Title : Vitamin L {Baby and The Bear’s Special}
Author : RUNAWAY05
Couple : SEHUN x LUHAN
Note : จะมีทุกเทศกาลเลยมั๊ย...นางฟ้าช้ำหมด
****************
เสียงประทัดดังลั่นนั้นทำให้หมอจงแดที่กำลังแอบงีบระหว่างไม่มีคนไข้สะดุ้งตื่น
ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมกับหาต้นตอของเสียงพลันถอนใจนิดหน่อย
แม้วันนี้จะเป็นวันซอลลัล หรือวันปีใหม่เกาหลีที่เป็นวันหยุดยาว
ทว่าชีวิตของคิมจงแดก็ยังคงจ่อมจมกับการทำงานต่อไป เพราะทางบ้านตอนนี้ของเขา
พี่น้องก็แต่งงานมีครอบครัวไปหมด ส่วนมารดาก็แต่งงานใหม่กับฝรั่งหนุ่มผู้มั่งคั่ง
ตอนนี้คงเที่ยวรอบโลกใช่ชีวิตเกร๋ๆอยู่ตรงไหนสักที่นั่นแหล่ะ
และถึงนางพยาบาลสองสามคนจะหยุดปีใหม่กันไปวันนี้
จงแดก็ไม่ได้นั่งเฝ้าคลินิกเดียวดาย เพราะยังมีบยอนแบคฮยอน
เภสัชกรหนุ่มเกาหลีเชื้อสายจีนที่คอยทำความสะอาดคลินิกและจุดประทัดด้านนอกอย่างมีความสุขหลังจากลากเขาไปไหว้บรรพบุรุษตอนเช้า
ประวัติของแบคฮยอนก็น่าเหนื่อยหน่ายหัวใจพอๆกับเขา
พ่อเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณี แม่ก็เป็นนางแบบไฮโซ อยู่กันแบบชิคๆจนมาแยกทางกัน
และลูกคนเดียวอย่างแบคฮยอนก็เลือกไม่ได้ สุดท้ายก็แยกวงกับพ่อแม่มาโซโล่เดี่ยว
เห็นบยอนแบคฮยอนชอบเล่นคุกกี้รันทั้งวันแบบนั้นจงแดเคยเห็นโรงพยาบาลใหญ่มาติดต่อตื๊อแบคฮยอนให้ไปเป็นคนจัดยาให้กับพวกสุลต่านอยู่ครั้ง
เงินเดือนปีละหมื่นล้านกว่าวอนเสียด้วยซ้ำ แต่หมอนั่นก็ชิคๆเหมือนพ่อแม่นั่นแหล่ะ
ถึงได้ปฏิเสธตามเขามาหุ้นเปิดคลินิกจิตเวชเพี้ยนๆที่คอยจ่ายยา
รักษาคนไข้ขั้นต้น(โดยแบคฮยอน)
และให้คำปรึกษาและวินิจฉัยคนไข้ทางจิต(โดยเขาเอง)แบบนี้
จงแดคิดว่าตรงนี้ยังไม่มีใครทำมากนัก หากพูดถึงคนไข้จิตเวชทุกคนก็มักจะนึกถึงคนบ้า
แต่แท้แล้วอาการทางจิตใจมีหลายแขนงและคนที่เป็นไม่จำเป็นต้องบ้าหรือเสียสติ
แถมสามารถใช้ชีวิตประจำวันปะปนไปกับคนอื่นอย่างแนบเนียน
“นายจะกวาดคลินิกทำไมวะ
ในเมื่อจุดประทัดเศษมันก็กระเด็นเข้ามา”จงแดบ่นเมื่อเห็นเศษกระดาษสีแดงปลิวเข้ามาในคลินิก
วันนี้เขามานั่งหาวอยู่ข้างนอกแทนที่จะอยู่ในห้องแห่งความลับอย่างที่ทำประจำ
โดยแบคฮยอนหลักจุดประทัดเสร็จก็ปล่อยให้เศษกระดาษสีแดงลอยไปลอยมาหน้าคลินิกอยู่แบบนั้น
“สีแดงเนี่ยคือความเฮงนะ เฮงๆรวยๆ”
“งมงาย”
“ไอ้คนที่เอาพกโจรี(กรองที่ทำจากไม้ไผ่
ในอดีตมักใช้จุ่มลงไปในข้าว เพื่อตักเอาเศษฟางและตะกอนทิ้ง
ในปัจจุบันก็ความหมายคล้ายกัน
คือตักเอาสิ่งไม่ดีออกไป)ไปแขวนหน้าคลินิกก็เหมือนกันละวะ”
“ให้ฉันได้ทำอะไรตามเทศกาลบ้างเถอะ”
“คุณมินซอกล่ะ”
“ก็อยู่กับที่บ้าน เดี๋ยวดึกๆคงมา”
“แล้วทำไมไม่ไปกับเขาเลยวะ
แนะนำตัวกับพ่อแม่เขางี้”
“ไม่เอาอะ ถ้าฉันไปแกจะอยู่ยังไงล่ะ”
“โห เขินเลยครับ ขนลุกรัวๆ”
“หรือใจจริงอยากให้ไป
แกนัดเด็กคิ้วหนานั่นไว้แล้วใช่มั๊ย นั่นน่ะลูกสส.เชียวนะเว้ย
ระวังพ่อเขามาสั่งเก็บ”
“ใครจะไปนัดฟะ”
ทั้งคู่ต่อล้อต่อเถียงกันพอไม่ให้เงียบเหงา
ก่อนจะหรี่ตาเมื่อเห็นรถสองคันเข้ามาจอด
จงแดกับแบคฮยอนขมวดคิ้วมองคนไข้ทั้งสี่ของจงแดที่ลงรถมาส่งยิ้มแป้นให้
ไม่ว่าจะเป็นอี้ฟานกับชานยอลที่มากับตะกร้าส้ม
และจื่อเทากับจงอินที่แปลกกว่านิดนึงเพราะคนที่ชอบแต่งตัวเป็นนิจวันนี้อยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงเปิดข้างขาจนเห็นถุงน่องตาข่ายสีดำ
ทรงผมวันนี้เจิดเป็นพิเศษเพราะต่อยาวม้วนรวบติดดอกไม้ดอกใหญ่...
“หวัดดีหมอ ไม่มีที่ไปเหมือนกันเลย”
“ที่ไปอะมีครับ
แต่กลัวไปแล้วพวกคุณจะไม่มีที่ไป”จงแดตอบเนือยๆ เพราะคนไข้สี่คนนี้ก็ชอบเสนอหน้ามาทุกเทศกาลอยู่แล้ว
จงอินและชานยอลถูกทางบ้านปล่อยเกาะตั้งแต่รู้ว่ามีสามีเป็นตัวตน
ส่วนอี้ฟานและจื่อเทา
คนจีนในเกาหลีทั้งคู่นี้ก็ไม่คิดจะกลับบ้านไปไหว้บรรพบุรุษด้วยเหตุผลส่วนตัว(เมียเข้ากับแม่ไม่ได้)
เลยพากันเสนอหน้าฮาเฮที่คลินิกเขาทุกปี ตามประวัติการรักษานั้น
ชานยอลกับอี้ฟานรักษากับเขามาสองปี
ส่วนจงอินและจื่อเทารักษามาปีครึ่ง(จนพบรักกันในคลินิก)
เลยค่อนข้างสนิทสนมกับเขาและแบคฮยอนมากกว่าคนไข้รายอื่นๆ
แต่ก็ไม่เท่าเจ้าหมีเพดโด้ที่รักษาตัวปีนี้ขึ้นปีที่สามหรอก รายนั้นเป็นๆหายๆ
แม้จะมีการ์ดนางฟ้าแต่ก็ยังมีอาการเป็นระยะกับคนของเขานั่นแหล่ะ
“เซเลอร์มูนน้อยกับเจ้าหมียังไม่มาเหรอ”จงอินบ่นด้วยความเสียดาย
โดยที่ชานยอลก็ว่าขึ้นทันกัน
“ไอ้ตัวเล็กเป็นคนจีนนี่
คงทำพิธีอะไรกันอยู่บ้านล่ะมั้ง”
“ดีจัง”จงอินว่าพลางยกกล่องอาหารลง
“นี่ขนมต๊อกกับซุปต๊อกกุกครับ มากินกันเร็วเข้าจะได้โชคดีก่อนมันจะเย็นนะ”
ทั้งชานยอลและจงอินช่วยกันจัดอาหาร
ส่วนที่เหลือก็นั่งพูดคุยกันไป
ท่ามกลางครอบครัวที่อยู่ร่วมกันก็ยังมีมนุษย์ใบเลี้ยงเดี่ยวในสังคมที่ยังอยู่กันได้แม้จะไม่มีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนกับใครๆก็ตาม
แบคฮยอนที่ลากอี้ฟานไปทำแผลเพราะเหมือนอีกฝ่ายจะเอาตัวไปแถกอะไรมาให้ได้เลือด
และจงแดที่ชวนจื่อเทาที่คุยด้วยท่าทางปกติเพราะเกณฑ์จิตใจยังอยู่ในระดับดี
แลละพร้อมจะกลับไปแอบมองชาวบ้านอีกครั้งเมื่อรู้สึกอึดอัด
ป่านนี้หมีเพดโด้คงมีความสุขกับครอบครัวชุดใหญ่เลยสินะ...
จริงๆก็จัดชุดใหญ่มาตั้งแต่สามโมงเช้าแล้วล่ะ...
“ฮ่ะ..อาาา..ไม่เลียตรงนั้นสิครับ..อื๊อ...”
เสียงครางระทวยดังลั่นอยู่ในห้องชั้นสองของบ้านหลังหนึ่ง
บนเตียงขนาดสองคนปรากฏร่างขาวผ่องอยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงแบบซีทรู
ผ่าข้างเลิกสูงไปตามอารมณ์เตลิดเปิดเปิงของคนทั้งคู่ บริเวณยอดอกกำลังถูกสัมผัสด้วยปลายลิ้นผ่านเนื้อผ้าบางเบานั้น
ลู่หานคิดว่าตัวเองน่าอายที่แสดงรู้สึกหลงใหลออกมาอย่างโจ่งแจ้งเวลาที่อีกคนเปลือยท่อนบนและสวมเพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียวเอาไว้
นี่มันดีเกินไปสำหรับเขาและมันช่างน่าตื่นเต้นเสมอแม้มันจะไม่ใช่ครั้งแรกหรือนานๆครั้ง
“ทำไมถึงไม่ให้ละครับ?”ไม่ถามเปล่ายังส่งลิ้นสัมผัสไตแข็งพร้อมกับมองหน้าเด็กน้อยที่หลับตาปี๋อย่างรู้สึกอาย
เสียงลมหายใจถี่กระชั้นนั้นบ่งบอกถึงอุณหภูมิอารมณ์ที่ทะลุระดับ
ผิวเนื้อทั้งขาวทั้งหอมนั้นตัดกับสีแดงของชุดได้อย่างลงตัว
ไหนจะการสั่นเกร็งที่เว้าวอนในทีทำให้เซฮุนคิดว่าท่าคลานเข่าคงไม่ใช่ท่าที่เขาชอบอีกต่อไปแล้ว
เขาชอบด้านหน้า ด้านที่เห็นว่าลู่หานกำลังต้องการหรือรู้สึกอะไร
“มัน...เขินนะครับ”บ่นอุบพลางส่งเสียงครางอือออกมาเมื่อถูกบีบส่วนกลางลำตัวเบาๆ
เรียวขานวลขาวขยับแยกออก เปิดรับอย่างไม่เป็นปฏิปักษ์กับการหยอกล้อร่างกายของตน
ดวงตากลมโตกระพริบถี่ก่อนจะหลับตาสัมผัสรสจูบนุ่มนวลหอมหวาน
รสจูบที่ผสมด้วยปลายลิ้นนุ่มนวลราวกับคอตตอนแคนดี้
ยิ่งทำให้เด็กชายลุ่มหลงพอๆกับรักใคร่คนที่มอบสัมผัสทะนุถนอมทบทวีคูณ
“เข้าไปแล้วนะ”
“..ฮะ..”ส่งเสียงตอบรับเบาๆก่อนหลุดครางเมื่อท่อนแข็งที่ชโลมเจลมาอย่างดีนั้นกดแทรกเข้ามา
เอวสอบกระดกขึ้นขยับเข้าหา บีบผิวเนื้อโดยรอบให้ผ่อนคลายไม่นานก็เข้าไปสะดวก ชายหนุ่มขยับเอวสาวกายช้าๆ
มือเล็กก็เริ่มจิกลงที่ต้นแขนพร้อมกับเสียงผะแผ่ว
“เข้าไป..สุดมั๊ยครับ...”
“...”
“ผมรู้สึกเหมือนมันเข้ามาไม่หมดเลย”
“อยากให้หมดเหรอครับ?”เซฮุนตระกองร่างเล็กตลบขึ้น ร่างของลู่หานที่สวมกี่เพ้าซีทรูสีแดงนั้นกำลังคร่อมทับตัวเขาอยู่
ชายหนุ่มถลกชายของมันขึ้นเพื่อให้เด็กน้อยขยับแยกออกโดยสะดวก
และเขาก็ค่อนข้างรู้สึกดีที่สีข้างเขานั้นถูกหนีบด้วยต้นขาของเด็กน้อย
หน้าท้องเรียบแขม่วเกร็งเมื่อสัมผัสได้ว่าลงมาจนลึก
เขาลูบไล้ผิวเนื้อช่วงต้นเขาของลู่หานเบาๆจนกระทั่งอีกคนกล่าวระโหยออกมาอีกครั้ง
“เหมือนมันอยู่ในท้องเลย...”
“ฮึ..”เขาหัวเราะในลำคอก่อนะจะแสร้งสวนสะโพกขึ้นจนลู่หานร้องเบา
“อ๊ะ!”
“เดี๋ยวคราวหน้าจะสอนให้ขยับนะครับ”ว่าเท่านั้นก่อนจะจับร่างเล็กพลิกหงายลง
เขาพรมจูบกับข้างแก้มนุ่มโดยเจ้าตัวก็หรี่ตาลงน้อยๆเพราะเข้ามาลึกเกินไป
เขาปล่อยให้ลู่หานขยับตัวด้านล่างอย่างอิสระในท่าทางถนัดพลันตระกองต้นขาเอาไว้
แล้วเริ่มขย่มกายลงแรงๆจนร่างที่อยู่ในชุดสุดเซ็กซี่นั้นกระตุกและส่งเสียงครางรับจนไปถึงจุดที่ไม่สามารถหยุดความรู้สึกได้อีก
แรงกระทั้นหนักๆยิ่งกระตุ้นให้เสียงร้องดังลั่นราวขาดใจ
ส่วนเชื่อมต่อยิ่งรุนแรงก็ยิ่งดูดดึงเอาไว้หนักหน่วง ใบหน้าหล่อคมเขม็งเกร็ง
เหงื่อไหลหยดออกจากปลายคางกับกิจกรรม
โดยร่างเล็กๆข้างใต้ก็บิดตัวเร่าสะโพกโยกโยนรับจังหวะหนักหน่วงด้วยความนุ่มนวล
แขนเรียวผวากอดไหล่กว้างเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย
ก่อนจะลงท้ายด้วยเสียงอุทานหนักพร้อมกับลมหายใจที่ผ่อนออกยาว
เซฮุนก้มมองลู่หานที่กำลังปรับลมหายใจ
เส้นไหมนุ่มๆของเด็กน้อยปัดปลิวอยู่กับหมอนใบโต ท่ามกลางสภาพยับๆย่นๆของที่นอน
หน้าผากขมับของเจ้าตัวมีแต่เหงื่อผุดพรายออกมาจนคิ้วเปียก
ดวงตากลมหวานที่มีแก้วตาใสนั้นกำลังปรือลงครึ่งอย่างเหนื่อยอ่อนจนเห็นแพขนตายาวๆนั่นชัดเจนขึ้น
จมูกแท่งเล็กกำลังผ่อนลมหายใจช้าๆร่วมด้วยริมฝีปากอิ่มตึงที่เผยอออกเพื่อช่วยหายใจ
เรื่อยลงไปถึงลำคอ ไหปลาร้า ยอดอกเปียกแฉะผ่านซีทรู หน้าท้องเรียบ
ผิวนิ่มตึงแบบเด็กๆลงไปจนถึง...
“ซอนแซงนิมไม่เอาออกเหรอครับ...”เสียงอ่อยๆดังขึ้นและเซฮุนก็เงยหน้ามองเด็กน้อยที่กำลังทำหน้าเหมือนจะอ้อนให้พอแล้วเพราะเหนื่อย
หลังจากที่อยู่กับครอบครัวของลู่หานตั้งแต่เมื่อวาน ก่อนจะอาศัยช่วงที่พ่อแม่ของลู่หานเอาของขวัญไปมอบให้คนในที่ทำงาน
ลุกขึ้นมาทำเรื่องตามอารมณ์กันเสียบ้างหลังจากว่างเว้นไปหลายวัน
เรียกได้ว่าหลังจากวันวาเลนไทน์ไปนั้นเซฮุนก็แทบไม่ได้จับชอนซาคนดีฟัดสักนิดเลยเพราะงานที่โรงเรียนยุ่งเหลือเกิน
อีกอย่างเด็กน้อยกำลังเตรียมตัวขึ้นม.สาม ซึ่งต้องหาที่ต่อโรงเรียนมัธยมปลายอีก
“อาบน้ำกันนะ”ชักชวนเบาๆก่อนจะถอยตัวออกพร้อมกับคาวน้ำที่หลั่งออกมาติดๆกัน
ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาไปเห็นชุดนี้ในอินเตอร์เน็ตและสั่งมาเพื่อขอให้เด็กน้อยของเขาใส่อย่างกล้าๆกลัวๆ
แล้วนิสัยของลู่หานยิ่งเป็นเด็กใจเย็นและเอื่อยๆไม่ค่อยงอแงก็รับไปใส่อย่างว่าง่าย...
ก็เลยจัดยาวตั้งแต่สายจวนจะบ่ายแบบนี้...นี่อาการของเขาหายแล้วจริงๆใช่รึเปล่านะ...*อิโมหมีสงสัย*
หลังจากอาบน้ำแล้วนอนกกเด็กจนสมใจก็บ่ายคล้อย
วันหยุดยาวแบบนี้เป็นสิ่งที่เซฮุนถวิลหาทุกปี
เพียงแต่ปีนี้แปลกไปเพราะเขาไม่ได้นอนดูซีรี่ส์หรือนอนมาราธอนอย่างเคย
แต่ได้อยู่กับเด็กน้อยที่น่ารักเอามากๆคนนี้
ขณะที่นอนหมกกันอยู่นั้นลู่หานก็เอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ
“ซอนแซงนิมไม่อยู่กับที่บ้านเหรอครับ”
“...”
“ไม่เห็นซอนแซงนิมกลับบ้านเลย”ร่างเล็กๆพลิกตัวไปหาชายหนุ่มแล้วมองหน้า
ในขณะที่เซฮุนเองก็ระบายยิ้มออกมาจางๆ
“อยู่กับชอนซาดีกว่าครับ”
“?”
“พวกเขาไม่ว่างน่ะ
อยู่แบบนี้ดีกว่า”ว่าพลางกระเถิบกอดเด็กพร้อมกับสูดกลิ่นกายหอมๆของร่างนุ่มนิ่ม
ลู่หานทำตัวไม่มีกระดูกใส่เซฮุนอยู่พักแล้วจึงเอ่ยขึ้น
“ไปหาหมอจงแดกันมั๊ยครับ
พ่อกับแม่กว่าจะมาก็คงค่ำ”
“จะดีเหรอครับ...เผื่อท่านกลับมาไม่เห็นพวกเรา”
“ไม่เป็นไรครับ ทุกปีผมไปด้วย
แต่ก็ไม่มีอะไรนอกจากพ่อดื่มโซจูจนเมากลับบ้านน่ะ”เจ้าตัวหัวเราะเบาๆก่อนจะยอมจูบแก้มผู้ใหญ่ที่กำลังอ้อนให้หอม
“ทำไมซอนแซงนิมอ้อนจัง”
“วันนี้ไม่ได้เป็นซอนแซงนิมนี่ครับ”เอ่ยเบาพลางเล่นนิ้วเล็กๆของอีกฝ่ายไปมา
“ว่าแต่โตขึ้นอยากทำงานอะไรเหรอครับ?”
“ผมเหรอ?”ดวงตากลมโตกระพริบปริบ “ไม่รู้สิครับ ผมไม่ค่อยถนัดอะไรเลย
คงจบไปเป็นพนักงานเงินเดือนธรรมดาๆน่ะครับ”
“ไหงอย่างนั้น”ครูหนุ่มหัวเราะ
“นี่อยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็กเลยนะ เพราะไปเจอครูใจร้ายมา
เลยอยากจะเป็นครูน่ารักกับเขาบ้างน่ะครับ”
“นี่ก็น่ารักมากแล้วนะครับ”เด็กน้อยส่งยิ้มก่อนจะพากันเปลี่ยนเสื้อ
อากาศกึ่งเย็นๆเซฮุนจึงให้ลู่หานใส่เสว็ตเตอร์ทับอีกชั้น
เด็กชายในเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยเสว็ตเตอร์สีแดงนั้นช่างน่ารักเหลือเกินสำหรับเซฮุน
เขาเองก็แค่สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์แล้วทับด้วยโค้ทสีเข้มเท่านั้น
ทรงผมก็แค่ปล่อยตามสบาย ไม่ต้องแสกหวีให้ดูเรียบร้อยแต่อย่างใด
ทั้งคู่ออกมายังย่านร้านค้าบางส่วนที่ยังเปิดบริการอยู่
ส่วนใหญ่มักเป็นร้านครอบครัวเพราะบริษัทห้างร้านในวันซอลลัลมักจะหยุดยาวเพื่อให้พนักงานกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว
“เราซื้ออะไรไปฝากคุณหมอกันดีครับ”ลู่หานเปรยทันที
และสิ่งนั้นก็ทำให้เซฮุนยิ้มไปกับนิสัยที่คิดถึงผู้อื่นเสมอของเด็กคนนี้
“หิวแล้วครับ
หาอะไรกินกันก่อนดีกว่า”
“อปป้ากินต๊อกกุก(แป้งต๊อกในน้ำซุปสำหรับทานในวันซอลลัล)กัน”เจ้าตัวเรียกชื่ออีกฝ่ายชัดแจ๋วไม่เคอะเขิน
เล่นเอาชายหนุ่มยืนนิ่งก่อนที่สีแดงจะแล่นขึ้นไปทั่วหน้า
เซฮุนหันหน้าซบกำแพงเพราะเหนื่อยกับความน่ารักไม่รู้เวลาโดยที่เด็กชายยังเอียงคอมองอย่างงุนงงว่าเรียกสรรพนามผิดไปหรือไม่...หรืออีกคนอยากให้เขาเรียกอาจอชี่...มันแก่ไปนี่นา... อีกคนก็ยังหนุ่มอยู่เลยนี่
“อปป้าไม่สบายเหรอครับ?”
“เอ่อะ..เอ่อ..เรียกซอนแซงนิมเหมือนเดิมก็ได้ครับ”..ไม่อยากแปลงร่างตอนนี้
“ก็อปป้าบอกว่า
วันนี้ไม่ได้เป็นซอนแซงนิมนี่ครับ”เจ้าตัวทำเสียงทุ้มๆเลียนแบบเขามาเสียอย่างนั้น
อยากจะจับฟัดแล้วก็ฟาดก้นซะตอนนี้..แต่นั่นกลางถนนคนเดินผ่านไปมา
เซฮุนจึงทำได้แค่เก็บความรู้สึกเอาไว้...ไม่เอาน่ะเซฮุน..น้องยังเด็ก...รับแรงฟัดและแรงฟัคต่อๆกันไม่ไหวหรอกนะ...
“โอเคครับ
งั้นไปกินต๊อกกุกนะ”ข่มความหื่นเอาไว้แล้วพาเด็กน้อยไปหาอะไรทานในช่วงบ่ายๆ
ความสุขรายล้อมไปทั้งสองฟากถนนโดยฝ่ามือก็จับจูงกันแนบแน่น ใครก็พากันมองชายหนุ่มหุ่นสูงใบหน้าหล่อจัดกับเด็กน้อยตัวเล็กสวมแว่นสายตาหน้าตาน่ารักกำลังจูงมือกันเดินอย่างน่าเอ็นดู
เซฮุนไม่รู้ว่าตัวเองจะทนไหวมั๊ยเวลาเสียงนุ่มหูนั้นเรียกเขาว่าอปป้าๆ
คำนั้นมันสำหรับผู้หญิงเรียกแฟนไม่ใช่เหรอ...
*อิโมหมีทรุด*
หลังจากกินต๊อกกุกหรือแป้งต๊อกรูปวงกลมในน้ำซุปเพื่อความโชคดีและเลิกหิว
พวกเขาก็ซื้อผลไม้และเดินทางไปที่คลินิก
และสิ่งที่เซฮุนคิดเอาไว้ก็ถูกต้องเพราะคนไข้สี่คนที่เซฮุนไม่ได้ทำความรู้จักมาก่อน
แต่มาสนิทสนมกันระดับหนึ่งเพราะชอนซาตัวน้อยคนนี้กำลังร่าเริงอยู่ในคลินิก โดยที่จงแดก็นั่งเล่นหมากรุกอยู่กับจงอิน
จื่อเทานั่งเซลฟี่หน้าตาตัวเอง
และแบคฮยอนที่คอยเอ็ดคู่รักซาดิสม์ที่กำลังจะเริ่มเล่นแผลงๆกัน
“สวัสดีครับ”
ทุกคนหันหน้ามามองเด็กน้อยที่กำลังถือกล่องขนมโดยมีเซฮุนที่ถือตะกร้าผลไม้ตามหลัง
เพียงเท่านั้นบรรยากาศก็เปลี่ยน เริ่มด้วยจื่อเทาก็รีบเดินมาถือกล่องขนมก่อนจะหรี่ตาใส่เซฮุนเล็กน้อย
“ทำไมให้น้องถือหนักๆล่ะ”
“...”ผิดอีก...
“เซเลอร์มูนน้อย
คิดถึงจัง”พ่วงด้วยจงอินที่วิ่งเข้ามากอดลู่หานจนใบหน้าหวานชนกับฟองน้ำคัพซีเต็มรัก
โดยที่ชานยอลกับคริสก็เลิกเล่นกันแล้วเข้ามารุมเล่นกับเด็กชายตัวน้อย
“ไม่เจอหลายวันเลย เป็นยังไงบ้างเรา”
“สบายดีฮะ สวัสดีปีใหม่นะครับ”
“แฮปปี้ๆครับ”อี้ฟานเดินมายีผมนุ่มๆโดยที่ลู่หานก็ยิ้มหวานก่อนจะถามผู้ใหญ่ตัวโต
“คุณอี้ฟานสบายดีมั๊ยครับ”
“มันไม่สบายหรอกครับ
ล่าสุดมันไปซื้อเชือกมารัดหะ...อ๋ำ...อื้อ!”ชานยอลที่กำลังบ่นก็ถูกอี้ฟานลุกขึ้นปิดปากแล้วลากออกไปข้างๆประกอบด้วยเสียงนุ่มนวล
“ตัวเองครับน้องยังเด็กนะครับ...”
“เอ้อออ..อู๊แอ๊ว อ่อยโอ้ยยยย(เออ
รู้แล้ว
ปล่อยโว้ยย)”ลู่หานมองผู้ใหญ่สองคนที่จู่ๆก็เล่นบทสวีทกันก่อนที่จงอินจะดึงให้หันมาหา
“วันนี้ไม่ใช่ชุดแบบนี้เหรอครับ
เซ็กซี่จะตายนะ”
“ไม่หรอกครับ”..อปป้าไม่ให้บอกใครว่าใส่ชุดนี้นี่นา
“ออกจะน่ารัก
ถ้าเราใส่ต้องน่ารักแน่ๆ นี่รุ่นนี้แถมฟองน้ำมาด้วยนะครับ”ไม่พูดเปล่า
จงอินทำการจับมือเด็กน้อยไปแปะกับหน้าอก(ปลอม)ของตัวเอง
ลู่หานนิ่งไปพักใหญ่ก่อนที่แก้มจะแดงเหมือนมีควันพุ่งออกมาเล่นเอาผู้ใหญ่พากันหัวเราะ
“ทำไมน่ารัก..เขินก็ยังน่ารัก...”ชานยอลคร่ำครวญดิ้นไปดิ้นมาโดยที่อี้ฟานก็พร่ำออกมาพร้อมกัน
“ทำไมน่ารักแบบนี้กันน้า..อยากให้ฟาดแรงๆทุกวันเลย♥”
“ดูซิแก้มแดงใหญ่เลย”จงอินว่าอย่างเอ็นดูพร้อมกับบีบแก้มยุ้ยๆไปทีหนึ่ง
โดยที่เซฮุนก็หันมองจื่อเทาที่ค่อยๆมีอาการแอบตามเสามองดูลู่หานก่อนจะหันมามองแบคฮยอนที่ทำให้ป่วยใส่
“ฉันบอกแล้วว่าเด็กคนนี้เซ็กซ์แอพพีลสูง
และอนาคตจะเพิ่มขึ้นตามวัยด้วย ถ้าใช้ประโยชน์จากจุดนี้
ปั้นเป็นดาราไอดอลได้สบายๆเลยล่ะ”
“ห้ามบอกลู่หานเด็ดขาดเลยนะ”เซฮุนว่าโดยอีกคนก็หัวเราะ
“แต่ท่าทางเขายังไม่ค่อยสนใจนะ
รอไว้สักปีสองปี อาจมีโมเดลลิ่งมาจีบก็ได้
ใช่มั๊ยจงแด”เจ้าตัวพยักเพยิดไปหาเพื่อนที่กำลังวางแผนเดินหมากบนกระดานอยู่ใกล้ๆ
“ใช่
เด็กวัยนี้กำลังอยู่ในขั้นต้นการค้นหาตัวเอง บางคนต้องการการแสดงออกและการยอมรับ
ต้องให้เหตุผลและใจเย็นมากๆกว่าช่วงยังเล็กอีกนะ
แต่ดูพื้นฐานอารมณ์ของเขาอยู่ในเกณฑ์ดีมากเลยล่ะ”
“อายุจิตประมาณยี่สิบห้า”
“และมีแนวโน้มมากกว่านั้น
แฟนนายไม่ได้เด็กกว่านายนะ
เขาแค่เกิดช้ากว่ารอบนึงกับสองปี”จงแดว่าหลังจากแบคฮยอนเสริมไปพร้อมกับรุกฆาตปิดกระดาน
โดยที่เซฮุนก็ถอนหายใจเบาๆจนแบคฮยอนแอบถาม
“เฮ้ย มีอะไรรึเปล่า?”
“อยู่ๆก็คิดถึงอนาคตน่ะ”เซฮุนถอนใจยาวอีกครั้ง
“เดี๋ยวเขาก็ขึ้นม.สาม ต่อม.ปลาย เจอคนมากมายในชีวิตเรื่อยๆ
ผมยังไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเลย”
“การเปลี่ยนแปลงมันไม่แย่หรอกน่า
นายนี่ขี้กังวลจังนะ”แบคฮยอนกอดอก “ต่อให้เปลี่ยนแปลง แค่นายยังอยู่กับเขา
ทุกอย่างมันก็โอเคแล้วล่ะ”
“ใช่...ถ้าคิดว่าสักวันต้องมีการเปลี่ยนแปลง
ทำไมไม่ทำทุกวันให้ดีที่สุดไปเลยละครับ หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
จะได้ไม่เสียดายกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำในวันที่ไม่สามารถทำได้
ความรักไม่ใช่ความลับที่ต้องแอบซ่อนมันไว้นะครับ มันแค่ความรู้สึกที่ว่า
ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้”
“...”
“ความรักเป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่งครับ
แต่เป็นจิตที่หวังดีแต่กัน ถ้าคิดแบบนั้นความรักก็จะอยู่ในมุมที่ดีขึ้นนะ”
“ขอบคุณนะครับหมอ”เซฮุนยิ้มรับในที่สุดโดยที่แบคฮยอนก็เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการกระเซ้าเบา
“ว่าแต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยสูบแล้วเหรอ?”
“ก็ไม่เครียดนะ...แล้วก็..ถ้าสูบมากๆแล้วชอนซาจะโดนควันไปด้วยนะครับ”ชายหนุ่มตอบตามตรง
ก่อนจะเลิกคิ้วกับคำพูดตัวเองและรอยยิ้มของแบคฮยอนก็คลี่ออกมา
“ก็นั่นแหล่ะความรัก”
“...”
“ว่าแต่ออกมาแบบนี้พ่อแม่น้องไม่บ่นเหรอไง?”จงแดทักขึ้น ซึ่งเซฮุนก็ให้คำตอบไปทั้งรอยยิ้มอีกครั้ง
“เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะครับ
ต้องเป็นลูกเขยที่ดีน่ะ ฮ่าฮ่า”
“คุณแม่คุณก็อยากจะติดต่อคุณนะ
แต่ติดต่อไม่ได้เลยมาติดต่อผมแทน จะไม่คุยกับคุณแม่คุณจริงๆเหรอ?”จงแดว่าพลางเรียงหมากลงกล่องอย่างเรียบร้อย
โดยที่เซฮุนก็ยักไหล่นิดหน่อยก่อนจะพูดขึ้น
“ไม่จำเป็นหรอกครับ
คนที่ทิ้งลูกไปเพราะคิดว่าลูกเป็นโรคจิตไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น...สำหรับผมนะ”
“...”
“ขอตัวก่อนนะครับ”กล่าวเท่านั้นก่อนจะเดินไปหาลู่หานที่หน้าม่อยเมื่อรู้ว่าได้เวลากลับบ้าน
จำต้องลาพี่ๆที่ยกมือลาเบะปากอยากจะร้องไห้พร้อมกันไม่เว้นจื่อเทาที่ยื่นมือออกมาโบกจากหลังเสา
เมื่อพ้นภาพแผ่นหลังคุณครูหุ่นสูงและเด็กชายตัวน้อยแบคฮยอนก็เปรยขึ้นมาเบาๆ
“หมอนั่นเจ้าคิดเจ้าแค้นน่าดูเลยแฮะ”
“นั่นสิ
เขามีบาดแผลทางจิตใจหลายอย่าง
นอกจากเรื่องของมินซอกก็เรื่องแม่ของเขานี่ล่ะ”จงแดยกมือเท้าคาง
“ว่าก็ว่า
ตอนที่หมอนั่นถูกแม่พามาทิ้งไว้ที่คลินิกเรา
ให้รับการรักษาและเรียนไปด้วยเพียงลำพังมันแย่มากนะ อาการแบบนี้มันต้องได้รับการเยียวยาทางจิตใจ
ไม่ใช่คิดจะทิ้งก็ทิ้งกันดื้อๆซะหน่อย”
“คงปิดแฟนน่าดูเลยล่ะมั้งว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยกับโรงพยาบาลใหญ่
โอเซฮุนจริงๆแฮะ”จงแดพูดเท่านั้นก่อนจะหันไปตามเสียงเรียกของชานยอลที่ดังขึ้น
“หมอ! ไปกินร้านเดิมกันเหอะ!”
“โอเค เดี๋ยวผมตามมินซอกไปดื่มด้วยนะ
งั้นวันนี้ปิดคลินิกเร็วแล้วกัน เด็กคิ้วหนาของนายจะมามั๊ยเนี่ย”
“มาก็มาสิ ฉันจะได้รีบปิดหนี
มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว”แบคฮยอนยกนิ้วโป้งให้ก่อนจะช่วยกันเก็บกวาดและปิดคลินิกเพื่อออกไปพักผ่อน
ความลับของเซฮุนมีแค่จงแดกับแบคฮยอนที่รู้ และเขาคิดว่ามันคงไม่ถึงเวลาที่ต้องพูด
ซึ่งถ้าเลือกได้พวกเขาก็ไม่อยากพูดมันออกมาให้คนอื่นฟังเลยด้วยซ้ำ
หากขอพรในวันซอลลัล...คนที่ไม่มีครอบครัวแบบเขาทั้งสองคนก็อยากจะขอให้หมีเพดโด้ตัวนี้มีความสุขไปนานๆ...
เซฮุนขับรถพาลู่หานกลับมาที่บ้านพร้อมกับของที่ซื้อมาก่อนจะแวะไปคลินิกของจงแด
ชายหนุ่มจอดรถบริเวณหน้าบ้านของอีกฝ่ายซึ่งเป็นที่ประจำและพบว่ายังไม่มีใครกลับมา
พวกเขาคิดว่าดีแล้วที่ยังไม่มีคนกลับเพราะถ้ากลับมาที่หลังพ่อแม่ของลู่หานมันก็จะดูไม่ดีไปหน่อย
หลังจากโทรหาและได้ความว่าผู้เป็นมารดากำลังออกมาหาซื้อของสดไปทำหม้อไฟกินตอนเย็น(และลู่หานแปลกใจที่ปีนี้พ่อของเขาไม่เมาและคุยรู้เรื่อง)ทั้งคู่จึงช่วยกันเก็บข้าวของบางส่วนที่ไม่เป็นระเบียบให้เรียบร้อย
อย่างน้อยเซฮุนก็อยากมีประโยชน์ยามพักที่นี่บ้าง
“อปป้า...”ลู่หานส่งเสียงเรียกขณะที่กำลังหยิบถุงกี่เพ้าซีทรูเปื้อนคราบไปให้เจ้าตัวเอาไปแอบในรถเพื่อเอากลับไปซักที่คอนโด
เซฮุนรับถุงนั้นมาก่อนจะทำหน้าที่ดูไม่ออกว่าร้องไห้หรือหัวเราะ
“เรียกซอนแซงนิมเถอะครับ”
“ทำไมล่ะครับน่ารักออก เซฮุนอปป้า”
“ขี้แกล้งใหญ่แล้วนะ”พึมพำก่อนจะเอาของไปเก็บในรถแล้วดิ่งมาอุ้มลู่หานเข้าบ้านพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก
จากที่ตั้งใจจับจับฟาดก้นสักทีสองที
เซฮุนก็เปลี่ยนใจไปก่อนเพราะคนที่ดิ้นกระดุกกระดิกสักพักกอดเขาเอาไว้ทั้งที่อยู่ในท่านั่งตักทั้งตัวแบบนั้น
“ไม่เหงาใช่มั๊ยครับ?”
“?”
“เห็นอยู่คนเดียวเลย
คุณพ่อคุณแม่คงจะยุ่งมากๆ จากนี้ทุกปีก็อยู่กับผมนะ จะได้ไม่เหงา”
“...”
“ตอนนั้นได้คุยกับพ่อแม่ซอนแซงนิมแป๊บเดียวเอง
ท่านไม่ชอบผมรึเปล่าครับ? หรือไม่ชอบที่เราเป็นแบบนี้....”ดวงตากลมโตจ้องมองเซฮุนที่กระพริบตาช้าๆก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่หรอกครับ...”
“ผมเองก็อยากเจอท่านบ้าง..หรือผมยังไม่โตพอที่ซอนแซงนิมจะพาไป?
ถ้าอย่างนั้นผมจะรีบโต
และจะเป็นเด็กดีนะครับ”กล่าวเบาๆกับเซฮุนไปตามประสา
โดยที่ชายหนุ่มก็ยกมือลูบข้างแก้มของลู่หานพลันส่งยิ้มให้จางๆ
“เป็นแบบนี้ดีแล้วล่ะครับ
แบบนี้ก็น่ารักมากแล้ว พวกท่านต้องชอบแน่ๆ แต่ตอนนี้พวกท่านยังไม่ว่าง”
“...”
“พวกท่านไม่เคยว่าง...นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมตอนเด็กถึงได้เรียนในโรงเรียนแบบปิด...”เซฮุนลูบใบหน้าของลู่หานเบาๆ
“ถ้าทุกอย่างโอเคกว่านี้ ต้องเจอแน่นอนครับ”
“จริงๆนะครับ?”
“สัญญาครับ...สัญญาเลย”ชายหนุ่มกุมมือเล็กๆนั้นไว้แล้วคว้ามาจูบเบาๆที่หลังมือก่อนจะพลิกฝ่ามือเด็กน้อยแนบแก้มตัวเอง
ลู่หานที่ได้ฟังอย่างนั้นก็ขยับยิ้มขึ้นมาในที่สุด ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้ากระซิบเบาๆ
“ผม..ขอจูบได้มั๊ยครับ”
เซฮุนส่งยิ้มก่อนจะเอียงหน้าสัมผัสริมฝีปากของอีกคนอย่างนุ่มนวล
ฝ่ามือของลู่หานยังถูกกอบกุมด้วยมือของเซฮุนอย่างไม่ยอมปล่อยไปไหน
พวกเขาละริมฝากออกพลันกดจูบลงไปใหม่อย่างไม่คิดเบื่อ และนั่นเป็นความรู้สึกที่ดี
เขาจูบแก้ม ปลายจมูกรั้นๆเลื่อนไปถึงหน้าผากและวกจูบริมฝีปากเล็กๆซ้ำอีกหน
“อือ..รักจัง”เด็กชายพึมพำเบาๆก่อนจะหอมแก้มสองข้างของเซฮุน
เจ้าตัวส่งยิ้มหยีให้แม้ว่าแก้มกำลังแดงเป็นมะเขือเทศสุกจนชายหนุ่มอยากจะกัดลงไป
เมื่อได้ฟังคำรักดีๆสักครั้ง ร่างสูงก็ระบายรอยยิ้มพร้อมกับกระซิบเบาๆ
“รักครับ”
“แม่กลับมาแล้วจ้า
มาช่วยแม่ถือของหน่อยเร็วลูก”
เสียงของมารดาดังขึ้นและพวกเขาก็ผละออกจากกัน
ทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันและกันก่อนจะเป็นร่างเล็กๆที่วิ่งแผล็วไปหาคนเป็นแม่ที่ส่งเสียงจากทางหน้าบ้าน
โดยมีชายวัยกลางคนหิ้วของมาตามหลัง เซฮุนแย้มริมฝีปากให้ก่อนจะเดินตามออกไปช่วยขนข้าวของสำหรับมื้อเย็นเข้ามาในบ้าน
สำหรับเขาแล้ว...อาการที่เขาเป็นและความรู้สึกทุกอย่างถูกซ่อมแซมด้วยลู่หาน...
หัวใจของเขากำลังถูกเยียวยาด้วยความรัก....
*****************
อิ้อิ้
พลังหมีจงสถิตแก่ท่าน♥
#ฟิคพี่หมีฮุน