Title : Thinking Missing {Baby and The Bear Special}
Author : RUNAWAY05
Couple : SEHUN x LUHAN
Note : มันคือสเปไวท์เดย์ที่ไม่หื่นนะ…
ร่างสูงๆของโอเซฮุนคาบคีย์การ์ดสองมือถือถุงพะรุงพะรังเข้ามายังหน้าห้องคอนโดแห่งหนึ่งในเวลาย่ำเย็น
ชายหนุ่มวางถุงลงกับพื้นข้างหนึ่งพร้อมกับรูดการ์ดเปิดประตูแล้วเข้าไปยังด้านใน
เขาวางของที่ซื้อมาวันนี้ลงกับโต๊ะทานข้าวแถวเคาน์เตอร์ครัว ดวงตาคมทอดมองห้องพักสำหรับหนึ่งคนของตัวเองที่พักนี้เป็นระเบียบและน่าอยู่เพราะใครคนหนึ่ง
แต่ในวันนี้ใครคนนั้นอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ของเจ้าตัว
ซึ่งเซฮุนรู้ดีว่าอีกคนยังไม่โตพอที่จะเอาชีวิตมาทุ่มกับเขา
จึงได้แต่เปิดสวิตช์ไฟก่อนจะพับแขนเสื้อเชิ้ตแล้วตรงไปยังโต๊ะหยิบจับของที่ซื้อมาวางกับโต๊ะเรียงเป็นระเบียบตามประสา
ก่อนจะหยิบไอแพดตั้งกับเคสแล้วเปิดไปยังแอพลิเคชั่นวิดิโอออนไลน์ชื่อดัง
โดยในทีก็ปรากฏภาพหญิงสาวคนหนึ่งส่งเสียงออกมา
“สวัสดีค่ะ วันนี้กับรายการซอจูฮยอนคิชเช่น
เราจะมาทำไวท์ช็อคโกแลตแบบง่ายๆกันนะคะ”
“ได้ฮะ”
ลู่หานส่งเสียงตอบรับเมื่อมารดาวานให้หยิบน้ำยาทำความสะอาดพรมที่เก็บไว้ในตู้เก็บบริเวณห้องซักล้าง
เด็กชายวัยสิบสี่ตัวเล็กๆขาวๆวันนี้สวมเพียงเสื้อยืดย้วยๆประสาอยู่บ้านกับกางเกงขาสั้นของตน
สองขาก้าวไปยังเป้าหมายปลายทางพร้อมกับเปิดตู้หยิบของให้กับมารดาที่ยังไม่หยุดทำความสะอาดบ้านเล็กๆน้อยๆหลังจากทานมื้อเย็นจบไป
พ่อของเขากำลังนอนดูโทรทัศน์เกี่ยวกับข่าวการเมืองทั่วไปตามประสา
หลังจากเดินทางกลับมาเพื่อพักอยู่บ้านในวันหยุดที่ผ่านมา
“ไม่ชวนคุณครูเขามาทานข้าวด้วยกันล่ะลูก”มารดาเอ่ยถามเด็กชายตัวเล็กที่เชิดริมฝีปากเล็กน้อยพลันตอบกลับไปง่ายๆ
“ซอนแซงนิมบอกว่าวันนี้พ่อกลับมาบ้าน
ผมควรจะอยู่กับครอบครัวน่ะแม่”
“น่ารักจังน้า”หล่อนเปรย
“คงโตมากับครอบครัวที่น่ารักระดับหนึ่งเลยสินะ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองมีปัญหา
แต่ก็เอาปัญหานั้นผลักดันตัวเองให้มีอาชีพได้ คุณครูเป็นคนเก่งมากนะ หนูต้องเอาอย่างนะรู้มั้ย”
“รู้แล้วล่ะครับ
ก็แม่เล่นชมซอนแซงนิมทุกวันเลยนี่นา”
“แน่ะ แซวแม่อีก ไปอาบน้ำนอนได้แล้วเรา”
ใบหน้าหวานส่งยิ้มหยีก่อนจะขอตัวขึ้นไปบนชั้นสองเพื่ออาบน้ำแต่งตัว
ลู่หานเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนพร้อมกับเป่าผมให้แห้ง ดวงตาโตแลมองมือถือที่นอนสงบนิ่งอยู่หลายครั้ง
จิตใจลังเลว่าจะโทรไปหาดีมั้ย
แต่ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะไปรบกวนเพราะไม่รู้ว่าอีกคนกำลังทำอะไร
ลู่หานหยิบมือถือเลื่อนนิ้วค้างลังเลว่าจะโทรไปหาดีหรือไม่
สุดท้ายก็กดรายชื่อเตรียมโทรออก ทว่าสายจากเซฮุนก็โทรเข้ามาก่อน ดวงตากลมโตเบิกเล็กน้อยพลันกดรับแล้วกรอกเสียงลงไป
“ครับ”
((นอนรึยังครับ))
“กำลังฮะ...เพิ่งอาบน้ำเลย”พูดพลางกลิ้งตัวไปกับที่นอน
“แม่ถามว่าทำไมซอนแซงนิมไม่มากินข้าวด้วยล่ะ”
((วันนี้ครูทำธุระครับ
ส่งเราเสร็จก็ไปธุระต่อเลย))
“เห๋..ผมทำซอนแซงนิมไปธุระสายรึเปล่าครับ”เด็กชายส่งเสียงตระหนกจนเสียงหัวเราะแว่วเบามาตามสาย
((ไม่ครับ ไม่ยุ่งอะไรหรอก))
“อาบน้ำรึยังครับเนี่ย”
((อาบแล้วครับ ใส่เสื้อกล้ามสีดำ
กับกางเกงนอนสีเทาขายาว
ตัวนี้ใส่สบายสุดเลย))ลู่หานได้ยินเสียงปลายสายหัวเราะแว่วเบา
((แล้วเรา..ใส่ชุดอะไรครับ?))
“เอ๋...ก็ชุดนอนลายการ์ตูนที่ไปซื้อกันที่อับกูจองเดือนที่แล้วฮะ”
((อา...))เสียงของอีกฝ่ายลากยาวก่อนที่ลู่หานจะได้ยินเสียงเพี้ยะเหมือนอีกคนตบตีอะไรบางอย่าง
((ดีแล้วครับ อยากไปหาจัง))
“สี่ทุ่มแล้วนะครับ จะมาจริงๆมั้ย
ถ้ามาผมจะได้บอกแม่”
((ไม่เป็นไรครับ...แต่ อยากกอดชะมัดเลย))เสียงครวญจากซอนแซงนิมแว่วมาปลายสาย
เรียกรอยยิ้มหวานประดับบนใบหน้าของเด็กชาย
ก่อนจะคว้าหมอนใกล้มือติ๊ต่างว่าเป็นอีกคนไว้กอดเล่น
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้กอดแล้วครับ”
((กอดนานๆนะ))
“ไม่รู้ครับ”ตัดบทเสียงเรียบๆทั้งที่ใบหน้ากำลังแย้มยิ้มจนได้เสียงต่างดาวลอดสายมาอีกหลายประโยค
จริงๆลู่หานก็ชอบเวลาที่ซอนแซงนิมกลายเป็นเด็กแบบนี้นะ
ก็เวลาซอนแซงนิมงอแงน่ารักน่าหยิก น่าดึงแก้มดึงปากมากๆเลย …ว่าแต่ทำไมซอนแซงนิมบอกละเอียดจังว่าใส่อะไร...
ตอนนี้ลู่หานกำลังนึกถึงซอนแซงนิมตัวสูงๆกับชุดนอนที่เจ้าตัวบอกกำลังนอนกอดผ้าห่มอยู่เลยนะเนี่ย
((จุ๊บก่อน แล้วนอนนะครับ))
“อ่า..จุ๊บครับ”
((มัวะ!
ฝันดีนะครับซอนซา))กล่าวอย่างนุ่มนวลแล้วก็เกี่ยวกันว่าใครจะวางสายก่อนจนสุดท้ายก็พบกันครึ่งทางด้วยการนับหนึ่งสองสามแล้วกดวางพร้อมกัน
เซฮุนอยากจะตบกะโหลกตัวเองแรงๆที่เผลอถามซอกแซกอย่างไม่จำเป็น
เพราะถ้าเขาถามมากไปกว่านี้มันต้องลงท้ายด้วยการเซ็กซ์โฟนแน่ๆ แล้วซอนซาตัวน้อยของเขาจะถูกปลูกฝังกับอะไรที่ผิดเพี้ยนไปอย่างแน่นอน
เขาไม่อยากให้อีกคนต้องมาเรียนรู้กับเรื่องบางเรื่องทั้งที่ยังอายุเท่านี้
แม้เรื่องที่เรียนรู้มาจากเขามันจะเตลิดเลยชีวิตเด็กสิบสี่ไปแล้วก็ตาม(แต่อีกคนก็แค่หัวเราะแล้วบอกว่ารู้สึกใช้ชีวิตคุ้มดี)
เซฮุนตื่นอีกทีก็หกโมงครึ่ง
ชายหนุ่มลุกขึ้นปิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะรับสายของลู่หานที่โทรมาปลุก
มือกดรีโมตเปิดข่าวช่วงเช้า
ก่อนจะเดินนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวสวมรองเท้าเดินในห้องลายหมีใส่ชุดกระต่ายที่นางฟ้าซื้อมาทิ้งไว้ให้
เซฮุนเปิดเครื่องชงกาแฟ เอาผ้าขนหนูซับหยาดน้ำที่ศีรษะแล้ววกกลับไปที่ห้องเพื่อแต่งตัว
ชายหนุ่มเลือกเชิ้ตขาวไม่สวมเนคไทเพราะเขาไม่ใช่อาจารย์บรรจุ
ฉะนั้นการแต่งตัวจึงไม่มีชุดที่ตายตัว แต่เป็นชุดค่อนข้างสุภาพ
ชายหนุ่มหยิบบ็อกเซอร์สวมตามด้วยกางเกงสแลคสีดำ หยิบแจ็คเกตสีดำมาพาดเตรียมไว้ ก่อนจะกลับมาดูแลหน้าผมอีกนิดหน่อย
หน้าม้าสีน้ำตาลถูกหวีแบ่งข้างเพื่อใช้แวกซ์จัดแต่งทรงผม
แต่เซฮุนก็ตัดใจวางแวกซ์ที่ใช้ประจำลงพร้อมกับปล่อยทรงผมตามปกติ
เขาเดินไปกดกาแฟดื่มกับขนมปังมาร์ทที่ซื้อมาเก็บไว้เพื่อรองท้อง
เขาวางแก้วกาแฟลงกับซิงค์ หยิบทิชชู่มาเช็ดปากก่อนจะเข้าดูผลงานในตู้เย็น
เซฮุนยิ้มจนเห้นเขี้ยวเมื่อพบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
“เอาไว้ตอนเย็นแล้วกันนะ”
“รอไม่ไหวแล้วนะครับ”
ลู่หานพึมพำเบาๆหลังจากหงายนาฬิกาข้อมือแล้วทำหน้ายุ่งเมื่อซอนแซงนิมไม่มารับในเวลาเจ็ดโมงยี่สิบเหมือนเคย
แต่เมื่อเข็มยาวแตะเลขหก รถของคุณครูหนุ่มก็เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน
ลู่หานจึงหันไปลาพ่อกับแม่แล้วจึงขึ้นรถไปกับอีกคนอย่างเร่งด่วน
“ซอนแซงนิมตื่นสายเหรอครับ ผมก็ไม่หวีเหมือนทุกวันเลย”
“อ่อ ครูปล่อยให้แบบนี้แหล่ะครับ
ใส่แวกซ์มากๆมันไม่ดีต่อหนังศีรษะน่ะ”เซฮุนตอบพลางส่งยิ้มแห้งๆไปให้
“อ่า..นั่นสินะครับ
เดี๋ยวผมร่วงแล้วซอนแซงนิมหัวจะล้านเอาได้นะ
พักก็ดีแล้วฮะ”ลู่หานพูดตามซื่อๆอย่างถูกชักจูงอย่างง่ายดาย จนเซฮุนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“หัวล้านจะรักมั้ยครับเนี่ย”
“ก็ปลูกผมสิครับ คึคึ”
“ซอนซาอ่า...”ปากร้องเรียกคางยานแต่ก็ยังขับรถไปยังท้องถนนได้อย่างระมัดระวังและปลอดภัย
เป็นภาพชินตาที่อาจารย์สอนภาษาอังกฤษจะมากับเด็กน้อยที่สวมแว่นหนาๆเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว
ชีวิตของเซฮุนและลู่หานยามทำหน้าที่ก็สงบนิ่งไม่หวือหวาหรือทำอะไรออกหน้าออกตา
มองเผินๆก็คล้ายญาติกันไปเสียอย่างนั้นเพราะเค้าโครงหน้าก็คล้ายๆ
(แต่สำหรับเซฮุนคำถามที่เลวร้ายที่สุดคือคิดว่าเขาเป็นคุณพ่อใบเลี้ยงเดี่ยวโดยลู่หานเป็นลูกชาย)
ช่วงเวลาผ่านไปโดยลู่หานก็ทำหน้าที่นักเรียน
และเซฮุนก็ทำหน้าที่ของคุณครูผู้สอน เมื่อช่วงเลิกเรียนมาถึง
ลู่หานก็เดินถือชีทตรงมาที่ห้องของอีกคนอย่างที่เคยทำประจำ
เด็กชายยังจำได้ดีถึงวันแรกที่เขาเข้าไปในห้องนั้น และเรื่องหลายหลากที่ตามมา
การที่เขารู้จักกับอีกคนมันทำให้เขาได้รู้จักคนเพิ่มขึ้น ได้เปิดประสบการณ์และได้เรียนรู้ว่าคนเรามีจิตใจที่ไม่เหมือนกัน
บางจิตใจก็ถูกหล่อเลี้ยงมาอย่างดี บางจิตใจก็มีอะไรกระทบกระทั่งให้ต้องรักษา
คนที่มีปัญหาทางจิตไม่ใช่คนโรคจิต
แต่เป็นคนที่พยายามประคับประคองการใช้ชีวิตไปบนโลกนี้อย่างเข้มแข็งต่างหาก
“เหม่ออะไรครับหืม?”เสียงของเซฮุนทักขึ้นพร้อมกับเปิดประตูให้ลู่หานเข้ามา
ดวงตากลมโตกระพริบปริบก่อนจะรีบส่ายหน้า
พร้อมกับเข้ามาวางชีทให้อีกคนเรียงเป็นระเบียบอีกครั้ง เด็กชายหย่อนตัวนั่งลงตรงข้ามชายหนุ่มที่ก้มหน้าก้มตาตรวจแบบฝึก
ก่อนจะแย้มริมฝีปากออกมาเล็กน้อย
“ซอนแซงนิม”
“ครับ”
“พักนี้ไม่รู้สึกแปลกๆแล้วใช่มั้ยครับ”
“หืม..ไม่ครับ”เซฮุนก้มหน้าก้มตาตรวจแบบฝึก
ก่อนจะสำลักไอเมื่อจู่ๆลู่หานก็พูดขึ้น
“ผมยังจำตอนที่ซอนแซงกระชากผมลงไปตรงโซฟาตรงนั้นได้อยู่เลย”
“แค่ก!...โอย...คิดถึงมันทำไมครับ...TT”
“ก็ตอนนั้นผมดันคิดว่าซอนแซงนิมแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่า
จับโยงไปกับนิยายที่อ่านเยอะๆอีก
น่าอายจังเลย”เด็กชายลู่หานยังคงยิ้มหวานให้กับตัวเอง
โดยที่โอเซฮุนคิดว่าเขาต่างหากที่น่าอายกว่า
อยู่ๆก็หื่นจนเก็บอาการไม่ได้แบบนั้นน่ะ
“ครูก็อายเหมือนกันครับ..เราไม่พูดเรื่องนี้แล้วดีมั้ย...”บอกเสียงอ่อนเพราการกระทำของตนเองตอนนั้นพูดได้เต็มปสกว่าไม่เข้าท่า
แม้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะทำให้เขาได้เห็นว่าเด็กชายแว่นหนาๆไม่น่าสนใจความจริงแล้วน่ารักแบบร้ายกาจอย่างที่สุด
ลู่หานได้ยินดังนั้นก็ไม่กวนเซฮุนอีก
ได้แต่เอามือเท้าคางยู่ปากรอซอนแซงนิมคนเก่งตรวจคำตอบนักเรียนจนเรียบร้อยก็ได้เวลากลับบ้านกัน
“วันนี้นอนกับครูมั้ยครับ
มีอะไรจะให้ด้วย”เซฮุนเอ่ยชวนกับคนตัวเล็กที่เดินตามต้อยๆมาถึงรถ
ลู่หานเอียงหน้าเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มให้อีกคนเช่นเดิม
“ถ้าบอกแม่ก่อนก็โอเคฮะ เพราะยังไงพ่อก็อยู่บ้าน”
“ใช่..เพราะพ่อเราอยู่บ้านครูถึงไม่กล้าไปขอค้าง...”
“พ่อผมไม่น่ากลัวซะหน่อย”
“ก็ท่านนิ่งๆนี่ครับ”เอ่ยอ้างลักษณะภายนอกผู้รับบทพ่อตาที่แม้จะไม่ได้ขัดขวางหรือต่อว่า
แต่ก็ชอบหรี่ตาใส่เซฮุนบ่อยๆเวลาที่ชายหนุ่มไปปรากฏตัวที่บ้าน
มันก็ไม่เชิงจับผิดหรอก แต่เหมือนจะคาดคั้นฝากชีวิตลู่หานไว้กับเขาพิกลๆ
“พ่อผมชอบซอนแซงนิมออกนะ
ชอบพูดว่าเหมือนพ่อตอนสมัยหนุ่มแหละ ฮ่าฮ่า”เสียงหัวเราะใสดังออกมาจากลู่หาน
ทำเอาเซฮุนเผลอเลียปากอย่างรู้สึกเขินๆไม่น้อย ชายหนุ่มลองต่อสายขอกับทางบ้านของเด็กชาย
และได้รับคำตกลงกลับมา แน่นอนว่าที่บ้านของลู่หานวางใจกับเขาเอามากๆ แต่เขาคิดว่าการโทรไปขอผู้ปกครองมันจะดีกว่าให้พวกท่านโทรมาหามากกว่า
“เรียบร้อยแล้วครับ
งั้นเดี๋ยวไปซื้ออะไรกินกันดีกว่า”เซฮุนกล่าวกับลู่หานที่อมยิ้มแล้วพยักหน้าอย่างว่าง่าย
จริงๆเซฮุนก็พอรู้ว่าลู่หานไม่ใช่คนที่คล้อยตามอะไรง่ายนัก
แต่อีกคนแค่เป็นคนอะไรก็ได้ไปตามกันมากกว่า และเป็นกับเขาแค่คนเดียว
เท่านั้นเซฮุนก็พอรู้ว่าอีกคนเอาความเชื่อมั่นวางไว้กับเขามากมายเท่าไหร่
ยิ่งลู่หานรักเขามากไหร่...เขาก็ยิ่งอยากปิดตายเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของเขาไว้เท่ากัน...
“เอาล่ะ เบนโตะแบบห่อกลับสองชุด แล้วก็ชาผลไม้
เราเอาอะไรอีกมั้ยครับ”เอ่ยถามเด็กชายตัวเล็กที่อมหลอดชาเขียวปั่น
ลู่หานแลบลิ้นเลียคราบสีเขียวครีมที่ริมฝีปากก่อนจะช่วยอีกคนถือถุงอาหารไว้
เพื่อนำมันใส่ที่เบาะหลังรถ
“ไม่แล้วฮะ ว่าแต่ขนมปังที่ห้องหมดรึยัง”
“ยังนะ อีกสามสี่ห่อเลย เดี๋ยวเราค่อยมาซื้อใหม่”
“ระวังมันเป็นรานะครับ”
“กินเช้ากินดึกไม่เป็นหรอกครับ อยากกินโตเกียวบานาน่าจังนะ”เหลียวหน้าไปมองร้านเบอเกอรี่ที่อยู่ไม่ไกล
ลู่หานเห็นดังนั้นจึงเอ่ยปาก
“ซอนแซงนิมไปซื้อก็ได้ครับ เดี๋ยวผมรอตรงนี้”
“ไม่ไปด้วยกันเหรอครับ?”
“เดี๋ยวก็ไปหยิบนั่นนี่อีกครับ ผมอยู่นี่ดีกว่า”เด็กชายกล่าวอย่างพอรู้นิสัยตัวเองว่าถ้าเจอขนมน่ารักๆต้องอดซื้อไม่ได้แน่ๆ
เขไม่อยากรบกวนเงินของอีกคนไปมากกว่านี้
“เดี๋ยวมานะครับ”เซฮุนว่าเท่านั้นก่อนจะรีบสาวเท้าไปที่ร้านเบเกอรี่ใกล้ๆ
ลู่หานมองตามยิ้มๆก่อนจะเบนหน้ามาสนใจชาเขียวปั่นของตนต่อ
จนกระทั่งได้ยินเสียงใครสักคนพูดขึ้น
“หนูคะ..หนู”
“ฮะ?”ลู่หานเงยหน้าขึ้นก็พบผู้หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง
ใบหน้าของหล่อนใจดีและดูอ่อนโยนเอามากๆ
เธอส่งยิ้มนุ่มนวลมาให้กับลู่หานพลันเอ่ยถามอีกครั้งเบาๆ
“เห็นคุณครูโอเซฮุนอยู่เมื่อกี้ ไม่ทราบว่าเขาไปไหนเหรอคะ?”
“อ่อ ซอนแซงนิมไปซื้อของร้านใกล้ๆนี้ฮะ
เดี๋ยวก็มาแล้ว”หานตอบ ก่อนจะได้รับรอยยิ้มจากเธออีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้น...ฝากนี่ให้คุณครูด้วยนะคะ”หล่อนยื่นกล่องของขวัญทรงแบนยาวให้กับลู่หานที่รับมาอย่างงุนงง
ก่อนจะเดินขึ้นรถคันหรูหราสีดำสนิทออกไป ทิ้งไว้เพียงลู่หานที่มองตามตาปริบๆพร้อมกับเซฮุนที่ซื้อของเสร็จกำลังก้าวเข้ามา
“รอนานมั้ยครับ? เอ๊ะ นั่นอะไรน่ะ”ชายหนุ่มชะโงกหน้าดูของในมือของคนตัวเล็ก
“มีคนฝากให้ซอนแซงนิมครับ”
“หืม? ครูเหรอครับ”เลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหยิบกล่องที่ว่ามาดู
โดยลู่หานก็รับของในมือมาถือไว้ ลู่หานแปลกใจเมื่อทันทีที่เปิดกล่องออก
สีหน้าของเซฮุนก็เรียบลงและนิ่งอึ้งไป เด็กชายเขย่งดูก็พบเพียงไวท์ช็อกโกแลตเป็นรูปฮีโร่แมงมุมชิ้นใหญ่ๆหนึ่งชิ้นในกล่อง
ถูกห่อด้วยกระดาษไขและกระดาษฝอยสีพาสเทลเท่านั้น
“ซอนแซงนิม?”
“เรา..กลับกันเถอะครับ เย็นแล้ว”เซฮุนคืนกล่องของขวัญให้กับลู่หานพลางเปิดประตูให้อีกคนได้เข้าไปนั่งในรถ
แล้วขึ้นรถขับกลับ ท่ามกลางความเงียบนั้น จู่ๆเซฮุนก็พูดขึ้นเบาๆ “วันนี้วันไวท์เดย์นะครับ”
“เอ๋?”
“เป็นวันให้คำตอบ
หลังจากหนึ่งเดือนของวาเลนไทน์น่ะ ถ้าตอบรับความรัก ก็จะให้ไวท์ช็อกโกแลตคืนมา”เซฮุนกล่าวเนิบๆ
“ซอนแซงนิมไปให้ช็อคโกแลตคนอื่นเหรอครับ
เขาถึงเอาไวท์ช็อคโกแลตมาให้”
“วาเลนไทน์ที่ผ่านมา
ครูก็ได้แค่ช็อคโกแลตจากเรานะ”ลู่หานร้อนแก้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงคืนวาเลนไทน์ที่ทั้งหวานแล้วก็เหนอะหนะตัวถึงขั้นเสื้อผ้าเป็นคราบช็อกโกแลตจนเอามาใส่ไม่ได้
เด็กชายอมลมพองแก้ม ก่อนจะหันมองโอเซฮุนที่คลี่ยิ้มออกมาหม่นๆ
“เมื่อเกือบๆสิบปีมาแล้ว
ตอนนั้นครูยังเรียนมัธยมปลาย... วันวาเลนไทน์ครูซื้อช็อกโกแลตให้กับคุณแม่ในวันหยุดที่ได้กลับบ้าน...
แต่พอกลับมาที่โรงเรียน ก็เกิดเรื่องกับมินซอก
แล้วหลังจากนั้นครูก็ถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กไม่ดี
ครูถูกส่งไปหลายที่และไม่ได้พบท่านอีกเลย อย่างมากก็แค่คุยโทรศัพท์กัน
ครูเรียนและเริ่มทำงานอยู่คนเดียวลำพัง มีแค่เงินเข้าบัญชีมาจากคุณพ่อคุณแม่”
“ซอนแซงนิม...”
“จนครูมารักษากับหมอจงแด
สิบปีแล้วมั้งครับที่ครูไม่ได้พูดคุยหรืออยู่กับท่านนานๆ อย่างมากก็แค่โทรคุยกัน
ครูรู้ว่าสิ่งที่ครูเคยทำผิดมันทำให้พวกท่านเจ็บปวด
พวกท่านโทษตัวเองที่ทำให้ครูมีอาการแบบนี้...และชดเชยความรู้สึกผิดด้วยการหายไป”
“...”
“คนที่เอามาให้ เป็นผู้หญิงหน้าตาใจดี
เสียงนุ่มนวลใช่มั้ยครับ”
“ใช่..ใช่แล้วฮะ”
“ดีแล้วล่ะ”เซฮุนพูดเบาๆก่อนจะเลี้ยวรถเข้าคอนโดตัวเอง
เขากับลู่หานพากันมาถึงห้อง ก่อนที่คนตัวสูงจะเปิดประตู มือเล็กๆก็ยื้อแขนเอาไว้ซะก่อน
“ซอนแซงนิม...ไม่เศร้าใช่มั้ยฮะ”
“ดีใจต่างหากครับ”เขากล่าวเท่านั้น
ก่อนจะเปิดห้องแล้ววางของลงกับโต๊ะทานข้าว ลู่หานที่ปิดล็อคประตูตามมา
ก็มองเซฮุนที่ยืนรอที่หน้าตู้เย็น “เพราะงั้น...อันนี้ ครูจะเก็บไว้”
“คุณแม่ของซอนแซงนิม..สวยจังเลยนะครับ”นางฟ้าตัวน้อยที่แม้จะไม่เข้าใจอะไรมากนัก
ก็เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อเซฮุนหยิบกล่องบางอย่างออกมาจากตู้เย็น
เป็นกล่องเหล็กที่บรรจุคุกกี้ขายในร้านกาแฟชื่อดัง แต่เมื่อเปิดออก ปากเล็กๆก็เผยอออกอย่างประหลาดใจ
เมื่อเห็นไวท์ช็อคโกแลตก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายลูกเต๋าและรูปหัวใจนอนเรียงกันอยู่ในนั้น
“ของเราครับ”
“ของผมเหรอครับ? ซอนแซงนิมทำเองเหรอครับเนี่ย?”
“ก็..เมื่อวานนี้น่ะครับ เละไปพอสมควรเหมือนกัน”ใบหน้าหล่อส่งยิ้มให้ลู่หานที่อมยิ้มตอบก่อนจะหยิบช้อกโกแลตมากินทันที
“เอ๊ะ ใส่ไส้ด้วย ซอนแซงนิมเก่งจัง”
“ใส่แยมครับ อร่อยมั้ย”
“อร่อยมากฮะ”
“ทำยังไงก่อน?”โน้มหน้าลงมาหาดวงตากลมโตที่กะพริบเล็กน้อย
ก่อนจะหลับตาปล่อยริมฝีปากให้อีกฝ่ายเป็นรางวัล เซฮุนแนบจูบเบาๆอย่างนุ่มนวล
กอดรัดร่างน้อยๆไว้กับตัว โดยแขนของเด็กชายก็เอื้อมขึ้นจิกเชิ้ตสีขาวตัวนั้น
พวกเขาสบตากันเล็กน้อย ก่อนที่เซฮุนจะจับลู่หานยกขึ้นนั่งบนโต๊ะทานข้าวแทนที่จะอุ้มเข้าไปด้านใน
“ซอนแซงนิม...”
“เรียกว่าไงนะครับ...หืม?”กระซิบเบาๆที่ริมฝีปากเล็ก
ก่อนที่จะลู่หานจะเรียกแผ่วๆกลับมา
“อปป้า...”
“ไม่เล่นสิ”ชายหนุ่มก้มหน้าหัวเราะ “ดื้อเดี๋ยวได้นอนช้านะครับ”
“เซฮุนอ่า”เรียกชื่อของคนตัวสูงเบาๆโดยมีความรักเป็นเครื่องหมายอนุญาตให้เรียกได้ตามแต่ใจ
โอเซฮุนครางรับแผ่วๆพร้อมกับสอดมือปลดเสื้อตัวนอกพร้อมกับกระเป่านักเรียนของลู่หานออก
รสจูบยังคงพัวผันอย่างนุ่มนวลแบบที่อีกคนชอบ กดจูบเล็กน้อยที่ริมใบหูจนไหล่เล็กห่อ
ดวงตากลมหวานตวัดขึ้นมองใบหน้าของคนที่โน้มหน้ามาใกล้
แม้จะแปลกตาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังปล่อยผมตามสบายอยู่
ลู่หานค่อยๆยกมือแตะข้างแก้มของอีกคนอย่างแผ่วเบา
ก่อนจะเคลื่อนไปจิกที่หลังคอเมื่อถูกวกเข้าปล้ำจูบกับซอกคอ ลู่หานผ่อนลมหายใจแรง
ความรู้สึกเกร็งสะท้านยังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
ใบหน้าหวานหลับแน่นเมื่อความนุ่มนวลทะนุถนอมยังคงมาพร้อมกับริมฝีปากร้อนผะผ่าวเหล่านั้น
“อื้อ...อืม...”
ครางเบาๆในลำคอเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองจะละลายท่ามกลางอากาศเย้นสบายของแอร์คอนดิชันเนอร์ที่ทำงานตามปกติ
ลู่หานกอบลมหายใจแผ่วแล้วผ่อนเบา สาบเสื้อแยกออกจากกันพร้อมกับจมูกโด่งที่สุดกลิ่นอ่อนของเด็กชายอย่างรักใคร่
วกไล้ยอดอกด้วยปลายลิ้นจนเสียงครางแว่วในลำคอสะท้านออกมา ฝ่ามือไล่ลงจากหน้าท้องลูบลงไปด้านล่างทำเอาคนตัวเล็กห่อไหล่อีกรอบ
“หายใจไม่ออกอีกแล้วครับ”
“อ๊ะ!”อุทานแผ่วเมื่อเสียงกระเส่าที่ดังขึ้นเงียบลงไป เซฮุนกดใบหน้าซุกไว้ไปยังบริเวณระหว่างขาของลู่หาน
ทั้งปาดด้วยริมฝีปากไปตามเนื้อผ้าจนมือเล็กเกาะไหล่กว้างสั่นระริก ลู่หานผ่อนเสียงครางออกมาแผ่วเบา
ความรู้สึกของลู่หานยังคงสับสนและเต็มไปด้วยการเรียนรู้ในวัยเด็ก
รวมทั้งความรักที่ค่อยๆฝังรากลงไป เด็กชายสามารถพูดได้เต็มปากว่าโอเซฮุนเป็นรักแรก
เป็นคนแรกในเรื่องความรักทั้งหมด และลู่หานก็เต็มใจจะให้เป็นเช่นนั้น
เขาคิดว่าเพราะความรัก เขาจึงไม่รู้สึกแปลกที่กลัวหากว่าเซ็กซ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นบนโต๊ะทานข้าว
แผ่นหลังของลู่หานทาบลงกับพื้นโต๊ะ
องศาขาปรับขึ้นสูงเพื่อความสัมพันธ์ที่เข้าถึง
ลู่หานโอบกอดเซฮุนที่ไสกายเข้าหาอย่างเป็นจังหวะ เขาไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงกับเสียงคราวทุ้มของอีกคนที่บริเวณหน้าอก
ท่ามกลางความรู้สึกดีในเพศรสที่ถูกมอบให้ ลู่หานเอาแต่คิดว่าบางครั้งคนที่เห็นความสำคัญของครอบครัวอาจไม่ใช่คนที่โตมาอย่างอบอุ่นในครอบครัวที่เข้าใจกันแบบเขาเสมอไป
มันสามารถมาจากคนที่โดดเดี่ยว ไม่เคยได้รับแม้แต่อ้อมกอด
เพราะถูกชดเชยด้วยการหายไปทั้งที่ความต้องการของอีกคนอาจไม่ใช่การไปจากกัน แต่เป็นความต้องการถูกเติมเต็ม
ไวท์ช็อกโกแลตของคุณแม่ซอนแซงนิม อาจเป็นการตอบกลับหลังจากที่ซอนแซงนิมเคยซื้อมันให้ในวันวาเลนไทน์เมื่อหลายปีก่อน
ลู่หานไม่มีเงินมากพอจะซื้อไวท์ช็อคโกแลต..หรือเก่งพอจะทำช็อคโกแลตให้กับซอนแซงนิม...
ลู่หานมีแค่อ้อมกอดที่แม้จะไม่อบอุ่นหรือกว้างใหญ่..แต่พร้อมจะกอดอีกคนจนกว่าอีกคนจะไม่ต้องการมันอีกต่อไปเท่านั้นเอง...
“ฮะ..อึ้ก!”ยิ่งเข้าลึกร่างเล็กๆก็ยิ่งรู้สึกปวดมวนในท้อง
เหงื่อกาฬไหลหยดไปทั่วกาย ถูกโน้มน้าวและตะล่อมด้วยรสจูบหวานจนอ่อนระทวย
ลู่หานอายเหลือเกินที่จะมารับรู้ว่าตัวเองในตอนนี้อยู่ในสภาพไหน
เขากอบลมหายใจแผ่วก่อนจะเอ่ยวาจาบางเบา “เจ็บหลัง...แล้วครับ”
“อา..ครับ..กอดไว้นะ”แทนที่จะถอยตัวออก
เซฮุนกลับอุ้มลู่หานยกขึ้นแล้วพาเข้าไปในห้องนอนแทน
จังหวะฝีเท้ากระแทกกับพื้นทำเอาดวงตาโตเผลอหรี่ไปข้างอย่างสะท้านภายใน
ก่อนจะถูกวางลงบนเตียงใหญ่อย่างทะนุถนอม
นิ้วยาวสอดเข้ากับร่องนิ้วเล็กแล้วกดจมลงกับที่นอนนุ่ม ร่างสูงกดตัวลงลึกจนลู่หานเผลอร้องออกมาเบาๆไม่ได้
“อื้อ..ลึกไปแล้วนะครับ..อ่ะ..อา...”
“อ่า..ก็จะให้กอด...ไม่ใช่เหรอครับ”สะโพกกลมสวยลอยยกขึ้นจากผืนเตียง
เปิดรับสัมผัสจากอีกคนแม้จะนุ่มนวลแต่หนักหน่วงในที หยดน้ำตาไหลออกจากดวงตากลมโตจนชุ่มฉ่ำ
ลู่หานไม่เข้าใจนักว่าทำไมเขาถึงร้องไห้ แต่เขาไม่ได้เจ็บ เขาแค่ทรมานและได้บิดตัวไปมาอยู่ภายใต้การชักนำของอีกคนเท่านั้น
เด็กชายผู้ไม่รู้ว่าร่างเล็กๆขาวๆของตนเองกำลังทำให้อีกคนรู้สึกอะไรอยู่
สำหรับเซฮุนแล้วนั้นหากเป็นเรือนร่างเด็กผู้ชายมาอยู่ตรงหน้ามันอาจทำให้เขาเขิน
เก็บไปทำอะไรบางอย่าง หรือเผลอทำอะไรผิดๆซ้ำสอง แต่พอเป็นลู่หาน
จิตใต้สำนึกของเขากลับรู้สึกพอใจ
โอเคแม้ในอนาคตอีกคนจะโตเป็นผู้ใหญ่
สรีระเปลี่ยนไปไม่เป็นเด็กน้อยเหมือนเดิม เขาก็ยังโอเคอยู่…
รสจูบหวานที่ส่งมอบให้กันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่วานิลลาเซ็กซ์ในวันไวท์เดย์จะจบลง
ต่างคนต่างผ่อนลมหายใจช้าๆและเป็นเซฮุนที่กดจูบร่างที่นอนอ่อนปวกเปียกกับผืนเตียงก่อนจะอุ้มไปล้างตัวให้พร้อมกับอาบน้ำให้ตัวเอง
เซฮุนวางร่างเล็กๆของลู่หานลงกับที่นอน ใช้ริมฝีปากหยอกล้อเล่นกันสักพัก
ก่อนจะเป็นเซฮุนที่ขอตัวไปหาน้ำดื่ม ชายหนุ่มเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเย็นมาดื่ม จู่ๆก็นึกถึงกล่องของขวัญที่เขาวางไว้ในช่องแช่ไอศกรีม
เซฮุนกลับมานั่งที่โต๊ะ(โชคดีที่มันไม่เปื้อนอะไรมากนัก)และจัดการเปิดมันดูอีกครั้งก่อนจะสังเกตว่านอกจากไวท์ช็อกโกแลตแล้วนั้น
ใต้กระดาษไขด้านล่างยังมีซองพลาสติกที่บรรจุกระดาษเอาไว้และติดเทปแนบสนิทไปกับก้นกล่อง
‘เซฮุนคนดีของแม่,
ดีใจที่วันนี้แม่ได้ทำช็อกโกแลตกลับไปให้ลูก
ไม่รู้ว่าเซฮุนจะจำได้มั้ยว่าเคยซื้อช็อกโกแลตให้แม่เมื่อนานมาแล้ว
แม่ไม่รุ้จะทำยังไงให้ลูกหายโกรธแม่ แม่กับพ่อไม่คิดปล่อยลูกให้อยู่ลำพังเลยสักครั้ง
แต่บางความรู้สึกของลูก แม่เสียใจที่แบ่งเบามันไม่ได้
เซฮุนจ๊ะ...พักนี้แม่ได้ฟังเรื่องจากคุณมินซอก ว่าเซฮุนของแม่มีความสุขมากขึ้น
เป็นเพราะเสียงของคนที่โทรมาหาแม่ตอนนั้นใช่มั้ย?
เราจะมีโอกาสเจอกันมั้ย...แม่อยากเจอ ทั้งลูกและคนของลูกสักวันหนึ่ง มันคงนานจนกว่าลูกจะรู้ว่ามีจดหมายอยู่ในนี้
โดยที่ลูกไม่ทิ้งมันไปก่อน แม่รักลูกมากนะ แม่คิดถึงลูก...กลับมาหาแม่บ้างนะ’
“...”
เซฮุนเม้มปากแน่น
ความรู้สึกบางอย่างกำลังต่อสู่กันในสมองและช่องอก ความรู้สึกของเซฮุนที่ถูกซ่อมแซมด้วยลู่หานแม้จะยังไม่แข็งแรงนัก
แต่มันถูกซ่อมแซมทีละน้อยอย่างตั้งใจ
ความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับวันเวลาที่ผ่านมาจะมาพังทลายเพราะจดหมายฉบับเดียวไม่ได้หรอก
“มีจดหมายด้วยเหรอฮะ”
เสียงเบาๆของลู่หานดังขึ้น เซฮุนหันไปมองก่อนจะพบร่างเล็กๆที่ห่อตัวด้วยผ้าห่มเดินลากพื้นมาหาตน
เด็กชายชะโงกหน้าท่ามกลางแสงสลัวที่เปิดไว้ตรงห้องครัว ดวงตากลมโตหรี่ลงเพราะมองไม่ชัด
แล้วจึงแย้มริมฝีปากออกมาในที่สุด
“จริงๆท่านไม่ได้อยู่เมืองนอกเหรอครับ”
“บินไปหลายที่น่ะครับ
ตอนแรกเลยบอกว่าอยู่ต่างประเทศ ไม่มีเวลามาสนใจลูกหรอก”
“ใจน้อยจัง”ว่าเท่านั้นก่อนจะกดจูบขมับของเซฮุนคืนบ้าง
ลู่หานใช้ผ้าห่มที่เอามาคลุมตัวเผื่อแผ่ไปให้คนที่นั่งเก้าอี้อยู่จากด้านหลัง “ผมจะปกป้องซอนแซงนิมเองนะ”
“ตัวแค่นี้เหรอครับ”
“แต่ผ้าห่มอุ่นมากเลยนะครับ”
“ฮ่าฮ่า...”ใบหน้าหล่อหัวเราะออกมาในที่สุด “อุ่นมากเลยครับ...ว่าแต่มีแรงเดินมาถึงนี่เลยเหรอเนี่ย”
“ก็แค่...รอบเดียวเองไม่ใช่เหรอครับ”เสียงอ้อมแอ้มจากด้านหลังทำเอาเซฮุนหันไปมองก่อนจะหัวเราะอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
ก็นางฟ้าตัวน้อยชอบมีประโยคน่าตระหนกตกใจออกมาให้ได้ยินอยู่ซะเรื่อยโดยเฉพาะเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
“งั้นก็ต่อนะ”ว่าเท่านั้นก่อนจะลุกขึ้นอุ้มก้อนผ้าห่มตรงไปยังห้องนอนอีกครั้ง
เซฮุนไม่รู้ว่าเขาควรจะตอบจดหมายกลับไปหรือไม่ หรือจะทำอย่างไรต่อไปดี แน่นอนว่าความรู้สึกของเขาถูกซ่อมแซมด้วยลู่หาน
แต่ใจของเซฮุนยังมีความรู้สึกหลงเหลืออีกมากมายหลายอย่างที่ชายหนุ่มยังไม่จัดการ เขาหวังว่าความรู้สึกผิดหวังท้อแท้จากการถูกทอดทิ้งโดยพ่อแม่จะหายไป
หายไปเหมือนกับอาการที่แสดงพฤติกรรมเฉพาะที่ซึ่งบางเบาลงตั้งแต่มีลู่หานมาอยู่ใกล้ๆ
เซฮุนรู้ว่าลู่หานรู้..เด็กคนนั้นรู้ดีว่าความรู้สึกของเขาไมได้ต้องการการรับผิดชอบด้วยการอยู่ห่างๆไม่ให้รำคาญใจ
แต่เป็นการโอบกอดเพียงสักครั้งเพื่อทดแทนความอบอุ่นที่เสียไปมากกว่า
มันเป็นหนึ่งในร้อยเหตุผลที่เซฮุนเรียกลู่หานว่านางฟ้า...
-------------------
คิดถึงหมีมั้ย._.
แท็ก #ฟิคพี่หมีฮุน นะคัพนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น