วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

[SF] Hard to say I LOVE YOU {ZITAO x JONGIN} 2/3







Title : Hard to say… I LOVE YOU 2/3
Author : RUNAWAY05
Couple : ZITAO x JONGIN
Note : ตะเปคนไข้ของจงแด...สาวดุ้นและหนุ่มถ้ำมอง....ตอนสองจ้า

*******************




“ผมจงอินนะครับ ผมต้องการพบคุณหมอจงแดด่วนเลยครับ”

((ตอนนี้หมอติดคนไข้อยู่น่ะครับ))

“ด่วนจริงๆนะครับคุณบยอน ผมต้องการพบคุณหมอจงแดเดี๋ยวนี้... ผม-ต้อง-การ-พบ-เดี๋ยว-นี้!

จงอินเผลอเหวี่ยงปลายสายไปอย่างร้อนรน ไม่บ่อยนักที่เขาจะมีอาการแบบนี้ยกเว้นเสียแต่ว่าตอนนี้เขาร้อนใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ หมอนั่นเห็นห้องแห่งความลับของเขาแล้ว..ทีนี้เขาควรจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ...






“จะทิ้งทั้งหมดเลยเหรอครับ?”

นายแพทย์จงแดอุทานอย่างแปลกใจเมื่อหวงจื่อเทาวางกล่องกระดาษที่เต็มไปด้วยรูปสาวน้อยในชุดแบบต่างๆซึ่งเห็นอย่างมากสุดคือปลายคางของเธอคนนั้น โดยที่ชายหนุ่มก้มองกล่องใบนั้นอย่างสิ้นศรัทธาพลางบอกคุณหมอเสียงเนือย

“ครับ ผมจะไม่ถ่ายเธออีกแล้ว”

“ไหนว่าเลิกไม่ได้ไงละครับ...”

“งั้นหมอก็เอาไว้ดูเองนะครับ..รักร้อยปีมันสลายลงไปแล้ว”จื่อเทาว่าพร้อมกับถอนใจเฮือก จนจงแดเงยหน้ามองพลันส่งเสียงอย่างแปลกใจ

“ไปเจออะไรมาเหรอครับ?”

“...”

“นั่งลงก่อนนะ ความจริงผมก็มีจุดที่อยากจะบอกคุณตั้งแต่เมื่อวาน แต่ผมก็ไม่ได้พูดเพราะคิดว่านี่มันเป็นสิ่งที่ทำให้คุณพอใจ”จงแดโคลงศีรษะ “แต่คุณดูนี่นะ สังเกตเหมือนผมมั้ย? ผมของเธอมีประกายออกมามากเกินไป..เหมือนกับวิกผม เพราะเส้นผมโดยธรรมชาติของมนุษย์ไม่มีทางที่จะสะท้อนแสงได้มากขนาดนี้หรอกนะครับ”

“...”

“แล้วสิ่งที่คุณไปเจอมาก็คือ...”

“เขาเป็นผู้ชายครับ”จื่อเทาโพล่งออกมาในที่สุด “เขาเป็นลูกค้าใหม่ผมเอง เขารู้จักกับลูกค้าที่ผมดูแลอยู่และกำลังจะทำคอร์สกับผม แล้วพอจะกลับบ้าน เขาก็ขอให้ผมไปส่งเขาที่คอนโด...แล้วก็...”

“คุณก็เสียตัวให้เขาใช่มั้ยครับ...”

“ไม่ใช่ดิหมอ ผมนี่แหละทำ! ไม่รู้หน้ามืดทำไปได้ไง ผมจำได้ว่าเขาใส่ทีสตริงลูกไม้สีขาว แล้วก็...ฮื้อออ....”หวงจื่อเทายกมือปิดหน้าเป็นสาวน้อยเสียบริสุทธิ์ใส่คิมจงแดที่ลอบมองบนอยู่พักก่อนจะประนีประนอมด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล

“ใจเย็นๆนะครับ ค่อยเล่านะครับ ระบายออกมา”

“พอผมตื่นขึ้นมาแหละหมอ จะไปอาบน้ำไง จู่ๆผมก็สังหรณ์ใจกับตู้เสื้อผ้าเขาแปลกๆ ผมเลยเปิดดู อู้หู...ชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ ชุดนักเรียนญี่ปุ่น มีหมดยันชุดแคปการ์ดซากุระ ชุดแม่มดน้อยโดเรมียังมีเลยครับ แล้วผมก็ไปเจอวิกผมอันนั้นแหละ อันที่คุ้นตาผม ผมเลยไปเปิดหน้าต่างห้องดู แล้วหมอรู้มั้ยว่ามันเกิดอะไร ห้องที่อยู่ข้างบนห้องนี่แต่เป็นตึกตรงข้ามน่ะห้องผมเอง! ผมส่องสาวดุ้นมาเป็นเดือนแน่ะหมอ เสียใจโว้ยยย อ๊ากกกก!@$@%@^#^&&&**!!!

“ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะครับ...แต่พวกคุณก็มีอะไรกันแล้วนะยังไงก็..ปรับความเข้าใจเพื่อการทำงานเถอะนะครับผมว่า”

“เขาเรียกผมไอ้ถ้ำมอง..เขารู้เพราะเขาเห็นผมแอบดูลูกค้าในห้องอาบน้ำอะครับ”

“คุณนี่มันจริงจริงเล้ย...”

“เขาจะยอมมาเทรนกับผมมั้ยก็ไม่รู้ โฮ้ย! ปวดหัวโว้ย!!

“เอาล่ะครับใจเย็นๆนะครับ ค่อยๆแก้ปัญหาไป ตอนนี้คุณไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ยังไงก็คุยกับเขาให้เรียบร้อยก่อนนะครับ เพราะอย่างนี้มันก็เข้าข่ายต่างคนต่างเห้นความลับกันนะผมว่า”

“?”

“เขาเห็นคุณแอบดูลูกค้า แต่คุณก็เห็นคอลเลคชั่นของเขาแล้วนี่ครับ ยังไงเจรจากันไว้น่าจะดีกว่า”

“นั่นสินะครับ...”จื่อเทาครางพลางซบหน้ากับโต๊ะ

“เดี๋ยวหมอสั่งยากล่อมประสาทกับวิตามินรวมให้นะครับ เดี๋ยวไปรับที่เคาน์เตอร์หมอแบคฮยอนได้เลยนะ”จงแดกรอกเอกสารก่อนจะยื่นให้จื่อเทาที่พยักหน้าแล้วลากตัวออกไปจากห้องอย่างห่อเหี่ยว สมองของเขากำลังคิดไปต่างๆนานา แบลคเมลดีมั้ยนะ ถ้าเล่าเรื่องเขาแอบดูลูกค้าเขาก็จะแฉเรื่องกางเกงในลูกไม้... จะบ้า.. ไม่เอาหรอก

“หมอ...มารับยาอะ”จื่อเทาเกยคางกับเคาน์เตอร์มองคุณหมอตัวเล็กตาเป๊ะที่เหลือบมองเขาเล็กน้อย

“คิดไงหน้าสดมาข้างนอก ไหนเคยบอกว่าถ้าไม่เมคอัพจะไม่ออกจากบ้านไง”

“ถึงใส่แว่นกันแดดไงล่ะหมอ เอายามาผมจะจ่ายตัง”

“หูย รีบร้อนคึกคักน่าดู”แบคฮยอนบึนปาก ก่อนจะหันไปจัดยาตามใบสั่งที่นางพยาบาลเอามาส่ง “วิตามินกินหลังอาหาร  ยาตัวนี้ก็ก่อนนอน กินแล้วนอนพักเยอะๆจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน”

“ปกติก็ไม่ฟุ้งซ่านนะ”

“โกหกจนขอบตาดำเลยนะเจ้าหมีแพนด้านี่”

“รู้แล้วล่ะน่า”จื่อเทาร้องอย่างเซ็งๆก่อนจะส่งบัตรเครดิตและรับใบเสร็จมาเซ็น ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงคุ้นๆดังมาจากข้างหลัง

“คุณหมอบยอน หมอจงแดว่างรึยัง...ครับ?”

ปลายเสียงเบาลงพร้อมกับจื่อเทาที่หันไปและพบว่าน้ำเสียงคุ้นเคยนั้นเป็นของคิมจงอินที่วันนี้สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ทับด้วยฮู้ดสีเทาตัวใหญ่ๆ ใบหน้าสีแทนๆนั่นซีดเผือดขึ้นมาพอๆกับจือ่เทาที่มองลอดแว่นมองจงอินที่ทำปากพะงาบๆอยู่พักใหญ่ก่อนจะตะโกนออกมาลั่น

“ไอ้ถ้ำมอง!!!





“ก็รู้นะครับว่าตกใจ..แต่การตะโกนไปแบบนั้นมันจะทำให้คนอื่นมองคุณจื่อเทาไม่ดีนะครับคุณจงอิน”

จงแดเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างอ่อนใจ ตรงหน้าของเขาคือคนไข้ทั้งสองคนในความดูแล ทั้งหวงจื่อเทาที่กำลังจะออกไปและคิมจงอินคนที่กำลังจะมาขอรับคำปรึกษา ซึ่งท่าทางของจื่อเทาดูผิดปกติไปเล็กน้อยบริเวณมุมปากที่มีรอยพลาสเตอร์แปะอยู่ และจงอินก็นั่งก้มหน้าเพื่อหลบสีหน้าไม่พอใจเพราะไม่อยากให้จงแดเห็น

“แต่หมอนี่เป็นถ้ำมองนะครับคุณหมอ หมอนี่มันโรคจิต”

“ซื้อชุดชั้นในผู้หญิงมาใส่นี่ปกติชนจังโนะ”หวงจื่อเทาว่า

“...”

“คุณจงอินครับ... ถ้าถามว่าสมัยนี้มันมีรึเปล่ากับกลุ่มผู้คนที่ไม่เคยกระทำการกามวิตถาร...มันไม่มีเลยครับ พวกเราต่างคนต่างก็กระทำสิ่งพวกนี้กันทั้งหมด ทั้งผม และพวกคุณ พวกเราไม่ต่างกัน”

“คุณหมอ...ใส่ชุดแมวเหมียวแล้วแอบดูห้องข้างๆเหรอครับ”จงอินแอบถามก่อนจะก้มหน้าหนีสายตาของจงแด

“สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ใช่ความผิดปกติหรือเบี่ยงเบนนะครับ แต่เรียกว่าความหลากหลายของพฤติกรรมทางเพศ อย่างผมมีแฟนเป็นพนักงานบริษัทไอที เขาเป็นผู้ชาย เรามีเซ็กซ์ด้วยกัน นั่นก็คือกามวิตถารชนิดหนึ่งแล้ว หรือบางการกระทำที่สังคมยอมรับและนิยมทางเพศ เช่นการมีเซ็กซ์ด้านหลัง การใช้ริมฝีปาก กลับหัวกลับหางใช้ท่าใช้สูตร นั่นคือกามวิตถารแล้วครับ เว้นแต่คนหนึ่งอาจจะมีแค่อย่างเดียว สองอย่าง สามอย่าง แล้วแต่สภาพจิตใจของแต่ละคนครับ ผมก็เหมือนพวกคุณ และหน้าที่ของผมคือให้คำปรึกษากับพวกคุณ เพื่อให้คุณเผชิญกับสังคม เผชิญกับโลก หรือใครก็ตามที่ไม่เข้าใจ”

“...”

“คนไข้ของผมแต่ละคนผมคัดสรรมาแล้ว ทุกคนต่างมีจุดที่ต้องรักษาด้วยยาและการเยียวยาทั้งนั้น ฉะนั้น ได้โปรดอย่างดูถูก หรือเหยียดใครเลยนะครับ”

“ผมขอโทษครับ...”จงอินรับคำอ่อยๆ

“เอาล่ะ ทีนี้มาคุยกันนะ พวกคุณสองคนต่างมีจุดที่ต้องมาเจอกัน แม้ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้เกิดไปแล้ว ถ้าพวกคุณไม่ติดใจ ก็ขอให้ลืมมันและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้มั้ยครับ อย่างนั้น...มันคงดีสำหรับพวกคุณทั้งสองคน”

“เอ่อ..”จงอินทำท่าอ้ำอึ้ง โดยที่จื่อเทาก็พูดขึ้นเบา

“ได้หมอ แค่นี้เอง”

“...”

“งั้นผมกลับบ้านละ ง่วงนอน”ชายหนุ่มกล่าวเท่านั้นก่อนจะลุกขึ้นสาวเท้าจากไป ปล่อยให้จงอินหันรีหันขวางอยู่พักก่อนจะขอตัวกับจงแดแล้ววิ่งตามจื่อเทาออกมาเช่นกัน สองฟากถนนสาวๆต่างเหลียวมองหนุ่มหล่อสองคนที่เดินตีคู่กันอยู่โดยไม่ได้พูดอะไรต่อกัน เวลาผ่านไปได้สักพักใหญ่ก็เป็นคิมจงอินที่เอื้อนเอ่ยออกมาแผ่วๆ

“เอ่อ...ขอโทษนะ”

“?”

“ที่ต่อย”

“...”

“แล้วก็ว่านายแบบนั้น...คุณหมอพูดถูก ฉันไม่ควรไปว่าใครทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีกว่าสักนิด”

“เข้าใจได้แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ”จื่อเทากล่าวพลางก้าวเดินไปข้างหน้าโดยที่จงอินก็ก้าวตามทันที

“เฮ้ย แล้วจะไปไหนล่ะ”

“ก็ไปนอนน่ะสิ นายก็กลับไปนอนไป๊ นี่ก็คงจะลางานเหมือนกันสิท่า”

“เอ่อ...เออ...”พยักหน้าก่อนจะหันหน้าไปแยกทางเดิน ทว่าจู่ๆจื่อเทาก็กล่าวออกมาเสียก่อน

“นี่”

“?”

“เมื่อคืน...ฉันจำได้แล้ว...”

“อะไร?”

“เปล่าหรอก...พาไปห้องหน่อยสิ”

“เอ๋?”

“คือ...เหมือนจะลืมของ”

“เดี๋ยวฉันเอาไปให้ที่ฟิตเนสก็ได้”

“ฉันรีบใช้ ไปเถอะ”จื่อเทาตัดบทก่อนที่จะเดินไปยืนรอที่รถของจงอินซึ่งแอบกลอกตา..นี่อะไรของเขากันเนี่ย... จงอินบู้ปากเล็กน้อยแล้วตามมาเปิดรถเพื่อขับไปยังห้องคอนโดของตัวเอง หลังจากมองตามหลังจื่อเทาอย่างระแวงๆ แต่อีกคนก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรในหัวตลอดเวลา

หรือว่า..จะฆ่าเขาหมกชุดชั้นในเพื่อปิดปาก...

จงอินถึงกับตาตั้งเมื่อจินตนาการถึงหวงจื่อเทาที่หยิบมีดทำครัวออกมาถือพลางแสยะยิ้มมองเขา เริ่มจากจิกหัวโขกผนังก่อนแล้วเอาจีสติคอลเลคชั่นของวิคตอเรียซีเครทรัดคอเขาแล้วทิ้งศพไว้ในตู้ที่เต็มไปด้วยชุดคอสเพลย์...

“ฉะ..ฉันไม่พูดเรื่องนั้นหรอกนะ จริงๆ”

“?”จื่อเทาเลิกคิ้วเมื่อจู่ๆคิมจงอินก็พูดพรวดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากให้จงอินเปิดประตูเข้าไป จงอินที่ใจตุ้มๆต่อมๆกลัวจะถูกฆ่า ในใจภาวนาหาพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดด้วยความหวาดหวั่นเมื่อจื่อเทาเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะเดินเลยไปห้องนอนพร้อมกับพูดขึ้น

“พอดี...คอลเลคชั่นของนายมันน่าสนใจน่ะ”

“ห๋า”

“ฉันว่า...ฉันอยากลองใส่ดู จะว่าอะไรมั้ย”

เจ้าของห้องทำตาปริบๆใส่อีกฝ่ายที่ทำหน้านิ่งกลับมาก่อนจะพยักหน้าแล้วเริ่มพูดขึ้นอย่างระแวดระวัง “นายชอบแบบไหนล่ะ?”

“ชุดชั้นใน..แพนตี้แบบระบาย..แบบมีกระโปรงน่ะ ถ้ามันสวยฉันจะขอซื้อต่อ”

“นายนี่ก็รสนิยมดีนี่นา ฉันก็ชอบแบบนี้นะสวยดี”เผลอพูดก่อนจะสะดุ้งหลังตรง โดยจื่อเทาก็ถือวิสาสะเดินไปค้นเลือกชุดๆนึงมาถือไว้ ก่อนจะหันไปหาจงอิน

“นายก็แต่งเป็นเพื่อนฉันหน่อยดิ”

“ห๋า”

“อย่าชักช้านักสิ”

“แต่ฉันไม่ได้บอกว่าจะขาย”

“นี่”จื่อเทาทำเสียงเข้ม “มันไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะถ้านายไปบอกผู้จัดการว่าฉันกำลังทำท่าเหมือนแอบดูลูกค้าในห้องอาบน้ำ แล้วฉันบอกว่าได้ยินเสียงแปลกๆและประตูก็ปิดไม่สนิทเลยส่องดู”

“...”

“แต่ถ้าฉันบอกคุณยูชอนว่านายสะสมชุดชั้นในเอาไว้เยอะมาก พ่วงด้วยคอลเลคชั่นเซเลอร์มูน นายจะบอกว่าอะไร? งานอดิเรก?”

จงอินกัดปากก่อนจะกำหมัดแน่น พลันเดินไปฉวยชุดชั้นในคล้ายกันอีกชุดที่เป็นสีขาว-น้ำเงินเข้ม โดยที่จื่อเทาเองก็หยิบชุดแบบสีน้ำตาลครีมไปพร้อมทำท่าเข้าห้องน้ำ

“ขอเปลี่ยนในห้องน้ำนะ”

“เออ”รับคำก่อนจะทำหน้าม่อย นั่นสินะ...ต่อให้มองความเป็นจริงจงอินก็ไม่สามารถทำอะไรคนๆนี้ได้อยู่แล้ว ในเมื่อสิ่งที่หมอนั่นทำมันสามารถแก้ตัวได้ แต่สิ่งที่เขาทำไม่ใช่เช่นนั้น จงอินค่อยๆถอดเสื้อตัวเองออกแลวเริ่มจากใส่บราที่เป็นตะขอด้านหน้า ก่อนจะเริ่มถอดกางเกงและกางเกงในออกเพื่อใส่แพนตี้แบบกระโปรง... เทรนเนอร์คนนั้นจริงๆก็ชอบแบบนี้สินะ อย่างที่หมอจงแดว่าอาการแบบนี้ไม่ได้มีแค่หนึ่งคนหนึ่งอย่าง ไหนๆก็ไหนๆเขาจะใส่วิกเข้าไปด้วยละกัน ...หมอนั่นไม่ได้ใส่วิกออกมาคงหัวโปกน่าดู

“จะออกไปแล้วนะ”

“อือ”เสียงในห้องน้ำดังขึ้นและจงอินที่สยายวิกเสร็จก็ตอบรับ บานประตูเปิดออกและจงอินก็ยืนนิ่งเมื่อพบว่าอีกคน....ไม่ได้เปลี่ยนชุดแต่อย่างใดแถมใส่ชุดเดิมเป๊ะ

“เฮ้ย! นี่หลอกฉันรึไงวะ!!”จงอินโวยในขณะที่จื่อเทาก็สาวเท้าเข้ามาหาก่อนจะจ้องไปทั่วใบหน้าของจงอิน “อ..อะไร”

“ไม่ได้แต่งหน้าใช่มั้ย?”

“ใครจะไปแต่ง อยู่บ้านเฉยๆ ขี้เกียจล้าง ว่าแต่นายหลอกฉันทำไมเนี่ย แกล้งฉันไม่พอเรอะ”

“เปล่าหรอก”

“...”

“แค่อยากเห็น...”ดวงตาคู่นั้นกวาดมองจงอินที่รีบยกมือปิดลำตัว แล้วมันเรื่องอะไรที่เขาต้องมาปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้กะเหรี่ยงเชยชมแบบนี้ด้วยวะเนี่ยห้ะ...

“เห็นแล้วก็พอ..พอใจแล้วใช่มั้ย? จะได้ถอด..แม่ง..ว้าก!!”บ่นอุบอิบแต่เท้าก็ดันลื่นกางเกงที่ถอดกองกับพื้น ร่างของจงอินถลาไปข้างหน้าซึ่งจื่อเทาก็คว้าตัวเอาไว้ได้ทันท่วงที

“...”

“ปล่อย...”จงอินพึมพำพลางขยับตัว แต่ก็ต้องนิ่งไปเมื่อจื่อเทาพูดขึ้นเรียบๆ

“ก็ไม่ได้อ้วนอะไรนี่...มวลร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ต้องลดน้ำหนักหรอก แค่กระชับส่วนของร่างกายก็พอ...อย่างหน้าท้อง”ใบหน้าของจงอินร้อนวาบเมื่อฝ่ามือของจื่อเทาปัดผ่านช่วงหน้าท้อง “แล้วก็ต้นขา”

“เฮ้ยๆ...อย่ามาลูบตัวชาวบ้านตามใจชอบดิ”

“แล้วก็..ต้นแขน”ฝ่ามือของหวงจื่อเทาไล้ขึ้นก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างของจงอินโอบรอบคอตนเองไว้ พร้อมกับจับช่วงก้นอีกคนยกขึ้นโดยจงอินเองก็เผลอเกี่ยวขากับช่วงเอวอีกคนอัตโนมัติ จื่อเทายิ้มมุมปากให้กับจงอินที่หลบตาหนีหน้ากะเหรี่ยงๆของอีกคนไปเสีย พร้อมกับเสียงของเทรนเนอร์ที่เอ่ยแผ่ว

“ลดไม่ยากหรอก...คอร์สเบาะๆก็พอ”

พวกเขามองหน้ากันสักพัก... และลงท้ายด้วยปลายเท้าของจงอินที่ชี้ขึ้นอากาศหลังจากนั้น...







“นายน่ะจะจุ้นจ้านเรื่องชาวบ้านไปแล้วมั้งหวงจื่อเทา”

แบคฮยอนเอ่ยทักขึ้นในร้านเหล้าตรงข้ามคอนโดหลังจากจื่อเทานัดพบ และตอนนี้จงอินกำลังนอนหลับสนิทอยู่ที่ห้องเมื่อกิจกรรมได้จบสิ้นลงได้สักพักใหญ่ จื่อเทาไม่ได้รู้สึกว่ามันเลวร้ายอะไรนักหากที่จะได้หลับนอนกับคิมจงอินวิศวกรที่ดูเรียบร้อยและซื่อๆซึ่งความจริงแล้วก็เข้ากับชุดชั้นในของวิคตอเรียซีเครทดี เขาไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่...เขารู้แค่ว่าตอนนี้เขามีเรื่องที่ต้องทำเท่านั้น

“เอาน่ะหมอ ที่ผมโทรมาขอไว้ก่อนหน้านี้ได้เรื่องรึเปล่า”

“อืม...ลีแทมิน..ลูกค้าเก่าของนายน่ะนะ ใช่...คนๆนี้เหมือนเคยมีความสัมพันธ์กับคุณจงอินตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายแล้วล่ะ เรื่องนี้ก็อย่าไปพูดกับจงแดล่ะว่าฉันเอามาปูด”เภสัชหนุ่มจุดบุหรี่สูบ “ส่วนที่ให้แกะเลขบัตรเครดิตที่คุณจงอินจ่ายค่ารักษา ฉันให้คนตรวจสอบดูแล้ว มีการโอนเงินทีละมากๆออกจากบัญชีจริงๆ แต่นานๆครั้ง และบัญชีปลายทาง”

“...”

“คือลีแทมิน”

“เฮอะ!”จื่อเทาหัวเราะในลำคอก่อนจะรับเอกสารเหล่านั้นมา ซึ่งแบคฮยอนก็กระดิกมาร์ตินี่เข้าลำคอพลันเอ่ยถาม

“ว่าแต่เอาไปทำไม”

“...”

“จงแดเล่าให้ฉันฟังแล้วนะ ว่าเขาให้นายกับคุณจงอินอย่าไปยุ่งกัน ทำเป็นลืมกันไปซะก็จบ สังคมนายกับเขาต่างกัน ไม่มีอะไรเกี่ยวพันกันอย่างแน่นอน ถึงมีก็นิดเดียว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหา นายก็อย่าเอาตัวเองไปเกี่ยวนัก”ร่างเล็กพ่นลมหายใจออกมาเป็นควันก่อนจะนิ่งไปเมื่อจื่อเทากล่าวออกมาเรียบๆ

“คืนวาน..ที่ผมเผลอไปน่ะ...ผมจำขึ้นมาได้อย่างนึง”

“...”

“เขาร้องออกมาว่า... แทมิน...อย่า ....แล้วก็ร้องไห้”

“ห๋า?”

“ลีแทมินเคยเป็นเทรนกับผมตอนโมเดลลิ่งให้มาปรับร่างกายก่อนเดินแบบ...แต่คุณแทมินทั้งน่ารักผอมบาง เจ้านั่นดูล่ำกว่าเห็นๆ...”

“คุณแทมินอะไรนี่คงทิ้งคุณจงอินไปละมั้ง”

“ผมไม่คิดแบบนั้น..แต่ก็ช่างมันเถอะ”จื่อเทาลุกขึ้นโดยที่แบคฮยอนก็เอ่ยปากออกมาทันกัน

“อย่าลืมค่าเอกสารล่ะ”

“...”จื่อเทาเปิดแอพลิเคชั่นธนาคาร ก่อนจะโอนค่าจ้างให้กับเภสัชกรที่รับงานพิเศษพลันสาวเท้าออกจากร้านไป มันไม่ใช่หรอก... ใครๆอาจคิดแบบนั้นถ้าได้ฟังปากเปล่า แต่กับตัวเขาที่สัมผัสจงอินไปถึงสองครั้งมันไม่ใช่แบบนั้น...

มันเลวร้ายกว่านั้น....




วันนี้จงอินมาทำงานปกติก่อนจะให้เหตุผลกับรุ่นพี่ทั้งหลายว่าเขาเป็นภูมิแพ้และตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เขาไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าเรื่องเมื่อวานมันค่อนข้างดี ก็ไม่รู้สินะ...อาจเป็นเพราะเขาติดกับเซ็กซ์ทอยมากไปเวลาอยากจะรับ เลยลืมความรู้สึกเวลาเจอของคนจริงๆไปละมัง

ไม่ใช่หรอก...เขา...เขาไม่เคยมีอะไรกับคนจริงๆมานานแล้ว..ตั้งแต่ตอนนั้น...

แม้จะรู้สึกรังเกียจแต่กลับติดใจขึ้นมา.... แม้รู้สึกเจ็บปวดแต่ชอบที่จะให้มันเป็นแบบนั้น...เพราะถ้าไม่มีเหตุการณ์นั้น...เขาก็คงไม่ค้นพบตัวเองว่ามีรสนิยมแบบนี้

“กลับแล้วนะครับ”เอ่ยกับบรรดารุ่นพี่เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ส่วนของเขาก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยดี ไม่ต้องคุมส่วนไหนอีก รอแค่คนงานเก็บงานให้เรียบร้อยและให้ช่างมาตกแต่งเพิ่มเติมก็พอ

“เดินทางดีๆนะ ฟิตเนสวันนี้ก็พยายามเข้าล่ะ”กวางซูป้องปากกลับมาและจงอินก็ส่งยิ้มไปให้ ก็จริง...หมอจงแดพูดถูกว่าพวกเขาสามารถทำเป็นลืมไปก็ได้ ถึงจะเผลอมีอะไรกันซ้ำอีกรอบก็เถอะ แต่อย่างว่า..มีครั้งแรกย่อมมีครั้งต่อไป ยังไงซะจงอินก็สามารถทำเป็นลืมไปได้แน่นอน จงอินขับรถมาถึงฟิตเนสก่อนจะเข้าไปแต่งตัวจนเรียบร้อย แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าเทรนเนอร์ที่มาดูแลเขาไม่ใช่กะเหรี่ยงถ้ำมองคนเดิม

“เอ่อ..คือ...เทรนเนอร์ของผม...”

“อ่อ จื่อเทาไม่สบายน่ะครับ คงจะเป็นภูมิแพ้ ผมเลยมาดูแลก่อนหนึ่งวัน หวังว่าจะไม่ว่ากันนะครับ วันนี้ตารางที่เขาทำไว้คือเดินบนลู่วิ่งช้าๆครับ ว่าแต่คุณสนใจซุปเปอร์ฟิตมั้ยครับ? มันคือโปรตีนสร้างกล้ามเนื้อน่ะครับ ทานแล้วมีพลังปึ๋งปั๋งกล้ามเต็มหกห่อแปดห่อสิบสองห่อตามลำดับเลยนะครับ แล้วก็นี่นะครับน้ำมันนวดยี่ห้อทหารเรือเต้นรำ นวดเบาๆหลังจากออกกำลังกายเสร็จครับ อันนี้ผสมว่านหางจระเข้ด้วยนะครับ บลาๆๆๆ”

จงอินเหลือกตามองฟ้าเมื่อดันเจอเทรนเนอร์ที่พ่วงอาชีพเซลล์แมนไปด้วย ในใจก็หงุดหงิดว่าทำไมหวงจื่อเทาถึงไม่มา หรือฟันแล้วทิ้งถึงไม่กล้าสู้หน้าฟะ นี่ไม่อยากจะโม้ว่ากล้าพูดเลยว่านี่รักสนุกไม่คิดผูกผันนะ เริ่ดๆนะ จะมาหน้าบางอะไรตอนนี้วะเนี่ย...






“อ้าว คุณหวง มีอะไรถึงนัดผมมาเหรอครับ?”

ในขณะเดียวกัน เสียงทักจากชายหนุ่มรูปร่างบอบบบางใบหน้าหวานหยดเอ่ยทักขึ้นกับชายหนุ่มในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง จื่อเทาที่สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีดำและแจ็คเกตหนัง ดวงตาคมด้วยเมคอัพเบาบางปรายมองอีกคนพร้อมกับส่งยิ้มให้

“รอนานมั๊ยครับ?”

“ไม่นานหรอกครับ แต่ผมมีงานตอนสี่โมงครึ่งนะ”อีกคนส่งยิ้มหวานให้ ซึ่งจื่อเทาก็หยิบซองสีน้ำตาบออกมาก่อนจะขยับริมฝีปากช้าๆ

“อย่างนั้นผมเข้าเรื่องเลยนะครับ”แทมินนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อจื่อเทาวางรูปลงอินลงบนโต๊ะ “คนนี้คุณคงรู้จัก”

“ครับ...เขาเป็นเพื่อนตอนมัธยมปลาย ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่เป็นพักๆ”

“ตอนจะเรียกเงินสินะครับ”

“เอ๋?”

“คุณน่ะ...ให้คิมจงอินโอนเงินให้คุณครั้งละสองล้านวอนทุกครั้งที่คุณติดต่อไปสินะ... ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ”

“คุณพูดอะไรน่ะครับ...ผมไม่เข้าใจเลย”อีกคนขยับตัวเล็กน้อยโดยที่จื่อเทาก็หรี่ตาลง

“ผมถามว่าทำไมคุณถึงแบลคเมลคิมจงอิน”

“...”

“คนที่โทรมาหาเบอร์หนึ่งสิบห้านาทีแล้วอีกคนโอนเงินให้ทันทีเลยคงไม่ใช่ปล่อยกู้ละมังครับ ผมตรวจสอบบัญชีการเงินกับบันทึกการโทรของคิมจงอินกับคุณมาเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกผมก็คิดนะว่าพวกคุณเป็นแฟนเก่ากันรึเปล่า แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่คิมจงอินต้องโอนเงินทีละมากๆไปให้คุณนี่”

“คือช่วงขาด..ผมก็อาจจะยืม...”

“ไหนเงินคืนล่ะ?”

“ผมให้เงินสด”

“อย่าเลี่ยงดีกว่าครับ”

“แล้วคุณหวงเป็นอะไรกับจงอินครับถึงมาถามผมเรื่องนี้”แทมินเริ่มหงุดหงิดโดยจื่อเทาก็พูดออกมานิ่งๆ

“คุณหลอกเขาสินะ?”

“...”

“ข้อมูลที่ได้มา ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาแรกเริ่มก็เหมือนเพื่อนสนิท แต่คุณก็ทำท่าเหมือนมีใจให้เขา แต่สุดท้ายแล้ว...คุณก็ข่มขืนคิมจงอิน แล้วแบลคเมลหมอนั่นว่า ถ้าไม่โอนเงินมาให้ คุณจะเอาเรื่องที่หลับนอนกับเขาไปบอกพ่อแม่ของจงอินใช่มั้ย”

“คุณอย่ามากล่าวหามั่วๆนะครับ!

“ผมอาจจะมั่วก็ได้ถ้าคุณไม่ไปทำแบบนี้กับคนอื่นด้วย...แต่...แม้แต่เพื่อนที่เชื่อใจคุณ..คุณก็ยังไม่เว้น คุณรู้มั้ยว่าการกระทำของคุณส่งผลยังไงกับเขาบ้าง!

“หึ...ผมไม่สนหรอก”สีหน้าของแทมินเปลี่ยนไปโดยที่จื่อเทาก็ขมวดคิ้วลงเล็กน้อย “หมอนั่นคงคิดว่าผมจะรับมาตลอดล่ะสิ...ก็แค่เดาผิด ใช่..ผมบอกว่าไม่เป็นไรหรอก...พ่อแม่ของเขาจะไม่รู้ แล้วสีหน้าเขาตอนขอร้องผมน่ะมันได้อารมณ์สุดๆไปเลยล่...”

พลั่ก!!

หมัดลุ่นๆลอยเข้ากระแทกใบหน้าอีกคนจนหงายล้มลงจากเก้าอี้ พนักงานหลายคนเข้ามายื้อตัวจื่อเทาที่พยายามสะบัดกายพร้อมกับตะโกนก้องออกมา

“แกไม่มีสิทธิ์นะโว้ย!!

“...”

“แกไม่มีสิทธิ์...ไปหากินกับสิ่งที่เขาเป็น! ในเมื่อสิ่งที่แกเป็นมันไม่ได้ต่างจากเขา!! เข้าใจมั้ย!!






“...”

จงอินเก็บข้าวของใส่กระเป๋าก่อนจะขับรถออกมาจากฟิตเนสในช่วงเย็น ชายหนุ่มพ่นลมหายใจฮู่... ถึงเทรนเนอร์คนนี้จะชอบขายของจนน่าหนวกหูไปนิดแต่ก็ค่อนข้างจะจัดโปรแกรมตามตารางได้ดี เหงื่อออกแบบนี้ถ้าได้อาบน้ำก็คงจะสดชื่นไม่น้อย นี่แหละนะข้อดีของการออกกำลังกาย จะว่าไปเดี๋ยวลองหาเครื่องออกกำลังกายแบบทำได้ที่บ้านเก็บไว้บ้าง กับดัมเบลเล็กๆก็น่าจะดีนะ

“?!

เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นจื่อเทายืนรอเขาอยู่ที่หน้าคอนโด ร่างสูงสมส่วนนั้นสวมเสื้อยืดกางเกงสีดำและแจ็คเกตหนังที่ถอดออกมาพาดบ่า ใบหน้าเหมือนมีแผลเพิ่มเติมจากเดิมเล็กน้อยยืนอยู่กับกระเป๋าใบหนึ่ง เจ้าตัวกวักมือเรียกจงอินโดยที่จงอินเองก็ยอมจอดรถและลงไปหาแต่โดยดี

“มีอะไรเหรอ? เรื่องไม่ไปเทรนก็ไม่เป็นไรนะ”

“...”

“ภูมิแพ้หายแล้วเหรอ..โอ๊ะ!”จงอินรับกระเป๋าที่จื่อเทาโยนใส่ ชายหนุ่มมองหน้าจื่อเทาสลับกับกระเป๋าก่อนจะค่อยๆเปิดออกดู จงอินมองเงินมากมายในกระเป๋านั้นอย่างไม่เชื่อสายตา “นี่นาย...”

“...”

“ปล้นธนาคารมาเหรอ?”

“อยากโดนเหรอ?”จงอินรีบส่ายหน้า จื่อเทาพ่นลมหายใจก่อนจะเอ่ยต่อ “ฉันเอามาจากลีแทมิน...เงินที่หมอนั่นบังคับให้นายโอนให้น่ะ”

“เอ๊ะ...”

“เมื่อคืนวาน...นายเรียกชื่อหมอนั่นแล้วก็ร้องไห้...ร้องแบบทรมานมากเลยแหละ ฉันจำได้ว่าโมเดลลิ่งหมอนั่นเคยส่งมาให้ฉันเทรนเพื่อปรับหุ่นเดินแบบอยู่ช่วงนึง ก็เลยให้คนช่วยสืบ...ไม่ต้องไปจ่ายตังให้ใครก็ไม่รู้ที่ไม่เข้าใจสิ่งที่นายเป็นหรอกนะ”

“ฉัน....”

“ถ้าฉันมองไม่ผิด...คอลเลคชั่นเซเลอร์มูนของนายน่ะ...เหมือนจะขาดชุดเซเลอร์พลูโตไปนะ เห็นว่าไม่ใช่ดาวเคราะห์อีกแล้วเลยไม่นับเข้าคอลเลคชั่นรึไง”

“ขอบใจ...ขอบใจนะ”

“ร้องเป็นเด็ก”ถึงจะว่าแต่จื่อเทาก็เดินไปสวมกอดจงอินเอาไว้ ซึ่งเจ้าตัวกำลังร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง... ในขณะที่จงอินกำลังนึกถึงคำของหมอจงแดว่าพวกเขาต่างเป็นคนไข้เหมือนกันและไม่ต่างกัน แต่จื่อเทากลับมองลึกลงไปถึงปัญหาของจงอิน...เพราะผิดหวังและถูกทำแบบนั้นก็เลยเป็นอย่างนี้สินะ...

ใช่....จะมีคนเข้าใจปัญหาที่เป็นนอกจากพวกเดียวกันได้ยังไง...





“โอ๊ะ..เจ็บนะ..เบาๆดิ”

จื่อเทาร้องหงุดหงิดใส่จงอินที่พยายามทำแผลให้ในห้องที่อบอวลด้วยกลิ่นสตอเบอรี่ แต่จื่อเทากลับไม่คิดว่ามันเลวร้ายอะไรเท่าไหร่ เขามองจงอินที่ขมวดคิ้วตั้งอกตั้งใจแปะพลาสเตอร์อันใหม่ให้ก่อนจะขยับตัวออกมานั่งยิ้มให้

“เรียบร้อย แล้วนายกินข้าวรึยัง”

“ก็ยังหรอก ซัดปากหมอนั่นเสร็จก็บังคับให้มันไปเบิกเงินออกมา แล้วก็มาหานาย”

“นายนี่บ้าชะมัด...หน้าตายิ่งเหมือนพวกมาเฟียอยู่ กินอะไรมั๊ย? วันนี้ฉันรวยนะ”

“หมันไส้เหอะ”จื่อเทาเบี่ยงหน้าออกไปทางอื่นไม่นานนักจงอินก็เอนศีรษะมาโขกหัวไหล่ของอีกคนไว้

“มันแย่นะถ้าต้องคอยปกปิดสิ่งที่ตัวเองเป็น พอหมดเรื่องแทมินฉันก็สบายใจได้แล้วล่ะ..จากนี้ก็แค่ไม่ให้ที่ทำงานกับครอบครัวรู้ก็พอ”

“พ่อแม่นายเป็นวิศวกรกับสถาปนิกหมดเลยแฮะ”

“แต่จริงๆฉันอยากเป็นนักเขียนการ์ตูนนะ”

“หืม?”

“แต่พ่อของฉันกลับบอกว่าฉันไม่มีทางจะเป็นได้ ท่านตัดปีกของฉันและบอกว่าฉันไม่มีวันบินได้...”จงอินทอดสายตาออกไปข้างหน้า “ให้ตาย..ฉันเล่าอะไรให้นายฟังกันเนี่ย เราเพิ่งรู้จักกันแท้ๆ”

“แต่ก็มีเซ็กซ์กันสองครั้งไม่รวมที”

“นายอะเงียบไปเหอะ”

“ฉันเข้าใจนะ..ว่าสิ่งที่อยากทำกับสิ่งที่ต้องทำมันไม่เหมือนกันหรอก...แต่นายก็ดีในแบบของนาย นายก็เหมาะกับชุดพวกนั้นดี มันไม่เลวร้ายหรอก”

จงอินผละออกมองหน้าจื่อเทาที่ระบายยิ้มออกมาแม้จะไม่หันหน้ามามองเขา...

“ทุกคนมีเป้าหมายและมีจุดที่เมาะกับตัวเอง เหมือนลูกค้าฉันบางคนเข้ามาฟิตเนสเพื่อต้องการที่จะหุ่นดี...เพื่อที่จะลดน้ำหนัก มีนะผู้ชายที่จ้างฉันให้ดูแลแฟนของเขาเพราะอยากให้เธอมีรูปร่างที่ดี ทั้งที่บางทีเธออาจจะเหมาะกับรูปร่างเจ้าเนื้อนิดๆมากกว่า”

“แล้ว...แฟนนาย”

“ไม่มี”

“ก็น่าอยู่...”จงอินทำจมูกบาน “แล้วถ้านายมีแฟน นายจะให้เขาเข้าฟิตเนสรึเปล่า?”

“แน่นอน”

“นายก็อยากให้เขาหุ่นดีล่ะสิ...ถ้ำมองอย่างนายก็ชอบมองรูปร่างคนอยู่แล้วนี่นะ”

“ก็มันเป็นผลพลอยได้”คิ้วเข้มขยับ “แต่ใจของฉันน่ะอยากให้เขาทำ เพื่อสุขภาพที่ดี...จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ”

“...”

“แบบนั้นไม่ดีเหรอ? เฮ้ย..ฉันหิวแล้วล่ะ”

“...”

จงอินนิ่งเงียบมองจื่อเทาที่ลุกขึ้นก่อนจะดิ่งไปทางครัวอย่างวิสาสะ เหมือนว่าหน้าเขาจะร้อนวาบอย่างไม่มีเหตุผลทั้งที่เหงื่อก็โชกเต็มเสื้อยืดขนาดนี้... เขาเขินเหรอ? เขินกะเหรี่ยงมาเฟียถ้ำมองน่ะเหรอ... ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ต่างคนต่างแมนๆเตะบอลแบบนี้จะมาเขินกันได้ไง...


แต่...มันก็ไม่ได้แย่อะไรนี่นะ....



*****************

นี่นี่ย์อย่าได้อ้อย...

แท็ก #ฟิคพี่หมีฮุน คับ ในเครือพี่แก

1 ความคิดเห็น:

  1. เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย อย่างเจ๋งอ่ะแกรรรรรรรรรร แทมินเนี่ยนะ! มันปล้ำจงอินได้ไงวะ?!! โหยยยยยยย โคตรเจ๋งว่ะ! จื่อเทาก็ใช่ย่อย ไปขู่เอาเงินคืนมาจากแทมินได้ สุดยอดๆๆๆๆ

    ตอบลบ