วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

[SF] หมวย (Sehun x Luhan) (2)










Title: หมวย (2)
Image: SEHUN x LUHAN
Author: RUNAWAY05
Note: ก็หมวยนี่คะ...


จะให้เราพูดว่าชีวิตเราปกติก็คงเป็นไปไม่ได้ หลังจากที่คุณชุนได้โผล่หน้าเข้ามาในชีวิตเราพร้อมน้ำเต้าหู้เซเว่น (บางวันก็เป็นไวตามิลค์เพราะน้ำเต้าหู้หมด) เอาเป็นว่าเขารู้กันทั้งออฟฟิศว่าคุณชุนสนิทกับเรา ทีนี้ก็เลยไม่มีใครกล้านินทาเราให้ได้ยิน เจ๊จุ๋มบอกว่าพอเป็นอย่างนี้แล้วแกก็ได้อานิสงไปด้วย ถ้ามีใครไปนินทาเจ๊จุ๋มว่างก เจ๊จุ๋มจะได้มาฟ้องเราให้ไปบอกคุณชุน ถือว่ามีผลประโยชน์ร่วมกัน แต่เราก็คิดว่ามันแหม่งๆอยู่นะ

เราทำงานที่ออฟฟิศไปได้หกเดือน ชีวิตก็ไม่ได้สมบูรณ์มากนัก แต่ยังดีที่มีพ่อกับแม่อยู่ เราไม่มีญาติหรอก เพราะมีก็เหมือนไม่มี ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำนั่นทำนี่จนเหมือนจะลืมกันไป ใครที่มีครอบครัวใหญ่ๆเราก็อิจฉาเหมือนกันนะ แต่แวดวงบ้านเราพึ่งคนข้างบ้านได้มากกว่าญาติแท้ๆ เลยคิดว่าไม่มีญาติมันอาจจะสบายใจกว่า

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับคุณชุน(ที่ไอ้อี้หลังจากเราโทรไประบายก็ไลน์มาขออัพเดทเช้าเย็น) ก็เหมือนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องนอกเวลางาน ส่วนเวลาร่วมงานเราก็เป็นลูกน้องเขา แต่ใจเรามันไม่ได้ซื่อใสเหมือนหน้าตา จริงๆเราก็เครียดนะ เรากลัวคุณชุนแกจะกลัวเรา เพราะผู้ชายที่เหยียดเกย์มันยังมีอยู่ในประเทศไทย ความเหยียดเพศยังซึมซับไปถึงตัวบทกฎหมาย เรารู้ตัวว่าเราชอบคุณชุน แต่ถ้าถามว่าเราเป็นเกย์เหรอ เราตอบว่าไม่ เราไม่ได้เป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชายทุกคน แต่เราเป็นผู้ชายที่ชอบคุณชุน แล้วคุณชุนดันเป็นผู้ชาย...เท่านั้นเอง

คุณชุนกับเราคุยด้วยกันหลายเรื่องนะ คุณชุนเองแม้ว่าสมัยเป็นอีติ๋มเทอร์โบจะถนัดแต่เล่นหมากเก็บ แต่พอโตมาแกก็เล่นบาส เล่นบอล ขับรถ ประสาผู้ชาย ส่วนเราชอบเล่นบอลมาแต่ไหนแต่ไร (ไม่ใช่พนันนะ) แต่เสียดายอยู่อย่าง คุณชุนไม่ได้เชียร์ทีมเดียวกับเรา แต่เวลาเล่นเกมฟีฟ่าแกก็จะเลือกทีมที่เราชอบตลอด ไม่รู้ทำไม ส่วนเรื่องเหล้ายาปลาปิ้ง คุณชุนดื่มบ้างประสาผู้ชาย แต่ไม่สูบบุหรี่ ผับเผิบไม่ค่อยไป แกว่าเหม็นบุหรี่ หากจะไปดื่มแกชอบไปพวกร้านแบบลานเบียร์สดมากกว่า

เรื่องผู้หญิงนี่ก็เหมือนเดิม สาวๆมาคอยท่าทุกวัน แต่ไม่ยักเห็นคุณชุนจะสนใจใคร ได้ข่าวจากเจ๊จุ๋มว่าคุณชุนเคยมีแฟนมาแล้วคนนึง และเลิกกันไปหลายปี เราเลยคิดว่าเขาคงจะเข็ดเรื่องความรัก ในขณะที่เราเองผู้ชายผู้หญิงมาขอความรักตั้งแต่สมัยอยู่ลาดกระบัง เรายังนึกกลัว เรากลัวร้องไห้แบบไอ้อี้มัน แต่พอเช็คชีวิตมัน ปรากฏว่ามันได้แฟนเป็นเจ้าของไร่กาแฟอยู่เชียงใหม่ เป็นพ่อม่าย เท่าที่เห็นในเฟซบุ๊กก็ผิวขาวๆตัวเตี้ยๆหน่อย จะว่าไปไอ้อี้มันก็ทำตามที่มันเคยบอกเรานะ ว่ามันจะไม่รักผู้หญิงที่ไหนอีกแล้ว หายจากกันไปปีกว่ามันเลยรักกับผู้ชายแทน นับถือใจมันประมาณนึง

ส่วนเงินเดือนเราเริ่มขยับไปหมื่นแปดเพราะบวกโบนัสเพิ่มเติม แถมด้วยโอที ซึ่งตรงนี้คุณชุนให้ฝ่ายบุคคลกับเจ๊จุ๋มทำใบเงินเดือนเพิ่มเติมให้ คนอื่นจะได้ว่าเราไม่ได้ว่าขึ้นเพราะไต่เต้า (หรือเอาเต้าแบนๆไต่) เพราะหลังจากเลิกงาน บางวันเราไปกินขนม ไปเดินเที่ยว แต่บางวันก็ต้องลุยงานถึงสี่ห้าทุ่ม เพราะติดปัญหาทางนั้นทางนี้ ก็ติดสอยห้อยตามคุณชุนแกไป เพราะว่าเราออกตัวมาก่อนล่ะว่าเคยรู้จักกัน ถ้าคนไม่รู้จักกันเลยมาทำแบบนี้ เราคงโดนนินทาว่าเลียขาเจ้านายแน่นอน


“พี่หมวย...ผมว่าเปลี่ยนสีเว็บเป็นสีนี้ดีมั้ย?”
“พี่หมวย...ดีลกับชิปปิ้งนี้น่าจะดีกว่านะผมว่า บริษัทนี้ใช้ไม่ได้เลย”
“พี่หมวย...ผมว่าติดต่อกับพวกร้านบรรจุภัณฑ์เพิ่มดีรึเปล่า ไปรษณีย์ทำของลูกค้าแตกอีกแล้วเนี่ย”


ก็เพราะคุณชุนเป็นซะอย่างนี้...เรื่องที่ควรเอาไปถามแผนกนั้นๆแกเล่นเอามาบ่นกับเราที่เป็นบัญชีหมด เราเลยถูกให้ออกจากบัญชีและเปิดรับสมัครบัญชีคนใหม่ ส่วนเราย้ายไปเป็นเลขาให้คุณชุนแทน เจ๊จุ๋มแกก็ดูไม่ได้เสียดายอะไรเรานัก แค่กำชับว่าได้ดีอย่าลืมกัน... สุดท้ายเราก็เลื่อนจากบัญชีทั่วไปเป็นเลขาผู้บริหาร เงินเดือนดีดเป็นสตาร์ทสองหมื่นหก ตอนนั้นเราดีใจมากถึงกับแอบโทรไปบอกพ่อกับแม่ในห้องน้ำ แต่พ่อบอกว่าให้ส่งเดือนละห้าพันก็พอ ที่เหลือก็ใช้จ่ายกับออมเงินไว้บ้าง ซึ่งเราก็เริ่มคิดเหมือนกัน ชีวิตมันเข้าที่แล้ว เก็บเงินไว้เลี้ยงตัวเองตอนแก่ๆจะดีกว่า

พอมาช่วยงานคุณชุน เราก็คิดว่าเขาเก่งมากจริงๆ คุณชุนเป็นผู้ชายที่ทำงานเก่ง ใจดีกับลูกน้อง เป็นหัวหน้าที่ดีแม้จะอายุยังน้อยถ้าเทียบกับคนอื่น แกเข้าถึงทุกคนไม่ว่าจะพวกคุณนายตามห้างร้าน หรือแม้กระทั่งวินมอเตอร์ไซค์แม่ค้าขายข้าวแกง ใครเดินย่านออฟฟิศแล้วถามหานายฝรั่งล่ะก็ ทุกคนจะรวมใจชี้มาที่ออฟฟิศได้ทันที ซึ่งใครที่อ่านเรื่องของเรา และคิดว่าเราได้เป็นเลขาคุณชุนต้องไปกินอะไรหรูๆทุกวันคือผิดถนัด แกเป็นคนกินง่ายมาก บางวันยุ่งมากก็สั่งส้มตำรถเข็นกับไก่ย่างห้าดาวข้างล่างออฟฟิศนั่นแหล่ะมากิน วันไหนด่วนมากๆก็กินข้าวกล่องเซเว่นไปเลยก็มี ส่วนเราพอเงินเดือนขยับ บวกกับอยากดูดีกับคนที่ชอบก็เลยเริ่มจัดอาหารคลีน แต่คุณชุนไม่ชอบอาหารคลีน แกบอกเหมือนอาหารนก คนเราทำอาหารคนมาให้กินไม่ชอบกิน ไปหากินเม็ดถั่วเม็ดงาเหมือนนก พอฟังแบบนั้นตกเย็นเราเลยไปนั่งกินข้าวขาหมูกับคุณชุนเหมือนเดิม

จนวันนึง หลังจากที่เจ้าสัวอนุมัติงบมาให้คุณชุนขยายพวกสถานที่จัดส่ง และติดต่อกับพวกศูนย์ขนส่งที่ต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งวันนั้นเหมือนว่าเราต้องไปคุยงานที่พัทยา คุณชุนแกจะขับรถเอง ออกจากที่ออฟฟิศแปดโมง เราตามคุณชุนแกขึ้นรถแพงที่แกจับแบบนานชาติครั้ง เราก็ไม่รู้นะว่ารถที่แกขับมันดีเลิศขนาดไหน รู้อย่างเดียวว่าน่าจะแพง แต่เวลาติดมอเตอร์เวย์เราเห็นคนรถคันข้างๆมองตาละห้อยทุกที

“พี่หมวยเคยไปพัทยามั้ย?”คุณชุนถาม ซึ่งคำตอบเราก็ไม่ยากเลย

“ไม่เคยนะ ไกลสุดในชีวิตก็ตึกลูกเต๋าปทุม”เราพูดถึงตึกวิทยาศาสตร์สมัยไปทัศนศึกษาตอนมัธยม คุณชุนแกได้ยินก็หัวเราะร่า ใช่สิก็เรามันไม่มีบุญไปถึงเยอรมัน

“มาพัทยานี่ไกลกว่าปทุมอีกนะ ถ้ายอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปก็ดูงานที่ญี่ปุ่น อเมริกา ไปเยอรมันก็ได้ ผมพาไป”

“กว่าจะไปรอบโลกแบบนั้นคงได้นั่งหน้าคอมอีกหลายปี”

“อย่างพี่นั่งน่ารักอย่างเดียวก็พอแล้ว” ดูเขาหยอด...ยิ่งบอกอยู่ว่าไม่ใช่อิฐใช่ปูน เห็นเราเป็นจอมปลวกหรืออย่างไรจะพูดหยอดอะไรก็พูด

“ล้อพี่เล่นอีกแล้วนะ”

“ผมพูดจริง พี่ไม่เชื่อผมเอง”คุณชุนว่าเสร็จก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปคนเดียว พอขับมาได้สองชั่วโมงครึ่ง เพราะรถตรงศรีราชาติดเหลือใจ ก็ได้ไปคุยงานจนเรียบร้อย ก็คงจะกลับปกตินะถ้าจู่ๆเจ้านายเราไม่อยากจะเที่ยวพัทยาขึ้นมาเสียก่อน

“พี่หมวย ผมว่าเปิดห้องสักคืนดีกว่า ผมอยากเที่ยว มาแล้วกลับเสียเที่ยวแย่”

“เอางั้นเหรอครับ...”

“พี่ต้องกลับบ้านรึเปล่า? ถ้ากลับบ้านก็จะได้ไม่พักกัน”เราชั่งใจอยู่พักใหญ่ จนสุดท้ายก็ยอมตามใจคุณชุน ไม่ใช่เราเห็นผู้ชายดีกว่าพ่อแม่นะ แต่เราว่าไหนๆก็มาแล้ว แวะเที่ยวสักหน่อยคงไม่เป็นไร เราโทรไปบอกพ่อกับแม่แกก็ไม่ว่าอะไร แกขอแค่ของฝากสักหน่อยก็พอ เราเลยเริ่มรู้สึกผิดตรงแกขอของฝากนี่แหล่ะ เพราะตั้งแต่เล็กจนโต เราพ่อแม่ลูกอยู่เยาวราชมาตลอด ไม่เคยไปไหน อย่างไกลก็แม่น้ำเจ้าพระยา พ่อกับแม่ไม่เคยเห็นทะเลเลยด้วยซ้ำ เราเลยกะว่าจะเก็บเงินซื้อรถ ถ้ามีวันหยุดจะพาแกมาให้ได้

 คุณชุนพาขับวนอยู่สองรอบ ก่อนจะพามาที่โรงแรมแกรนด์เบลล่า คุณชุนบอกว่าถ้าจะไปพักโรงแรม ให้ติดต่อหน้าโรงแรมโดยตรง อย่าไปไว้ใจอะไรพวกเว็บหาโรงแรม ราคามันโม้กว่าที่โรงแรมตั้งไว้ สรุปคือเราได้ห้องจูเนียร์สวีทมา รวมบุฟเฟ่ต์ก็คืนละสองพันห้า เรานี่แทบเป็นลมคาแผนกต้อนรับ ยังดีที่คุณชุนบอกว่าเดี๋ยวไว้ทำเรื่องเบิกกับเจ๊จุ๋มเอา ก็เลยโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

เราเดินไปตามทางเดินสีฟ้า-เหลืองจนถึงชั้นห้า ก่อนจะพบว่าห้องสวยมาก เป็นทางเข้าไป และแยกขวาเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ตรงไปก็เป็นห้องนั่งเล่น มีระเบียง ข้าวของเครื่องใช้ครบหมด ซึ่งดูดีกว่าที่เราคิดเอาไว้ แต่ก็นิ่งไปนิดนึงตรงที่เตียงมันเป็นเตียงเดี่ยวสำหรับสองคน คือสำหรับคนที่คิดอะไรๆแบบเรามันคงไม่ดีต่อหัวใจ เราว่าเราจะมานอนริมระเบียง แต่คุณชุนแกไม่ให้ แกพูดว่า

“ผู้ชายด้วยกันพี่กลัวอะไรครับเนี่ย”

ไอ้เราจะตอบว่ากลัวใจ...แต่นี่ก็ไม่กล้า....




หลังจากวางสัมภาระเรียบร้อย คุณชุนก็พับแขนเสื้อขากางเกง พาเราที่ยังใส่ชุดทำงานลงมา พาเราไปหาที่เช่ามอเตอร์ไซค์ เห็นว่าเที่ยวแบบนี้ไปรถยนต์มันไม่สนุก เราก็ตามใจแหล่ะเพราะเป็นเบ๊เขา ค่ามอเตอร์ไซค์เช่าสองร้อย มัดจำพันนึงพร้อมบัตรประชาชน เท่านั้นแหล่ะเราถึงได้เห็นนามสกุลแท้ของทั้งพ่อทั้งแม่ของคุณชุนที่เอามารวมกับชื่อแล้วยาวทอดลงกลางอ่าวไทย จนได้มอเตอร์ไซค์พร้อม คุณชุนแกก็อาสาเป็นคนขับ ถึงเราจะขับรถยนต์ไม่เป็น แต่สมัยอยู่ลาดกระบังก็เป็นขาแว้นเหมือนกันนะ แต่ขับเป็นก็เท่านั้น เจ้านายบอกจะขับเอง เราจะทำอะไรได้...

กลิ่นเค็มๆของทะเลมันทำให้เราตื่นเต้น คุณชุนก็บิดรถสนุกสนานของแกไป สักพักเราถึงรู้สึกว่าคุณชุนมาดึงมือเราให้เอากอดเอวเขาเอาไว้ ตอนนั้นเราคิดว่าถ้าเราเล่าไอ้อี้ฟัง มันต้องว่าเราใจง่ายแน่ๆ เราเลยว่าจะชักมือกลับ แต่คุณชุนแกเล่นโชว์เหนือขี่มอเตอร์ไซค์มือเดียว ส่วนอีกข้างก็กุมมือเราไว้ให้เกาะเอวเอาไว้แบบนั้น

“คุณชุน...มันอันตรายนะ”เราท้วงไปเพราะรถเยอะจริงๆ สักพักเขาก็ตอบเรากลับมา

“อยากให้ขับสองมือใช้มั้ยครับ?”

“ก็...อื้ม”

“พี่ก็กอดเอวผมสองข้างสิ ไม่งั้นก็ขับแบบนี้ล่ะ”

“...”

“รถล้มนะ”

“เอ้อ”พอเห็นเราไม่ตอบก็ข่มก็ขู่กันเสียอย่างนั้น...พ่อคุณเอ๋ยไม่นึกถึงใจกันบ้างเลย... เราเอื้อมมือไปเกาะเอวคุณชุนไว้ เหลือบเห็นโหนกแก้มแกยกเหมือนกำลังยิ้มอยู่อย่างไรอย่างนั้น เราไปถึงชายหาด ของไม่ได้แพงมากมายอะไรนัก ยังอยู่ในราคาที่พอรับได้ ทะเลไม่ได้สีฟ้าใสแจ๋วเป็นกระจก แถมยังมีเรือแล่นไปเล่นมา แต่พวกฝรั่งนุ่งบิกินี่ก็ยังมาเล่นน้ำกันคับคั่ง เหนียวหัวก็เหนียว ได้แต่ถ่ายรูปกับซื้อของเลียบหาดไว้ไปกินที่โรงแรมแทน ทั้งหมึกย่าง ไข่หมึก ข้าวเหนียวหมู ที่ซื้อๆนี่คุณชุนกินทั้งนั้น แกเลือกของแกเอง เราแค่เออๆออๆตามแกไป

จนกลับมาถึงโรงแรม พ่อคุณเขาก็อยากจะว่ายน้ำ เราก็ลูกน้องนะไม่ว่ายก็ไม่ได้ คุณชุนแกไปแวะซื้อเสื้อผ้ามาอย่างดี ไอ้ครั้นจะลงไปชั้นล่างฝรั่งก็เต็มไปหมด คุณชุนก็ไปถามแม่บ้านจนได้ความว่าที่ชั้นแปดมีสระว่ายน้ำอยู่ เสร็จเขาเลย เราก็ใจง่ายตามนายไปชั้นแปด  ปรากฏว่าไม่มีฝรั่งมาว่ายสักคน เหลือพื้นที่ให้เราเป็นพะยูนแหวกว่ายสายน้ำอยู่แบบนั้น

“พี่หมวย เร็วๆดิ”

“ครับๆ”รีบรับคำเดี๋ยวนายจะกริ้ว สุดท้ายก็ไปลอยคอป๋อมแป๋มอยู่ที่สระดาดฟ้าแบบสองต่อสอง เงยหน้าขึ้นไปก็เจอท้องฟ้า ก้มหน้าลงมาก็เจอคุณชุนแกยืนเสยผมอยู่ ไหล่กว้าง กล้ามแกเป็นสัดเป็นส่วนจนเราจำสภาพตอนเป็นน้องติ๋มเทอร์โบแทบไม่ได้ เรารีบหดตัวลงน้ำตอนที่แกว่ายมาใกล้ๆ เราไม่รู้ว่าจะทำยังไง จะหนีก็ไม่ได้เพราะเป็นเจ้านาย จะให้รอรับมันก็เขินนะ เห็นแบบนี้ก็ขี้อายประมาณนึง

“พี่เอาแต่เกาะขอบสระ ว่ายน้ำไม่เป็นเหรอครับ?”

“ว่ายเป็น...” แต่เห็นไหล่กว้างๆเปียกน้ำมันไปไม่เป็น... เราก็ได้แต่ตอบในใจอีกแหล่ะ

“ก็มาเล่นกันสิครับ”ไม่พูดเปล่า คุณชุนค่อยๆเคลื่อนหา แต่เราก็ถอยหนีไปเรื่อยจนถึงคราวซวยเพราะไปติดมุมขอบสระ คุณชุนยันมือกับขอบสระสองข้างและเราก็รู้สึกว่าตัวเราเล็กไปเลย เราตัวแข็งทื่อ คนที่แอบชื่นชอบมาอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ใครใจแข็งอยู่ได้ก็แข็งใจไป เรานี่ตะคริวแทบกิน ได้แต่อยู่นิ่งๆจนคุณเขาเอามือมาลูบผมให้ นิ้วมือคุณชุนแตะเข้ากับขี้แมลงวันเหนือคิ้วขวาของเรา แกจิ้มเบาๆเหมือนกดปุ่มอย่างไรอย่างนั้น เราก็ได้แต่หดคอหนี ส่วนคุณชุนก็ยิ้มกริ่มใส่ไม่หยุด

“ไม่เห็นพี่เก่งเหมือนตอนเด็กๆเลย”

“ตอนนี้ไม่ใช่...พี่ลูกน้องคุณชุนนะ จะให้พี่ไปอวดเก่งใส่ได้ยังไงล่ะ”

“พี่เอาแต่กินน้ำเต้าหู้โกเล้งด้วยล่ะ ไม่โตสักที”เขาว่า เราได้ยินก็หน้างอสิ น้ำเต้าหู้ถุงห้าบาทดีจะตายไป ดีกว่าไปซื้อนมวัวแดงกล่องสิบบาทอีก

“จะว่าพี่เตี้ยก็ว่ามา”

“พี่ตัวเล็กๆ น่ารักดีออก”จู่ๆคุณชุนแกก็โน้มหน้าลงมา เรานี่แทบเข่าอ่อน พยุงตัวในน้ำแทบไม่เป็น สภาพนี้ถ้าไอ้อี้มาเห็นต้องว่าเราเป็นคนหลกท่งแน่นอน เราได้แต่แตะมือกับอกคุณชุนเอาไว้ กลัวจะมีอะไรไปมากกว่านี้ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเล่าเรื่องประสบการณ์จากทางบ้านตามเว็บเกย์

“คุณชุน..ทำอะไรครับ เดี๋ยวใครมาเห็นจะมองไม่ดีเอานะ”

“ไม่เห็นใครสักคน”ว่าอย่างไม่ยี่หระราวกับเอานิสัยเมืองนอกมาใช้เต็มที่ “เห็นแต่พี่”
“อย่าแกล้งพี่เลยนะ..คือ...”


“ผมจริงจังอยู่นะ”

“...”

“พี่คิดว่าที่ผมทำให้พี่ทุกอย่างเป็นความใจดีเท่านั้นเหรอครับ? พี่ไม่รู้จริงๆเหรอว่าผมคิดอะไร?”

“...”...ก็ไม่รู้น่ะสิ เราย่นปากใส่คุณเขาที่สุดท้ายก็หัวเราะเบาๆแล้วปล่อยเราให้เป็นอิสระ คุณชุนลุกขึ้นจากสระโดยที่เรายังคงมึนงงไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง เราขึ้นสระตามรีบสวมชุดคลุมเดินตามคุณชุนต้อยๆอย่างไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เขาไม่ถูกใจหรือเปล่า

“คุณชุนโกรธพี่เหรอ?”

“โกรธที่เอาแต่เรียกคุณนี่แหล่ะครับ”

“มันติดปากพี่ไปแล้วนี่นา เหมือนคุณชุนชอบเรียกพี่ว่าพี่หมวยไง”

“ก็มันเหมาะกับพี่”แกหันมายิ้มให้ก่อนจะวางผ้าขนหนูลงบนหัวเรา ขยี้แรงๆไปมาราวกับอาบน้ำให้หมา “อย่ามองผมแบบนั้น ผมกลัวพี่จะไม่ปลอดภัย”

“พี่จะไม่ปลอดภัยยังไง พี่ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

“ไม่ปลอดภัยจากผมนี่ล่ะ”แกว่าอย่างนั้น จนเรายืนนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะสาวเท้าช้าๆตามแกไปโดยดี ระหว่างรอทานมื้อเย็นเราก็อาศัยช่วงคุณชุนไปอาบน้ำไลน์ไปถามไอ้อี้ว่าที่เขาพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ก็โดนมันย้อนถามว่าสรุปชื่อกวางหรือชื่อควาย..ทำไมโง่นัก ไอ้อี้บอกว่าคนทำแบบนี้ให้ พูดจาแบบนี้ก็คนชอบกันอยู่แล้ว ถ้าบรรยากาศเป็นใจก็ให้ยอมๆไป จะได้แฮปปี้ดี๊ด้าทั้งสองคน...

แต่เราไม่รู้ว่าคุณชุนจะชอบเราจริงๆหรือ ในเมื่อเขาก็เคยคบผู้หญิงมาคนหนึ่ง หากคบไปแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป วันใดทำตัวไม่ถูกใจ ทะเลาะเลิกรา ไม่ต้องออกจากงานเลยเหรอ...

ชอบคนๆหนึ่งมันไม่ง่ายเลย..จริงๆนะ



:D

แท็ก #คุณชุนพี่หมวย จ้า 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น