Title : YOU (Your Ordinary Universe)
Pairing : OHSEHUN x LUHAN x JINGBORAN
Author : RUNAWAY05
Note : นั่ลลัคๆ
เมื่อขบวนรถไฟชะลอความเร็วลงรวมทั้งประกาศให้ผู้โดยสารทราบถึงสถานีปลายทาง
ท่ามกลางผู้โดยสารทั้งหลายที่ทยอยลงปลายทางก็ปรากฏใครคนหนึ่งได้ขนกระเป๋าซึ่งเป็นกระเป๋าเดินทางล้อลากใบเดียวของตนเองลงจากรถ
เด็กหนุ่มรูปร่างกะทัดรัดลากกระเป๋าเดินทางพลางต่อสายหาญาติก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อไม่มีคนรับสาย
จนต้องต่อซ้ำอีกสองสามครั้งถึงจะติด
เดิมทีลู่หานเองนั้นเรียนอยู่มัธยมปลายอยู่โรงเรียนในเมือง
อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในห้องคอนโดที่แสนจะแคบและแพงไปตามเศรษฐกิจของสังคมจีน
มีเพียงช่วงปิดเทอมเท่านั้นที่เขาจะมาพักผ่อนที่บ้านพักของคุณยายซึ่งอยู่เขตเมืองข้างๆซึ่งร่มรื่นและสงบมากกว่า
ลู่หานกำลังจะเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกของเด็กหนุ่มที่จะพกตำราเรียนหลายเล่มใส่กระเป๋าเดินทางมาด้วย
“คุณน้า..ผมมาถึงแล้วนะครับ ให้ผมรอตรงไหนดี”กรอกเสียงพลางสอดส่ายสายตามองหา
ลู่หานเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างเล็กกะทัดรัด เส้นผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตากลมโตหวานราวกับดวงตาของกวาง
จมูกโด่งเล็กปลายรั้นผ่อนลมหายใจเบาๆ ริมฝีปากเล็กเอ่ยถ้อยความตกลงกับปลายสาย
จึงได้กระชับหูลากดึงกระเป๋าไปยังตำแหน่งตามที่ตกลงกับคุณน้า
ผู้เป็นน้องสาวของมารดาซึ่งอาศัยอยู่กับคุณยายและเปิดห้องพักให้แขกเข้ามาอาศัยระหว่างการเดินทาง
จะว่าไปให้เรียกโรงแรมก็คงไม่ถูกต้องนัก อาจจะเหมือนโฮสเทลแบบสมัยเก่า
เพราะดัดแปลงจากบ้านหลังใหญ่สองหลังซึ่งเป็นบ้านของแม่และบ้านของคุณลุงที่ตอนนี้ก็ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ
ตกแต่งภายในและดูแลใหม่จนเป็นเหมือนบ้านเช่าสำหรับให้คนมาเข้าพัก ซึ่งบ้านของลุงนั้นหลังใหญ่กว่าหน่อย
ทำห้องพักได้หลายห้อง แต่บ้านของแม่มีเพียงสามห้อง นั่นคือห้องพ่อแม่ ห้องของเขา
และห้องว่างชั้นบนเหมือนห้องรับแขก
“ขอโทษด้วยนะจ๊ะลู่หาน หนูบอกน้าช้าไปหน่อย
ก็เลยให้คนมาเช่าพักในบ้านไปบ้างแล้วน่ะจ้ะ”ทันทีที่ขึ้นรถปิดประตูเรียบร้อย น้าของลู่หานซึ่งเป็นหญิงสาววัยกลางคนกล่าวอย่างเกรงใจ
ในขณะที่เด็กหนุ่มก็สั่นหน้าเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ให้แขกมาพักดีกว่า ผมนอนที่ไหนก็ได้”
“จะให้นอนกับคุณยายเสียงมันก็คงจะดังเกินไปน่ะซี...จริงสิ
บ้านหลังเล็กมีอีกห้องนะ ถ้าหนูไม่ว่าอะไรอยู่กับแขกไปก่อน แต่เป็นห้องรับแขกนะ”
“ไม่มีปัญหาครับ ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยบอกผมได้เลยนะ”เจ้าตัวยังตอบรับสดใส
น้าสาวจึงคลี่ยิ้มแล้วเอ่ยปากขึ้น
“งั้นอย่างนี้ หนูดูแลแขกสองคนให้น้านะ
เป็นผู้ชายทั้งคู่ล่ะ ยังไงถ้าตื่นทันก็ช่วยเด็กๆเตรียมอาหารเช้าให้แขก
รับตะกร้าผ้ามาที่บ้านใหญ่ แล้วก็ทำความสะอาดห้องพักแขกก็พอ
เดี๋ยวพวกด้านนอกให้เด็กคนอื่นทำนะ เพราะที่ของเราบริการแค่อาหารเช้า
เดี๋ยวมื้ออื่นแขกก็ออกไปหาทานเองล่ะจ้ะ”
“โอ๊ะ โอเคครับ”ตอบรับพลันส่งยิ้มให้
อย่างน้อยก็ดีใจที่เป็นผู้ชายทั้งสองคน หากจะให้ไปบริการผู้หญิงลู่หานก็รู้สึกว่าตนคงทำตัวไม่ถูก
แต่ก็มาหนักใจต่อเพราะไม่รู้ว่าแขกที่มาพักเป็นชาวต่างชาติหรือว่าคนจีนด้วยกัน “คุณน้าครับ..แขก”
“?”
“ไม่ใช่ชาวต่างชาติใช่มั้ยครับ”เลียบเคียงเบาๆเพราะเป็นโรคกลัวฝรั่ง
ซึ่งหญิงสาวได้ยินดังนั้นก็ได้แต่อมยิ้ม
“ไม่เชิงจ้ะ”
“...”
“อ่า..คนนึงเป็นคนจีน
ส่วนอีกคนเป็นนักศึกษามาเรียนในจีน การสื่อสารไม่น่ามีปัญหานะน้าว่า”หล่อนกล่าวพลางหักเลี้ยวรถเพื่อเข้าซอย
“หากคุยไม่เข้าใจยังไง ก็ใช้ภาษามือไปก่อนนะ น้าว่าเขาน่าจะเข้าใจ”
“อ่า โอเคครับ”
“อย่างนั้นก็เอาของไปเก็บแล้วพักผ่อนก่อนนะ แขกคนหนึ่งมาถึงบ่ายสามโมง ส่วนอีกคนมาตอนสองทุ่มครึ่ง
นี่ก็สิบเอ็ดโมงพอดี กินข้าวเที่ยงเลยแล้วกัน”น้าสาวกล่าวรวบรัดและลู่หานก็พยักหน้ารับประสาคนว่าง่าย
หลังจากทานข้าวร่วมกับคุณน้าและคุณยาย เขาก็กลับเข้ามาที่ห้องรับแขก
จัดข้าวของของตนเองอยู่ครู่ในห้องพักแขกเก่าซึ่งเป็นห้องนอนเหมือนโรงแรมทั่วไป มีเตียงพร้อมที่นอน
ตู้เสื้อผ้า โต๊ะขนาดกลางพอให้นั่งอ่านหนังสือได้ ลู่หานเอาตำราออกมาวางกองเต็มเตียง
แต่สมองกลับคิดไม่ออกว่าควรจะทำอะไรกับมันก่อน เขาควรจะหยิบเล่มไหนมาอ่าน
หรือควรทำอย่างไรกับชีวิตต่อไป
เพราะลู่หานเองแทบจะไม่มีคำตอบด้วยซ้ำว่าเขาจะวางอนาคตตัวเองไว้ที่ไหน...
“...”ลู่หานลืมตาขึ้นก่อนจะชันตัวขยี้ดวงตาเล็กน้อย
ใบหน้าง่วงงุนทอดสายตามองไปรอบๆก่อนจะพบว่าตอนนี้เวลาสี่โมงเย็น
แขกคนแรกของบ้านคงมาถึงแล้ว เขายืดตัวเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปล้างหน้าที่ห้องน้ำซึ่งเป็นห้องอาบน้ำสองห้องและห้องน้ำหนึ่งห้อง
และอ่างล้างหน้าที่มีไดร์เป่าผมเสียบไว้ให้อยู่พื้นที่ข้างๆซึ่งตกแต่งแบบเรียบง่าย
มีก้านไม้หอมส่งกลิ่นผลไม้ฤดูร้อนหอมหวาน เมื่อล้างหน้าเรียบร้อย ร่างเล็กก็เดินเข้ามาดูส่วนครัวว่ามีอะไรให้ทำกินหรือไม่
อย่างไม่ทันได้สังเกตว่ามีร่างสูงโปร่งเดินท่อมๆลงมาจากชั้นสองเข้ามาในครัว และยืนมองลู่หานที่ใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงผ้าขาสั้นกำลังยืนโก้งโค้งดูของอยู่ในตู้เย็น
“Excuse me”เสียงทุ้มเนิบๆดังขึ้นทำเอาลู่หานสะดุ้งตัวเล็กน้อย
เขาหันมาก็พบชายหนุ่มร่างสูงผมสีน้ำตาลทองหม่น ดวงตาสีเทาจดจ้องมายังเขา จมูกโด่ง
ริมฝีปากได้รูป เครื่องหน้าสัดส่วนราวกับนายแบบ พวกเขายืนจ้องหน้ากันอยู่พัก
ก่อนที่ลู่หานจะสังเกตนมกล่องในมืออีกฝ่าย
จึงได้รู้จุดประสงค์ว่าอีกคนกำลังจะใช้ตู้เย็น
“เชิญครับ!”
“...”อีกฝ่ายไม่ได้ตอบหรือยื่นไมตรีกลับจนลู่หานรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนซื่อบื้อที่เผลอทำอะไรโง่ๆใส่
เขาถอยตัวออกมาอย่างสงบ โดยที่ชายคนนั้นก็ค้อมศีรษะให้เล็กน้อยก่อนจะออกจากบ้านไป
ทิ้งให้ลู่หานเกาหัวแกร่กๆก่อนจะมองนมยี่ห้อภาษาเกาหลีรูปโดราเอม่อนอย่างไม่มีความคิดเห็นใดใด
วันแรกที่บ้านหลังนี้ของลู่หานดำเนินไปอย่างว่างเปล่า
เขากลับไปอ่านอ่านหนังสือเล่มที่ต้องอ่าน นั่งจดนั่งลองทำจนกระทั่งน้าสาวโทรมาให้ไปทานข้าวเย็นที่บ้านใหญ่
ลู่หานถึงได้รู้ตัวว่าตอนนี้ทุ่มกว่าๆแล้ว
และเขาควรจะทานอะไรสักหน่อยก่อนจะกลับมาอ่านหนังสือต่อ แขกคนนั้นยังไม่กลับมา
และเขาคงต้องถามน้าสาวว่าควรทำอย่างไรกับกรณีนี้
“ขอโทษนะครับที่ผมมาก่อนกำหนด”
เมื่อลู่หานไปที่บ้านใหญ่ก็พบว่าน้าสาวกำลังต้อนรับแขกซึ่งเป็นชายหนุ่มตัวสูงที่หอบสัมภาระมาหลายใบ
เจ้าตัวสวมเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวดูเหมือนนักศึกษา
ชายคนนั้นหันมามองลู่หานอยู่พักก่อนที่คุณน้าจะเป็นคนแนะนำ
“อ่า..นั่นลู่หาน หลานของฉันเองค่ะ
น้องจะช่วยดูแลเรือนที่คุณจิงไปพักผ่อนนะคะ ลู่หาน นี่แขกที่น้าว่า ชื่อคุณจิงป๋อหรันจ้ะ”รอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าของชายหนุ่มที่ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
และลู่หานก็อมยิ้มน้อยๆกลับไปให้
“สวัสดีครับ”
“อ่า..สวัสดีครับ ฝากตัวด้วยนะครับ”ร่างสูงกล่าวพร้อมกับน้าสาวที่ออกปากขึ้น
“เดินทางมาเหนื่อยๆ ถ้าคุณจิงไม่มีนัดหมายที่ไหน
ทานข้าวด้วยกันได้นะคะ”
“อ่า..จะดีเหรอครับ”ดวงตาเรียวสองชั้นหลบในนั้นลังเลอยู่พัก
แต่แล้วก็คลี่ยิ้มน้อยๆออกมาอีกครั้งอย่างเกรงใจ “รบกวนด้วยนะครับ”
“...”
ลู่หานสบตากับผู้ชายคนนั้นอยู่ชั่วครู่
ก่อนจะเบนสายตาออกไปมองทางอื่น...
เหมือนว่าฤดูร้อนนี้กำลังพัดพาอะไรบางอย่างเข้ามาในชีวิตของเขา
“เป็นนักเขียนเหรอคะเนี่ย? โอ๊ะ ดีจังเลย”
คุณน้าเอ่ยปากชมชายหนุ่มซึ่งมาเป็นสมาชิกบนโต๊ะอาหารที่ประกอบไปด้วยคุณยาย
คุณน้า ตัวลู่หานเองและแขกที่ชื่อจิงป๋อหรัน
ดวงตาเรียวชั้นเดียวนั้นหรี่หยีลงอย่างเป็นมิตร ก่อนจะออกปากเนิบๆ
“ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่หรอกครับ
อย่างที่เขาว่าเป็นนักเขียนไส้แห้ง”
“ไม่หรอกค่ะ
คนที่เขียนหนังสือได้เป็นเล่มๆก็ต้องมีจินตนาการ มีความคิดกว้างๆ
เนอะลู่หาน”คุณน้าหันมาหาเด็กหนุ่มที่เอาแต่คีบผัดเห็ดเข็มทองกินกับข้าวไม่พูดคุยกับใคร
โดยใบหน้าหวานนั้นก็พยักหน้าน้อยๆ
“ครับ เก่งมากเลย”
“แต่จะให้ลู่หานไปเขียนบ้างคงไม่ได้ละมัง
ไม่ได้ชอบทางนี้นี่ ใช่ไหม แม่เราอยากให้เรียนอะไรนะ”คุณน้าชวนคุยจนลู่หานเริ่มอึดอัดที่จะพูดอนาคตขึ้นมา
ทว่าสุดท้ายคุณยายก็ส่งเสียงปรามเบาๆ
“อาฮัว...”
“โอ๊ะ ขอโทษด้วยนะจ๊ะ
อุตส่าห์มาพักผ่อนแท้ๆ”เธอยิ้ม “คุณจิงคะ
ลู่หานจะพักเรือนหลังเดียวกับคุณจิงแล้วก็แขกอีกคนหนึ่งค่ะ
หากติดอะไรก็บอกหลานของฉันได้เลยนะคะ”
“อ่า..ได้ครับ”ใบหน้าหล่อนั้นหันมาส่งยิ้มให้
“รบกวนได้นะ”
“ฮะ...”รับคำเบาๆแล้วก็เอาหน้ามุดถ้วยข้าวไปใหม่
โดยที่ป๋อหรันก็แย้มยิ้มนิดๆอย่างนึกเอ็นดู สำหรับลู่หานแล้ว การพูดคุยกับคนแปลกหน้าไม่ใช่เรื่องถนัดของเขาสักเท่าใด
เด็กหนุ่มทานข้าวไปตามปกติและมื้อเย็นก็จบลง
ลู่หานอาสาช่วยป๋อหรันขนของไปที่เรือนด้านในเอง เพราะในห้องพักพวกผ้าขนหนูก็จัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
“หนักมั้ยเรา พี่หิ้วเองได้นะครับ”ชายหนุ่มเอ่ยถามคนตัวเล็กที่สะพายเป้ใบย่อมและกอดกระเป๋าโน้ตบุ๊กให้กับแขกมาถึงบ้านพักที่เปิดไฟด้านหน้าอยู่
ลู่หานจัดการแตะการ์ดเปิดบ้านหลังจากรู้จากน้าสาวว่าถ้าแขกกลับมาดึกก็จะเอาการ์ดแตะเพื่อเข้าบ้านซึ่งเป็นประตูกระจกติดฟิล์มสีดำ
เขาแตะการ์ดพร้อมกับช่วยจิงป๋อหรันขนของมาด้านใน จนเมื่อต้องขึ้นบันได
ป๋อหรันจึงอาสาขนของขึ้นไปเอง เหลือเพียงของเบาๆให้ลู่หานสะพายหลัง
“โอเค ถึงแล้วครับ
เหนื่อยน่าดูเลย”ลู่หานพูดกับแขกอย่างเกรงใจ ห้องพักของป๋อหรันอยู่ชั้นสอง
เดิมเป็นห้องพ่อแม่ของเขาเอง โดยห้องของแขกที่พูดภาษาอังกฤษเมื่อเย็นก็อยู่ตรงข้าม
ส่วนห้องของลู่หานอยู่อีกฝั่ง
ติดกับส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นชั้นบนซึ่งมีชุดรับแขกกับชั้นหนังสือ รวมทั้งกีตาร์
กับทีวีจอแบนติดผนัง
“ไม่เป็นไรครับ เราสิเหนื่อย เหงื่อโชกแล้ว”ชายคนนั้นหัวเราะ
“น้ำดื่มอยู่ชั้นล่างนะครับ ในครัว
ส่วนที่เป็นเหยือกดื่มกินได้เลย
ส่วนเป็นกล่องเป็นขวดของแขกอีกคนน่ะครับ”ลู่หานอธิบายอีกครั้ง
และป๋อหรันก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย
“ตกลงครับผู้จัดการ”
“อ่า..ผมไม่ได้เป็นผู้จัดการสักหน่อย”แย้งเบาพลันเลิกคิ้วเมื่อจิงป๋อหรันกล่าวขึ้นยิ้มๆ
“ตกลงครับหนู”
“หนู?”ร้องเสียงสูงพลันชีนิ้วหาตนเอง “ผม?”
“ใช่..หนู เราคงอยู่กันหลายวัน
งั้นเรามาเรียกกันแบบสบายๆนะ เรียกนี่ว่าเฮียได้เลย”ชายหนุ่มยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
ในขณะที่ลู่หานยังคงงุนงงกับทุกอย่างที่ดูปุบปับ
“แต่ว่าผม...”
“อ่า..ไม่ได้นะ
แทนตัวว่าหนูสิ...คุณน้าคงไม่ชอบถ้าขัดใจลูกค้านะ”ดวงตาเรียวพราวระยับจนเด็กน้อยถึงกับเผลอคว่ำปาก
“เอาล่ะครับหนู เฮียต้องจัดของแล้ว”
“ผมไม่พูดหรอก”แม้จะรู้สึกตลกสรรพนามที่ช่างน่าขัดเขิน
ทว่าลู่หานก็แย้มยิ้มออกมาอย่างไม่โกรธขึ้งอะไร “อย่างนั้นราตรีสวัสดิ์นะครับ
อาหารเช้าเจ็ดโมงถึงเก้าโมงเช้า ลงมาไม่ทันผมเก็บนะ”
“เดี๋ยวมารอตั้งแต่หกโมงเช้าเลยครับ”คำพูดทีเล่นทีจริงของป๋อหรันทำเอาอีกฝ่ายอมยิ้มจนแก้มตุ่ย
เมื่อเริ่มเกิดความรู้สึกคุ้นเคยเป็นกันเองมากขึ้น
ลู่หานพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะขอตัวกลับห้อง เหลียวหน้าไปมองอกรอบตอนจะเปิดประตูเข้าห้องก็พบอีกฝ่ายกำลังยักแย้ยักยันขนสัมภาระเข้าไปข้างใน
แต่ไม่วายยังโบกมือส่งยิ้มให้อีกทีหนึ่ง
อ่า...มีเพื่อนไว้ก็ไม่เสียหายล่ะนะ...
ลู่หานกลับมาเปิดตำรานั่งอ่านหนังสือ
แวะไปเล่นโซเชี่ยลคุยกับเพื่อนๆที่ใช้เวลาปิดเทอมกับการไปเที่ยวเมืองนอกหรือใช้ชีวิตกับการติวหนังสือที่สถาบัน
ทุกคนมีจุดมุ่งหมายว่าจะเรียน เพื่อที่จะมีอนาคต กับไม่เรียน
เพื่อที่จะออกแบบเส้นทางเดินของตัวเอง
เหมือนทุกคนต่างย่างเท้าก้าวไปในเส้นทางที่ตัวเองเลือก
เหลือเพียงเขาที่ยังยืนอยู่ที่จุดเริ่มต้นอย่างไม่เห็นเส้นชัย
“หิวน้ำแฮะ”ลู่หานพึมพำเบาๆก่อนจะสังเกตว่าตนเองไม่ได้หยิบน้ำจากด้านล่างมาไว้ดื่ม
ร่างเล็กลุกขึ้นเดินออกจากห้องโดยไม่ลืมที่จะล็อคห้องอย่างเรียบร้อย เขาค่อยๆก้าวไปตามบันไดที่ติดไฟสลัว
เท้าเล็กย่างเตาะแตะลงมาถึงครัว ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งอยู่หน้าตู้เย็น
ตอนแรกลู่หานคิดว่าเป็นจิงป๋อหรัน แต่คำตอบคือเปล่าเมื่อใบหน้านั้นเบี่ยงมามองท่ามกลางแสงจากตู้เย็น
“ฮะ...ไฮ”ลู่หานเอ่ยทัก
และอีกฝ่ายก็พยักหน้าเล็กน้อย “คุณกลับมาตอนไหน...อ่า เว็นยูคัมแบ็ค..ทูเฮีย..ใช่เฮียมั้ยนะ
หรือเฮ้าส์”
“ฮึ..”เสียงหัวเราะพ่นลมทำให้ใบหน้าหวานเงยขึ้น “กลับมาสักพักแล้วครับ”
“...”ดวงตากลมโตเบิกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงทุ้มติดแหบนิดๆ
พลันรีบฉกมือกับขวดน้ำทันทีที่อีกคนเบี่ยงกายให้
ลู่หานส่งยิ้มแห้งๆก่อนผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก “ขอบคุณครับ...คุณพูดจีนได้ผมก็โล่งใจแล้ว”
“?”
“คือน้าผมให้ผมดูแลแขกที่บ้านหลังนี้ครับ
กลัวว่าถ้าเจอฝรั่งจะคุยไม่รู้เรื่อง..เอ้อ..ผมไม่ถนัดภาษาอังกฤษเท่าไหร่”กล่าวเสียงเบาหวิวพลันเชยตามองอย่างลอบดูอาการฝั่งตรงข้ามว่าจะนิ่งเงียบอีกหรือไม่
แล้วก็พบเพียงดวงตาคมหรี่ลงเป็นเชิงยิ้มนิดๆ ใช่..ดวงตาคม คิ้วเข้มได้รูป จมูกโด่ง
ริมฝีปากรับกันอย่างไม่มีตรงไหนผิดเพี้ยน
“ผมนึกว่าคุณเป็นแขกด้วยกัน..ก็เลยไม่ได้ทักทาย
ผมชื่อโอเซฮุน รบกวนด้วยครับ”กล่าวเท่านั้นพลางขยับตัวโดยที่ลู่หานก็ทำตัวลีบชิดผนัง
เพิ่งสังเกตว่าอีกคนสวมเพียงเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงนอนขายาวสีเทา
และเหมือนจะไม่ได้สวมอันเดอร์แวร์…
“โอ๊ะ?”ลู่หานที่หันหน้าหนีก็เผลอร้องในลำคอเมื่อสัมผัสถึงความเย็นที่แก้ม
ก่อนจะรับกล่องนมมาถือ โดยที่ใบหน้านิ่งๆนั่นก็ขยับเป็นเชิงให้รับไป
และเจ้าตัวก็ดูดน้ำนมอีกกล่องเดินขึ้นบันไดกลับห้องพัก ลู่หานมองกล่องนมช็อคโกแลตรูปโดเรม่อน
ก่อนจะหันไปขมวดคิ้วกับตู้เย็นเมื่อเจ้านมกล่องๆหนึ่งเมื่อเย็นได้งอกลูกหลานออกมาประมาณสองแพค
มันอร่อยมากจนถึงขั้นต้องกักตุนเชียวหรือ นมช็อคโกแลตในจีนดาษดื่นถมไป
ลู่หานยู่หน้าพลันหยิบขวดน้ำกลับขึ้นมาในห้อง โดยฉวยเอากล่องนมจากผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนติดมือมาด้วย
เขากลับมา นั่งอ่านหนังสือและเจาะนมกล่องนั้นดื่มก่อนที่มันจะหายเย็น
“ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหนเลย”
พึมพำกับตัวเองเพราะรสชาติก็ไม่ต่างไปจากนมช็อคโกแลตที่เขาเคยดื่ม
ลู่หานนั่งอ่านหนังสืออยู่พักก็กลับมานอนแผ่มองผนังสมองว่างเปล่า
ตำราที่อ่านไปไม่เข้าหัวเพราะไม่รู้ว่าอ่านไปแล้วเขาจะได้อะไร
เข้ามหาวิทยาลัยไปแล้วเขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่แบบไหน มีชีวิตอย่างไร...
หากในสมองของคนเราคือจักรวาลๆหนึ่ง..จักรวาลของลู่หานในตอนนี้ก็ช่างว่างเปล่าราวกับพื้นที่ว่างรกร้างเหลือเกิน...
********************
#YOUhhb
งานดีค่ะ ชอบมาก
ตอบลบ