วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

[SF] Baby and The Bear {SEHUN x LUHAN} 4/5







Title : Baby and The Bear 4/5
Author : RUNAWAY05
Couple : SEHUN x LUHAN
Note : หื่นกว่าเป็นหมี...

*********************************************



“จับไว้สิวะ ไหนใครจะถ่าย”

“กูเองๆ มึงเอาก่อนเลย”

“อย่า..อย่า...อย่าเข้ามา!

“เซฮุนมึงยืนหาอะไร!! ไปจับมันไว้ดิวะ!

“เซฮุน...ช่วยเราด้วย...”






“เซฮุน..อย่าทำเรา....”






เฮือก!!

ชายหนุ่มสะดุ้งผุดลุกขึ้นเมื่อความทรงจำเก่าๆตามมาหลอกหลอนจนผงะตัวขึ้นอย่างแรง ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจช้าๆก่อนจะพบว่าตอนนี้เวลาสองทุ่ม เขาผุดตัวจากโซฟาไปล้างหน้าในห้องน้ำ หลังจากกลับมาจากซูเปอร์เขาก็รู้สึกปวดหัวไม่อยากทำอะไรและบอกกับชอนซาว่าขอนอนสักพัก...

ชอนซาล่ะ?..

“...”เซฮุนรีบก้าวออกจากห้องน้ำแล้วพบว่าลู่หานกำลังยืนล้างผักอยู่ เหมือนว่าเด็กน้อยกำลังทำอาหารเตรียมไว้สำหรับมื้อเย็น เขาเดินไปกดน้ำที่ตู้เย็นก่อนจะทักเบาๆ “ทำอะไรกินครับ?”

“ซุปกิมจิฮะ ทำแล้วกินได้ ผมเคยทำให้แม่กินแล้ว”ลู่หานเตรียมผักสดเอาไว้ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับเซฮุน “แต่หมูย่างผมไม่ชัวร์ว่าจะกินได้มั๊ยนะครับ”

“เห็นแบบนี้ครูกินได้หมดนะครับ”เขาว่า ก่อนจะนั่งลงทานข้าวร่วมกับลู่หานอย่างปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติเอาเสียเลยคือใจของเซฮุน เขารู้สึกอึดอัดและปั่นป่วนไปหมด มันไม่ควรเป็นแบบนี้แต่มันก็เป็นไปแล้ว และช่างเป็นความรู้สึกที่จัดการได้ยากนัก

“อร่อยมั๊ยครับซอนแซงนิม”

“ครับ..แค่นี้ทำกับข้าวได้ก็เก่งแล้ว”

“ไว้ผมจะมาทำให้กินทุกวันเลยนะ”

“แม่จะให้ออกมาเร้อ”แสร้งปั้นน้ำเสียงใส่ลู่หานที่อมลมแก้มป่อง จนทานแล้วเสร็จช่วยกันล้างจานและมาดูหนังกันที่โซฟาตัวเดิม วันนี้เซฮุนนั่งดูหนังอย่างไม่รู้สึกอะไรไปกับหนังแม้แต่น้อย เขาดูเหมือนปล่อยให้ภาพลอยผ่านท่ามกลางเสียงสะอื้นไปกับหนังของเด็กน้อยข้างๆตัว

“ทำไมต้องตายด้วย...ฮึ่ก...”ไม่ร้องเปล่าเอาแขนเขาซับน้ำตาไปเสียอย่างนั้น เซฮุนก้มมองหัวกลมๆที่สะอื้นฮักอยู่ข้างๆก่อนจะขยับตัวกอดไว้

“ไม่ร้องสิครับ”

“ซอนแซงนิม...”เสียงเบาๆพร้อมกับใบหน้าหวานที่เงยขึ้นมองพร้อมกับกลิ่นกายนั้นทำให้เซฮุนมีอาการอีกครั้ง ดวงตาคมเบิกเล็กน้อยก่อนที่มือจะเริ่มสั่น โดยที่ลู่หานก็มองท่าทีของซอนแซงนิมอย่างแปลกใจ

“ชอนซา...ครู...”

“...”

“ครู...หิวแล้วครับ...”

ดวงตากลมโตกระพริบพร้อมกับเซฮุนที่ค่อยๆแนบริมฝีปากลงอย่างระมัดระวัง ก่อนจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เขาประจบจูบริมฝีปากเล็กๆนั้นพร้อมกับโถมกายลงโดยที่ลู่หานก็หรี่ตาลงเล็กน้อย เด็กชายรู้สึกเจ็บนิดๆกับสัมผัสที่ดูเร่งรีบเหมือนกระหายหิว ดวงตากลมหวานหลับแน่นเมื่อถูกซุกไซ้พร้อมกับขบกับลำคอจนเผลอหลุดร้องครางด้วยความเจ็บ โดยที่เซฮุนเองก็เร่งถอดเสื้อผ้าของลู่หานออกอย่างเร่งร้อนอย่างไม่เคยเป็น ทั้งที่ก่อนหน้านี้แม้จะมีอาการแต่เซฮุนก็จะพยายามควบคุมอารมณ์ตนเองอยู่เสมอ รอยขบกัดแดงๆปรากฏบนร่างขาวละเอียดโดยที่ลู่หานก็พยายามข่มความเจ็บปวดนั้นไว้จนกระทั่งฝ่ามือร้อนเริ่มรุกไล่ขยำคลึงส่วนกลางลำตัว จมูกโด่งพ่นลมหายใจแรงถี่จนลู่หานเริ่มหวั่นๆในใจ

ทำไม..น่ากลัว....

“ซะ..ซอนแซงนิมครับ...”พยายามร้องเรียกแต่เหมือนเซฮุนจะหน้ามืดไปแล้ว ลู่หานเผลอร้องออกมาเมื่อถูกเลียไปตามข้อพับขาไล่ไปกับปลีน่องจนไปถึงฝ่าเท้า ลมหายใจแรงๆนั้นทำให้เด็กน้อยเริ่มรู้สึกกลัวจนกระทั่งถูกแยกขาทั้งสองข้างออก เซฮุนไม่ได้คุยตอบโต้อะไรกลับมานอกจากปล้ำจูบต้นขาอ่อนด้านในของลู่หานอย่างเร่งรีบโดยไม่สนใจว่าร่างเล็กๆนั้นเริ่มสั่นทีละหน่อยทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น

“อ๊ะ!...ฮ้า..อย่าครับ...อย่าเพิ่ง!”ลู่หานพยายามร้องห้ามเมื่อเซฮุนจับขาของเขาแยกออกพร้อมกับใช้ริมฝีปากกับส่วนกลางลำตัว เล็บบางขูดจิกกับโซฟาพร้อมกับส่งเสียงครางกระเส่าเมื่อปลายลิ้นของชายหนุ่มจู่โจมกับส่วนปลายพร้อมกับลูบมืออย่างหยาบๆ ลู่หานขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ถูกตะปบบั้นเอวเอาไว้ ดวงตากลมโตน้ำตารื้นขึ้นด้วยความรู้สึกประหวั่นและกระสันไปด้วย จนสุดท้ายความต้องการก็พุ่งสูงไปกว่าความเจ็บปวด มือเรียวจิกโซฟาแน่นเมื่อเซฮุนเริ่มใช้มือกับส่วนสำคัญของเด็กน้อยอย่างรุนแรงจนกระทั่งลู่หานหลุดร้องลั่น และคาวน้ำข้นที่ทะลักไหลออกมา

“ซอนแซงนิม...”ริมฝีปากบวมแดงนั้นพยายามเรียกอีกคนที่รูดเอาน้ำเหนียวออกพร้อมกับสอดหน้าขากับใต้สะโพกให้ยกขึ้น นิ้วยาวที่ชุ่มน้ำอุ่นสอดแทรกเข้ามาโดยไม่รอให้เตรียมตัวทำเอาลู่หานสะดุ้งเรียวขากระตุกหนีบเข้าหากัน และเด็กน้อยก็ไม่ได้ยินเสียงใดออกมาจากชายหนุ่มนอกจากเสียงหอบหายใจแรงๆเท่านั้น

ใบหน้าหวานแดงกว่าเดิมเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่เคลื่อนไหวเข้ามาในตัว และอีกคนก็ขบผสมกับบดจูบกับยอดอกของเขา ความรู้สึกเจ็บเริ่มเปลี่ยนเมื่ออีกคนงอนิ้วขึ้นครูดไปโดนจุดไวต่อการสัมผัส ความรู้สึกโหวงเหวงในท้องเริ่มปรากฏ ร่างเล็กเขม็งเกร็งจนสุดท้ายนิ้วนั้นก็ถอนออก เขาได้ยินเสียงเหมือนหัวเข็มขัดปลดออกอย่างเร่งรีบ ลู่หานหลับตาแน่นก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อความร้อนและแฉะจ่ออยู่ที่ส่วนนั้น เขารู้ว่านี่คืออะไร ถึงเรื่องเพศจะเป็นศูนย์แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลยทว่าในเมื่ออีกคนคือคนที่เขาคบอยู่ ลู่หานจึงไม่รู้วิธีที่จะห้ามประสาเด็ก ความร้อนและเฉอะแฉะนั้นดันเข้ามาและลู่หานก็ไม่อาจทนต่อความเจ็บปวดได้

“ซอนแซงนิม..ผมเจ็บ..”

“...”

“ฮือ..ผม..เจ็บ...”เสียงครวญปนสะอื้นนั้นทำให้เซฮุนรู้สึกตัวก่อนจะมองสิ่งตัวเองกำลังทำ เขาถอยตัวออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับลู่หานที่นอนร้องไห้เพราะทั้งเจ็บทั้งกลัวอย่างไม่ได้เตรียมใจ เซฮุนกุมมือที่สันไปหมดจนสุดท้ายก็ใส่กางเกงให้เรียบร้อยก่อนจะลุกออกไป ไม่นานนักก็มีผ้าห่มผืนบ้างคลุมร่างของลู่หานไว้พร้อมกับเสียงขยับของกุญแจ และเซฮุนก็เริ่มเอ่ยปากหลังจากเงียบไปนาน

“เดี๋ยวครูกลับมานะครับ...อย่าเปิดประตูให้ใครนะ”

“...”

ลู่หานนิ่งอยู่ตรงโซฟาทันทีที่ประตูปิดลง ความรู้สึกทั้งเจ็บปวด มึนงง และสับสน ซอนแซงนิมไปไหน... โกรธที่เขาไม่ยอมให้อย่างนั้นหรือเปล่า เด็กชายคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ได้แต่นอนร้องไห้จนกระทั่งเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว...

เวลาผ่านไปลู่หานก็รู้สึกตัวขึ้น เขาค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะเดินข้ามเสื้อผ้าที่ถูกออก ร่างเล็กที่มีเพียงผ้าห่มห่อตัวเดินไปหาน้ำดื่มที่ครัวก่อนจะกลับมานอนขดบนเตียง สี่ทุ่มกว่าแล้วแต่ซอนแซงนิมยังไม่กลับมา... ซอนแซงนิมคงโกรธแน่ๆ แต่เขาเจ็บจริงๆนี่นา เด็กน้อยนั่งน้ำตาหยดอย่างน่าสงสาร ระยะนี้มีเรื่องอะไรที่รวดเร็วมากมายสำหรับลู่หาน เด็กน้อยธรรมดาที่เฝ้ามองซอนแซงนิมเหมือนเด็กๆทั่วไป คุณครูหนุ่มตัวสูงหล่อเหลาใจดี พูดจานุ่มนวล ใครๆก็อยากจะรัก ใครๆก็อยากจะเป็นคนที่ถูกแคร์ทั้งนั้นไม่เว้นแม้กระทั่งตัวเขา แต่พอได้โอกาสเหล่านั้นมาเขากลับทำให้อีกคนโกรธ..แล้วต่อไปนี้เขาจะทำยังไง...

ร่างเล็กๆพลิกตัวก่อนจะสังเกตเห็นว่าลิ้นชักหัวเตียงนั้นปิดลงไม่เรียบร้อย จึงส่งมือเข้าขยับปิด แต่ก็ดึงไม่ออกจนลู่หานกระชากมือจนถาดลิ้นชักกระดอนออกมา “อ๊ะ! เกือบไปแล้ว...”

โชคดีที่ตัวล็อคถาดทำงานเสียก่อนที่มันจะกระเด็นออกมาหกกกระจายกับพื้น ลู่หานพยายามปิดลิ้นชักเล็กๆที่แสนจะยากนั่นให้กลับเป็นปกติ ก่อนจะสังเกตเห็นสมุดจดอะไรบางอย่าง ด้วยความอยากรู้จึงเอื้อมมือไปเปิดดูก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อพบว่าในนั้นมีบัตรประจำตัวของผู้เข้ารับการรักษาทางจิต...

ไม่จริงน่า....

มือบางรีบเปิดหน้ากระดาษออกก่อนจะพบรายละเอียดของโอเซฮุน อายุยี่สิบหก มีอาการของเพดโดฟิเลียและเฟติสชิซึม ลู่หานขมวดคิ้วหนักเมื่ออ่านข้อความกำกับวงเล็บข้างล่างนั้น

มีอาการชื่นชอบเด็กผู้ชายและมีอารมณ์ทางเพศกับการสูดดม

มือเรียวทิ้งลงกับตักก่อนจะนิ่งไปนาน สมองเริ่มย้อนคิดถึงพฤติกรรมที่เขาเข้าใจว่าเป็นหมาป่าตลอดมา ไหนจะหมอนใบนั้น... คำพูดของคนๆนั้น และก่อนหน้าที่ซอนแซงนิมจะออกจากห้องไป... ลู่หานกวาดตามองอีกครั้งก่อนจะพบเบอร์โทรของใครคนหนึ่ง

((อ้าว ทำไมเอาเบอร์บ้านโทรมาล่ะ))เสียงตอบรับดังนั้นเมื่อลู่หานใช้โทรศัพท์บ้านของที่นี่ติดต่อไปเพราะตัวเองยังไม่มีมือถือ ดวงตากลมกะพริบปริบจนอีกฝ่ายกรอกเสียงกลับมาอีกครั้ง ((ฮัลโหล))

“หมะ...หมอคิจงแดรึเปล่าครับ”

((อ่า..ครับ? นี่ใครน่ะ))

“คือผม...คือ..ซอนแซงนิม...ไม่ใช่สิ..คุณโอเซฮุน...เค้า...”

((ไอ้หมอนั่นเอาลูกศิษย์มานอนบ้านแบบนี้ได้ไงกันนะ บอกว่าห้ามแล้วไงเจ้าหมีนี่))คิ้วเรียวขมวดกับเนื้อความที่อีกคนกรอกมาตามสาย ก่อนที่ปลายสายจะพูดขึ้นอีกครั้ง ((เป็นนักเรียนของเขาใช่มั๊ย..เห็นเขาเคยพูดถึงอยู่ครั้งนึง))

“น่า..จะใช่ฮะ”

((แล้วนี่คงไปเจออะไรมาล่ะสิถึงโทรมาหาผมแบบนี้ มีอะไรสงสัยเหรอครับ?))

“ทำไม..เขาถึง...”

((ความลับคนไข้ผมตอบไม่ได้หรอกนะ เฮ้...))ปลายเสียงร้องขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะมีโทนเสียงอีกเสียงเอ่ยขึ้นมาอีก ((แต่ไม่ใช่ความลับของผมหรอก ถามผมสิ))

“ทำไม..เขาถึงเป็นแบบนี้...ครับ”

((มันก็สิบกว่าปีแล้วล่ะครับ...ตอนนั้นเขาอยู่โรงเรียนชายล้วน นอนหอใน เขามีรูมเมทคนหนึ่งที่สนิทกันมากๆและเขาก็ดูแลดีมาตลอด จนวันหนึ่งเซฮุนถูกรุ่นพี่ข่มขู่ ให้พารูมเมทตัวเองออกมาให้พวกรุ่นพี่ข่มขืน เพราะเขาหน้าตาดี...น่ารักมากเลยแหล่ะ))

“...”

((ด้วยความรู้สึกกลัวและอยากเป็นที่ยอมรับละมั้ง เขาจึงหลอกรูมเมทตัวเองออกมา แต่ก็ไม่สำเร็จหรอกเพราะมีคนมาเจอก่อน เขาถูกต่อว่าอย่างหนักจนเรียนต่อที่เดิมไม่ได้ ต้องย้ายออกมาเรียนอีกที่นึง และเขาก็เริ่มมีอาการนั้น))

“เขา...จะหายมั๊ยครับ?”

((หายครับ...ถ้าใจของเขากล้าพอ))ปลายสายกล่าวเท่านั้นก่อนจะตัดไป ทิ้งไว้เพียงลู่หานที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสมองอันว่างเปล่าอยู่อย่างนั้น...







“เพราะอย่างนั้น นายก็เลยมีอารมณ์กับเด็กแล้วก็ชอบกลิ่นเด็กๆอย่างนั้นสินะ”

แบคฮยอนว่าหลังจากเซฮุนชวนมาดื่มอยู่ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งพร้อมกับใครอีกคน โดยที่คนๆนั้นก็กระดกเหล้าเสียจนหมดแก้วพร้อมกับร้องสั่งบริกร

“เอามาอีกขวดเด้ะ”

“คุณอู๋ ผมว่าคุณอู๋แดกเยอะเกินไปแล้วนะครับ”เพราะเซฮุนโทรไปชวนแบคฮยอนในตอนที่อู๋อี้ฟานลูกค้าคนสำคัญนัดมาเลี้ยงเหล้าเช่นกันจึงชวนกันมา ทั้งนี้เพื่อปิดปากไม่ให้เอาเรื่องก้นคนรักไปบอกใคร ซึ่งกว่าจะล้างกาวที่แนบสนิทกับร่องออกได้ที่แบคฮยอนถูน้ำยาจนหมดไปขวดกว่าๆ จนกระทั่งก้นของลูกค้าปลอดภัยแถมขาวขึ้นมาอีกหน่อยนึง

“ให้ผมกินให้เมาเถอะครับ เมียไม่รัก เสียใจอ้ะ...”อู๋อี้ฟานนั่งข่วนแขนตัวเองไปมาเพิ่มความมาโซคิสต์ให้กับตัวเองอยู่อย่างนั้นท่ามกลางสายตาของเซฮุนที่มองมาอย่างแปลกๆ พวกเขาออกมาดื่มกันสามคนเพราะหมอจงแดติดเดทจึงไม่สามารถมาร่วมวงเหล้าในครั้งนี้ได้ เหล้าขวดใหม่ถูกเสิร์ฟโดยที่แบคฮยอนก็ยกมือเท้าคางมองเซฮุน

“แล้วจะเอายังไงต่อไป...บอกได้เลยนะว่าใจนายอะมีปัญหา”

“...”

“นายรู้สึกผิดกับเพื่อนร่วมห้องตอนเด็ก ก็เลยเก็บกดจนมีอาการอยากกอดอยากทะนุถนอมเด็ก แล้วก็เลยเถิดไปอยากมีอะไรกับเด็ก แล้วก็ชอบดมกลิ่นหอมๆ”

“ผม..คิดไม่ออก”

“ที่จงแดไม่สั่งให้ฉันให้ยากับนาย เพราะหมอเขาประมวลมาแล้วล่ะว่าปัญหามันคือจิตใจของนายเอง นายจะต้องข้ามความรู้สึกในใจของนายไปให้ได้...แต่ก็นั่นแหล่ะ พูดง่ายทำยาก นายรู้สึกอะไรบ้างคนอื่นก็ไม่รู้ ฉันก็ไม่รู้ มีแต่ใจของนายเองนั่นแหล่ะที่รู้ว่าต้องการอะไร”

“สักวันเขาต้องรู้..ต้องรู้แน่ว่าผมเป็นแบบนี้.เพราะพี่จุนมยอนจะไม่ปล่อยผม... ก่อนมาสอนที่นี่ผมเคยทำงานที่อื่น แล้วเขาก็ตามผมไปทุกที่เลยครับ...”

“นั่นบ้าละ ตามไปแฉชาวบ้านอย่างกับผีสิง จะไม่ปล่อยให้คนอื่นเขาใช้ชีวิตใหม่กันบ้างรึไง” แบคฮยอนขมวดคิ้วมุ่น โดยเซฮุนก็พยายามกุมมือสั่นๆของตนไว้

“สมองของผมนึกภาพแต่ชอนซาที่มองผมแบบผิดหวัง...เขาต้องเกลียดผมมากแน่ๆ...ผมไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น...ผมไม่ต้องการเลยจริงๆ”

“นี่คุณ”อี้ฟานที่วางแก้วลงก็พูดขึ้น “คุณกล้าดียังไงไปคิดแทนคนอื่นน่ะครับ?”

“...”

“จำไว้เลยนะครับ ไม่ว่าคนๆนั้นจะสำคัญกับคุณรึไม่สำคัญ อย่าไปคิดแทนกัน การทำแบบนั้นมันคือการดูถูกความจริงที่ว่า ทุกคนมีจิตใจเป็นของตัวเอง”ใบหน้าหล่อที่แดงจัดด้วยฤทธิ์เหล้าเริ่มเบะปากคว่ำลง “เหมือนเมียผม..ชอบคิดแทนตลอดว่าวันนึงผมต้องใช้แค่วันละหมื่นวอนก็พอ พอใช้เกินมาร้อยวอนมันก็บ่นผมไปถึงเดือนหน้า เจ็บช้ำนะครับ...”

“...”

“แต่ก็นั่นแหล่ะครับ ใจมันรักอะ ถ้าใจรัก...ทุกเรื่องก็ตาบอดไปเลย ยอมหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ก็เพราะเรารัก...”

“...”

“ถึงรักจะเป็นเรื่องบ้าบอ...แต่บางเรื่องแค่รักก็พอแล้วล่ะครับ”

“ผม..ผมว่าผมขอตัวก่อน”เซฮุนลุกพรวดขึ้นก่อนจะวิ่งออกจากร้านไป ทิ้งให้เภสัชหนุ่มกับชายร่างใหญ่มองตามจนลับตา แบคฮยอนก็หันมาหาอี้ฟานพร้อมกับตบมือเบาๆ

“หล่อมากครับ”

“ขอบคุณนะหมอ..ผมรู้ตัวครับ”

“แต่จะหล่อกว่านี้นะถ้าเมียไม่มานั่งสิงข้างหลัง”แบคฮยอนกล่าวพร้อมกับการปรากฏตัวในเงามืดของปาร์คชานยอลที่นั่งก้นหนีบผ้าก็อตอยู่ข้างหลังของอี้ฟาน โดยเด็กหนุ่มที่ถือแก้วเหล้าก็กล่าวเสียงเย็น

“โชว์พาวสั่งเหล้าอีกขวดเหรอ...”

“ฮือ...เดี๋ยวมันไม่เท่นะครับตัวเอง”

“เอากาวหยอดตูดกูไม่พอ เบิ้ลเหล้าอีก!! ขวดฟาดหัวให้มั๊ยจะได้เท่!!”ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นมาทึ้งหัวทึ้งหูคนที่ร้องอร๊าวๆอย่างมีความสุข โดยที่แบคฮยอนก็ถือแก้วเหล้าเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ถ้าไม่ใช่ของฟรีไม่มีวันที่เขาจะมาขลุกกับเหล่าคนไข้ไร้สติแบบนี้แน่นอน...





ในขณะเดียวกันเซฮุนที่รีบจอดรถแล้ววิ่งกลับมาที่ห้องก็รูดคีย์การ์ดอย่างรีบร้อน ชายหนุ่มรีบเปิดไฟหน้าประตูก่อนจะกดล็อคและเข้ามาด้านใน ทุกอย่างเงียบสงบจนกระทั่งเขาเห็นเสื้อผ้ากองอยู่ที่โซฟาแต่ว่าไม่พบร่างของลู่หานอยู่ตรงนั้น เขาสาวเท้ามาที่ห้องนอนก่อนจะโล่งใจที่เห็นลู่หานนอนขดกลมอยู่กับกองผ้าห่ม

“...”

แต่สิ่งที่ทำให้เซฮุนใจหายเหลือเกินคือในมือของลู่หานยังมีสมุดประจำตัวสำหรับบันทึกการรักษาของเขาอยู่... นั่นหมายความว่าลู่หานรู้แล้วว่าเขาเป็นอะไร... และต่อจากนี้เขาจะมองหน้าชอนซาต่อไปอย่างไร...ไม่มีทาง เขาไม่สามารถมองใบหน้าของเด็กคนนี้ได้อีกแล้ว

เขาก็แค่ไอ้โรคจิตวิปริตคนนึงเท่านั้นเอง...

“อื้อ...”เสียงร้องในลำคอของลู่หานดังขึ้นเมื่อเซฮุนดึงสมุดออกจากมือของตน ดวงตากลมโตค่อยๆลืมตาขึ้นมองโอเซฮุนที่หลบหน้าของเขาอยู่ แต่ลู่หานกลับไม่ได้ถอยหนีออกไปนอกจากผุดลุกขึ้นมองคนที่ยังยืนอยู่ข้างเตียง “ซอนแซงนิมไปไหนมาเหรอครับ?”

“...”

“ผมได้กลิ่นเหล้า...ซอนแซงนิมไปดื่มมาใช่มั๊ยครับ”

“...”

“เหล้าพวกนั้นทำให้ซอนแซงนิมมีความสุข...มากกว่าผมอีกเหรอครับ?”

“ไม่...ไม่ใช่เลยลู่หาน ไม่ใช่อย่างที่เราคิดนะ”เซฮุนคุกเข่าลงกับพื้นข้างเตียงตรงหน้าของเด็กน้อยที่จ้องมองพลางเอียงคอนิดหน่อย “ครูขอโทษครับที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นหมาป่า...จริงครูก็แค่ไอ้โรคจิต...ไอ้โรคจิตวิปริตที่มีอารมณ์กับเด็ก...ชอบดมกลิ่น..”

“...”

“ถ้ากลัว..ครูจะไปส่งที่บ้านนะครับ”ชายหนุ่มว่าขึ้น แต่ลู่หานก็สวนขึ้นมาเรียบๆ

“คุณไม่ใช่ซอนแซงนิมของผมอีกแล้ว”

“...”

“แต่คุณเป็นแฟนของผมนะ...แม่บอกว่าคนที่เป็นแฟนกันต้องรับเรื่องของกันและกันให้ได้ ถึงผมจะไม่มีแฟนมาก่อน...แต่ผมว่าผมรับได้ครับ”

“ลู่หาน...”

“เพราะอย่างนี้เลยชอบมาป้วนเปี้ยนกับผมบ่อยๆใช่มั๊ย..ทั้งที่ผมเป็นแค่เด็กแว่นไม่น่าสนใจแท้ๆ ขอบคุณนะครับ”ใบหน้าหวานหยดส่งยิ้มให้กับเซฮุนที่พยายามเม้มปากไม่ให้น้ำตาตัวเองไหล... ผู้ชายอายุยี่สิบหกที่เป็นโรคคลั่งเด็กกำลังเป็นแฟนกับนางฟ้า... ร่างขาวนวลในผ้าห่มผืนบางสีเทา เส้นผมยุ่งเล็กน้อยแต่ใบหน้าน่ารักน่าทะนุถนอม... “ผมโทรไปหาคุณหมอมาแล้ว ไปเจอเรื่องที่ไม่ดีมาใช่มั๊ย?”

“...”

“เริ่มกันใหม่นะครับ...เริ่มกับผมนะ...ผมก็จะเริ่มกับคุณเหมือนกัน...โอเซฮุน”

ชายหนุ่มขบฟันกรอด ไหล่กว้างข่มแรงสั่นก่อนจะรีบพยักหน้าพร้อมกับเม้มปากแน่น และลู่หานก็ขยับตัวนั่งห้อยขาข้างเตียงพร้อมกับชูแขนขึ้นเป็นสัญญาณให้เข้ามากอด และเซฮุนก็ไม่ปฏิเสธการชักชวนที่สวยงามนั้น เขาเข้าไปกอดลำตัวของลู่หานไว้แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น โดยลู่หานก็กอดเซฮุนเอาไว้เช่นกัน ริมฝีปากเล็กกดจูบไปกับเรือนผมของชายหนุ่มพร้อมกับลูบแผ่นหลังกว้างของอีกคนไว้

“ขอบคุณนะครับ...ขอบคุณนะ...”

“อื้อ...”ลู่หานครางในลำคอเบาๆก่อนจะเอ่ยขึ้นแผ่ว “ว่าแต่...”

“?”

“ที่ออกไปแบบนั้น...ค้างรึเปล่าครับ”เซฮุนเงยหน้ามองใบหน้าหวานจ๋อยที่เริ่มแดงขึ้นมาเล็กน้อย.. “ต่อได้นะครับ...”

“จะดีเหรอ”เซฮุนยิ้มออกมาทั้งที่ผ่านความรู้สึกสะเทือนใจไปหยกๆโดยที่อีกคนก็อ้อมแอ้มตอบ

“ถ้า..ซ...เซฮุนอยากต่อ...ก็ได้ครับ...”





น่ารัก... *อิโมหมีร้องไห้*




“เรียกชื่อแล้ว..เขินจัง”ชายหนุ่มยกมือเกาหลังคอแก้เก้อโดยที่เด็กน้อยก็ยกมือปิดหน้าแดงๆของตัวเอง

“ง่า...ผมก็ไม่ชินเหมือนกันครับ ฮือ...”

“ลู่หาน”เซฮุนยืดตัวขึ้นขับข้อมือทั้งสองข้างของเด็กน้อยแยกออกจากกัน ทำให้เห็นใบหน้าน่ารักที่แก้มแดงปลั่งราวมะเขือเทศ เซฮุนรวบข้อมือเล็กๆไว้กับสองมือก่อนจะเผยอปากจูบกับอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล  และลู่หานก็ยอมหลับตาลงพร้อมกับตอบรับกลับมาอย่างอ่อนหวาน เขาแลบลิ้นเลียกลีบปากเล็กๆนั่นอย่างแผ่วเบา กดจูบมุมปากพร้อมกับงับกลีบปากของลู่หานไว้ ลมหายใจของเด็กน้อยเริ่มผ่อนคลายและช้าลง ก่อนจะยอมอ้าปากเปิดให้อีกคนล่วงล้ำเข้ามาหา รสจูบนุ่มละมุนชวนให้ละลายไม่ยากนั้นกลับมาอีกหนหนึ่ง ชายหนุ่มเบี่ยงองศาใบหน้าให้สามารถสัมผัสเรียวลิ้นเล็กๆก่อนจะขยับตัวอุ้มลู่หานขึ้นวางนอนบนเตียงทั้งที่ยังจูบกันอยู่ เซฮุนกดดั้งจมูกลงกับแก้มนวลนุ่มของเด็กน้อยที่ยกมือโอบแผ่นหลังกว้างยามที่อีกคนค่อยๆไล่เก็บเกี่ยวความหวานบริสุทธิ์ราวกับรสชาติของผลไม้ฤดูร้อน ร่างของลู่หานยามทอดนอนบนเตียงของเขาเปลี่ยนเตียงธรรมดาของชายโสดให้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

พวกเขาจะเริ่มกันใหม่อีกครั้ง...

“เบาๆนะครับ”เอ่ยวอนขออย่างอ่อนหวานโดยที่ชายหนุ่มก็เลื่อนหน้ามากดจูบแทนคำตกลง เรื่องเมื่อตอนหัวค่ำถูกฉายอีกครั้งด้วยจังหวะและสัมผัสที่นุ่มนวลขึ้น ลบความรุนแรงจนน่ากลัวนั้นไปทีละน้อยจนหมดจด ปลายลิ้นของชายหนุ่มปัดป้ายไล้เลียกับติ่งไตร่างเล็กที่ผวาร้องออกมาผะแผ่ว ใช่..แค่เบาแบบนี้ก็พอ เซฮุนไม่ชอบคนร้องเสียงดังเหมือนจะโดนฆ่า และลู่หานที่ผ่านในเรื่องของการแสดงออกและการส่งเสียง...

ให้คำว่าสนองตัณหากลายเป็นคำว่าเมคเลิฟอย่างจริงจังเสียที...

“อะ..อือ...”ดวงตากลมนั้นกลับแน่นพลันผ่อนลมหายใจ ผิวเนื้อเปลือยเปล่าสัมผัสต่อกัน เซฮุนที่ตอนนี้ไม่ได้สวมเสื้อก็ค่อยๆทำให้ร่างน้อยๆที่หลับตาพริ้มอยู่นี้นั้นมีความสุขที่สุด นิ้วโป้งขยับปัดปลายให้สะโพกลอยแอ่น ลู่หานลืมตาช้าๆเมื่อสัมผัสจากฝ่ามือหยุดลง และแทนที่ด้วยปลายลิ้นอีกครั้ง ใบหน้าของลู่หานแดงก่ำพันหลุดครางสั่นออกมาปลายต่อหลายครั้ง เป็นความรู้สึกดีที่ทบทวีมากขึ้น และไร้ทางที่จะลดลง

เมื่อขวดเจลหล่อลื่นที่หาเจอแถวๆลิ้นชักกลิ้งลงกับผืนเตียง ลู่หานก็รู้สึกถึงปลายนิ้วที่ชำแรกเข้ามาอีกครั้ง แต่คราวนี้มีริมฝีปากนุ่มๆคอยเฝ้าจูบประโลมปลอบใจพร้อมกับบอกให้ผ่อนคลายไว้ คิ้วเรียวขมวดพร้อมกับโอบกอดอีกคนไว้แม้จะเมื่อยขาเพราะอยู่ในท่าแปลกๆ เซฮุนเริ่มงอนิ้วอีกครั้งหนึ่งและมันก็กระตุ้นตัวของลู่หานได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มรอเวลาจนสมควรถึงจะเริ่มเข้าไปด้วยตนเอง แต่อีกฝ่ายยังเด็กมันเลยทั้งเล็กทั้งแคบจนต้องพยายามอยู่นานสักหน่อย

“อ๊ะ..อือ..เดี๋ยวก่อนครับ..ผมเจ็บอ่ะ”

“เกร็งก็เจ็บสิครับ ไม่เกร็งนะ”

“มัน..ฮื้อ...อ่ะ...”ปากเล็กขบเข้าหากันพร้อมจะเบะร้องอยู่อมร่อ โดยที่ชายหนุ่มก็เคลื่อนกายเข้าไปทีละนิดและรับรู้ถึงแรงรัดกับของเหลวร้อนๆได้

“ไม่เอาออกแล้วนะครับ”

“อื้ออ อย่าเพิ่งครับ..อา..”เซฮุนยอมหยุดตามที่อีกคนขอก่อนจะขมวดคิ้วเพราะข้างในของลู่หานนั้นรัดแน่นจนรู้สึกเจ็บนิดๆ เขาปล่อยให้ลู่หานปรับตัวพร้อมกับขยับเข้าไปอีกเล็กน้อย หยุดให้ต่างคนต่างเตรียมพร้อม เขารู้ดีถึงหยดเลือดที่ต้องเลอะบนที่นอน รู้ดีไปถึงสีหน้าเกรี้ยวกราดของแม่ลู่หานตอนรู้เรื่องเลยล่ะ...

แต่เขาในตอนนี้ก็พร้อมที่จะบอกว่า...เขารัก...

“จับไว้นะ”บอกร่างเล็กๆให้จับมือของตนไว้ข้างหนึ่ง โดยที่อีกข้างก็ให้ท่อนขาของลู่หานเกี่ยวค้างไว้ให้แยกขาไว้ตลอด เซฮุนกระทุ้งตัวเบาๆเนิบนาบแล้วเร่งให้เร็วขึ้น เพราะถ้าขยับช้าๆนานเข้าอีกคนก็จะรู้สึกปวดท้อง ผลที่ออกมาคงไม่ดีนัก เด็กน้อยนอนหลับตาปี๋ตัวสั่นอยู่พัก ไม่นานก็ค่อยๆหลุดครางออกมาทีละน้อย

“อือ...อ่ะ..อ๊ะอ๊ะอ๊ะ..อ๋า..ฮ้า..”

“ดีมั๊ยครับ..หื้ม?”โน้มัวลงพร้อมสาวกายเข้าหาร่างนุ่มนิ่มที่หลับตาผ่อนลมหายใจหอบถี่ก่อนจะหลับตาแน่นเหมือนว่าไปถูกจุดไวต่ออารมณ์มากขึ้น

“มัน..อ่า..หวิวๆครับ..ผม..เจ็บด้วย..อ้า..”

“อีกนิดนะครับ”กล่าวกับลู่หานพร้อมกับจับให้อีกคนโอบรอบคอตนเองไว้พลางขยับมือกับส่วนกลางลำตัวเด็กน้อยที่กัดฟันแน่น เสียงเขยื้อนของเตียงดังขึ้นซ้ำๆและสมองที่กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า จนลู่หานปล่อยมือจากหลังคอชายหนุ่มและมองอีกคนที่กำลังเข้าหาตนเองซ้ำๆพลันหลุดครางหวานออกมา

“อาา..อ้า..แฮ่ก...เซฮุน...”

“...”

“เซฮุนอ่า...อื้อ...เซฮุนครับ..”

แค่เสียงเรียกชื่อกระเส่าๆก็ทำเอาชายหนุ่มกลายเป็นทาสอย่างง่ายดาย แขนเรียวยกขึ้นขอกอดซึ่งก็ไม่มีทางที่อีกคนจะขัดใจ จมูกโด่งซุกไซ้ไปกับซอกคอหอมที่ยามเปียกเหงื่อก็ยิ่งหอมกว่าเดิม ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมราคาแพงหรือกลิ่นอโรมาให้คนหันจมูกตามเมื่อเดินผ่าน แต่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวที่เซฮุนได้รับแล้วรู้สึกดี ทั้งร่างกายและจิตใจของเด็กคนนี้

เขากำลังขอบคุณตัวเองในตอนนั้นที่บอกว่าจะมองเด็กแว่นท่าทางธรรมดาคนนี้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง...






“ตอนนั้นโง่มากจริงๆที่คิดว่าทำแบบนั้นแล้วจะถูกยอมรับในกลุ่มรุ่นพี่ พอมาคิดดูตอนนี้ยังเสียใจอยู่เลย”

เซฮุนกล่าวขึ้นพร้อมกับจุดบุหรี่สูบ(หลังจากที่ลู่หานคนที่นอนเปลี้ยหลังจากถูกอุ้มไปอาบน้ำแล้วพามาห่อผ้าขนหนูบนเตียงบอกว่าพบเบียร์และบุหรี่ของเขาหมดแล้ว ไม่ต้องซ่อนและจงทำอะไรที่อยากทำ) ขณะที่พิงหัวเตียงอยู่กับลู่หานที่เปิดใจเล่าปัญหาถึงต้นตออาการของเซฮุน ซึ่งหน้าหวานๆนั้นก็เอียงคอมองควันสีเทาๆอย่างไม่มีความคิดเห็นก่อนจะพูดขึ้นมา

“แล้วรูมเมทเค้าไปไหนแล้วล่ะครับ”

“ไม่รู้สิ..ตอนนั้นมินซอกเป็นหลานของพี่จุนมยอน เขาเป็นรุ่นพี่คุมหอ เหมือนว่ามินซอกจะเป็นลูกชายพี่ชายคนโตของเขา ปู่เขาเมียเยอะมั้ง”ชายหนุ่มว่า “แต่พี่จุนมยอนก็รักมินซอกมาก เอาเป็นว่าถ้าทำงานที่ไหนอย่าให้เขารู้ เขาจะตามไปแฉที่นั่น ก็เลยเปลี่ยนที่สอนจนมาสอนที่นี่น่ะ”

“ทำไมใจร้ายจัง”ร่างเล็กว่า “ว่าแต่...ไปดมคนอื่นมาตลอดเลยเหรอครับ?”

“ไม่ครับ...บางทีก็เปิดกลิ่นในรถ”

“จริงด้วย กลิ่นในรถเหมือนแป้งเลย”

“แล้วทำไมหมอจงแดถึงเล่าประวัติคนไข้ง่ายๆแบบนี้ล่ะ ถึงจะเอาโทรศัพท์ที่นี่โทรไปก็เถอะ..”เซฮุนเชิดปากก่อนที่ลู่หานจะขัดขึ้น

“ไม่นะครับ เสียงอีกคนนึง เพราะคุณหมอบอกว่ามันเป็นความลับ เขาเลยเล่าเอง”

“เอ๊ะ”เซฮุนเลิกคิ้ว... คงจะเป็นแฟนของหมอจงแดที่ว่าไปเดทกันมานี่นา แล้วหมอบอกรายละเอียดคนไข้กับแฟนด้วยเหรอเนี่ย..ทำไมน่ากลัวเช่นนี้... เซฮุนรีบขยี้ก้นบุหรี่ลงกับที่เขี่ยเมื่อเห็นว่าลู่หานเริ่มยกมือขยี้ตายิกๆ

“ผมง่วงแล้วล่ะ”

“อ่า..งั้นนอนกันเถอะ”ชายหนุ่มกระชับร่างน้อยไว้กับตัว “พรุ่งนี้ชอนซากลับบ้านแล้ว คิดถึงแน่ๆเลย”

“เสาร์อาทิตย์จะขอแม่มาหานะครับ อยู่ใกล้แค่นี้เองนี่นา”

“ให้ไปรับก็ได้นะ”

“ไหนตอนนั้นบอกว่าเดี๋ยวจะดูไม่ดีไงครับ”เสียงเบาๆตอบกลับมาส่งผลให้เซฮุนรีบกอดอ้อนร่างเล็กๆนั้นยกใหญ่

“ก็ถ้าเป็นครูกับลูกศิษย์มันไม่ดี”

“...”

“แต่ถ้าเป็นแฟน...มันดีไม่ใช่เหรอครับ?”

เซฮุนจ้องลงไปในแก้วตาสีน้ำตาลอ่อนของลู่หาน และพบว่าในแววตานั้นกำลังเจือรอยยิ้ม เรื่องน่าประหลาดใจอีกอย่างของคนตรงหน้าคือบางมุมก็เป็นผู้ใหญ่ซะจนเกินตัว ทำให้เขาแปลกใจอยู่บ่อยครั้งและลงเอยด้วยการตกหลุมรักซ้ำๆซากๆอยู่แบบนี้ โดยที่เขาไม่คิดว่าชีวิตนี้คนที่พฤติกรรมแตกต่างจากปกติอย่างเขาจะตกหลุมรักใครคนหนึ่งได้เกินหนึ่งครั้ง ลู่หานเป็นทั้งนางฟ้าและก็เป็นทั้งมนุษย์ประหลาดในความคิดเซฮุนได้อย่างน่าแปลกใจ ซึ่งเจ้าตัวนั้นก็กดยิ้มก่อนจะกระซิบเบาๆ...

และในตอนนั้นโอเซฮุนก็ขอประกาศต่อสมาคมหมีเพดโด้แห่งสากลโลกเลยว่า...สำหรับเขาเด็กสิบสี่ตอนไม่มีแว่นแถมด้วยน้ำเสียงแหบเบานี่มันสุดยอด...





“งั้น...แฟนครับ..ฝันดีนะ”




**************************
ได้นอนด้วยหรือ... ตอนหน้าจบแล้วนะ.___.
พลังหมีจงสถิตในตัวท่าน
#ฟิคพี่หมีฮุน





1 ความคิดเห็น: