วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

หมวย (Sehun x Luhan) (6)








Title: หมวย (6)
Image: SEHUN x LUHAN
Author: RUNAWAY05
Note: TvT..





เกิดมาจนปูนนี้แล้ว เราไม่เคยสัมผัสสถานะแฟนเก่าแฟนใหม่ของใคร อย่างที่เคยบอกว่าเราเป็นห่วงตัวเองตั้งแต่ความสัมพันธ์ของไอ้อี้ เราพยายามถนอมตัวเองด้วยไม่ให้ใครเข้ามาในชีวิต พ่อแม่ก็เคยถามว่าเราไม่อยากมีเมียเหรอ เราก็ว่าไม่อยากมี อยากเก็บเงินดูแลตัวเองก่อน จนคุณชุนนี่แหล่ะมาทำให้ความตั้งใจของเราเสีย คุณเอ๋ย...หนึ่งในหลายๆอย่างที่เราเข้าใจดีนั่นคือไม่มีใครหยุดอยู่ที่เดิม ทุกคนเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น จะดีขึ้นจะเลวงนั่นคือการเปลี่ยนแปลง เพราอย่างนั้นสิ่งหนึ่งที่เราเตรียมหัวใจไว้นั่นคือระยะเวลาที่ห่างกันไป ไม่มีทางที่คุณชุนจะคงเป็นน้องติ๋มเทอร์โบอยู่ตลอด เขาก็โตขึ้นเหมือนกับเรา เรียนรู้และเปิดรับหลายๆอย่างเข้ามาในชีวิต

“พี่นั่งเหม่อเลย เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”คุณชุนไต่ถามเราอย่างเจือห่วง เราจึงได้หันไปยิ้มให้แกพลันส่ายหน้าไปมา คุณเขาขับรถเปิดเพลงไปตามถนน โดยที่เราก็หันไปมองคุณชุนอยู่อย่างนั้น เมื่อไหร่ที่เรามาอยู่ตรงนี้ บนรถของคุณชุน เราก็อดไม่ได้ที่จะมองนิ้วมือของคุณชุนเคาะไปกับพวงมาลัยช้าๆ ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปที่ห้างพารากอนเสียแทน

“อ้าว คุณชุนไม่ไปกินต้มเลือดหมูเหรอครับ”เราถามขึ้นอย่างสงสัยปนมึนงง อาจเพราะเราไม่รู้จริงๆก็ได้ว่าใจคุณชุนคิดอะไร

“พอดีนึกขึ้นได้ว่าจะซื้อหนังสือที่คิโนะน่ะครับ เดี๋ยวเราไปทานฟู๊ดคอร์ดตรงสยามเซ็นก็ได้”

“แพงไปครับ ส้มตำจานเดียวเจ็ดสิบบาท”เราว่า “ไปกินซอยข้างสกาล่าร์ไหมครับ สามสิบบาทเองนะ”

“กินนี่แหล่ะครับ ผมอยากเดินพารากอน”คุณชุนว่ามาทีเรานี่แทบไม่อยากเชื่อหูว่าคนเดินตลาดนัดอยากจะมาเดินห้างแบบออกปาก เราก็เออๆออๆไปกินผัดเม็ดมะม่วงจานละห้าสิบอยู่ที่ฟู้ดคอร์ด เดินดูนั่นนี่สักพักก็ตามคุณชุนไปที่คิโนะคุนิยะ ซึ่งเป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่หลายๆภาษา เราเคยแวะมากับไอ้อี้อยู่หลายครั้ง คือตัวเราสมัยนั้นถ้าเข้าสยามก็มาซื้อหนังสืออยู่ศูนย์หนังสือจุฬา ส่วนร้านนี้ไอ้อี้ชอบเข้ามาซื้อนิยายอ่าน คุณชุนแกก็มาซื้อนิยายที่กำลังทำเป็นหนัง (คุณชุนแกว่ามา) ที่มึนสุดคือเป็นภาษาอังกฤษทั้งเล่ม โธ่พ่อคุณ...กลัวเราจะแย่งอ่านหรือไงกัน

เราเดินตามคุณชุนที่เดินดูนั่นดูนี่ไปมาอยู่ในห้างจนช็อปต่างๆเริ่มปิดตัวเพราะเวลาเริ่มมืดค่ำ จนสุดท้ายเราก็มานั่งตรงม้านั่งแถวๆลิฟต์ ไว้รอคุณท่านพาลงไปลานจอดรถ แต่คุณชุนก็ยังนั่งอ่านหนังสือเงียบๆอยู่อย่างนั้นจนเราไม่กล้าทัก ไม่รู้ว่าคุณชุนเบื่อเราแล้วหรือไร คนนั่งข้างๆก็นั่งอ่านหนังสือ เราก็นั่งเหี่ยว คิดว่าตัวเองทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า เพียงแค่คุณชุนไม่คุยด้วยเราก็คิดมากไปหมด หรือเพราะเราไม่ยอมคุณชุนเสียทีคุณเขาถึงได้เบื่อไร เมื่ออดรนทนไม่ไหวเราก็เปิดมือถือส่งแชทไปหาไอ้อี้ที่มันก็สมน้ำหน้าเราไม่หยุด

“คุณชุน...คนออกมากันแล้วนะครับ”เราเริ่มท้วงเพราะคนเริ่มหลั่งไหลออกมาเนื่องจากห้างจวนจะปิด คุณชุนแกหันไปมองพนักงานที่มองมาทางเราสองคนรวมทั้งผู้คนที่โดยสารรถไฟฟ้าก็พากันกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามสถานี เราก็งงเมื่อคุณชุนหยิบมือถือออกมาต่อหูฟัง และบรรจงใส่ให้เรา เราใช้คำว่าบรรจงเพราะแกใส่ให้อย่างนุ่มนวลจริงๆ

“อย่าถอดออกนะครับ”แกย้ำอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้น เราก็จับตัวลำโพงลุกตาม คุณชุนแกทำอะไรสักอย่างกับมือถือ มืออีกข้างที่หิ้วถุงหนังสือก็ดึงมือเราเดินออกมาที่ปาร์คพารากอนแทนที่จะลงลิฟต์ ระหว่างนั้นเราได้ฟังเพลงๆหนึ่ง ซึ่งเรายอมรับว่าเราไม่ค่อยเข้าใจในบทเพลงรักสักเท่าใด หากจะฟังก็ฟังได้พอผ่านไม่ให้เหงาเวลาทำงานดึกๆ อาจจะชอบท่วงทำนองอยู่บ้างแต่ก็ไม่อาจเทียบเท่ากับเพลงนี้ที่เรากำลังฟังอยู่...



เธอเพียงคนเดียว และเพียงเธอที่ต้องการ
ฉันจะทำทุกๆ ทาง ด้วยวิญญาณและหัวใจ
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไร...สถานใด
ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว



เราอยากเรียกคุณชุนสักคำ แต่เราเรียกไม่ออก เราพูดไม่ออกแม้สักคำ คุณชุนเดินเข้ามากอดเราเอาไว้ บางทีเราอาจจะคิดมากในความสัมพันธ์เกินไปก็ได้ เรามัวแต่คิดเรื่องที่ผ่านมาจนลืมมองว่าตอนนี้คุณชุนอยู่กับเรา และคุณชุนก็เหมือนจะบอกว่าคุณชุนจะไม่ไปไหน เราหลับตาลงพร้อมกับสัมผัสบางเบาแตะริมฝีปากกลางปาร์คพารากอนตอนดึกๆ...


คุณเคยมีเพลงรักเพลงแรกกันไหม?....
เพลงรักเพลงแรกของคุณมันเป็นเพลงแบบไหนกันเหรอ?...


สำหรับเรา มันเป็นเพลงที่เราเคยฟังในห้าง ฟังตอนทำงาน ได้ยินตอนนั่งแท็กซี่ไปธุระ ผ่านทีวี แม้จะเคยฟังมากี่ครั้ง มันก็เป็นเพลงธรรมดา อาจจะไพเราะในทำนองให้ติดหูอยู่บ้าง แต่ไม่นานก็ลืมไป... จนมันได้เลื่อนตัวเองมาเป็นเพลงรัก เมื่อคนที่เรารักส่งให้ หรือให้ฟัง... นั่นแหล่ะ... ที่เราจะเริ่มเข้าใจเพลงๆหนึ่งอย่างลึกซึ้ง... เอาตัวเองลงไปพัวพันกับบททำนองอย่างที่เราไถ่ถอนตัวออกมาไม่ได้

เพลงรักเพลงแรกของเราเป็นแบบนั้น...





เช้าวันต่อมาเราก็มาทำงานปกติ แม้จะแอบเขินคุณชุนอยู่บ้าง ส่วนเรื่องเมื่อคืนเราก็... ไม่... พวกเราไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น พอคุณชุนมาส่งเราที่หอ พวกเราก็แยกย้ายกันกลับ โทรคุยกันตอนคุณชุนถึงห้องแล้วเป็นปกติ แกบอกว่าแกอยากให้ฟัง เพราฟังทีไรแกจะนึกถึงทุกเวลาที่อยู่กับเราตั้งแต่ยังเด็ก เราไม่รู้จะพูดยังไงก็ได้แต่หยอกแกไปว่า เอ้อ..ไม่ทันคบเลยนะ จะขอพี่แต่งแล้วหรือ คุณชุนแกก็แค่หัวเราะกลับมา...ไม่ได้ตอบเรา สงสัยว่ามุกจะแป้ก

“พี่หมวยๆ”

“ครับ?”เราหันไปมองเด็กฝึกงานสองสามคนที่มายืนออกันตอนเราถ่ายเอกสาร เหมือนว่าพวกเธอจะถูกใช้ให้มาเก็บกวาดพวกกระดาษกองโต ว่าแต่นี่เรียกเราหมวยทั้งออฟฟิศเลยหรือ ตอนแรกก็ว่าเข้างานมาชื่อกวางนะ

“คุณชุนมีแฟนรึยังคะ”

“...”

“ถ้าไม่มีหนูขอไลน์ได้มั้ย พี่หมวยน่าจะมีใช่รึเปล่า”เอาล่ะสิ..ลวินท์ตกที่นั่งลำบากอีกแล้ว เราหันมองซ้ายมองขวาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร จะให้บอกว่าเราเป็นแฟนคุณชุนก็พูดไม่ได้เพราะแค่ดูๆกันอยู่ เราเลยแซวพวกเด็กๆไปแทน

“เฮ้ย ไม่มีใครชอบพี่บ้างเหรอ พี่เสียใจนะเนี่ย”

“มีสิพี่”

“ห้ะ”

“ไอ้อ้วนที่ไปช่วยแผนกไอที ฝากขอไลน์พี่ด้วย”อ้าว...ตายล่ะ...น้องตัวตัวเท่าแท็งก์น้ำคล้ายๆคนชอบการ์ตูนที่ไอ้อี้เรียกว่าโอตาคุใช่ไหม.... ที่สำคัญคือน้องอ้วนเป็นผู้ชายนะ...

“นี่ๆพวกเธอ มาเกาะแกะอะไรพี่หมวยคะ เก็บกระดาษเสร็จแล้วไปหาเจ๊จุ๋มที่แผนกบัญชีด้วยจ้า กระดาษเพียบ”

“ค่า...”สาวๆขานรับก่อนจะเดินหน้าม่อยออกไป เหลือเรามองหน้าน้องมินอย่างซาบซึ้งในข้อหามาช่วยเราออกจากสถานการณน่าสะพรึงนี้ น้องมินเปิดเครื่องถ่ายเอกสารเครื่องข้างๆก่อนจะพูดกับเราเบาเบา

“พี่หมวยรู้มั้ย แฟนเก่าคุณชุนมาที่ออฟฟิศน่ะ ป่านนี้อยู่ในห้องโน่น”

“เอ๊ะ?”

“กร่างใส่เจ๊จุ๋มใหญ่เลย หนูนี่คันปาก เลยโดนไล่มาถ่ายเอกสารเนี่ย”เรากลืนน้ำลายเอื๊อก มองหน้าน้องมินที่บูดสนิทก็พอเข้าใจได้ เราเลยรีบถ่ายเอกสารกลับมาที่ห้อง แล้วก็เจอคุณไอริณนั่งไขว่ห้างอยู่ที่ชุดรับแขกในห้องทำงานพอดี

“เป็นเลขาหายหน้าหายตาไปไหน ทำไมไม่อยู่ห้อง”

“...”เราไม่ได้ตอบ แต่เหมือนคุณริณจะมองเอกสารในมือเราเลยพูดเสียงอ่อนลง

“ฉันอยากได้น้ำเย็น”

“ครับ”เรารับคำเดินออกมาที่ห้องเครื่องดื่มที่ไม่ไกลห้องทำงานมากนัก พนักงานสองสามคนมาดื่มกาแฟ และเราก็แค่รินน้ำเปล่าใส่แก้ววางบนถาดไปตามหน้าที่ขี้ข้า เรากลับไปที่ห้องก็เจอคุณชุนกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ แต่ที่ไม่ธรรมดาก็ตรงที่คุณริณเกาะแกะกอดไหล่แกอยู่ไม่ห่างเหมือนนางในละคร คุณชุนเงยหน้ามองเราท่าทางตกใจนิดหน่อย แต่คุณริณก็มองเราสายตาเรียบเฉย

“วางไว้ตรงนั้นแหล่ะ ฉันอยากกินสตาร์บัคออกไปซื้อให้หน่อย สั่งเป็นมั้ย สั่งไม่เป็นจะได้จดใส่กระดาษให้”อ้าว..สรุปว่าน้ำที่ให้ไปรินนี่จะไม่ดื่มหรอกหรือ เราเลิกคิ้วขึ้นแต่คุณชุนแกขมวดคิ้วเขม่นลงทันที

“ริณ อย่าสั่งพี่หมวย เขาต้องทำงาน”

“ลูกน้องมีไว้ใช้นี่คะ”นางเบ้ปากใส่เราไปทีนึง “ผู้ชายอะไรชื่อเหมือนผู้หญิง หรือไม่ใช่ผู้ชาย”

“...”เราเงียบ... อยากจะเดินไปจิกหัวเหวี่ยงออกนอกหน้าต่างเหลือเกิน ติดหนึ่ง เขาเป็นผู้หญิง สองเป็นคนเกี่ยวข้องเจ้านาย เราเลยได้แต่พูดถนอมน้ำใจคุณริณเธอไปเบาๆ “จะดื่มอะไรเหรอครับ ผมจะได้ออกไปซื้อ”

Nonfat Iced Vanilla Latte แก้ว Grande

“ริณ เขาไม่ใช่ลูกน้องริณนะ เขาเป็นคนของพี่”คุณชุนท้วง แต่เราถือว่าพูดไปก็เท่านั้น เราเกิดมาเป็นขี้ข้าเขาทำอะไรเขาไม่ได้หรอก เลยได้แต่พยักหน้ารับคำ ก่อนจะเดินออกนอกห้องไม่วายยังโดนถามขึ้นมาอีก

“ตกลงชายแท้รึเปล่า?”

“มีเมียแล้วครับ”เราหันไปตอบยิ้มๆ เมียเราไม่ใช่ใครก็เจ๊จุ๋มนี่แหล่ะ ทำงานด้วยกันจนเขาคิดว่าเป็นผัวเมียกันทั้งบริษัทแล้ว

“แล้วไป นี่ ไม่ต้องทอน”คุณริณยื่นแบงค์ห้าร้อยให้เรา แต่คุณชุนนี่ทำหน้าเหมือนจะกัดคอเราเสียอย่างนั้น เรารับเงินมาจากห้องก็เจอเจ๊จุ๋มกับน้องมินออกมาพักเที่ยงพอดี เลยพาสาวๆติดรถไปด้วยกันแถวตึกเอ็กเชนจ์ แต่พอซื้อกาแฟกลับมา เราก็ได้ความจากแม่บ้านว่าคุณริณพาคุณชุนออกไปทานข้าวกลางวันได้สักพักแล้ว และฝากเราแช่กาแฟไว้ที่ตู้เย็นเพราะเรามาช้า เหมือนว่าคุณริณจะประกาศตัวเต็มที่ว่าเป็นเจ้าของคุณชุน แล้วเราเอาอะไรไปสู้ได้ล่ะ เป็นขี้ข้าโง่ๆในออฟฟิศแบบนี้แหล่ะ

ผ่านไปจนได้เวลาเลิกงาน เราเลยกลับบ้านคนเดียวเป็นครั้งแรกหลังจากไม่ได้กลับเองมานาน เราเดินเท้ามาเรื่อยๆจนถึงหอ แต่แล้วเราก็เปลี่ยนใจอยากกลับไปนอนที่บ้าน เลยเดินไปอีกหน่อยให้ถึงสถานีใต้ดิน เราหยิบมือถือปิดเสียงเรียกเข้า เอาหูฟังมาใส่แล้วเปิดเพลง... คุณเอ๋ย... ในมือถือของเราก็มีอยู่เป็นร้อย แต่เราก็ฟังอยู่เพลงเดียว... เพลงที่คุณชุนให้เราฟัง แต่ไม่รู้ทำไมพอฟังอีกครั้งมันถึงได้เจ็บนัก เพลงรักเพลงแรกของเราไม่ได้หวานเลยในวันนี้ แค่ฟังเราก็รู้สึกหนาวไปหมด เหมือนมันเจ็บที่ใจ แต่แผลมันไม่มี ...

ไม่มีใครบอกเราเสียหน่อยเลยว่าผลข้างเคียงของเพลงรักมันจะเป็นแบบนี้...



“หมวย หมวยเปล่าวะ”

“?”เราหันไปตามเสียงเรียกเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงร้องไห้โฮอยู่ข้างถนน เราเจอผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์พับขา สะพายกระเป๋าผ้า ใบหน้าเรียวๆ ตาตี่ๆตกๆ ยิ่งขี้แมลงวันตรงมุมปากมันนี่นะ มีอยู่คนเดียวเลย

“บี๋?”

“เออ กูเอง จะไปไหน? ธุระเปล่า?”มันซักเหมือนเจอหน้ากันทุกวัน ไม่มีอาการคิดถึงลึกซึ้งประสาเพื่อนในวัยเด็กแต่อย่างใด ประสาทแข็งแบบนี้กระมังถึงได้เป็นหมอ

“ไม่ว่ะ ว่าจะกลับบ้าน”

“ไปเยี่ยมพ่อมึงเหรอ กูเพิ่งไปไหว้เขามาเมื่อวาน หรือมึงมีปัญหาอะไร?”

“ไม่ กูเบื่อหอ”

“แดกขนมกันมึง กูกะมาเดินเทอร์มินอล”ไอ้บี๋เอ่ยชวน เราก็เออออกันไปเพราะไม่เจอกันนาน พูดคุยไต่ถามกันและกันจึงได้ความว่าไอ้บี๋รู้ข่าวเราจากไอ้อินเป็นระยะ มันก็ยังเรียนหมออยู่นั่นแหล่ะ แต่ช่วงนี้วันหยุดของมัน เราคุยกันไปเรื่อยจนถึงเรื่องแฟน ได้ข่าวว่ามันเนื้อหอม มีหมอรุ่นพี่ตามจีบมัน ส่วนอีกคนก็ลูกหุ้นส่วนสายการบิน เป็นลูกครึ่งฮ่องกงมาจีบมันอยู่บ่อยๆ ฟังแล้วก็นึกอิจฉามัน พอมันย้อนถามเราบ้าง ก็เลยเล่าเรื่องคุณชุนไป (แต่เราไม่ได้บอกชื่อคุณชุนนะ) เล่ามาจนถึงฟังเพลงแล้วจะตายนี่แหล่ะ คำพูดของไอ้บี๋ก็ทำเอาเราสะอึก

“จะโทษใครได้วะ อะไรที่มึงเอาความรู้สึกไปใส่ มันอ่อนไหวกว่าปกติอยู่แล้ว ถ้าไม่อยากเจ็บ คราวหลังอย่าเอาความรู้สึกมึงไปใส่”

“แต่มันเหมือนความทรงจำดีๆนะเว้ย”

“มึงรู้มั้ย ทำไมอุปกรณ์แพทย์ถึงต้องใช้แบบให้คมที่สุด เพราะมันจะได้ตัดขาดทีเดียว อุปกรณ์ทื่อๆกว่าจะเถือจบ คนไข้ตายก่อน ความรู้สึกก็เหมือนกัน ดีแค่ไหนมึงก็ต้องตัดให้มันอยู่แค่ตรงนี้ ไม่ใช่มาเสียดายไถไปไถมา กว่าความรู้สึกมึงจะตัดได้ มึงอะตายก่อน”

“สมกับคนเนื้อหอม...”

“อยู่อยากเป็นแบบมึงมากกว่า เรียนแล้วก็ทำอะไรที่มึงชอบ ถึงงานจะไม่ใช่งานที่มึงชอบ แต่มึงก็ได้อยู่กับคนที่มึงชอบ”สรุปคือเราเถียงไอ้บี๋มันไม่ได้... คือคาแรกเตอร์ความหมอของมันกดดันเราอยู่ หลังจากฟังมันบ่นนั่นบ่นนี่ไปตามประสา ก็แลกไลน์แลกเบอร์กัน เราจึงได้ปล่อยไอ้บี๋ส่งมันขึ้นรถไฟฟ้าไป พร้อมกับความรู้สึกที่ว่า ความรักมันยุ่งยากเหลือเกินจนเราไม่รู้จะทำอย่างไรดี เราตัดสินใจเดินไปที่สถานีใต้ดินอีกครั้ง แต่เราก็เจอคุณชุนนั่งรอเราแถวๆทางเข้ารถไฟใต้ดิน

“พี่ไม่รับสาย ผมเลยไปหาพี่ที่หอ ป้าบอกว่าพี่ยังไม่ไปหอ”

“...”

“โทรไปหาพ่อพี่ ท่านก็ว่าพี่ไม่ได้กลับบ้าน ไปหาพี่จุ๋ม พี่จุ๋มก็ว่าพี่ไม่ได้มาหา น้องมินก็บอกพี่ไม่ได้กลับด้วย”

“...”

“อย่าทำให้ทุกคนเป็นห่วงสิครับ”เราเงียบไม่ตอบแกไปพักใหญ่ สุดท้ายก็พูดบอกแกไปเบาๆ

“พี่จะกลับบ้านน่ะครับ”

“...”

“ไม่มีอะไรหรอก พี่ไปนะ”

“อย่าทำงี้ดิครับ พี่โกรธผมเหรอ? ผมอธิบายพี่ได้นะ”คุณชุนคว้าแขนเราไว้ แต่ไม่รู้ทำไมเราถึงไม่อยากให้คุณชุนมาแตะตัวเราตอนนี้...

อาจเพราะคำว่าคุณริณที่ยังอยู่ในสมองของเราก็ได้...

“คุณชุนไม่ผิดหรอก... คุณชุนไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย”

“พี่ก็อย่าทำเป็นเย็นชากับผมสิ พี่โกรธผมอยู่ผมรู้”

“พี่ไม่ได้โกรธคุณชุน แต่พี่...พี่อยากกลับบ้าน”

“ผมไม่ให้กลับ”อยู่ๆคุณชุนก็ยื่นมือมาบีบแขนเราแรงมาก เราสะบัดออกแต่ไม่แรงเท่าไหร่เพราะคนยังผ่านไปผ่านมา บางคนก็เริ่มมองท่าทีพวกเรา คุณชุนดึงเราเข้าไปในรถแล้วกดล็อค เราก็ไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่าจะไปตะบี้ตะแบงแย่งปลดล็อค เราแค่นั่งหันหน้าออกไปทางอื่น เราไม่รู้ว่าเราคิดอะไรจริงๆ หากให้ระบายออกเรารู้สึกท้อ เราเหนื่อยกับคนที่มายุ่งกับคุณชุน เรารู้สึกเราสู้ไม่ได้ เรารู้สึกแย่ คุณชุนเลื่อนมือมาจับมือเราแต่เราก็สะบัดทิ้ง จนได้ยินเสียงแกถอนหายใจออกมาเราก็น้ำตามาเลย ไอ้บี๋มันพูดถูก...ทุกสิ่งที่เอาความรู้สึกไปใส่มันอ่อนไหวและเจ็บปวดง่ายจริงๆ

“พี่อยากให้เราทะเลาะกันเหรอครับ?”

“...”

“พี่จะทะเลาะกับผมให้ได้ใช่มั้ย?”

“พี่ว่าคุณชุนไม่ค่อยโอเค ไว้เราอารมณ์เย็นๆค่อยมาคุยกันดีกว่า”

“พี่รู้มั้ยผมตามหาพี่ตั้งแต่ห้าโมงจนทุ่มครึ่ง! พี่จะให้ผมเย็นได้เหรอ? แท็กซี่ที่ไหนพาไปก็ไม่รู้ โดนรถชนรึเปล่า เป็นอะไรรึเปล่า พี่จะให้ผมใจเย็นอยู่อีกเหรอ?!”นั่นปะไร...องค์พ่อเราลงแล้ว แต่ไม่ตลกเลยคุณ เรานี่ห่อไหล่น้ำตาร่วง เริ่มเข้าใจแล้วว่าที่คุณชุนถอนหายใจแกไม่ได้เบื่อเรา แต่แกพยายามจะไม่โมโหกับเรา เหมือนแกตั้งท่าจะเอ็ดเราอีกครั้ง ทว่าวิทยุในรถที่จูนคลื่นอัตโนมัติก็เล่นเพลงๆหนึ่งขึ้นมาเสียก่อน


เธอเพียงคนเดียว และเพียงเธอที่ต้องการ
ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไร..สถานใด
ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียง...
เธอเพียงคนเดียว และเพียงเธอที่เฝ้ารอ
ฉันจะขอภาวนา ต่อหน้าฟ้าอันแสนไกล
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไร..สถานใด
ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว



เท่านั้นแหล่ะ..เราปล่อยโฮอกมาเหมือนกับเด็กประถม ทั้งที่ตอนประถมเรามั่นใจเหลือเกินว่าเราไม่เคยร้องไห้กับอะไรง่ายๆ เสียงของคุณชุนเงียบไปขณะที่รถยังคงติดเป็นแถวยาวในช่วงเวลาสัญจร และเราก็รู้สึกถึงฝนที่กำลังตกลงมา




บางครั้งบางครา...เพลงรักที่ไพเราะที่สุด..ก็สามารถเป็นอาวุธร้ายที่สุด
เพียงแค่เราใส่ความรู้สึกลงไป...

:D
เพลง : (คู่ชีวิต - Cocktail )
แท็ก #คุณชุนพี่หมวย จ้า