วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

[SF] หมวย (Sehun x Luhan) (5)









Title: หมวย (5)
Image: SEHUN x LUHAN
Author: RUNAWAY05
Note: บ่นอีก..




วันนี้เป็นเช้าที่สดใส แม้มีแดดแต่ก็ไม่ได้ร้อนแรงมากนัก เรากับคุณชุนนัดกันที่หน้าออฟฟิศตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อที่จะไปใส่บาตรตอนเช้ากันเสียบ้าง แต่วันนี้เราไม่ได้กันสองคน เพราะเราก็ชักชวนเจ๊จุ๋มกับน้องมินให้ไปด้วยกัน ระหว่างรอน้องมินไปรับเจ๊จุ๋มนั้น เรากับคุณชุนก็ตระเตรียมข้าวของรอ เพราะแบ่งกันว่าเรากับคุณจะรับผิดชอบพวกดอกไม้ น้ำดื่ม ปัจจัยเล็กๆน้อยๆ ส่วนเจ๊จุ๋มแกลงมือทำกับข้าวเอง น้องมินก็อาสานำขนมจากร้านข้างบ้านมาร่วมด้วย สี่คน พระเจ็ดองค์ ก็ยี่สิบแปดชุด เราจัดช่อดอกไม้กับแพคน้ำดื่มใส่ปัจจัยโดยมีคุณชุนเป็นลูกมือ แน่นอนว่าฝีมือการแพคของของเราไม่เป็นรองใคร ความเร็วระดับโรงงานนรกเพราะช่วยแม่แพคของจากสำเพ็งบ่อยๆ ไม่นานก็สำเร็จเรียบร้อยแปะเทปริบบิ้นสวยงาม

“แฟนใครเก่งจังเลย”น่ะ...หยอดได้แม้กระทั่งตอนจะไปใส่บาตร เราแกล้งทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วตอบคุณชุนไปเรียบๆ

“คุณชุนไม่รู้พี่จะรู้เหรอครับ”

“เดี๋ยว พี่หมวย...โกรธผมเหรอ? อย่างอนสิครับ ชุนล้อเล่นเฉยๆ”ไม่วายทำตัวไร้กระดูกมาเกยบ่าเกยไหล่ เราเหล่มองเผื่อมีคนมาเห็นเพราะอยู่แถวๆโรงรถก็เบี่ยงออกเบาๆ

“ประเจิดประเจ้อครับ เดี๋ยวคนจะมองคุณชุนไม่ดีแล้วเอาไปนินทาได้นะ”

“นินทาเรื่องอะไรละครับ ถ้าเรื่องเราเป็นแฟนกันมันก็เรื่องจริงนี่นา”

“เราดูๆกันอยู่นะครับ”

“โธ่พี่... รอให้มีลูกสามก่อนเหรอครับถึงจะเลิกดู”

“พี่ท้องไม่ได้ครับ”ทำไมช่างจินตนาการสูงส่งเหลือเกิน... นี่หรือที่เขาว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้เราเบะปากให้คุณชุนอยู่พักเดียวก็ไปคุยจิปาถะเหมือนเดิม เราไม่ใช่คนโกรธหรืองอนร่ำไรกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ แม้จะไม่เคยมีแฟนแต่เราก็รู้ว่าเราควรประคับประคองความรู้สึกกันไป อะไรที่แล้วก็แล้วไปไม่ถือสากัน เรากับคุณชุนยืนรออยู่สักพัก รถของน้องมินก็ขับมาจอดในโรงรถออฟฟิศ น้องสวมชุดทำงานเป็นเสื้อคอบัวใหญ่สีชมพูอ่อนกับกระโปรงพลีทสีขาว เจ๊จุ๋มก็สวมเชิ้ตลูกไม้สีครีมกระโปรงดำตามปกติ พร้อมกับกับข้าวและขนมจัดชุดจนเรียบร้อยเช่นกัน ถาดไว้รองของก็หาไม่ยาก ถาดกาแฟเสริฟเจ้านายนั่นแหล่ะเอามาใช้จะได้ไม่ต้องขนของใครไปมา

ครบถ้วนกระบวนความดีเราทั้งสี่ก็นั่งรถที่คุณชุนขับไปยังย่านที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากออฟฟิศนัก และจะมีพระรับบิณฑบาตอยู่ เสียงวิทยุที่เปิดในรถช่วงเช้าไปตามทางมันทำให้เราคิดถึงตัวเองตอนเด็กๆ พ่อแม่เราตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง หุงหาอาหาร เข้าตลาดบางวัน พ่อเราติดกินกาแฟร้อนกับปาท่องโก๋ของโกเล้ง เพราะแม่ไอ้บี๋ก็เปิดขายเครื่องดื่มพวกชากาแฟโบราณไปด้วย


เราเคยเห็นแกเอาเม็ดกาแฟมาบดแล้วชงผ่านถุงผ้า มีหม้อใหญ่ๆใส่น้ำข้างใต้ มีถังโลหะกรองน้ำกาแฟกับกระบวยไว้คอยตักน้ำร้อนในหม้อมาผ่านผ้า ยกขึ้นยกลงเป็นน้ำกาแฟ จำได้ว่าแก้วร้อนห้าบาท แก้วใหญ่สิบบาท เรากับไอ้อินเรียกกาแฟนมยาน กาแฟถุงเท้า เรียกไปอย่างนั้นล่ะ พอได้กินฟรีทีไรก็น้ำลายสอ รสชาติโอวัลตินใส่นมข้นหวานพูนๆช้อน (ผงโอวัลตินใส่น้อยหน่อยเพราะมันแพง) มันอร่อยมากจริงๆ ชีวิตวัยเด็กเราไม่ซับซ้อน มีไอ้อินไอ้บี๋เป็นเพื่อนของเรา ไม่ใช่ของใครอื่น ทุกวันนี้ยังโทรคุยเรื่องหางโอวัลตินกัน เพื่อนสนิทแต่เล็กไม่คุยกันนานกี่ปี ไปคุยอีกทีก็สบายใจเหมือนเดิม

“พี่คะ พระมาพอดีเลยค่ะ”

“เขาเข้าแถวโน้นแล้ว ไอ้หมวยแกยกของตามเจ๊มา เร็วๆ”เจ๊จุ๋มกับน้องมินพากันส่งเสียงโดยที่เรากับคุณชุนก็รีบขนของตามเมื่อจอดรถเรียบร้อย หลังจากเตรียมของดีแล้วก็ถอดรองเท้าไว้ด้านหลัง ช่วยกันจัดของตนและช่วยกันใส่บาตรในตอนเช้า แม้ว่าเราจะไม่ใช่ไทยแท้ ยังครึ่งจีนเสี้ยวจีนอยู่บ้าง เราก็ไม่คิดนะว่าที่เราเป็นอยู่คือการลืมกำพืดเก่าๆ ทั้งเรื่องที่พ่อไม่ให้เรียกอาป๊า หรือเปลี่ยนแซ่สกุล หลายสิ่งหลายอย่างมันแค่บ่งบอกว่าเราเป็นใคร แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าเราเป็นคนอย่างไร ถามว่าภูมิใจกับที่เป็นไหม เราภูมิใจมากนะ

เมื่อใส่บาตรเรียบร้อยก็กลับมาที่รถกัน ซึ่งเป็นลานจอดของอาคารแห่งหนึ่งซึ่งคุณชุนกับไปฝากเอาไว้ ตอนเอารถเข้าซองคุณชุนแกก็ถอยเรียบร้อยดี และเว้นระยะจากเส้นซองเล็กน้อยเพื่อให้ขนของออกมาได้สะดวก แต่พอกลับเข้ามาไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว เพราะมีรถใครไม่รู้มาจอดเบียดคร่อมเส้น เบียดชิดกับรถกันเสียอย่างนั้น พวกเรามองหน้ากันก่อนที่น้องมินจะเอ่ยปากอย่างไม่สบอารมณ์นัก

“โห...ใครพาจอดรถแบบนี้คะเนี่ย นี่ต้องด่าไปถึงคนสอนขับเลยนะ”

“แล้วนี่จะเข้าไปยังไงล่ะ ใกล้เวลาตอกบัตรแล้วด้วย”เจ๊จุ๋มว่าอีกคน เราหันไปมองนายฝรั่งข้างตัวซึ่งคุณชุนก็ว่าขึ้นเนิบๆไม่รีบร้อน

“ไม่เป็นไรครับ มากับผม เดี๋ยวผมโทรไปบอกที่ออฟฟิศแป๊บนึงนะ”คุณชุนหยิบมือถือขึ้นออกไปหาที่เงียบๆไม่ไกลนัก โดยเราก็ถือถาดถือตะกร้ารอเจ้าของรถมาถอยออกไป โธ่คุณ...รถเขามาเบียดเรา ยัดกันอยู่ตรงผนัง ถ้าจอดบนหลังคารถคุณชุนได้ก็จะจอดกันกระมัง ทั้งที่พื้นที่ก็ว่างเหลือเกิน สักพักยามที่ดูแลก็เดินมาหากลุ่มพวกเรา

“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ?”

“รถโดนเบียดอ่ะคะ พวกเราเอารถออกไม่ได้”เจ๊จุ๋มว่าโดยมีน้องมินเสริม

“ใกล้จะเข้างานแล้วด้วยนะคะ”

“เดี๋ยวผมติดต่อหาเจ้าของรถให้นะครับ”คุณเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือเรียกแบบเป็นกันเองว่ายามก็กุลีกุจอช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ สักพักก็มีชายหญิงวัยกลางคนเดินตรงเข้ามาที่รถด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่นัก

“มีปัญหาอะไร ฉันทำธุระอยู่ก็เรียกฉันมาเนี่ย”ผู้หญิงคนนั้นบ่นกระปอดกระแปด ส่วนชายที่น่าจะเป็นสามีก็ยืนเงียบๆอยู่ห่างๆ คงจะรู้แล้วล่ะว่าผิดตรงไหน

“ทำไมมันจะไม่มีปัญหาละคะคุณ จอดคร่อมคันขนาดนี้ กะจะไม่ให้รถชาวบ้านเขาไปไหนเลยเหรอ”น้องมินก็ออกอาวุธแทบจะทันที เราดึงน้องเอาไว้พร้อมกับเสียงคุณป้า (อายุราวๆนั้น) ก็แว้ดขึ้นมาเหมือนกัน

“เป็นเด็กเป็นเล็กมาขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ? แบบนี้ดูไม่น่าจะมีผัว!!

“อ้าวมันเกี่ยวอะไรกับผัวคะป้า!

“โอ๊ย..ใจเย็นๆ คุณ ไม่ต้องทะเลาะกัน แค่คุณช่วยถอยรถออกไปได้มั้ยคะ พวกเราจะได้ไปทำงาน!!

“มีอะไรค่อยๆพูดกันนะครับ”เราพยายามไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นเจ๊จุ๋มเริ่มมีน้ำโหนิดๆขึ้นมาเหมือนกัน เราดึงเจ๊จุ๋มไว้อีกคนพยายามกันไปด้านหลังเลยโดนคุณป้าตวาดใส่หน้าเสียเต็มๆโดยที่สามีแกก็ไม่ได้เข้ามาห้ามหรือช่วยเหลือใดใด

“ก็รอนิดรอหน่อยไม่ได้รึไงล่ะ! ฉันไปธุระไม่กี่นาทีไม่พอใจก็จอดตรงอื่นสิชิดผนังทำไม!! น้ำใจน่ะมีมั้ยเป็นคนไทยรึเปล่า!!

อยากจะตอบว่าครึ่งจีนก็อ่อนใจ... แต่แล้วแขนของคุณชุนก็กั้นเราออกจากคุณป้า คุณชุนยืนเงียบไม่ได้ออกปากใดใดเพิ่มเติม แต่เรารับรู้ถึงรังสีเหมือนที่คุณเขาเคยแผ่ใส่เราตอนสอนขับรถ เสียงถอนหายใจเบาๆดังขึ้น แล้วคุณชุนแกก็ออกปากเรียบๆ

“ออกรถครับ”

“อย่ามาสั่งฉันนะ!!

“ออกรถครับ”คุณชุนเน้นเสียงหนักพร้อมกับยกมือถือขึ้นเป็นสัญญาณ เขาส่งมือถือมาให้เราซึ่งกำลังอยู่ในโหมดเปิดกล้อง เพียงเท่านั้นทั้งเจ๊จุ๋มและน้องมินก็ควักมือถือขึ้นมาออกท่าถ่ายรูปตามกัน

“เจ๊คะ คนขับรถแบบนี้หนูจะประจานในเฟสไปให้ถึงเพจอิเจี๊ยบเพจจ่าเลยค่ะ”

“นั่นสิเนอะ แบบนี้เอาลงพันทิปนะแป๊บเดียวก็รู้ว่าใคร”

เราก็ถือมือถือค้างนะ ชั่งใจจะถ่ายภาพดีมั้ย คุณชุนแกก็ไม่ยอมขยับ คุณป้าก็สีหน้าจะกินเลือดกินเนื้อคุณเขาให้ได้ เพราะเราไม่รู้จะกดถ่ายดีหรือไม่ ก็เลยกดเปลี่ยนเป็นอัดวิดิโอแทน จะได้ไม่รู้สึกบาป.. สักพักสามีคุณป้าทำท่ามองนาฬิกา ก่อนจะขึ้นรถ ซึ่งคุณป้าก็ไม่ยอมแพ้ปล่อยประโยคใส่หน้าพวกเราทั้งสี่คน

รอหน่อยไม่ได้หรือไง  และนี่ก็ไม่ได้เขียนว่าห้ามจอด  มีมารยาทหน่อยนะ  เป็นถึงขี้ข้าเงินเดือน!

“คุณป้าก็มีสมองหน่อยนะครับ เป็นมนุษย์ทั้งที”

“...”เงิบสิ ไม่ใช่แค่คุณป้า เราก็เงิบ และคิดว่าเจ๊จุ๋มกับน้องมินก็เช่นกัน

“เธอไปกันได้แล้วน่ะ”เสียงของสามีคุณป้าที่เพิ่งได้เวลาทำหน้าที่เรียกจนคุณป้ายอมถอยทัพออกไปสีหน้าแกดูหงิกงอปากพร่ำไม่หยุดตลอดทาง เรานี่ยืนนิ่งชะงักงันเมื่อคุณชุนร่างทรงของพ่อได้ทำการคิลมนุษย์ป้าเลเวลระดับสูงได้อย่างสบายมือ คุณชุนนำพวกเราไม่ขึ้นรถพร้อมกับน้องมินและเจ๊จุ๋มพี่เอ่ยอยากแปลกใจ

“โห คุณชุน... เอาซะคุณป้าเงียบเลยนะคะเนี่ย”

“เจอบ่อยไปครับ เลยต้องตั้งรับบ้าง...อุตส่าห์มาทำบุญใส่บาตรแท้ๆ”

“ขนาดเธอยังเอาไม่อยู่เลยนะยัยมินนี่”

“นั่นสิเจ๊ ถ้าไม่ได้วิธีชูกล้องก็ไม่รอด”น้องมินว่าพร้อมกับเจ๊จุ๋มที่ทำหน้าเพลีย

“ฉันก็ว่า คราวหน้าจะไม่ขู่แล้ว ฉันจะถ่ายจริงๆ”อ้าว...นี่ไม่ได้ถ่ายกันเลยเหรอ เราทำหน้าเหลอพร้อมกับพูดขึ้นมาเบาๆ

“สรุปไม่มีใครถ่ายไว้เหรอครับ”

“ไม่นะพี่หมวย หนูแค่ยกกล้อง เปลืองเมมออก”

“อยากเอามือถือฟาดหน้ายัยป้ามากกว่า ติดว่าแพง ถ้าฉันเอาพาวเวอร์แบงค์ลงรถมาด้วยนะ มีเลือดแน่”

“ผมถ่ายคลิปไว้นะ”เราบอกไปตามตรง และเสียงพูดคุยก็เงียบลงทันใด ก่อนจะเป็นเสียงหัวเราะลั่น เราไม่รู้จริงๆนี่นาว่าแค่ขู่ก็พอ สรุปว่าได้คลิปคุณป้ามาเปิดให้ออฟฟิศชื่นชม และคุณชุนก็แซวว่าเราเพิ่งใส่บาตร เสร็จแล้วก็ทำบาปกับคุณป้าต่อเสียอย่างนั้น...ทริปนี้เราเลยได้ข้อสรุป ทำบุญคราวหน้า เลี้ยงฉันเพลวันอาทิตย์ไปเสียเลยดีกว่า...


เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...หนึ่งมนุษย์ป้า ต้องโจมตีด้วยร่างทรงพ่อเราหนึ่งคน ตามด้วยมนุษย์กล้องสามคนขึ้นไป...





ย่างเข้าเดือนที่สามที่เราดูๆกับคุณชุนมา ซึ่งเราสองคนก็ฉลองกันที่เคเอฟซีกับเมนูไก่ทอดน้ำปลาไปเมื่อวันก่อน ตลอดเวลาที่ดูๆกันนั้นทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่างของคุณชุนเยอะมากขึ้น คุณชุนเป็นผู้ชายขี้อ้อน แต่คราวแกจะเด็ดขาดแกก็เด็ดขาด ไม่ค่อยโกรธหรือโมโหร้ายใคร แต่ถ้าแกไม่พอใจก็รอคำด่าจากแกได้ คำด่าแกไม่เคยหยาบคาย แต่ได้ยินทีนี่เจ็บแสบไปถึงทรวงใน (คาดว่าคุณนายลดาอบรมมาเป็นอย่างดี) คุณชุนเลยมีตำแหน่งเป็นทั้งเจ้านาย เป็นน้องติ๋มเทอร์โบ คนที่ดูกันอยู่ และร่างทรงพ่อแบบนี้แหล่ะ

“พี่หมวย ลูกค้าบอกว่าจะเมล์มาเข้าเครื่องผม ช่วยโหลดแล้วเซฟงานให้ทีนะครับ เดี๋ยวผมติดต่อลูกค้าแป๊บนึง”

“เซฟไว้ไหนครับ”

“ตรงไหนก็ได้ครับ”

คุณชุนกล่าวกับเราในบ่ายแก่ๆวันหนึ่งพร้อมกับลุกหยิบแฟ้มพร้อมกับเอาคอหนีบมือถือออกนอกห้อง มันเป็นธรรมดาที่เราจะมีพาสเวิร์ดและสามารถทำหน้าที่บางส่วนแทนคุณชุนได้ เราเช็คเมลให้กับคุณชุนก่อนจะกดโหลด แต่แล้วก็ต้องตาลายเพราะแฟ้มมากมายละลานตาไปหมด สุดท้ายเราจึงเลือกแฟ้มรวมงานสำคัญขึ้นเปิด...

แต่มันไม่มีงานสำคัญในออฟฟิศนี่สิ...


((ฮ่าๆแฟนแกอ่อนจังวะ เปลี่ยนชื่อแฟ้มไว้เก็บหนังโป๊มันเชยแล้วไม่รู้เหรอ))

“...”เราเหล่มองมือถือขณะนั่งรอคุณชุนส่งเงินให้เจ้าสัวตอนเย็น เสียงไอ้อี้หัวเราะดั่งคนเมากัญชาก็ลอยมาตามสาย เราจะตกใจบ้างไม่ได้หรืออย่างไรที่เปิดไปเจอหนังอย่างว่าอยู่ในคอมคุณชุน..ไม่ใช่เราจะอินโนเซนต์อะไร ดินแดนสนธยาในคอมพิวเตอร์ของผู้ชาย (อย่างเรา) มันเรื่องปกติ แต่เราแค่ไม่คิดว่าคุณชุนจะเก็บของไว้แบบหละหลวมแบบนี้ อีกนัยนึงเราก็ยังนึกภาพน้องติ๋มเทอร์โบหน้าตาหงิมๆอยู่ พอมาเห็นว่าคุณชุนแกมีคอลเลคชั่นเรียงเอถึงแซดก็เลยประหลาดใจไปไม่หน่อย

((ฝากบอกแฟนแกนะ เดี๋ยวนี้มันต้องเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ ซ่อนไฟล์เว้ย คนเราจะอยู่อย่างสิงห์ ฉันเนี่ยต้องเปลี่ยนตลอด ไม่งั้นแฟนฉันดราม่าพี่ไม่ดีตรงไหนตลอด ฉันเบื่อ))

“ใครจะไปกล้าบอกกันล่ะ เขาก็รู้พอดีสิว่าฉันเจอแฟ้มหนังโป๊เขา”

((อะไร..อย่าบอกนะป่านนี้ยังไม่ได้กันอีก เก็บซิงไว้ชิงโชคเหรอ))

“ฉันไม่อยากท้องเสีย...แกบอกเหมือนท้องเสีย”

((มันดีแก...ท้องเสียเสร็จแล้วเป็นไง โล่ง คืนนี้ไม่ต้องรอ ปล้ำแม่งเลย))

“ฉันไม่กล้า คบแค่สองเดือนเอง”

((แก...แกอย่ามาหมวยว่ะ))เอาสิ...เดี๋ยวนี้หมวยเป็นคำด่า ไอ้อี้นิยามว่าถ้าจะด่าว่าคิดมาก ขี้กังวลจุกจิกน่ารำคาญ แทนด้วยคำเดียวเลยคือหมวย เอาสิ...

“เออน่ะ..แกเดี๋ยวแค่นี้นะ คุณเขามาแล้ว”

((เออๆ ฉันจะไปทำกับข้าวแล้ว ไว้คุยกัน))เรากดวางสายเพื่อนไปพร้อมกับคุณชุนที่เดินเข้ามาหา แต่ท่าจะไม่ได้มาตัวเปล่าเพราะมีชายหญิงคู่หนึ่งตามมาด้วย คนหนึ่งเป็นชายท่าทางเหมือนเลขาสวมแว่น ส่วนผู้หญิงใบหน้าผมยาว รูปร่างเล็ก แค่เธอเดินเคียงกันมากับคุณชุนเราก็รู้สึกว่าเขาเหมาะสมกันอย่างบอกไม่ถูก

“กลับแล้วนะริณ รีบกลับบ้านล่ะ”

“พี่ชุนนี่ก็ใจคอจะไล่ริณกลับท่าเดียวเลยนะ ไม่ไปกินข้าวกันก่อนเหรอคะ?”

“พี่ยุ่งๆน่ะ คราวหน้านะ”

“อย่าลืมรับสายริณนะ”เธอว่าก่อนจะหันมามองเรานิดหน่อย และขึ้นรถที่เข้ามาจอดเทียบเลนไป เรามองตามอยู่พักใหญ่ เพราะดูเผินๆเหมือนผู้หญิงที่ชอบมาเกาะแกะคุณชุนทั่วไป แต่กับคนนี้เรารู้สึกว่ามันดูมากกว่านั้น

“ลูกค้าที่ว่าคนนี้เหรอครับ”เราถามคุณชุนที่คาดเข็มขัดนิรภัยให้

“ไม่ใช่หรอกครับ พอดีเอายอดไปให้พ่อแล้วเจอ”

“รู้สึกว่าพวกเราไม่มีงานยุ่งนะครับ”

“อ่า...”คุณชุนถอนหายใจยาว “ไอริณ..เป็นแฟนเก่าผมเองครับ คุณแม่ชอบเธอมากเลย แต่ผมไม่โอเคก็เลยเลิกกันตั้งแต่อยู่เยอรมัน”

เรานิ่งไปนิดหน่อยทันทีที่คำว่าแฟนเก่าลอยมากระทบหู ผู้หญิงสวยดูเหมาะสมขนาดนั้นทำไมถึงได้เป็นแฟนเก่ากัน ไม่นานนักความรู้สึกขยุกขยิกที่ศีรษะก็ปรากฏ เราไม่ได้เป็นเหาแต่คุณชุนยื่นมือมาขยี้หัวเราพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

“อย่าซีเรียสเลยครับ ผมไม่คิดอะไรกับริณแล้ว ตอนนี้ผมมีพี่คนเดียวเลยเนี่ย”

“พี่ไม่ใช่นินจานะคุณชุน..คุณชุนถึงจะมีพี่หลายคนได้”ตบมุกแก้อารมณ์ไปหน ไอ้อี้สอนบ่อยว่าสวยมักนกตลกมักได้ เชื่อมันเสียสักหน่อย เท่านั้นแหล่ะหน้าหล่อๆก็กลายเป็นแป๊ะยิ้มไปทันที

“น่าฟัด”แค่คำสั้นๆนั้นทำให้เรานึกถึงแฟ้มหนังในห้องแห่งความลับของคุณชุนทันที เราหุบปากฉับนั่งนิ่งจนได้ยินเสียงคุณชุนแว่วมา “พี่หมวยเป็นอะไรรึเปล่าครับ?”

“อ๋อ..พี่ว่าพี่ร้อนๆหนาวๆ อยากกินต้มเลือดหมูน่ะครับ แหะแหะ”

“โอเค งั้นเราไปกินต้มเลือดหมูกัน ร้านเดิมแล้วกันนะครับ”

“ครับ”เราส่งยิ้มไปให้คุณชุน แต่ใจเรานี่กังวลแบบมากมายเลย เพราะดูท่าแล้วคุณไอริณไม่น่าจะหยุดเหมือนที่คุณชุนรู้สึก ลึกๆแล้วเราหวงคุณชุนนะ ประสามนุษย์แฟนที่ไม่ค่อยยินดีกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแฟนเก่า แต่เราไม่กล้าพูด เราไม่อยากให้คุณชุนไม่สบายใจ เราอาจจะคิดไปเองเกี่ยวกับเรื่องคุณริณก็ได้ อีกอย่างเรากับคุณชุนก็ยังดูๆกันอยู่ ยังไม่ถึงขั้นเป็นแฟนกันเสียสักหน่อย จะให้เราออกหน้าออกตาไปเลยก็ไม่ควร ไหนจะเรื่องหนังโป๊ในคอมคุณชุนอีก หากอย่างนั้น..เรื่องในสระคุณชุนก็ไม่น่าจะล้อเล่นกับเราเสียแล้วล่ะ หรือเราควรชื่อควายแบบไอ้อี้ว่าจริงๆ...

มันคงถึงเวลาแล้วสำหรับเรื่องแบบนั้นแล้วสินะ...






:D
“คืนนี้ไม่ต้องรอ ปล้ำแม่งเลย” — อี้ ชลันธร,20xx
แท็ก #คุณชุนพี่หมวย จ้า




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น