Title
: Debutante
Author
: RUNAWAY05
Pairing
: Shixun x Luhan x Sehun
Type/Rate
: Erotica /NC-19
Note
: เรื่องนี้ไม่มีคนใส....
ช่วงเวลาสายๆของวันรุ่งขึ้นลู่หานก็เอาผ้าที่ซักไว้ออกมาตาก
เสื้อผ้าของคุณซื่อชวินได้รับอนุญาตให้ตากแดดได้ เพราะเจ้าตัวชอบกลิ่นแดดและบอกว่าเวลาใส่เสื้อที่คงไอแดดจางๆมันทำให้รู้สึกสบาย
ผิดกับคุณเซฮุนที่กำชับผ่านพี่ชายมาว่าเสื้อผ้าต้องตากในร่ม ปั่นน้ำยา
อย่าให้โดนแดดตรงๆ
แม้จะรู้สึกถึงความจุกจิกนั้นแต่ลู่หานก็เลือกที่จะทำไปอย่างไม่ปริปากบ่นอะไร
เด็กหนุ่มหิ้วตะกร้ากลับมาในตัวบ้านเพื่อจะนำไปเก็บที่ห้องซักล้าง
ก็พบหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินวนไปมาแถวๆครัว
ดวงตาของหล่อนที่จืดจางลงเพราะไร้เครื่องสำอางก็หันมาหรี่ใส่ลู่หานอย่างสงสัย
ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรเท่าใดนัก
“ป้าแม่บ้านล่ะ?”
“ท่านไม่สบายครับ..ผมเลยมาทำงานแทนชั่วคราว”ลู่หานตอบไปตามตรง
เพียงเท่านั้นหล่อนก็ถอนหายใจนิดหน่อย
“คั้นน้ำส้มให้ฉันหน่อย แล้วชงกาแฟดำเข้มๆให้คุณเซฮุนด้วย”
“ครับ”
“เหยาะเกลือนิดเดียวนะ ฉันไม่ชอบเค็มมาก”
ลู่หานรับคำเบาๆก่อนจะไปทำเครื่องดื่มตามคำสั่ง
ผู้หญิงคนนี้ดูสวยแม้จะไร้เครื่องสำอางไปแล้ว
น้ำเสียงคล้ายคลึงกับเสียงแว่วเบาเมื่อคืน นั่นจึงทำให้ลู่หานแน่แก่ใจว่าข้อห้ามของป้าอึนบีมีไว้เพื่ออะไร..
คงเพราะรสนิยมทางเพศของแฝดคนน้องบ้านนี้คือการพาคู่นอนไปทำอะไรๆทั่วบ้านสินะ...
เมื่อจัดเครื่องดื่มใส่ถาด
หล่อนก็ยกมันขึ้นไปชั้นบนโดยไม่พูดอะไรสักคำ
และลู่หานก็ได้แต่มองตามก่อนจะทำหน้าที่ของตนเองต่อ กวาดถูห้องหนังสือ ห้องดนตรี
และห้องที่เปิดไว้ตามอนุญาต
จนมาถึงห้องของคุณซื่อชวินที่เจ้าตัวอนุญาตให้มาทำความสะอาดได้ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน
ลู่หานถือถังอุปกรณ์ก่อนจะหมุนลูกบิดเข้าไป ก็พบเพียงห้องที่มีสีโทนครีมขาว
ทั้งผนังและข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกจัดเป็นระเบียบไปทุกส่วน
ลู่หานมองอย่างแปลกใจที่แม้แต่หนังสือบนชั้นยังเรียงกันตามหมวดอักษร เขาทำความสะอาดไปพิจารณาความเป็นอยู่แฝดพี่ของบ้านไป รูปรอยยิ้มกว้างๆในวัยเด็กของอีกฝ่ายทำให้ลู่หานยิ้มออกมานิดหน่อย
จะว่าไปแล้วในใจของลู่หานก็ยังรู้สึกอับอายเพราะคิดอะไรเกินเลยเพียงเพราะได้กลิ่นเพียงเท่านั้น
จิตใจภายในลึกๆไม่ได้พอใจแค่เพียงกลิ่น แต่ลักษณะท่าทีของคุณซื่อชวินทำให้ลู่หานเจอสิ่งที่เขาขาด
นั่นคือความห่วงใยแบบพ่อ แบบที่ญาติผู้ใหญ่ปกป้องดูแลต่อเด็ก มันเป็นความอบอุ่นที่เขาคิดว่าความพึงใจในสิ่งนี้ทำให้เขาหลงเข้าไปในความรู้สึกนึกคิดที่ไม่สมควร
แต่หากจะให้ถอนอกถอนใจนั้นก็ยากเสียเหลือเกิน...
เมื่อตะวันบ่ายคล้อยลู่หานที่จัดเก็บผ้าเข้าห้องซักรีดก็พบว่าคุณเซฮุนได้พาหญิงสาวที่พาด้วยกันนั้นออกไปเสียแล้ว
และห้องของเจ้าตัวยังไม่สามารถเปิดเข้าไปทำความสะอาดได้แต่อย่างใด
ลู่หานลงมือทำกับข้าว และคุณซื่อชวินกลับมาถึงบ้านแล้วเช่นกัน มือบางหยุดทุกอย่างบนเขียงเอาไว้
ก่อนจะล้างมือแล้วออกไปรับเจ้านายที่หน้าบ้านเหมือนเดิม
“ผมช่วยนะครับ”
“อา..ขอบคุณนะ เซฮุนออกไปแล้วเหรอ? ไม่เห็นรถหมอนั่นอยู่”ซื่อชวินกล่าวถามอย่างแปลกใจนิดหน่อย
“ครับ ออกไปตั้งแต่บ่ายแล้ว”
“ฮืม...ไม่ติดบ้านอีกแล้วนะ คุณแม่ยิ่งกลัวๆอยู่”บ่นกับตนเองก่อนจะเงยหน้ามองลู่หานจึงรู้สึกตัว
จึงส่งกระเป๋าให้ “คงได้ยินเสียงเมื่อคืนแล้วใช่มั้ย?”
“...”
“หมอนั่นชอบพาพวกนางแบบมาตอนดึกๆแบบนี้แหล่ะ
แต่ก่อนก็พาไปที่บ้าน คุณแม่ก็ไม่ชอบใจที่มีสาวแปลกหน้าเข้าออกบ้านทุกวัน
จนบ้านหลังนี้สร้างเสร็จ เซฮุนก็ขอมาไว้เป็นสตูดิโอทำงาน
คุณแม่เลยให้ฉันมาอยู่ด้วย ...มันก็ดีกว่าอยู่คนเดียวล่ะนะ”
“ครับ”ลู่หานแย้มริมฝีปากเล็กน้อย
ก่อนจะมองซื่อชวินที่แกะปมเนคไทออกอย่างทุลักทุเล
จึงได้วางกระเป๋าทำงานของอีกฝ่ายไว้บนโต๊ะก่อนจะเข้าไปช่วยเหลือ
“อา..เหมือนปมจะผิดเลยครับ”
“ปกติฉันใช้เนคไทสำเร็จรูปนะ
แต่มันหายไปไหนไม่รู้”
“ผมเจอมันตกอยู่หลังตู้น่ะครับ
เลยไปซักให้ใหม่แล้ว”ลู่หานว่าพร้อมกับช่วยแกะปมเนคไทคลายออกให้อยู่เรียบร้อย
โดยชายหนุ่มก็ปลดกระดุมบนออกพลางถอนหายใจอย่างโล่งๆ ในตอนนั้นลู่หานจึงได้กลิ่นกายของอีกคนระยะประชิดอีกครั้ง
ดวงตาโตมองลำคอของซื่อชวิน... แนวลำคอและลูกกระเดือกลงไปจนถึงไหปลาร้าที่ซ่อนให้ปกคอเสื้อ
เพียงเท่านั้นริมฝีปากเล็กๆก็เผลอเม้มเข้หากันโดยไม่รู้ตัว
“ลู่หาน”
“?!...ครับ”
“เห็นเหม่อๆ คงจะเหนื่อยล่ะสิ”ดวงตาโตเงยหน้ามองซื่อชวินที่ส่งยิ้มมาให้
“ไม่ต้องเร่งทำทุกอย่างก็ได้ ค่อยๆทำไป เหนื่อยก็พัก”
“ครับ...”
“ถ้ามีคนมารอตอนเลิกงานแบบนี้ทุกวันก็ดีสินะ”ทิ้งท้ายเท่านั้นก่อนจะส่งสูทให้กับลู่หานพร้อมกับเดินไปเข้าด้านใน
ปล่อยให้เด็กหนุ่มหูอื้อไปอีกครั้งหนึ่งอย่างไม่ได้นึกว่าคำพูดนุ่มนวลเช่นนี้จะออกจากปากอีกคนซ้ำหน
ลู่หานเดินตามผู้เป็นนายมาด้านใน โดยที่ซื่อชวินก็เดินไปทิ้งตัวกับโซฟาอย่างเหนื่อยล้า
“คุณซื่อชวินครับ”
“ว่าไงเหรอ”
“คือ...ของสดในตู้จะหมดแล้วน่ะครับ
ทำอาหารได้อีกแค่วันสองวัน ถ้ายังไงให้ผมออกไป..”
“พรุ่งนี้ฉันหยุด..ไว้ฉันพาไปซื้อดีกว่า
ตุนเอาไว้เยอะๆแหล่ะดี ทำงานบ้านเหนื่อยๆต้องออกไปซื้อของอีกเหรอ? ...ฉันว่าไม่จำเป็นหรอก”ชายหนุ่มกล่าวก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
“ว่าแต่...นวดเป็นรึเปล่า?”
“เอ๋?”
“ฉันปวดบ่ามากๆเลย”ว่าพลางบีบบ่าของตนไปมา
ลู่หานที่ยืนเงอะงะก็ค่อยๆก้าวมาหาอย่างเก้ๆกังๆ
“ผมนวดไม่เป็นครับ
แต่แค่พอบีบๆพอได้..เวลาที่แม่ผมกลับมาจากทำงาน”มือเรียวแตะต้นคอของชายหนุ่มบางเบา
ก่อนจะกดน้ำหนักที่นิ้วมือทั้งสี่ลงไปพร้อมๆกับออกแรงจากหัวแม่มือ ดวงตาคมหลับลง
ก่อนจะส่งเสียงออกมาผะแผ่ว
“ตรงนั้นแหล่ะ..ดีมากเลย”
“...”
“อา..ใช่..ลู่หาน
กดตรงนั้นล่ะ...อา...”เสียงครางด้วยความเมื่อยนั้นกลับทำให้สมาธิเด็กหนุ่มกระเจิดกระเจิง
ดวงตาโตไล่มองแผ่นหลังกว้างที่ทับไว้ด้วยเชิ้ตสีครีมตัวบาง ช่างกว้างเสียจนอยากแนบใบหน้าลงไปสักหนหนึ่ง มือเรียวไล่บีบไหล่พลางมองแผ่นหลังของเจ้านายที่หลุดร้องเบาๆอย่างเมื่อยล้า
โดยไม่รู้ว่ากำลังทำให้คนที่นวดอยู่คิดมากไปเสียเพียงใด นิ้วมือที่เริ่มออกแรงบีบก็ค่อยๆลากไล้อย่างสั่นเทา
จนสุดท้ายลู่หานก็ละมือออก ก่อนจะผุดลุกขึ้น
“ด..เดี๋ยวผมไปหาน้ำมาให้ดื่มนะครับ”
“...”
ลู่หานลุกพรวดพราดวิ่งออกมาที่ครัว...ก่อนจะผ่อนลมหายใจกับตนเองพลางกุมมือที่สัมผัสกายอีกคนเอาไว้
แม้จะบอกตัวว่าอีกฝ่ายคือเจ้านาย เขาไม่ควรทำอะไรที่มันเลยเถิดจนดูไม่ดี
ทว่าเมื่อครู่นั้นลู่หานอยากจะสัมผัสดูสักครั้ง
ประสาอยากลองไปตามช่วงอายุ... หากกอดเอวสอบนั่นดูสักครั้งจะเป็นอย่างไร
จรดใบหน้าลงไปกับผืนหลังกว้างที่ท่าทางน่าจะปลอดภัย... หากแค่คิดก็ยังรู้สึกผิด...
เมื่อเด็กหนุ่มถือถาดน้ำเย็นกลับมาก็พบเจ้านายของตนเองกำลังนั่งไขว่ห้างมองเขาด้วยสีหน้าเรียบๆ
ตอนนั้นลู่หานจึงได้นึกออกว่าตนเองนั้นจู่ๆก็พรวดพราดออกไปอย่างเสียมารยาทโดยที่เจ้านายไม่ได้สั่ง
ใบหน้าหวานก้มลงอย่างรู้สึกตัว โดยที่ซื่อชวินก็ทอดสายตามองพลันกล่าวเนิบนาบ
“ฉันยังไม่ได้สั่งให้ไปเอาน้ำมาให้เลยนะ”
“คือ...ผม...”
“คิดจะไปก็ไปเหรอ? หรือยังไง?...หรือเห็นว่าฉันใจดีเลยจะทำอะไรก็ได้?”
“ไม่ใช่ครับ..ผมขอโทษ..ผม...”ลู่หานพูดเสียงอ่อน
ก่อนจะเอื้อมมือที่สั่นเทาหยิบแก้วน้ำลงกับโต๊ะ
ทว่าจู่ๆมือของซื่อชวินก็เข้ามาจับแก้วกะทันหันทำให้ลู่หานสะดุ้งเผลอปล่อยมือจนแก้วน้ำตกแตกกระจายกับพื้น
เพล้ง!
“โอ๊ะ!”
“อ๊ะ! ขะ..ขอโทษครับ..ขอโทษจริงๆครับ”ลนลานเอ่ยรีบเร่งพร้อมกับพยายามหยิบเศษแก้วที่แตกใส่ถาดเอาไว้
แต่ไม่วายเผลอโดนคมแก้วให้ได้รับบาดเจ็บไปเสียอีก “โอ๊ย!”
“ลู่หาน! ..ฮึ่ม! ไม่ต้องทำแล้ว!”ซื่อชวินส่งเสียง
ก่อนจะหยิบทิชชู่มารวมๆกันพร้อมกับกวาดเศษแก้วเล็กๆใส่ถาด
ก่อนจะดึงมือของอีกคนแล้วพามานั่งบนโซฟา เขาลุกขึ้นไปยังตู้ยาอีกครั้ง
และครั้งนี้มากับกล่องยาสำหรับทำแผลสด ดีที่ลู่หานไม่โดนบาดลึกนัก แต่ก็มีเลือดซึมออกมาไม่น้อย
ซื่อชวินเดินออกไปที่ห้องครัวก่อนจะกลับมาพร้อมขวดน้ำดื่ม
ชายหนุ่มเทน้ำลงสำลีก่อนจะได้ยินเสียงแผ่วเบาออกมาจากลู่หาน
“หลังจากที่ผม...”
“?”
“หลังจากที่ผม..ล้มที่ครัว...ผมก็รู้สึกแปลกๆ ผมเอาแต่นึกถึงกลิ่นตัวของคุณ...
พอเป็นอย่างนั้น...ผมเลยต้องรักษาระยะไว้บ้าง เพื่อจะได้ไม่ดูน่าเกลียดแบบนี้”
“...”
“แต่มันกลับทำให้คุณซื่อชวินไม่พอใจผม...แล้วทุกอย่างก็แย่กว่าเดิม...ขอโทษนะครับ
ผมจะไม่คิดฟุ้งซ่านแบบนี้อีก จะตั้งใจทำงานจนกว่าป้าอึนบีจะหาย...?”
ลู่หานเบิกตาเล็กน้อยเมื่อจู่ๆซื่อชวินก็เป่าลมที่ปลายนิ้วของเขาเบาๆสองสามครั้ง
ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะขยับแยกออก
เรียวลิ้นชายหนุ่มแตะคราบเลือดที่ปลายนิ้วของลู่หานทำเอาร่างเล็กสั่นไปทั้งตัว
ลิ้นของคุณซื่อชวินเป็นสีแดงราวกับลูกเชอรี่ ประกอบด้วยหยาดชื้นและความอุ่นร้อน ปลายลิ้นตวัดเลียขึ้นบางเบา
ก่อนจะหดริมฝีปากดูดซับคราบเลือดอย่างอ้อยอิ่ง ลู่หานรู้สึกร้อนวาบที่ใบหน้าและความร้อนนั้นแล่นปราดลงไปทั้งตัว
เขาเงยหน้ามองใบหน้าคมคายที่ผละริมฝีปากออก ก่อนจะอ้าปากลากลิ้นตั้งแต่โคนนิ้วขึ้นหาปลายอย่างเนิบนาบ
“คะ..คุณซื่อชวินครับ...”
“...”
“ผม...อย่าครับ...”เด็กหนุ่มวอนผะแผ่ว
ก่อนจะนิ่งสนิทเมื่อดวงตาคมกริบค่อยๆตวัดขึ้นสบตาของเขา.. ดวงตาของซื่อชวินเป็นสีน้ำตาลอ่อนยามแสงส่องเข้ามา
เพราะบรรยากาศในบ้านเริ่มมืดเนื่องจากยังไม่มีใครเปิดไฟนอกจากแสงไฟจากส่วนครัว
ลู่หานพยายามดึงมือออกแต่ก็พบว่าอีกฝ่ายฉวยมือของเขาเอาไว้เสียแน่น
“คงเห็นแค่ตอนที่ฉันใจดีจริงๆ”
“...”
“ฉันไม่เอาตัวมาพัวพันกับใครง่ายๆหรอกนะ
แม้แต่ป้าอึนบีฉันก็มีระยะห่าง... การที่ฉันดีด้วยไม่ได้แปลว่าฉันบริสุทธิ์ใจหรอก”
“คุณซื่อชวิน...”
“ตอนที่ฉันเห็นลู่หานครั้งแรก...คงเหมือนกับตอนที่ลู่หานได้กลิ่นตัวของฉัน
มันก็แค่กลิ่นเหงื่อ ไม่ได้หอมตรึงใจอะไรนักหรอก”ซื่อชวินกล่าวนวลนุ่มสองมือไล้วนมือของลู่หานอย่างบางเบา
“แต่กับฉัน..ทั้งตัวของลู่หานมันทำให้ฉันรู้สึกยากลำบาก... ลำบากที่ใฝ่หา
และลำบากที่จะคอยทำอะไรสักอย่างไม่ให้ลู่หานกลัวฉัน... ฉันก็ผู้ชาย ลู่หานก็ผู้ชาย
หากฉันคิดไปเองคนเดียวคงจะตะขิดตะขวงกันไปเปล่าๆ”
“...”
“ฉันเอ็นดูลู่หานนะ...เพราะทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นพี่ที่ดูแลคนอื่นได้
โดยที่เซฮุนไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกแบบนั้น...
แต่พอเป็นอย่างนี้มันยิ่งทำให้ฉันโลภมากไปอีก”
ซื่อชวินหลับตาลงเพียงสั้นๆ พลันขยับยิ้มอ่อนจาง
เขาดึงมือของลู่หานมาแปะที่แผงอก ก่อนจะใช้มืออีกข้างสัมผัสข้างแก้มของลู่หานเอาไว้
หัวแม่มือจรดลงที่ริมฝีปากเล็กสีแดงราวกับตุ๊กตา และซื่อชวินก็ดันมันเข้าไปในโพรงปากของเด็กหนุ่มช้าๆ
สายตาของเจ้าของบ้านยามนี้ช่างมองไม่ออกว่าเป็นไปในทิศทางไหน คิ้วได้รูปคลายตัวเมื่อเด็กหนุ่มยอมให้หัวแม่มือของเขาเข้าไปในปาก
เขาพินิจใบหน้าหวานหยดนั้นไล่ขึ้นทั้งดวงตาโตที่มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น
จมูกเล็กรั้นที่ผ่อนลมหายใจติดขัด สองแก้มแดงปลั่ง
ริมฝีปากเล็กๆที่วาวหยดหยาดน้ำลายเล็กน้อย
ซื่อชวินถอยนิ้วออกก่อนจะดันเข้าไปใหม่อยู่หลายครั้ง
จนมือของลู่หานแตะเข้าที่ข้อมือชายหนุ่มข้างหนึ่ง ทว่าก็ไม่ได้ออกแรงขืนห้ามปรามแต่อย่างใด
ร่างสูงขบฟันแน่นเมื่อปลายหัวแม่มือของเขาสัมผัสถึงความนุ่มหยุ่นของปลายลิ้นลู่หาน
ปากเล็กเริ่มห่อรับอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับมือบางท้างแผงอกเริ่มขยับไหว
ลูบไล้เชื่องช้าจนลมหายใจของชายหนุ่มแผ่วเบาลง
เส้นหักห้ามใจดังสายป่านเก่าๆฉีกตัวรอวันขาดสะบั้นสิ้นด้วยแรงปรารถนาที่ปลายทั้งสองด้าน
ชายหนุ่มโอบร่างเล็กเข้ามาจนชิด
สอดมือเข้าหลังเสื้อยืดสีสุภาพลูบไล้แผ่นหลังเปล่าๆที่เนียนนุ่มมือ นิ้วมือถูกถอนออกโดยที่ลู่หานยังเผลอปล่อยริมฝีปากดวงตาปรือปรอยราวกับลูกแมว
ซื่อชวินแตะหัวแม่มือนั้นกับริมฝีปากของตนเอง เผยอปากให้ลิ้นได้สัมผัสต่อกันราวกับจูบทางอ้อม
แต่ชายหนุ่มเห็นว่ามันมีวิธีที่ดีกว่านั้น เขาจับท่อนขาลู่หานขึ้นพาดหน้าตัก พลันแนบจูบไปอย่างบางเบา
ลู่หานนิ่งงันไม่หือไม่อือ ก่อนที่ซื่อชวินจะเลียริมฝีปากสีแดงเล็กๆนั้นผะแผ่ว
พร้อมกับใช้ริมปีปากตนเองรวบกลีบปากนุ่มนวลเพียงสั้นๆให้เผยอออก เมื่อริมฝีปากของเขาเบียดจูบลงไปอีกครั้งสองครั้งเด็กน้อยก็ยอมให้ก้าวล่วงเข้ามาด้านใน เรียวลิ้นชื้นตะแต้มแผ่วเบาราวกับขนนก ฝ่ามือสองข้างโลมเล้าราวไล้กับกำมะหยี่
ลู่หานผ่อนลมหายใจยาว กลับตาลงเมื่อถูกกวาดต้อนทั้งปาก สัมผัสถ้วนทั่วแม้แต่ตามแนวฟันจนลู่หานได้กลิ่นกาแฟปะปนในลมหายใจของอีกฝ่าย
“ค..คุณซื่อชวิน..ผม..”เอ่ยร้องติดขัดเมื่อถูกยกสะโพกขึ้นคร่อมเจ้าของบ้านบนโซฟา
ฝ่ามือชายไล้ลูบแผ่นหลังจนขนลุกสะท้าน ดวงตาของผู้ที่ถูกเรียกก็ทอดมอง
ก่อนจะยิ้มอย่างเรียบเรื่อยตามนิสัย
“มีอะไรเหรอ?”
“...”
“อย่ากลัวเลย... เซฮุนยังไม่มาหรอก... จนกว่าจะเที่ยงคืน”ว่าเท่านั้นก็เลิกเสื้อยืดของลู่หานขึ้นพร้อมกับจับมือบางให้รวบชายเสื้อเอาไว้
ดวงตากลมโตจ้องมองท่าทีของอีกฝ่ายอย่าตื่นเต้นระคนประหวั่น กลิ่นหอมหวนอบอวลจนไม่อาจทรงตัว
จนวงแขนแข็งแรงโอบรัดเอาไว้กับกาย พร้อมกับมองฐานปานสีชมพูระเรื่อ ริมฝีปากได้รูปของซื่อชวินขยับยิ้มอย่างยินดี
ก่อนจะแยกกลีบปากส่งปลายลิ้นสะกิดบางเบา
“อ่ะ!”
ลู่หานกระตุกตัวเฮือกกับความรู้สึกที่แล่ปราดไปทั่วตัว
แก้มสองข้างร้อนราวโดนเผาจนมอดไหม้ ปลายลิ้นอุ่นนั้นทั้งเปียกชื้นและนุ่มนวลจนแทบละลาย...
ลู่หานขย้ำชายเสื้อแน่น
พยายามกัดริมฝีปากเพื่อปิดกั้นเสียงน่าอับอายและอารมณ์ที่มีเพียงการทะยานขึ้นสูงอย่างไม่ผ่อนปรน
ไหล่ลาดสะดุ้งห่อเมื่อนิ้วยาวไล้แตะที่ร่องสันหลัง เสียงดูดเบาๆเพียงครั้งเข่าก็อ่อนแทบทรุด
ดวงตากลมหวานหลับแน่นเมื่อรู้สึกถึงเรียวนิ้วที่สะกิดกับข้างที่เพิ่งถูกปากสัมผัสไปจะตอนนี้มันย้ายไปอีกข้างหนึ่ง
หยาดน้ำลายช่วยให้การสัมผัสระหว่างนิ้วมือและยอดอกเป็นไปอย่างราบรื่น ลมหายใจของลู่หานหนักขึ้นและถี่แรง
ความรู้สึกทั้งหมดมวลเริ่มไหล่ไปกองระหว่างขาอย่างไม่รู้จะหาจุดระบายถ่ายเทได้จากตรงไหน
“คุณซื่อ..ช..วินครับ..”
“...”
“อา..ผม...ฮ้า...อื้ออ”
“...”ดวงตาคมตวัดมองใบหน้าหวานที่พยายามหลับตา
ท่าทีสั่นไปทั้งตัวอย่างไม่เคยคุ้นต่อสัมผัสเหล่านี้ทำให้ชายหนุ่มยิ้มบางเบา ก่อนจะผละริมฝีปากจากเม็ดไตหน้าอกมาจูบริมฝีปากฉ่ำเล็กราวกับผลไม้สุกอย่างนุ่มนวล
“ลู่หาน..”
“ครับ...”
“คืนนี้นอนกับฉันนะ”
“...”
“ถ้าคืนนี้ฉันได้นอนกอดลู่หานก็คงจะดี...อย่างนั้นคงไม่ต้องพะวงว่าจะไม่สนิทสนมกันอีก”ซื่อชวินอุ้มร่างเล็กๆเข้าวงแขน
ก่อนจะพาขึ้นชั้นสอง โดยปล่อยให้ประตูไฟฟ้าทำงานโดยไม่ต้องเดินไปปิด
และทิ้งผักบนเขียงไว้ที่ครัวอย่างนั้น...
ลู่หานสมองตื้อตันไปหมดราวกับคนเมา
เมื่อประตูห้องเปิดออก แผ่นหลังของเขาก็ทาบลงบนเตียงที่เพิ่งเก็บกวาดไปเมื่อกลางวันพร้อมกับน้ำหนักของอีกฝ่ายที่ทับโถมเข้ามา
กลีบปากเล็กหลุดครางอายามที่อีกฝ่ายไล่จูบผ่านเสื้อผ้าอยู่เช่นนั้น ทั้งวาบหวามและหวั่นไหวไปพร้อมกันในห้วงความรู้สึก
ดวงตาโตปรือขึ้นเล็กน้อยพลันขบริมฝีปากอย่างยากลำบากที่จะเปล่งเสียงออกมาโดยง่าย
“ลู่หาน...”
“...”
“ลืมตาสิ”
“...”ดวงตาโตลืมขึ้นก่อนจะเห็นใบหน้าของคุณซื่อชวินระยะใกล้ หน่วยตาคมนั้นทอดมองพลางแนบจรดริมฝีปากกับลู่หานอย่างนุ่มนวล
เพียงเท่านั้นร่างเล็กๆก็แทบละลายลงผืนเตียง ลู่หานเปิดริมฝีปากอีกครั้ง
สัมผัสก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นที่ลากไล้อย่างเนิบช้าและชุ่มฉ่ำ ราวกับกัดผลไม้สุกจนริมฝีปากจมลงไปพร้อมกับรสชาติฉ่ำหวาน
มือบางขยับสั่น เผลอตอบรับจูบอย่างเงอะงะด้วยแรงปรารถนา
เสียงคำรามแผ่วดังจากลำคอชายหนุ่มเมื่อมือบางแปะลูบแปะไล้ที่แผ่นหลังของตน ก่อนจะขยับลูบช้าๆแม้จะสั่นเทา
นวลเนื้อเบียดเสียดมีเพียงผ้าที่กางกั้นระหว่างเขาทั้งสอง รสจูบฉ่ำหวานเมามัวเพียงแค่การชักนำไม่กี่ครั้ง
เสื้อยืดถูกถอดออกวางข้างๆ
เหลือเพียงผิวเนื้อนวลตาอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด ลู่หานยกมือปิดริมฝีปากพลางบังผิวเนื้อส่วนอกอย่างค่อนข้างขวยอาย ทว่าไม่ได้ทำให้ซื่อชวินรู้สึกว่าน่ารำคาญ..
กลับดูน่ารักแม้ว่าร่างน้อยๆนี้จะผอมไปเสียหน่อย ร่างขาวเนียนตาราวกับกระดาษที่รอวันแตะแต้มสีลงไป
และซื่อชวินก็เลือกที่จะประทับกลีบดอกไม้ลงไปบนกระดาษแผ่นนั้น
“อ๊ะ!..อา...อาา”ปลายเสียงสั่นเมื่อมือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นจูบ
ก่อนจะจับให้โอบรอบคอพลันแตะริมฝีปากกับเม็ดไตที่ดีดรับ จูบเย้าจูบยวนจนเสียงครวญผะแผ่วไม่เป็นภาษา
อ้าปากงับเบาๆพอให้ร่างเล็กลอยยกขึ้นจากผืนเตียง ใบหน้างามสะบัดเบาเมื่อถูกลากดึงให้ย่างลงบ่อแห่งกามารมณ์ที่หาทางขึ้นไม่ได้
เพียงแค่ผิวเปล่าเสียดสัมผัสกับเชิ้ตของชายหนุ่มก็หายใจไม่ถ้วนทั่ว
ยิ่งฝ่ามืออีกฝ่ายที่วุ่นวายอยู่แถวต้นขา ทั้งลูบลงพลันย้อนขึ้นทั้งนอกทั้งใน
ถูกตะล่อมอ้อนวอนจนแทบใจขาด เพียงหวังถึงรสชาติฉ่ำหวานจะถูกเติมเต็มอีกครั้งหนึ่ง
“เด็กดี...”กระซิบพร่าอยู่ริมหูพร้อมกับกดริมฝีปากทับซ้ำให้ตัวสั่น
ก่อนมือที่ไล้วนต้นขาจะริดปลดกระดุมกางเกงลู่หานออก เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกมองใบหน้าของซื่อชวินอย่างลังเลก่อนจะถูกแต้มมุมปากให้ใจอ่อน
หน้าขาของเจ้าของบ้านเบียดให้เรียวขาขยับแยก
ลู่หานครางอือเมื่อส่วนกลางลำตัวที่ความรู้สึกไหลหลั่งไปจุกอยู่บริเวณนั้นสัมผัสกับหน้าขาของชายหนุ่มเล็กน้อย
นิ้วชี้ยาวเกี่ยวกับขอบกางเกงพลันดึงลง เด็กหนุ่มก็หุบขาเข้าหากัน
คิ้วของชายหนุ่มขมวดเล็กน้อย
ก่อนจะคลี่ยิ้มเมื่อเข่าที่ลู่หานพยายามเบียดให้ชิดหากันตอนนั้นติดช่วงเอวของชายหนุ่มไปเสียแล้ว
ซื่อชวินสบตากับลู่หาน ยกหลังมือขึ้นจูบพร้อมกับเลียบาดแผลเบาๆ
โดยที่ลู่หานก็เอ่ยปนหอบแผ่ว
“ผม..ผมกลัวครับ”
“...”
“ผมยังไม่พร้อม...”ลู่หานเอ่ยเบาๆอย่างประวิงว่าจะพูดอะไรขัดอารมณ์คนเป็นนาย
แต่ซื่อชวินกลับเลียนิ้วของลู่หานอีกครั้ง ลากเรียวลิ้นฉ่ำชื้นไปตามนิ้วเล็กก่อนจะรวบริมฝีปากรับนิ้วนั้นเข้า
ดูดดุนเบาๆพร้อมกับขยับศีรษะเล็กน้อย
เด็กหนุ่มเกร็งตัวเมื่อพบว่าอีกคนห่อริมฝีปากเหมือนที่เขาเผลอทำกับหัวแม่มือในตอนนั้น
ก่อนจะละปากออกช้าๆพร้อมกับหยดน้ำลายที่ค้างคาปลายนิ้ว
ซื่อชวินยิ้มนุ่มนวลพร้อมกับเอ่ยถามเบาๆ
“ไม่อยากให้ฉันทำแบบนี้ กับตรงนี้บ้างเหรอ?”
“ฮึ่ก!”ลู่หานสะดุ้งเมื่อฝ่ามือกว้างนั้นแตะลงส่วนกลางลำตัวที่ตื่นตามประสา
ลู่หานสั่นไปทั้งตัวอย่างลังเลไม่รู้จะตอบรับหรือปฏิเสธ ซื่อชวินหัวเราะเบาๆก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นไปกอดลู่หานเอาไว้
กดจูบบางเบาที่ข้างแก้มพลันเฝ้าจูบโลมให้ระทวยซ้ำหน
“ฉันรู้ว่าไม่เคย..ฉันยังไม่เอาเปรียบหรอก”
“...”
“แต่ถ้าเราพอใจในกันและกัน...ฉันก็ไม่คิดว่าที่ฉันจะทำมันผิด
ฉันเข้าใจถูกใช่มั้ย?”
“ครับ...”ตอบรับราวละเมอเมื่อรสจูบหวานฉ่ำพัวพันซ้ำ
ก่อนจะถูกตะล่อมถอดกางเกงจนหลุดไปกองปลายเตียง กายขาวสะอาดตาทอดตัวกับที่นอนสีขาว
มีไม่กี่จุดที่เปลี่ยนเป็นสีแดง เช่นพวงแก้ม ริมฝีปาก ตำหนิจางๆที่หน้าอก
ปานฐานถันทั้งสองข้าง และส่วนที่หลบซ่อนภายใต้ชั้นในตัวเล็กสีเข้ม ซื่อชวินไม่ได้ทำไปมากกว่าอะไรนอกจากขยับกายขึ้น
ก่อนจะเกี่ยวชั้นในของลู่หานรูดลง
เสียงครางหวิวลั่นร้องจากเด็กหนุ่มเมื่อปลายลิ้นของอีกฝ่ายแตะแต้มลงที่ส่วนปลาย
ก่อนจะใช้มือรูดให้ปลายเต่งนั้นออกมาภายนอก ซึ่งการตอบสนองนั้นว่องไวเพราะฝ่ามือที่สัมผัสไม่กี่ครั้งด้วยแรงอารมณ์ ลิ้นฉ่ำแตะละโคนขึ้นปลายดูดดึงพวงเนื้อทั้งสองจนเสียงหวานครางกระเส่า
จูบวนไล่ไปตามง่ามขาและขาอ่อนทั้งสองข้าง
ปลุกเร้าจนเห็นคาวปริ่มจึงได้สัมผัสอย่างที่ทำกับปลายนิ้วเช่นกัน
ลู่หานครางสะท้านเหงื่อกาฬท่วมตัว
ความรู้สึกของค่ำคืนในฤดูร้อนที่เดี๋ยวอบอ้าวเดี๋ยวเย็นวูบทำให้รู้สึกสับสนอลหม่าน
ราวกับฝูงผีเสื้อกางปีกกระจายตัวไปทั่วช่องท้อง ทั้งหวั่นกลัวทั้งสุขสม
ทั้งชื่นชมและขมขื่นด้วยหน้าที่ชั่วดี เขายกมือปิดหน้าส่งเสียงคราง
โดยที่ซื่อชวินก็ไม่คิดห้ามใดใดเมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ปิดหน้าที่แดงก่ำ
ชายหนุ่มแค่จรดริมฝีปาก ฉกไล้เรียวลิ้นไปตามส่วนกลางลำตัวที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่
ไล่กระตุ้นจนความหวานซึมออกมาก่อนจกวาดลงคอไปเสีย
สัมผัสถึงความเปียกชื้นราวกับสายน้ำกระเซ็นจากเครื่องจ่ายกลางสวน
ดื่มด่ำฉ่ำหวานไปกับรสชาติของกามารมณ์นั้นจนหน้าท้องเรียบหดเกร็ง ซื่อชวินผละใบหน้าออก
พร้อมกับรูดฝ่ามือเร่งเร็วจนลู่หานบิดตัวสะท้าน สองขาลอยสู่กลางอากาศ
ราวกับดักแด้ที่อึดอัดเบียดตัวภายในคราบแห้งน่าอึดอัด
สุดท้ายก็โผล่พ้นออกมาเป็นผีเสื้อสวยงาม…
เมื่อหยดหยาดสีขาวบริสุทธิ์เปรอะเลอะหลั่งไหล
ซื่อชวินก็กำสิ่งนั้นไว้โดยที่ร่างของลู่หานก็กระตุกสั่นไปทั้งตัว ชายหนุ่มเอื้อมหยิบทิชชู่เช็ดไคลคาวนั้นออกก่อนจะรับลู่หานเข้ามาในอ้อมกอด
จูบซับขมับชื้นราวกับปลอบโยนลูกแมวตัวน้อย
ร่างเปลือยเปล่าที่หมดแรงอยู่ในอ้อมกอดชายที่เครื่องแต่งกายครบถ้วนได้แต่ปรือตาขึ้นมองซื่อชวินที่แนบหน้าผากชิดพร้อมกับรำพันเบา
“ราวกับนางฟ้า...บริสุทธิ์ทุกสิ่งอย่าง...ฉันกำลังทำให้แปดเปื้อน”
“...”
“เต็มใจหรือเปล่า?...แต่ฉันเต็มใจเหลือเกิน...
ตอนที่จูบกับลู่หานฉันก็เข้าใจความรู้สึกของอดัมที่กัดแอปเปิ้ลในสวน”จุมพิตปลายจมูกรั้นบางเบานุ่มหวาน
“พอใจกับมันมั้ย..หรือฉันยังให้สุขได้ไม่พอ”
“ผม..”กลีบปากเล็กอ้าออก “จะขาดใจ...”
“ฉันจะสอนให้สิ่งที่จะขาดใจเป็นความพอใจ...เหมือนที่เรารู้สึก”เอ่ยบางเบาราวกับสายลมกลางฤดูร้อน
ลู่หานถูกจับมือให้เข้าแตะสัมผัสกับส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายนั้น
ต่างสบตากันราวกับสื่อความหมายและเป็นซื่อชวินก็ขยับจูบเข้าหา
และลู่หานก็ตอบรับเป็นเครื่องหมายว่าตกลง...
และแล้วเด็กน้อยก็สวมวิญญาณโจรร้ายย้ำเท้าเปล่าเข้าสู่สวนต้องห้าม..ไขว่คว้าหาผลไม้ของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อลิ้มรสอีกครั้ง..
-----------♦----------
แท็ก #ฟิคดบต คับบ
ไม่ ใส ไม่มีคนใส จริม จริม
ตอบลบ