่าไปกอดลู่หาน จื่อเทาก็กลับไปแอบหลังเสาอีกครั้ง
ทั้งอี้ฟานและชานยอลต่างก็ตื่นจากอาการง่วงเหงาไปโดยปริยาย ทุกคนไปรุมเล่นกับลู่หานพร้อมกับจงแดและแบคฮยอนที่เดินไปรับข้าวกล่อง
โดยที่ชายหนุ่มก็พูดขึ้น
“เนี่ยไม่ได้กินอะไรแต่เช้า
เสียเวลาเพราะเจ้านี่เลยนะ วุ่นวายจริงๆ”
“แบคฮยอนไม่เอาน่ะ”จงแดปราม
แต่ทุกคนก็ไปรุมกับข้าวกล่องต่อไปโดยที่เซฮุนก็สังเกตเห็นคยองซูที่ทำหน้าสลดก่อนจะเลียบก้าวออกไปเงียบๆ
คุณครูหนุ่มมองอยู่สักพักก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ลู่หานแล้วสาวเท้าตามคยองซูออกไปด้วย
“ทานอะไรรึยังครับ”
“?”คยองซูที่ทำท่าจะขึ้นไปชั้นสองก็หันมองเซฮุนที่เดินมาส่งยิ้มบางๆให้
เด็กน้อยก้มหน้ายิ่งทำให้ดูเหมือนลูกเพนกวิ้นเข้าไปใหญ่
เซฮุนขยับยิ้มพลันเอ่ยซ้ำอีกหน
“ไปกินข้าวก่อนนะ แล้วค่อยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ”
“ดโยไม่น่ารัก”
“หืม?”
“ใครๆก็เลยไม่ชอบดโยใช่ม่า”ดวงตากลมโตหรุบต่ำ “ดโยไม่ได้น่ารักแบบนายแว่นนี่นา
ทั้งๆเมื่อกี้ยังทำท่าเบื่อๆกันอยู่เลย”
“ทุกคนมีความน่ารักในตัวเองอยู่แล้วล่ะครับ”เซฮุนยิ้มน้อยๆ
“แทนที่จะน้อยใจว่าทำไมตัวเองไม่น่ารัก ครูว่า...เก็บความน่ารักเอาไว้ให้คนที่เห็นมันจริงๆจะดีกว่านะครับ”
“บยอนนิมยังว่าดโยอยู่เลย....”
“เขาเป็นคนแบบนั้นล่ะครับ อย่าไปถือสาเลย
ไปกินข้าวกันเถอะ”
“ถ้าดโยไม่ไป...ทีชเชอร์จะพูดให้บยอนนิมเอาข้าวมาให้ดโยมั้ย”
“อาจจะ...นะครับ”
“งั้น...ดโยไม่หิวฮะ”เด็กน้อยส่งยิ้มให้กับเซฮุน “ทีชเชอร์กินเถอะ
ดโยจะไปอาบน้ำ ดโยหนาวแล้ว”
“...”
“ทีชเชอร์อย่าลืมที่บอกไว้นา”ปากอิ่มบู้ขึ้นก่อนจะแจ้นขึ้นไปชั้นบนทันที
ปล่อยให้เซฮุนโคลงศีรษะแล้วหลุดขำออกมา
เรื่องที่โดคยองซูมาพักที่คลินิกแห่งนี้เขารู้อยู่แล้วเพราะเจ้าตัวเล่นฝอยไปทั่วโรงเรียนแบบนั้น
ชายหนุ่มเดินออกมาหาลู่หานก่อนจะหยิบข้าวกล่องเบียดใส่แบคฮยอนที่กำลังอ้าปากกินข้าวทั้งที่ตัวก็เลอะ
“เอ้า”
“ห่ะ”
“ห่ะอะไรหมอ...เอาข้าวไปให้คยองซูด้วย พูดจาทำร้ายจิตใจเด็กแบบนั้นได้ไงกันล่ะครับ”เซฮุนว่าซึ่งจงแดก็รีบผสมโรงทันที
“ฉันว่าฉันก็ปรามแล้วน้า”
“อะไรกันเหรอ เมื่อกี้หลับกับไอ้กากไม่รู้เรื่อง”ชานยอลทำหน้าเหลอโดยอี้ฟานก็พยักหน้าหงึ่กๆ
“เค้าก็ไม่รู้เหมือนกันครับเตง”
“...”จื่อเทาโบกมือออกมาจากหลังเสาเป็นสัญญาณว่าไม่รู้ไม่เห็น
โดยที่จงอินก็ปาดตะเกียบกับริมฝีปากสีแดงสดพร้อมกับตวัดสายตามองแบคฮยอน
“ถึงเด็กนั่นจะชอบทำหน้าตาท่าทางเหมือนพวกซาแซง
แต่ก็เด็กล่ะนะ ไม่มีใครชอบคำว่าวุ่นวายกันหรอก”แบคฮยอนกระเดือกข้าวลงคออย่างยากลำบากก่อนจะหันไปทำตาขวางใส่เหล่าพยาบาลที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“คุณหมอแบคฮยอน...”
“...”แม้จะแค่เรียกชื่อสั้นๆ แต่แววตาตัดพ้อในดวงตากลมหวานและสีหน้าของสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนามว่าลู่หานยิ่งทำให้แบคฮยอนทำสีหน้าลำบากหัวใจอย่างปิดไม่มิด
เขารีบหันไปดื่มน้ำก่อนจะคว้าข้าวกล่องในมือของเซฮุนก่อนจะพูดห้วน
“ไปอาบน้ำล่ะ”
“แล้วจะเอาข้าวไปอีกทำไม”จงแดดักคอซึ่งอีกฝ่ายก็ส่งเสียงเหวี่ยงๆกลับมาทันที
“หิว เอาไปตุน!”
หลังจากอาบน้ำสระผมเรียบร้อย
แบคฮยอนที่เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดแขนยาวกับกางเกงขาสามส่วนก็เดินออกมาด้อมๆมองๆที่หน้าห้องของคยองซู
เหมือนเจ้าตัวก็อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยและกำลังนั่งกอดหมอนหันหลังอยู่ในห้อง
ชายหนุ่มเดินเงอะงะอยู่พัก เขาเกาหลังคอไปมาก่อนจะสะบัดผมที่ยังไม่แห้งดีของตัวเองแล้วเดินเข้าไปในห้องโต้งๆ
“ยืมไดร์เป่าผมหน่อย”
“เอ๋?”คยองซูวางหมอนสีส้มในอ้อมกอดลงมองร่างของแบคฮยอนที่ยืนถือถุงกล่องข้าวก่อนจะพูดติดๆขัดๆ
“เออ..หัวเปียก...ไดร์มันใช้ไม่ได้...ยืมหน่อย”
“ในห้องน้ำฮะ”คยองซูชี้มือไปที่ห้องน้ำโดยแบคฮยอนก็วางกล่องข้าวลงบนที่นอนอีกคน
“กินสิ”
“...”
“คนอื่นเขาฝากมาให้ กินๆไปเถอะ”ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป
โดยที่คยองซูก็ยู่ปากพร้อมกับเปิดฝากล่องข้าวแล้วนั่งกินเงียบๆ
ดีที่ในห้องยังมีน้ำเปล่าที่เลขาของพ่อซื้อมาให้
คยองซูนั่งคีบข้าวในกล่องก่อนจะมองเห็นมือเรียวขาวเหมือนมือผู้หญิงมาหยิบไก่ทอดไปกิน
ดวงตากลมโตไล่มองริมฝีปากของแบคฮยอนที่ค่อยกัดไก่ทอดกินอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่ได้สนใจว่าตัวเองกำลังถูกแย่งกินข้าวกล่องอยู่
“เฮ้อ อร่อยจัง แถวนี้ร้านอร่อยๆหายากจะตาย”
“บยอนนิมชอบเหรอ? เค้าจะหัดทำนะ”
“ไฟไหม้ตึกขึ้นมามันจะเป็นเรื่องเอา ไม่ต้องทำ”แบคฮยอนเหลือกตาใส่
“แล้วบยอนนิมชอบคนทำกับข้าวเก่งรึเปล่า”
“อือ ทำเป็นก็ดี”
“คุณแทยอนทำกับข้าวเก่งมั้ย”
“จะไปรู้เรอะ เป็นแฟนบอย ไม่ได้เป็นคนใช้บ้านเขา
จะไปรู้ได้ไง”ชายหนุ่มบ่นพร้อมกับหยิบผักกาดแก้วมาเคี้ยวๆเหมือนอดอยาก
ปล่อยให้คยองซูมองบยอนนิมโหมดเขมือบตาเชื่อม
“บยอนนิมห้ามทำแบบนั้นอีกนะ แบบปั๊บๆๆอ่ะ”
“ฉันเสียตุ๊กตายางไปแล้วจะทำได้ไง”อีกฝ่ายพูดห้วน
“หรือจะให้ทำกับนายล่ะห๊ะ”
“...”แบคฮยอนรู้สึกว่าเด็กน้อยเงียบไปจึงเงยหน้ามองทั้งๆที่ยังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ
ก่อนจะพบว่าใบหน้าขาวซีดของเจ้าเด็กเอเลี่ยนกำลังกลายเป็นสีแดง
คยองซูกะพริบตาปริบๆก่อนจะก้มลงบ่นงึมงำกับเหนียงตัวเองไปมา
“บยอนนิมอยากทำแบบนั้นกับเค้าเหรอ...”
“เฮ้ยๆประชดน่ะประชด...”
“บยอนนิมทะลึ่งจัง..หรือจริงๆแล้วบยอนนิมจิ้นเป็นเค้าอะ”
“เลิกเอาเรื่องฉันเด้าตุ๊กตายางมาเป็นเรื่องพูดปกติได้มั้ยเนี่ยเฮ้ย”
“ฮ่อย ไม่พูดก็ได้ เค้าเหนื่อยแล้ว อยากนอนแล้ว”
“กินแล้วนอนงี้นี่ไงถึงได้เหนียงเต็มคอขนาดนั้น”
“ไม่ใช่นา...วัยเค้าเด็กกำลังกินกำลังนอนหรอก”เด็กชายหงายตัวนอนกลิ้งกับผืนเตียงปล่อยให้แบคฮยอนนั่งมองก่อนจะวางกล่องข้าวลงแล้วดื่มน้ำขวดใกล้ๆมือทับรอยริมฝีปากของเจ้าของห้องอย่างไม่รู้สึกตัว
ก่อนจะลงไปนอนข้างๆบนเตียง โดยที่คยองซูก็สะดุ้งตัวก่อนจะรีบกอดหมอนกลิ่งไปชิดผนัง
“บยอนนิมกินแล้วนอน เดี๋ยวกลายเป็นคุณฮิปโปนะ”
“ฉันซ้อมคาราเต้ตอนดึกทุกวันเสาร์อาทิตย์
ไม่มาอืดแบบนายหรอกนะ”
“บยอนนิม”
“ไรอีก”
“เค้า...จะผอมนะ”
“ห้ะ...”
“เค้าจะไปเดบิวต์เข้าเกิร์ลเจนเนอเรชั่น...แล้วบยอนนิมต้องมาติ่งเค้านะ”
“ตั้งใจเรียนให้มันจบเหอะ”แบคฮยอนว่า
ก่อนจะเงียบไปทั้งคู่จนพักใหญ่ๆ
แบคฮยอนเหลือบมองคยองซูและพบว่าเด็กชายตัวกะเปี๊ยกได้กอดหมอนนอนหลับไปแล้ว
และเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีกนอกจากขยับกายเข้าไปกอดเอาไว้
ทั้งที่ตกลงไปแม่น้ำแต่ไม่รู้สึกตกใจอะไรเลยแฮะ...
หรือผ่านความตกใจสุดขีดมาแล้วจนไม่รู้สึกอะไรกันนะ...
ดวงตาเรียวสีน้ำตาลปรายมองใบหน้ากลมๆที่กำลังหลับพริ้ม
แม้จะรู้สึกผิดเล็กน้อยที่พูดออกไปว่าวุ่นวาย
แต่แบคฮยอนก็ไม่ได้เอ่ยปากขอโทษแต่อย่างใด เขาแค่กดริมฝีปากกับหน้าผากมนๆนั่นปลอบใจไปเท่านั้น
ก่อนจะกระชับกอดให้แน่นขึ้น ยังไงลึกๆแล้วเขาก็ยังรู้สึกสงสารเด็กคนนี้ที่เจอเรื่องเลวร้ายมาอยู่ดี
เดี๋ยวถ้าตื่นก็แค่บอกว่าละเมอก็ได้ โมเมอะไรมาก็ทำเหวี่ยงๆไปก็พอ...
บยอนแบคฮยอนข่มตาหลับอย่างไม่ทันสังเกตว่าเด็กน้อยที่กอดปลอบอยู่นั้นกำลังทำหน้าฟินสุดชีวิต
เมื่อเวทย์มนต์แห่งรักสำเร็จมาอีกหนึ่งอย่างด้วยวิธีการที่ว่า หนีบกระดาษซึ่งมีชื่อคนที่ชอบเขียนไว้ระหว่างหมอนสีส้มกับหมอนของตัวเอง
เเล้วนึกถึงเค้าพลางกอดหมอนสีส้มนั้นเเน่นๆ จากนั้นก็จูบหมอนซะ..แล้วจะทำให้ตัวเองได้รับจูบจากคนๆนั้น นี่แยกจากทีชเชอร์ดโยก็เข้ามาอาบน้ำสระผมแล้วรีบมาเขียนชื่อบยอนนิมแล้วจูบหมอนเลยนะ...
เห็นมั๊ยว่าสูตรที่จดมาเนี่ยได้ผลจริงๆ..เชื่อดโยเซ่..เดิ่ว....
******************************
แน่ใจเหรอก้อน...
แท็ก #ฟิคพี่หมีฮุน นะครัช