Title : Loathe(3)
Author : RUNAWAY05
Pairing : OH SEHUN x LU HAN
Note : เวอร์ชั่นเซลู่
หลังจากที่พี่โอไม่มีตัวตนเลยในเวอร์ชั่นหานลู่
พี่เซฮุนหนูเลือกพี่ละนะ*ปาโปเกบอล*
ปล.1 เนื้อเรื่องไม่ต่างจากโลธเวอร์ชั่นหานลู่นะคะ
แค่เปลี่ยนตัวละครและบริบท
ปล.2 พี่จีซึงไม่ได้หนุนตักเราอยู่ วันนี้ฝนตกเลยกอดเราแทน บัย #มโน
**********************
เมื่อบานประตูเปิดออก...ลู่หานก็มองเห็นเพียงห้องๆหนึ่ง...
มันก็แค่ห้องธรรมดามาตรฐานห้องอพาร์ตเม้นต์ทั่วไป
หรือพูดง่ายๆว่าหอพักนักศึกษาทั่วไปก็เป็นห้องแบบนี้ ลู่หานเคยไปทำงานที่ห้องเพื่อนคนอื่นอยู่หลายครั้งการจัดวางรูปทรงก็ไม่ต่างเท่าใด
เข้ามาก็เจอห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้าและเครื่องซักผ้าแบบติดผนังทอดยาวเป็นทางเดินเข้าไปด้านใน
เมื่อมาถึงข้างในฝั่งซ้ายก็เป็นโซฟา
ไล่ไปถึงหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่มีม่านปิดจนไปถึงผนังอีกฝั่งซึ่งเป็นโต๊ะทำงานกับคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่ง
โต๊ะหัวเตียงและเตียงนอนสำหรับสองคนทั้งที่เซฮุนก็อยู่คนเดียว
ลู่หานไม่แปลกใจเรื่องนี้นักเพราะนิสัยพวกเขาชอบนอนกลิ้งไปรอบๆแบบไม่มีทิศทาง
อีกฝั่งหนึ่งก็เป็นชั้นหนังสือ ชั้นวางของแบบติดผนังเรื่อยไปจนถึงฝั่งตรงข้ามเตียงซึ่งเป็นเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆและตู้เย็น
ด้านบนเป็นโทรทัศน์ติดผนัง
“ตากผ้าตรงไหนเหรอ?”ลู่หานถาม เพราะดูท่าห้องนี้ก็มีการเข้ามาอยู่พอดูเช่นกัน เซฮุนวางกระเป๋าสะพายลงก่อนจะกล่าวออกมาเรียบๆ
“ส่งซัก
เครื่องนั้นก็เอาไว้ฉุกเฉินเฉยๆ”
“ฉุกเฉินแบบไหนเหรอ”
“ถามมากน่ะ”เซฮุนว่าอย่างติดรำคาญ
และลู่หานก็เบนหน้าออกไปทางอื่นแทน เขาวางถุงอุปกรณ์และกระเป๋าเป้ลง
ดวงตาโตจดจ้องม่านติดหน้าต่างนั้นก่อนจะใช้มือจับมันเลื่อนออก
แสงภายนอกสาดส่องเข้ามาจนเซฮุนต้องยกมือป้องสายตาก่อนจะเอ็ดขึ้น “ใครใช้ให้เปิด!”
“ก็ในห้องมันมืด”ลู่หานให้เหตุผลพร้อมกับโอเซฮุนที่กระชากม่านปิด
“ฉันพอใจที่จะให้มันมืด”
“...”
“ฉันให้เข้ามาในห้องไม่แปลว่าจะทำยังไงกับห้องนี้ก็ได้”เซฮุนจ้องหน้าน้องชายฝาแฝดของตัวเองก่อนจะสะบัดหน้าออกไปเปิดตู้หยิบผ้าขนหนูก่อนจะสาวเท้าเข้าห้องน้ำ
ปล่อยให้ลู่หานยืนมองบรรยากาศรอบๆห้อง นี่ไม่เหมือนห้องของเขาที่บ้านเลยด้วยซ้ำ...
เหมือนห้องของคนที่ใช้ชีวิตลำพังด้วยตนเอง
และนั่นเป็นสิ่งที่ลู่หานเคยหวังลึกๆและรู้ดีว่ามารดาไม่มีทางอนุญาตแน่นอน
บางครั้งลู่หานก็อดคิดไม่ได้ว่า...ความรักก็เหมือนกับกรง...
เสียงจูบเกิดขึ้นในห้องและมันคงเป็นเสียงเดียวในเวลานี้
เหมือนว่าแอร์ที่นี่จะเงียบกว่าที่ห้อง..หรือความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้ยินเสียงอื่นใดเลยกันแน่
เสื้อผ้าที่เลอะคราบฝุ่นดินของลู่หานตกอยู่กับพื้น
และบนเตียงก็มีแค่พวกเขาเท่านั้น และ ลู่หานก็รู้สึกว่ายิ่งจูบมากครั้ง
รสจูบของเซฮุนก็ยิ่งนุ่มนวลขึ้นเรื่อยๆ
ริมฝีปากนั้นกดแนบและเชยชิมอย่างนิ่มนวลแม้ลู่หานจะเตรียมใจสำหรับความรุนแรงมาบ้าง
พอเจอแบบนี้ก็เหมือนจะไปไม่เป็น เซฮุนงับปลายลิ้นนุ่มเบาๆจนเสียงครางในลำคอดังขึ้น
สองมือเล้าโลมร่างขาวละเอียดที่อ่อนหวานจนเขาโยนสามัญสำนึกทิ้งอย่างไม่ยั้งคิดอีกครั้ง
แต่เขาไม่รู้วิธีที่จะให้ลู่หานอยู่กับเขาได้เลยนอกจากวิธีนี้
“อ่า...อืม...”คนน้องส่งเสียงครางเบาๆเมื่อเซฮุนเลียปลายคางที่เชิดขึ้น
ลู่หานมีแผลเป็นที่ใต้ริมฝีปากทั้งที่เป็นเด็กขี้กลัวและโดนโอ๋จนไม่กล้าทำอะไรที่จะเสี่ยงให้โดนดุ
ผิดกับเซฮุนที่เล่นซนท้าตีท้าต่อยแต่ยังเล็ก แต่กลับไม่มีบาดแผลอะไรบนใบหน้าเลย
แน่นอนว่าบาดแผลนั้นไม่ได้เกิดจากลู่หานเอง เซฮุนจำวันนั้นได้เสมอที่พ่อแม่ทะเลาะกันและแม่สะบัดลู่หานที่พยายามเข้าไปเกาะขาตัวเองจนลู่หานล้มไปชนเหลี่ยมโต๊ะกระจกรับแขก
ริมฝีปากล่างฉีกขาดเลือดไหลทะลัก และวินาทีนั้นที่เซฮุนรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองโดนฉีกออกไม่แพ้กัน
โอเซฮุนจูบรอยแผลนั้นอย่างอ่อนโยนไล่เรื่อยลงไปกับลำคอระหง
ลู่หานหลุดร้องขึ้นเล็กน้อยก่อนจะขย้ำจิกผิวเนื้อของเซฮุนแน่น
ดวงตาของลู่หานค่อยๆหลับลง แผ่นอกกระดกยกขึ้นเมื่อนิ้วหัวแม่มืออีกคนสัมผัสไถติ่งไตเหล่านั้น
อีกข้างก็ถูกดูดดึงด้วยริมฝีปากสลับกับไล้เลีย
จ้ำจูบปรากฏขึ้นเป็นรอยแดงผสมกับหยาดเหงื่อที่ซึมออกมา
ลู่หานกอดอีกคนไว้แน่นเมื่อฝ่ามือไล่ลงสัมผัสร่างกายของตนเป็นจังหวะ
ผืนท้องขมวดเกร็งและทำอะไรไม่ได้มากกว่ายอมให้อีกฝ่ายเก็บเกี่ยวความนุ่มนวลตามแต่ใจ
“แฉะหมดแล้ว”กระซิบบอกใบหูของลู่หานที่แดงก่ำ
ก่อนจะงับเบาๆให้คนตื่นตัวหลุดผวาร้อง เซฮุนขยับตัวขึ้นนั่งกับขอบเตียง
ให้ลู่หานขยับตามลงไปนั่งกับพื้น
เขาโยนหมอนให้อีกฝ่ายได้รองเข่าเอาไว้โดยที่ลู่หานก็จับส่วนร้อนนั้นเข้าสัมผัสกับปาก
ศีรษะกลมประกอบด้วยเส้นไหมนุ่มๆขยับไหวอยู่กลางระหว่างขา และเซฮุนก็เกลียดลู่หานอีกครั้ง
เขาอยากให้ลู่หานไม่ประสา เขาอยากให้ลู่หานงุนงงและหวั่นกลัว
เพราะเขาจะได้ไม่รับรู้ว่าระหว่างลู่หานและหวงจื่อเทาคนนั้นไปถึงขั้นไหน
“อ่า...พอแล้ว”แตะคางน้องพร้อมกับยกตัวลู่หานขึ้นนั่งคร่อมทับหน้าขา
เจลหล่อลื่นที่เคยเก็บไว้สำหรับวันไหนที่เที่ยวดึกฉุกเฉินถูกนำมาใช้
ลู่หานหลับตาแน่นเมื่อเซฮุนกดสะโพกไว้ให้เข้ามาหา ริมฝีปากจูบทับรอยช้ำบนหน้าอก
มือข้างหนึ่งก็บีบโคนขาของลู่หานแทบจะจิกนิ้วลงไป
ลู่หานไม่เคยทำให้รู้สึกเบื่อหรือง่ายดายที่จะเข้าไปถึงเหมือนผู้หญิงคนอื่น
เขารอเวลาจนสุดท้ายลู่หานค่อยๆขยับตัวไปข้างหลังเล็กน้อยเพื่อเท้ามือกับข้อเข่าของเขา
มืออีกข้างจิกที่ไหล่ของเซฮุนพลางขยับตัวยกขึ้นเนิบนาบ เขาขบฟันกรอด
นิ้วที่บีบต้นขาเกลี้ยงนั้นขึ้นตะปบช่วงเอวคอดอย่างก้าวร้าว
อีกข้างโอบแผ่นหลังพร้อมกระทุ้งกายขึ้น กอบโกยลมหายใจราวตะกละตะกราม
สนองการเว้าวอนทางอารมณ์ที่ไม่มีทางสิ้นสุดนั้น
“อื้อ..อ่ะ..อา...ตรงนั้น...งัดขึ้น..แฮ่ก...แฮ่กแฮ่ก...ซึด..โอ๊ะ..อา...”เสียงพึมพำแทบไม่ได้ศัพท์เสียงดังขึ้นจากลู่หานในขณะที่เซฮุนแค่ขบกรามพร้อมกับส่งเสียงครางเบาๆออกมาเท่านั้น
แรงยวบเตียงกระเทือนลั่นจนเกิดเสียง เส้นประสาททุกเส้นเขม็งเกร็งรอเวลาที่จะกลับสู่ความว่างเปล่า
จนสุดท้ายร่างบนตักก็ผวาตัวจิกเกร็งจนค่อยๆผ่อนคลาย เซฮุนขยับรั้งรูดขับคาวน้ำให้กับอีกฝ่ายที่สั่นระริกอยู่กับตัว
“บอกให้หลับตาไง”
กล่าวไปอย่างนั้นเพราะลู่หานกำลังมองหน้าของเขาอยู่นิ่งๆ
เรียวนิ้วแตะข้างแก้มของเซฮุนผะแผ่วพร้อมกับเสียงพร่าของลู่หานที่ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
“หลับตาแล้วมันมืด...ฉันมองไม่เห็นใครเลย”
“...”
“ถ้าเป็นแบบนั้น...ฉันขอลืมตามองดูนายจะดีกว่า”
เซฮุนตระกองร่างลู่หานพลิกลงนอนหงายกับผืนเตียง
เขาจับเรียวขานั้นแยกออกเกยหน้าขาตนเองพลันขยับกายเข้าไปอีกครั้ง
เขาไม่ได้รู้สึกดีใจ และไม่ได้เสียใจ เขาไม่สามารถรู้สึกอะไรกับคำพูดเหล่านั้น
เพราะลู่หานไม่มีใคร...
ลู่หานต้องการใครก็ได้สักคนที่ไม่เลือกเลยเพื่อไม่ให้ตัวเองหนาว คนที่หัวใจบอบช้ำด้วยความรักก็ต้องการใครสักคนอยู่ข้างๆเหมือนกัน
หากว่านี่มันคือบาป...เซฮุนก็มั่นใจพอที่จะแบกรับบาปนี้เอาไว้แค่เพียงคนเดียว...
“กลับมาแล้วครับ”
สองพี่น้องส่งเสียงขึ้นพร้อมกันเมื่อเท้าแตะถึงบ้าน
เซฮุนถอดรองเท้าคาหน้าประตูในขณะที่ลู่หานถอดแล้วจับมันขึ้นวางบนชั้นก่อนจะกดเจลล้างมืออย่างเรียบร้อย
คนน้องเดินไปกอดมารดาที่รออยู่พร้อมกับคนพี่ที่ทักทายบิดาซึ่งนั่งอ่านหนังสือตรงโซฟา
“เป็นไงบ้างลูก
ทำไมดูเหนื่อยๆ”ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามลู่หานอย่างอ่อนโยน โดยที่เซฮุนก็ปัดสายตามองอยู่วูบหนึ่งก่อนจะเบนสายตาหนีเมื่อลู่หานตอบไปเบาๆ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ
ผมไปอาบน้ำก่อนนะ”
“จ้ะ”ผู้เป็นแม่อนุญาตลู่หานก็สาวเท้าขึ้นชั้นบนไป
เซฮุนขยับตัวจะขึ้นไปที่ห้องตนเองบ้างก่อนจะถูกมารดาเรียกเอาไว้ก่อน “เซฮุน...แม่ขอคุยด้วยหน่อย”
“...”เขาถอนใจก่อนจะหมุนตัวมานั่งตรงโซฟา
ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อมารดาหยิบโทรศัพท์ของลู่หานวางลงบนโต๊ะ
“แม่เข้าไปทำความสะอาดมา
ทำไมเอาของน้องไปซ่อนล่ะลูก”
“ใครบอกให้แม่เข้าไปครับ”
“เซฮุน!”มารดาส่งเสียงเอ็ด
“ตอบคำถามแม่ก่อนว่าทำไมต้องเอาของน้องไปซ่อนด้วย”
“...”
“ลู่หานไม่มีมือถือติดต่อ
แม่โทรหาน้องไม่ได้ จะไม่ให้แม่คุยกับน้องเหรอ?”
“...”
“ทำไมต้องรังแกน้องตลอดด้วย
แม่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงได้เป็นคนใจร้ายแบบนี้!!”
“พอซะทีเถอะครับ!”เซฮุนส่งเสียงออกมาบ้าง
“แม่ไม่คิดเหรอครับว่าถ้าลู่หานมีโทรศัพท์ไว้กับตัวแล้วคนๆนั้นโทรมา เขาจะเป็นยังไง!
เวลาที่เขาหุนหันทำอะไรไม่คิด
แม่คิดว่าผมเป็นยอดมนุษย์ที่จะห้ามเขาได้เสมอๆเหรอครับ!”
“เซฮุน...”
“แม่เอาแต่พูดว่าผมเกลียดเขา
แม่นั่นแหล่ะที่ทำร้ายเขาทางอ้อมมาตลอด!!”
“เซฮุน..ไม่เอา”คนพ่อปรามขึ้นบ้างพลางพับหนังสือพิมพ์ลง
โดยโอเซฮุนก็ถอนหายใจแรงอย่างโกรธจัด ส่วนคนเป็นมารดาก็นั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น
“อย่าขึ้นเสียงกับแม่เขา...เขาเป็นแม่เรา”
“...ขอโทษครับ”
“แม่...แม่จะเอาไปคืนน้อง”หล่อนสูดลมหายใจปนสะอื้นเบาๆพลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“แม่จะบอกว่าแม่เจอที่อื่นเอง...”
“...”เซฮุนทิ้งตัวลงกับพนักโซฟา ในขณะที่ลู่หานที่ได้ยินเสียงทะเลาะก็แอบลงมาก่อนจะได้ยินบทสนทนาเกี่ยวกับโทรศัพท์ของเขา
เป็นอีกครั้งที่พี่ชายฝาแฝดพยายามปกป้องไม่ให้หัวใจของเขาเจ็บไปมากกว่านี้
ลู่หานยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะถอยตัวกลับขึ้นไปบนห้อง
เมื่อเห็นมารดาลุกขึ้นและท่าทางเหมือนจะขึ้นมาหาเขา ลู่หานรีบเข้าห้องทำท่าเหมือนจัดของออกจากถุง
ก่อนจะมองพลาสเตอร์ที่ปิดแผลไว้นิ่งๆ คำพูดของเซฮุนที่ระเบิดอารมณ์ใส่มารดาก็หลั่งไหลเข้ามาเช่นกัน
โอเซฮุนคนที่เกลียดเขา...แค่พยายามที่จะรักษาเขาให้หายเท่านั้นเอง...
“ลู่หาน...แม่ขอเข้าไปหน่อยนะจ๊ะ”
“ครับ”และแล้วสิ่งที่ลู่หานเดาไว้ก็ไม่ผิดนัก
เขาขานรับและประตูก็เปิดออก
ปรากฏร่างของคนเป็นแม่เดินมานั่งลงพร้อมกับยื่นบางอย่างให้
“หนูทำตกไว้น่ะลูก แม่เก็บมาให้”
“ขอบคุณนะครับ...”ลู่หานหยิบสมาร์ทโฟนมาถือไว้โดยที่คนเป็นแม่ก็ลูบศีรษะเขาเบาๆ
“มิน่าแม่โทรหาลูกไม่ติดเลย
แม่เป็นห่วงหนูมากนะ”
“ขอโทษนะครับ”
“แล้ว...”ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นเสียงเบาลง
“เซฮุนแกล้งหนูอีกรึเปล่าลูก”
“...”ลู่หานส่ายหน้า
“เซฮุนไม่เหมือนเดิมแล้วนะ
เขาทำอย่างที่พ่อเขาต้องการ เขาคงแค่ไม่อยากให้พ่อรักหนูแน่ๆถึงชอบใจร้ายกับหนู”ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองมารดาที่ว่าร้ายพี่ชายฝาแฝดของตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
“เด็กแบบนั้นก็แค่ต้องการอำนาจ พ่อเขาให้ท้ายจนเคยตัวไปแล้ว เขาไม่ใช่เซฮุนของแม่...แม่มีลูกคนเดียวคือหนูนะลู่หาน”
“ทำไมแม่พูดแบบนั้นล่ะครับ”
“แม่จะหย่ากับพ่อ”มารดากล่าวด้วยถ้อยคำที่ทำให้ลู่หานอึ้งไปถนัดใจ
“แม่ทนนิสัยของพ่อเขาไม่ไหวแล้ว...ไว้เรากลับบ้านกันนะลูก กลับไปอยู่ที่จีนกัน”
“...”
“อย่าทิ้งแม่ไปนะ”หล่อนพูดพลางโอบลูกชายเข้าไว้กับตัว
โดยลู่หานเองก็ขมวดคิ้วมุ่นอย่างสับสน ซึ่งชั้นล่างนั้น เซฮุนที่นั่งอยู่กับบิดาก็เลิกคิ้วน้อยๆเมื่อคนเป็นพ่อวางอุปกรณ์สื่อสารลงกับโต๊ะ
เด็กหนุ่มหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะเลื่อนช้าๆ
และพบภาพของมารดากำลังเดินกับผู้ชายคนหนึ่ง เซฮุนมองหน้าของพ่อสลับกับเครื่องมือนั้น
ก่อนผู้เป็นบิดาจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“ธุระที่ผ่านมา...พ่อไปคนเดียว”
“...”
“จะว่าคนเดียวก็ไม่ถูก
พ่อไปกับเลขาลี... แม่เขาก็ไปกับคนที่เขาพอใจ”
เซฮุนหลับตาถอนใจพรูออกมาทันที
เขาวางมันลงก่อนจะมองคนเป็นพ่อนิ่งๆ “พ่อจะทำยังไงต่อครับ”
“เขาคงอยากหย่ากับพ่อเต็มทีแล้ว...พ่อเองก็ไม่อยากให้เลขาลีหลบๆซ่อนๆเหมือนกัน
รอสักปีสองปี ให้พอไม่เป็นที่นินทา พ่อคงจะแต่งกับเธอ”
“...”
“เหลือแต่แก...จะทนอยู่กับเลขาลีเขาได้มั๊ย? หรือจะไปอยู่เยอรมัน”บิดาเอ่ยถึงข้อเสนอที่เคยบอกไว้ตั้งแต่เซฮุนเรียนมัธยมปลายและหาที่ต่อในมหาวิทยาลัย
ในตอนนั้นเซฮุนอ้างว่าอยากอยู่เกาหลีกับครอบครัว..
แต่ทว่าในวันนี้ครอบครัวเริ่มแตกสาแหรกขาดขึ้นเรื่อยๆ
เขาเม้มปากอยู่พักก่อนตอบไปเบาๆ
“ผมอยู่คนเดียวที่นี่ก็ได้”
“มันไม่ได้แปลว่าน้องแกจะอยู่ที่นี่หรอกนะ”
“...”
“แกรักน้องพ่อรู้...แต่แม่เขาจะเอาลู่หานไปด้วย
แฟนใหม่แม่แกธรรมดาซะที่ไหนกัน ยิ่งถ้ารู้ว่าน้องแกมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน...”เซฮุนตวัดสายตามองคนเป็นพ่อทันที
และท่าทางพ่อของเขาก็คงสืบเรื่องแฟนใหม่ของผู้เป็นแม่มาเช่นกัน
เขาพบเพียงรอยยิ้มปลงๆและคำพูดของชายคนหนึ่งที่รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งมาทั้งชีวิต
“พ่อไม่หวังอะไรในตัวลู่หานตั้งแต่เขาไปรักกับผู้ชายแล้ว...
พนันกับพ่อมั๊ยล่ะว่ายังปล่อยให้เป็นแบบนั้น แฟนใหม่แม่แกก็คงเอาน้องแกไปย่ำยี
ไถเงินแม่แกกินใช้ แล้วก็จะย้อนมาเดือดร้อนพ่อเหมือนเดิม”
สองเท้าของเซฮุนค่อยๆเหยียบย่างขึ้นมาชั้นบนอย่างเชื่องช้า
เขาคิดไม่ออกว่าจะแก้ไขปัญหาต่อไปอย่างไรดี
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางให้ลู่หานไปผจญความเลวร้ายแบบนั้นอย่างแน่นอน
แต่เขาจะทำอย่างไรต่อไปได้บ้าง เขาคิดไม่ออก
เหมือนวิ่งมาเจอทางแยกที่ทุกอย่างเป็นทางตันไปเสียหมด และเขาก็เกลียดสถานการณ์แบบนี้เหลือเกิน
เซฮุนหันไปมองห้องของลู่หานที่วันนี้มันปิดประตูสนิท
แต่ก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆลอดออกมาจากห้องนั้นอยู่ดี
“ไม่เป็นไรแล้ว
เสี่ยวลู่แข็งแรงจะตาย”
“เมื่อไหร่จะมาที่นี่อีกเหรอ?”
“อ่า..ไม่มีอะไร เสี่ยวลู่คิดถึง”
“อย่าเพิ่งวางนะ...คุยกันก่อน..ได้มั๊ย...”
“จื่อเทา...อย่าทิ้งเรา...”
เสียงหัวเราะนั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้
โดยที่เซฮุนก็เข้าห้องปิดประตูทันที
เขายืนพิงประตูอยู่พักก่อนจะทรุดไหลลงมานั่งกอดเข่ากับพื้น
สองมือยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้าง... น่าสมเพชจริงๆ...ทำไมต้องโทรไปคร่ำครวญแบบนั้น
ทำแบบนั้นเขาจะรำคาญเอาไม่รู้เหรอไง? ทำแบบนั้นมันยิ่งน่าหงุดหงิด
บทสนทนาจะยิ่งจบเร็ว... ทำไมเขาจะไม่รู้
ก็พวกผู้หญิงเคยทำแบบนี้กับเขามาแล้วทั้งนั้น...
และคืนนี้ก็เป็นอีกครั้งที่โอเซฮุนเกลียดลู่หานเหลือเกิน...
อากาศยามเย็นของอีกวันแม้จะมีแดดแต่ก็ไม่ใช่แสงแดดที่รุนแรงอะไรนัก
สำทับด้วยลมเบาๆที่ยังโชยมาตลอด เซฮุนที่เข้ามานั่งพักหลังจากเล่นกีฬาร่วมกับเพื่อนๆในชมรมก็รับน้ำดื่มจากแบคฮยอนที่อยู่แผนกให้กำลังใจ
พลางหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กพาดรอบคอพร้อมกับซับเหงื่อในหน้า พวกเขาเงียบกันไปพักใหญ่จนแบคฮยอนเอ่ยขึ้นมา
“ไม่แสบหลังเหรอวะ”
“นิดๆ”เซฮุนตอบพร้อมกับเอ่ยสำทับ
“คืนนี้ไปร้านนะ”
“เฮี้ยนอะไรอยากเมา”
“พ่อกับแม่ฉันจะหย่ากัน
ไม่มีอารมณ์กลับบ้านแล้ว”
“ครอบครัวแกนี่มันอะไรกันวะเนี่ย”แบคฮยอนเบ้ปากทำท่าจะหยิบบุหรี่มาสูบ
แต่ก็คงนึกขึ้นได้ว่าอยู่ในสถาบันและคนค่อนข้างพอสมควรจึงแค่ขยับมันในกระเป๋ากางเกง
“พอๆกับครอบครัวแกไง”
“อ๋อ..ครอบครัวฉันที่รู้ว่าฉันได้กับตาลุงหูกางเจ้าของผับก็ตัดหางปล่อยวัดฉันทันทีน่ะเหรอ”บยอนแบคฮยอนเอ่ยถึงครอบครัวตนเองอย่างไม่ยี่หระ
แน่นอนว่าสังคมเกาหลีใต้ไม่มีทางยอมรับเพศที่สามกันง่ายๆ
แม้เด็กผู้ชายจะสามารถกอดรัดฟัดเหวี่ยง หอมแก้มซุกไซ้กันขนาดไหนก็ตาม ซึ่งแบคฮยอนเองถึงจะดูมีมนุษยสัมพันธ์มากกว่าเซฮุน
แต่เรื่องความไม่เอาใครนี่เรียกได้ว่าพอๆกัน พวกเขาไม่ชอบไปไหนเป็นกลุ่ม
ไม่เข้าพวกกับใคร เป็นคนตรงๆ ไม่ชอบจุกจิก ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน
ไม่ชอบพูดถึงคนอื่นลับหลัง ไม่ชอบฟังคนนินทากัน ไม่ชอบจิ๊จ๊ะอะไรกับใครมากมาย
แต่ถ้ามีอะไรที่เป็นพิเศษก็คุยกันแค่สองคนอย่างคนศีลเสมอกัน
“จะไปเลยมั๊ย?”แบคฮยอนถามโดยที่เซฮุนก็ถอนหายใจเฮ้อ ทำให้เพื่อนที่นั่งไขว่ห้างอยู่ได้คำถามใหม่ขึ้นมา
“แล้วเรื่องน้องแกเป็นไงบ้าง”
“ยังไม่ไป...ส่วนเรื่องนั้นก็ช่างเขา
ไปถามเองดิ พี่สะใภ้เขาไม่ใช่เหรอ”ร่างกะทัดรัดว่าให้แบคฮยอนที่เหลือกตาขึ้นฟ้า
ซึ่งใจจริงเขาก็นับญาติไม่ค่อยจะถูกเพราะชานยอล
คนที่คบอยู่ปัจจุบันคนนี้เป็นพี่ชายของคุณหมอจื่อเทาแฟนเก่าของลู่หานซึ่งเป็นน้องชายฝาแฝดของโอเซฮุนที่เป็นเพื่อนของเขาคนนี้
และใช่ว่าความสัมพันธ์นี้แบคฮยอนจะไม่งุนงง เพราะแบคฮยอนเองก็วาดมายแมปปิ้งเล่นๆอยู่บ่อยครั้ง
“ใครจะไปถามวะ”
“ฉันก็เหมือนกัน ใครจะไปบอก”
“เซฮุน...
ฉันก็ไม่อยากสาระแนเรื่องของแกหรอกนะ แต่แกจะเป็นแบบนี้ไปนานแค่ไหน”
“ไม่รู้สิ... มันน่ากลัวว่ะ”
“?”
“เวลาที่เราคิดถึงใครสักคนแม่งน่ากลัว
คิดตลอดว่าเขาทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน อยู่ยังไง... เขาไม่ยอมออกไป..
ทุกครั้งเวลาที่ฉันบอกตัวเองว่าหยุดคิดถึง มันคือการเริ่มต้นคิดถึงอีกครั้ง..”
“ฉันว่าแกหนักแล้วนะ”
“แต่ฉันรู้สึกกับเขา”
“แต่ถ้าเขาเห็นแกเป็นแค่กิ่งไม้ให้คว้ามันก็เท่านั้นล่ะวะ!”แบคฮยอนว่า
“คิดให้ดีนะเว้ยว่าแกเป็นใคร แกเป็นพี่เขา ไม่ใช่คนในใจของเขา
ต่อให้แกอยู่กับเขาจนตายถ้าเขาไม่เคยรักแกเลยแม่งก็เท่านั้นแหล่ะ!!”
“...”
“ปวดหัว เครียด แดกเหล้า”แบคฮยอนสบถ
ก่อนจะลุกขึ้นชักชวนกันไปเปลี่ยนชุดและหาอะไรดื่ม เซฮุนไม่อยากกลับบ้าน
ไม่อยากรับรู้อะไรหลายๆอย่างไม่ว่าจะเรื่องครอบครัวหรือเรื่องของลู่หานก็ตามที
ไม่มีอารมณ์แม้แต่จะโทรนัดสาวสักคนหรืออะไรทั้งสิ้น เขาอยากดื่ม
ดื่มให้เมาแล้วก็หลับๆไปซะ จะได้ไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวายอีก
และไม่บ่อยนักที่เซฮุนจะเลือกแก้ปัญหาให้ตัวเองด้วยวิธีโง่ๆแบบนี้...
“เห็นบ่นว่าแพ้อากาศ แม่เอายามาให้
ทานแล้วนอนพักนะลูก”
ลู่หานนั่งมองมารดาที่นำยากับน้ำมาให้กลางดึก
มือเรียววางโทรศัพท์ลงก่อนจะเดินไปรับถาดยาเอาไว้ ตั้งแต่กลับมาบ้านจนกระทั่งมื้อเย็นลู่หานก็ไม่เห็นเซฮุนอีก
เขาทานข้าวกับพ่อแม่ตามปกติทั้งที่รู้ดีว่าอะไรหลายอย่างๆ(เช่น
ความสัมพันธ์ทั้งพ่อกับแม่หรือเขากับเซฮุน)มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“แม่ครับ”
“ว่าไงจ๊ะ”
“พี่เขาไปไหนเหรอครับ..เขาโทรมาบอกมั๊ย?”
“อย่างเซฮุนน่ะเหรอลูก”หล่อนถอนหายใจ
“คงทำอะไรตามใจตัวเองอีกนั่นแหล่ะ ไปเที่ยวที่ไหนอีกแล้วละมั้ง
ก็คงเห็นว่าทำอะไรก็ได้พ่อไม่ว่าเลยได้ใจ อย่าไปสนใจเลยจ้ะ”
แฝดน้องรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในใจทันทีที่เห็นคนเป็นแม่พูดจาถึงแฝดพี่ลับหลังแบบนั้น
ทั้งที่ไม่ได้พูดถึงตนแต่ลู่หานกลับรู้สึกเหมือนถูกด่าจนหน้าชา
จึงได้ตัดบทด้วยการพยักหน้าและทำท่ากินยานอน
เมื่อคล้อยหลังมารดาลู่หานก็ลุกขึ้นไปห้องน้ำเพื่อบ้วนยาทิ้ง
เขายกมือปาดหลังริมฝีปากก่อนจะกดออกจากkakao
talk แล้วต่อสายหาใครอีกคนแทน
“อะ...แบคฮยอนรึเปล่า”
((อือฮึ มีอะไรเหรอ))
“เซฮุน...อยู่กับแบคฮยอนมั๊ย?”
((คงไปนอนที่ห้องละมั้ง
ไม่น่าจะกลับบ้านอ่ะ ออกจากร้านไปแล้วกับไอรีน))
“...”
((หมอนั่นไม่ตายง่ายหรอก นอนเถอะ))
“ปวดหัวเหมือนจะตายเลย...”
เซฮุนพึมพำขณะที่ค่อยๆลากตัวออกมาจากลิฟต์โดยมีไอรีนคอยประคองตัวอยู่ไม่ห่าง
สาวสวยเดรสสั้นสีดำ เส้นผมยาวสีน้ำตาลตัดกับริมฝีปากสีแดงสดทั้งพยุงประคองและไล้ลูบเนื้อตัวของเซฮุนที่สวมเพียงเชิ้ตสีขาวกางเกงสีดำละรองเท้าหนัง
เรียกได้ว่ายังอยู่ในชุดนักศึกษาเสียด้วยซ้ำ
“เอากุญแจมานะคะ เดี๋ยวไอรีนดูแลเซฮุนเอง”
“ฉัน...อยาก...อยู่คนเดียว”
“เวลาแบบนี้อย่าอยู่คนเดียวเลยนะ ให้ไอรีนอยู่ด้วยดีกว่านะคะ”ระหว่างที่โต้แย้งเรื่องที่ว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่สองคน
หญิงสาวก็มองเห็นร่างของใครคนหนึ่งยืนพิงระเบียงหน้าห้อง
คนๆนั้นสวมโค้ทตัวใหญ่ติดเฟอร์เคลียช่วงลำคอ
มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าโค้ทอีกข้างก็เล่นรูบิคมือเดียวเหมือนรอคอย จนกระทั่งดวงตากลมสวยหันมามอง
ไอรีนจึงเข้าใจได้ทันที
“เขาไม่ควรอยู่คนเดียว
แต่ก็ไม่ควรอยู่กับคุณสองต่อสองหรอกนะครับ”
“อะ..ลู่หาน”
“เดี๋ยวผมดูแลเอง
ขอบคุณที่พามาส่งนะครับ”ลู่หานเดินไปล้วงกระเป๋าของเซฮุนก่อนจะได้คีย์การ์ดติดมือออกมา
เขาจัดการเปิดประตูก่อนจะรับร่างพี่ชายฝาแฝดมาพยุงให้พิงประตูไว้
ลู่หานถอดโค้ทตัวเองออกก่อนจะคลุมไหล่ให้กับไอรีน “อากาศมันหนาวนะครับ
ดึกๆแต่งตัวแบบนี้มันอันตราย”
“...”
“ขับรถระวังๆนะ
ฝันดีครับ”ลู่หานตัดตอนพร้อมกับลากเซฮุนเข้าไปพร้อมกับปิดประตู ทิ้งให้ไอรีนยืนแก้มแดงใจเต้นอยู่ตรงนั้น...
ลู่หานหลังจัดการปิดประตูเรียบร้อยก็พาเซฮุนมาด้านใน
คงมีแค่เมื่อวันก่อนเท่านั้นที่เขาเคยมาที่นี่เพราะตลอดมาลู่หานไม่เคยได้รับอนุญาตให้มารู้จักสภาพแวดล้อมของคนพี่
เพียงแต่ว่าลู่หานความจำดีพอที่จะนึกออกว่าห้องของเซฮุนอยู่ที่นี่และใช้สอยอะไรได้บ้าง
ตามจริงลู่หานมีชีวิตที่สมบูรณ์มาตลอด... ทั้งความรักท่วมท้นจากมารดา
ความรักจากคุณหมอที่พบรักกันตอนลู่หานไปตรวจสุขภาพประจำปี
ลู่หานหวังมาตลอดกับความสัมพันธ์ยาวนานอย่างตลอดไป
โดยลืมความจริงบนโลกไปข้อหนึ่งว่าเรื่องความสัมพันธ์ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน
“...”เมื่อไฟสีเหลืองส้มที่ผนังเปิด
เขาก็มองเซฮุนที่นอนเหยียดไปบนเตียง ก่อนจะแง้มม่านให้แสงกลางคืนเข้ามาเล็กน้อย
เดินหาไปอ่างเล็กๆมาหวังหาผ้าชุบน้ำ แต่เมื่อเปิดตู้เย็นก็พบผ้าขนหนูเย็นแช่เอาไว้
ลู่หานถอนใจเมื่อเห็นเบียร์หลายกระป๋องแช่ในนี้ ทุกอย่างเป็นระเบียบและเป็นสัดส่วนทั้งที่อยู่บ้านชอบโยนนั่นนี่ไม่มีระเบียบให้แม่มาบ่นให้เขาฟังหลายต่อหลายครั้ง
ก็คงดูแลตัวเองมาตลอด...
เลยมีผ้าแช่ในตู้เย็นแบบนี้ละมั้ง...
ลู่หานเช็ดตัวให้อีกคนก่อนจะเดินไปดูวิวในเมืองตอนกลางคืนแล้วปิดม่านลง
ลู่หานไม่ชอบชีวิตกลางคืนนัก
และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการแอบลักหนีออกจากบ้านเพื่อมาที่นี่เขาจะเจอคำตัดพ้อต่อว่าจากมารดามากมายเท่าใด
แม้ลู่หานไม่อยากอยู่คนเดียวสักเท่าไหร่แต่ลู่หานก็เริ่มไม่อยากให้มารดามาอยู่ด้วยอีก
ท่านไม่มีเวลา..เขารู้... แม้ตอนที่กำลังย่องลงมาชั้นล่าง มารดาของเขาโทรศัพท์อยู่ตรงส่วนรับรองชั้นบนก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาจะไปไหน
แฝดน้องนอนหงายอยู่ข้างๆพี่ชายที่เกิดก่อนเจ็ดนาทีแล้วจ้องมองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่า
ลู่หานไม่เคยไปไหนคนเดียว จะไปไหนมาไหนก็ต้องไปเป็นกลุ่ม ต้องมีเพื่อน มีสังคม
พอมาเจอชีวิตโดดเดี่ยวของเซฮุนก็ใจหาย เขาไม่รู้เลยว่ามันจะเหงาและเงียบได้ขนาดนี้...
เพราะขนาดตอนที่อกหักร้องไห้เจ็บปวดมากมายแค่ไหน
ลู่หานก็ยังได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเอง...
จริงสินะ...ลู่หานไม่เคยอยู่ตัวคนเดียว
และเซฮุนก็ไม่เคยอยู่ตัวคนเดียว...
พวกเขาอยู่กับตัวเอง...สุดท้ายก็มีแต่ตัวของเขาเองที่ยังอยู่เป็นเพื่อนไม่ยอมไปไหน...
กลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมาจากลมหายใจของเซฮุน
วินาทีนั้นลู่หานถึงได้รู้สึกตัวว่าเอาหน้าเข้ามาใกล้เซฮุนมาเกินไป
เขาขยับตัวขึ้นพร้อมกับเซฮุนที่ได้กลิ่นช็อคโกแลตก็ค่อยๆลืมตาทั้งที่ยังมึนหัว
“ไอรีนเหรอ?”
“อยากนอนกับเธอเหรอ? ฉันจะโทรตามให้”
“ไม่...”เซฮุนตะแคงตัวกอดลู่หานไว้
“ดีแล้วที่ไม่ใช่ยัยนั่น”
“...”
“มาได้ไง”
“แอบออกมา...ฉันเห็นว่าไม่กลับบ้าน”
“...”เซฮุนหลับตานิ่งๆพร้อมกับลู่หานที่เอ่ยออกมาอีกครั้ง
“ฉันขาดนายได้ซะที่ไหน”
นาทีนั้นแทนที่เซฮุนจะรู้สึกยินดี แต่เขากลับเหมือนโดนน้ำเย็นๆราดเอากลางดึก
ทั้งหนาวทั้งชากับถ้อยความของลู่หานที่ได้ยิน ผสมกับคำพูดของแบคฮยอนที่เคยบอกเอาไว้
“แต่ถ้าเขาเห็นแกเป็นแค่กิ่งไม้ให้คว้ามันก็เท่านั้นล่ะวะ!”
“คิดให้ดีนะเว้ยว่าแกเป็นใคร
แกเป็นพี่เขา ไม่ใช่คนในใจของเขา ต่อให้แกอยู่กับเขาจนตายถ้าเขาไม่เคยรักแกเลยแม่งก็เท่านั้นแหล่ะ!!”
“...”
เซฮุนขยุ้มแขนเสื้อของลู่หานที่มองท่าทีของเขาด้วยท่าทีงุนงง
เสียงถอนใจสั้นๆนั้นทำให้ลู่หานไม่รู้จะทำยังไงต่อไปกับท่าทีพวกนั้น เขามองเซฮุนที่เกร็งมืออยู่สักพักแล้วจึงคลายออก
ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงติดห้วนแม้จะบางเบา
“เห็นฉันไว้คั่นเวลารึไง”
“...”
“จริงๆฉันก็หมดบทบาทตั้งแต่นายกลับไปคุยกับมันแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“...”
“เป็นไงล่ะ มันตัดสายนายอีกใช่มั๊ย? นอนร้องไห้ตาแฉะหาคนปลอบไม่ได้เลยวิ่งมาหาฉันล่ะสิ”
“เสียใจก็บอกดีๆสิ”ลู่หานว่าก่อนจะกอดเซฮุนเอาไว้
เขาปล่อยให้แฝดพี่ตัวเองซบหน้าไปกับช่วงอก นิ้วมือลากลูบกล่อมให้เซฮุนหลับไปซะแทนที่จะมาคิดถึงเรื่องปวดหัว
ลู่หานปวดหัว...และลู่หานก็ต้องการที่จะหลับเช่นกัน เขารู้ดีว่าหากยังคุยกันเซฮุนก็จะมีแต่อารมณ์ร้อนและเขาเองนี่แหล่ะที่จะเจ็บตัว
เซฮุนกระชับกอดลู่หานแน่นขึ้น พร้อมกับคำถามข้อหนึ่งที่ทิ้งไว้ให้ขบคิดตลอดคืน
“ถ้าฉันเสียใจ จะอยู่กับฉันใช่มั๊ย?”
****************************
#LoatheSELU
มันฟินคนละแบบกะเวอร์ชั่นของจีซึงนะ
ตอบลบเราฟินมากๆเลย ขอบคุณมากน้าาน้องหมา
โอ้ยยยยยย กิ่งไม้
ตอบลบ