เขาพลิกกายตัวเองให้ลู่หานขึ้นนั่งทับพร้อมกับประคองข้างแก้มนุ่มด้วยฝ่ามือหนึ่ง
ฝ่ามืออีกข้างล้วงเข้าไปในกางเกงที่ถูกปลดทั้งเข็มขัดและตะขอ
รวมทั้งซิปที่ร่นลงสุด ล่วงล้ำไปถึงชั้นในอีกฝ่ายแล้วยื่นแขนถลกมันลงออกจากเรียวขา
มือเรียวประคองช่วงใบหน้าของเซฮุนเอาไว้พร้อมกับจูบสลับกับมองหน้าของอีกคนให้เต็มสองตาแม้มันจะปรือลงมาเสียครึ่ง
ลู่หานขยับกายให้กางเกงพ้นไปจากตัว ก่อนจะเริ่มจูบอีกฝ่ายเบาๆพร้อมกับเซฮุนที่ค่อยๆแกะเนคไทเส้นสีขาวมุกออกไปอีกชิ้น
ดวงตากลมโตกระพริบถี่พลางอ้าริมฝีปากดันปลายลิ้นกับร่างสูงโปร่ง
ปลายลิ้นเล็กๆค่อยค่อยปัดซ้ายปัดขวาดุนดั้นบดรั้งพลันใช้ริมฝีปากรวบปลายลิ้นของเซฮุนเอาไว้
ในระหว่างนั้นกระดุมเสื้อนักเรียนของร่างเล็กเองก็ค่อยๆหลุดออกจากกันทีละเม็ด
ต้นขาด้านในสัมผัสถึงความร้อนและแข็งขืนเบียดกับซอกขา โอเซฮุนถดตัวลงนอนอีกครั้งพลางใช้ฝ่ามือลูบแผ่นหลังผ่านเชิ้ต
ลากวนอ้อยอิ่งไปจนถึงบั้นท้าย
ปล่อยให้อีกฝ่ายที่ปอยผมสีน้ำตาลทองปรกใบหน้าผ่อนหายใจแรงเฮือกสั้นๆพลางก้มมองหน้าของตน
“ฉันชอบที่นายเป็นแบบนี้...”เซฮุนพูดแผ่วมือข้างหนึ่งปัดเส้นผมให้กับลู่หานที่ยังคงจดจ้อง
“ก่อนที่ฉันจะให้นายเป็นคาเมลเลีย ฉันให้นายเป็นต้นหญ้าเหมือนคนอื่นๆ
แต่นายไม่เหมือนคนอื่น... พวกที่จะบอกเหตุผลเวลารักใครสักคนก็แนวนี้ใช่มั๊ย?
ต่างจากคนอื่นที่พบเจอ ฉันเคยตลกกับคำนี้จนพบว่ามันมีอยู่จริง”
“...”
“นายไม่ใช่ต้นหญ้า..แต่นายเป็นต้นกล้าที่พร้อมจะเติบโตได้ทุกเมื่อ
นายกล้าหาญ นายเข้มแข็ง และนายก็อ่อนโยน
นายทำให้ฉันไม่รู้สึกลำบากที่จะเรียกว่าที่รักเลยด้วยซ้ำ”
ลู่หานซบหน้ากับซอกคอของเซฮุน “ผมรักคุณ”
“ใช่..นายรักฉัน และฉันก็รักนายที่เป็นแบบนั้น
นั่นคือความหมายว่าทำไมฉันถึงให้ดอกคาเมลเลียกับนาย...คนดี”
“...”
“คนดีของฉัน”เซฮุนกระซิบด้วยเสียงแผ่วลงที่ใบหู
สะโพกที่ขยับยกขึ้นเป็นสัญญาณเชิงจำนนทำให้ร่างสูงยิ้มน้อยๆออกมา เขาใช้ฝ่ามือดันกายเล็กๆให้ขยับเลื่อนสูงขึ้นจนยอดอกพอดีกับริมฝีปาก
พลันกดมือลงจนส่วนนั้นอยู่ในระยะที่สัมผัสได้
ริมฝีปากสีอ่อนเกือบซีกนั้นดูดดึงเบาๆจนคิ้วเรียวขมวด
เรียวนิ้วจิกขยุ้มผ้าปูเอาไว้พร้อมกับส่งเสียงร้องกระท่อนกระแท่น
เลือดลมไหลเวียนกระจายไปทั่วกายจนขนลุกซู่ ริมฝีปากเล็กครางอาก่อนเม้มริมฝีปากเอาไว้
มืออีกข้างถูกดึงไปกุมไว้หลังจากปลายถันถูกเปลี่ยนข้างการสัมผัส
ร่างขาวนวลระทวยลงจนเซฮุนสัมผัสถึงบางอย่างที่ทาบลงบนหน้าท้อง
ลู่หานเกร็งตัวลุกขึ้นพลางถอดเชิ้ตเหวี่ยงออกไปที่ไหนสักแห่ง
เหลือเพียงร่างขาวที่มีจำแดงตามพื้นที่ และใบหน้าหวานรั้นกำลังจ้องมองเซฮุนพลางปลดกระดุมออกให้อีกฝ่าย
ริมฝีปากสีสดจูบลงแผ่วเบาตรงตำแหน่งหัวใจ
“คุณคิดว่าคุณจะรักผมตลอดไปมั๊ย?”
“ไม่ตลอดไปหรอก”เซฮุนพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างเล็กนั่นไว้“ฉันคิดมาตลอดว่าไม่มีอะไรที่เป็นตลอดไป
ต่อให้เสาหินหรือภูเขาใหญ่มันก็มีวันล่มสลายไปได้ทั้งนั้น”
“...”
“แต่ฉันจะรัก...จนกว่าฉันจะตาย”
“ผมเชื่อคุณ”ลู่หานหลับตาลงพลันระบายยิ้มเมื่อถูกสัมผัสริมฝีปากอีกครั้ง
ทั่วทั้งพื้นที่ของร่างกายถูกความร้อนวาบตีตราทุกตารางเมตร
เซฮุนพรมจูบอย่างนุ่มนวลไม่ว่าจะปลายนิ้วหรือข้อเท้า ไล้มือไปยังด้านข้างของขาอ่อนเลือนขึ้นสีข้างของลู่หานที่หายใจแรงกระชั้นพลันหลุดครางออกมาเบาๆ
“ฮ่ะ...อ่า”
“ไม่มีอะไรขัดหรอกใช่มั๊ย?”กระซิบพลางเลียใบหูเล็กที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด
ตามด้วยกำปั้นเล็กๆที่ทุบลงกับแผงอกเบาๆ
“จะทำอะไรก็ทำเถอะครับ”
เซฮุนยกลู่หานขึ้นนั่งเกยตัก
ก่อนจะเอื้อมไปหยิบหาของที่หัวเตียง ลู่หานจ้องสาบกระดุมเสื้อของอีกคนก่อนจะเบี่ยงหน้าหนีพร้อมกับใช้มือแกะตะขอกางเกงให้ก่อนแล้วเริ่มถอดเสื้อออกให้ทั้งหมด
ลู่หานซบหน้ากับผิวเนื้อขาวซีดนั้นและขอบคุณพระเจ้าเมื่อพบว่ามันยังอบอุ่นอยู่
เขาดึงกางเกงอีกฝ่ายลงให้แม้จะพยายามไม่มองส่วนสำคัญ หลายๆครั้งลู่หานก็ยังรู้สึกอายแม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะมีความสุขเพราะมันเอามากๆก็ตามที
สะโพกมนขยับขึ้นเมื่อความลื่นแตะเข้ากับร่องแคบแล้วไล้นิ้วลงช้าๆ
ปากอิ่มเม้มขบเข้าหากัน
จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าฝ่ามือกว้างๆอีกข้างกำลังยึดครองตัวตนของเขาเอาไว้
“อา...ฮึ้ก...อ่าอ่า...อื้ม..”
“นายตื่นมากเลยนะ”พึมพำเบาๆเล่นเอาแก้มใสสีแดงเล่นปราดราวกลีบกุหลาบที่บานออก
ฟันซีเล็กๆขบริมฝีปากพลันเอื้อมมือเข้าแตะต้องส่วนกลางของอีกฝ่าย
ส่วนมือข้างที่ยังว่างงานก็เกี่ยวร่างสูงๆนั้นเอาไว้เพื่อพยุงตัว
ลมหายใจของพวกเขาแรงขึ้น ผิดที่อีกคนแผ่วเบาหนักหน่วง
และอีกคนกลับถี่กระชั้นปะปนเสียงร้องในลำคอ
ลู่หานแทบไม่รู้สึกตัวว่ามีสามนิ้วที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านหลัง
เขาขยับมือถี่รัวพอๆกับจังหวะด้านหลัง
จนกระทั่งเซฮุนวางร่างของลู่หานลงบนเตียงพลันแกะซองสีเงินออก
แต่ก็ถูกมือเรียวยึดข้อมือเอาไว้
“ไม่ต้องได้มั๊ยครับ?”
“...”
“ผมอยากสัมผัสทั้งหมดของคุณ...มันถึงเวลาที่ผมจะรู้จักทุกอย่างของคุณ”
เซฮุนพยักหน้าพลางดันต้นขาด้านในของลู่หานยกขึ้น
จับกายตนชำแรกลึกลงไปทีละน้อย น้ำตาหยดโตไหลออกจากหางตาโดยลู่หานก็ยังคงกระพริบตาถี่ๆ
ฟันซี่เล็กขบหลังนิ้วคิ้วขมวดให้กับความคับแน่นและเครียดตึง
สะโพกแกร่งหยุดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถอยออกไปและพบว่าร่างเล็กขยับรับจึงตั้งใจจะโถมลงตามปกติ
แต่ลู่หานกลับค้านขึ้นอีกครั้งก่อน
“เดี๋ยว..เดี๋ยวครับ..เจ็บจัง...มัน..”
“ไม่ต้องรีบ”เซฮุนกระซิบแผ่วๆอีกครั้ง
ก่อนจะหยิบหมอนหนุนสะโพกให้ลู่หานแล้วขยับตัวเข้าลึก
เขาจูบริมฝีปากอิ่มบวมเพราะผ่านการจูบมาหลายคราติดๆกัน
โลมเล้าจนจมูกรั้นผ่อนลมหายใจสะท้าน
ขยับสะโพกเนิบช้าและเริ่มเร่งให้รุนแรงขึ้นไปตามอารมณ์เมื่อพบว่าร่างน้อยๆคล้อยตาม
เล็บบางขูดขีดไปตามแผ่นหลังกว้างเมื่อการกระทบเร่งเร้าจนไม่อาจทานอารมณ์ดิบในกาย
ลู่หานหวีดร้องราวจวนเจียนจะคลั่ง ผสมกับเสียงลมหายใจของเซฮุนที่ผ่อนออก
เสียงคำรามกร้าวข้างหูที่มาพร้อมกับของเหลวไหลฉ่ำแฉะ พวกเขาแนบกายเข้าหากัน
รับรู้ถึงสัมผัสของกันและกันอย่างไม่คิดเบื่อหน่าย
คิ้วเรียวเขม็งขึงเมื่อรับรู้ถึงความร้อนที่ล้นทะลักเข้ามาในกาย
หยาดเหงื่อเย็นเฉียบราวกับน้ำค้างยามเช้า
เขายังคงจูบโอเซฮุนแห่งโอสิเรียอยู่อย่างนั้น ...
และคิดว่าเขาจะจูบคนที่กอดรัดเขาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ...จนกว่าเขาจะตาย
---------------------------------------------