Title : Loathe(4)
Author : RUNAWAY05
Pairing : OH SEHUN x LU HAN
Note : เวอร์ชั่นเซลู่
หลังจากที่พี่โอไม่มีตัวตนเลยในเวอร์ชั่นหานลู่
พี่เซฮุนหนูเลือกพี่ละนะ*ปาโปเกบอล*
ปล.1 เนื้อเรื่องไม่ต่างจากโลธเวอร์ชั่นหานลู่นะคะ
แค่เปลี่ยนตัวละครและบริบท
ปล.2 เปิดพัดลมพึ่งพุงข้างๆพี่จีซึง #มโน
**********************
เซฮุนรู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย
และพบลู่หานที่นอนซุกอยู่ข้างๆตัว
เขายกมือลูบข้างแก้มของลู่หานอย่างแผ่วเบาก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาและหายากิน
ทันทีที่เขาดื่มน้ำจนหมดและก้นแก้วกระทบหลังตู้เย็น
ดวงตาของลู่หานก็ค่อยๆลืมขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆ
“เช้าแล้ว...”
“ใช่..”เซฮุนหันมาบอก “เช้าแล้ว”
“อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์”เซฮุนตอบพร้อมกับเดินมาจูบขมับลู่หานเบาๆ “ไปล้างหน้าซะ
ฉันจะพาไปส่งบ้าน”
“แต่...”
“ช่างเถอะ...
ฉันจะบอกว่าฉันเรียกนายมาเอง”ลู่หานขบริมฝีปากทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
หากมารดารู้อย่างที่เซฮุนบอก เซฮุนจะต้องถูกต่อว่าแน่นอน ลู่หานเริ่มคิดหาทาง..
มันเป็นครั้งแรกที่เขาไม่อยากอยู่เฉย
เขาแค่อยากจะลองปกป้องเซฮุนดูบ้างสักครั้ง....
“!?”เสียงกริ่งระรัวดังขึ้นหน้าห้องทำให้พวกเขาหันไปมอง และเป็นเซฮุนที่เดินออกไปดูก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยพลางหันมามองลู่หาน
เพียงเท่านั้นร่างบางก็เข้าใจได้ว่าใครที่มาถึง เซฮุนเปิดประตูออกและโดนฝ่ามือของคนเป็นแม่ฟาดเข้าที่ใบหน้าทันที
เพี้ยะ!!
“เซฮุน!”ลู่หานอุทานเมื่อเห็นแฝดพี่ใบหน้าสะบัดหันพร้อมกับมารดาที่เข้ามาตบตีอย่างอาฆาตมาดร้าย
“เจ้าเด็กเลว! คิดแล้วว่าต้องเอาลู่หานมาไว้ที่นี่
อยากให้ฉันเป็นบ้าตายใช่มั๊ย!!”หญิงสาวตะโกนใส่หน้าของเซฮุนราวกับไม่ใช่แม่ลูกกันแม้แต่นิด
เซฮุนมองตอบแววตาแข็งกร้าวพร้อมกับพยายามปัดป้องฝ่ามืออย่างไม่สามารถโต้ตอบกลับไปได้เพราะอีกคนเป็นมารดาของตนเอง
พร้อมกับลู่หานที่พยายามมาแยกคนทั้งคู่ออกแต่ก็โดนสะบัดไปชนกับผนังเช่นกัน
“แม่ครับ! พวกเราเป็นลูกแม่นะ
ทำไมพวกเราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ล่ะ!”ลู่หานพยายามอธิบายกับมารดาโดยที่หล่อนก็ตวาดออกมาอย่างขาดสติ
“มันมีแต่คนเลวๆเท่านั้นแหล่ะที่ข่มขืนน้องตัวเองที่เป็นผู้ชายน่ะ!!”
“...”ลู่หานตัวชาวาบอึ้งไปถนัดใจ โดยที่เซฮุนที่แม้จะพยายามเก็บอารมณ์ก็เบิกตาเล็กน้อย
“เป็นไง! จะกล้าเถียงอีกมั๊ย!! คิดว่าแม่ไม่รู้เหรอว่ามันเกิดอะไร?! คิดว่าแม่จะปล่อยให้ลู่หานอยู่กับเด็กนี่งั้นเหรอ?!! เด็กวิปริตแบบนี้...ฉันฆ่าให้ตายไปแต่เด็กซะก็ดี!”
เพี้ยะ!!
เสียงฝ่ามือลั่นกับข้างแก้มดังขึ้น
แต่ไม่ใช่ฝีมือของมารดาที่กระทำต่อเซฮุนแต่อย่างใด
แต่กลับเป็นฝีมือของผู้ชายคนหนึ่งที่พยายามจะหยุดการกระทำอันโหดร้ายของภรรยาตนเอง
หล่อนหันมองสามีน้ำตาคลอเบ้าอย่างไม่เชื่อสายตา
โดยที่คนเป็นพ่อก็พูดออกมาเรียบๆแม้จะผ่อนลมหายใจออกมาอย่างรุนแรงเพราะระงับอารมณ์
“ถ้ามันจะผิด...ก็ผิดที่ฉันนี่แหล่ะ...ที่เอาผู้หญิงแบบเธอมาเป็นแม่ของลูก”
“คุณ!”
“พวกเขาเป็นฝาแฝดกัน...เวลาเธอด่าเซฮุนต่อหน้าลู่หาน
ไม่คิดบ้างเหรอว่าลู่หานจะรู้สึกยังไง!!”
“เพราะฉันไม่ได้ว่าเขา... เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไร!”
“คนแบบเธอนี่มัน...”คนเป็นพ่อสบถพร้อมกับภรรยาที่เดินมาฉุดแขนลู่หานโดยทิ้งเซฮุนไว้กับพื้น
“ฉันไม่สนใจ ฉันจะฟ้อง! ฟ้องจนคุณหมดตัว!! คอยดู!”
“ขอให้มีปัญญาเถอะ!”เขาตวาดโดยที่ลู่หานก็ถูกมารดาฉุดกระชากลากถูออกมา
สุดท้ายแล้วลู่หานก็ไม่สามารถปกป้องเซฮุนได้... ฝ่ามือนั้นแรงมาก
เขาไม่เคยเห็นแม่ทำท่าทางรุนแรงขนาดนี้มาก่อน มันต้องเจ็บมากแน่ๆ
หากเขาทำให้แม่ไม่พอใจ สักวันเขาอาจจะโดนเหมือนที่เซฮุนโดนก็เป็นได้ ลู่หานสะบัดตัวออกจากมารดาเมื่อมาถึงชั้นล่าง
สีหน้าประหวั่นและตัวสั่นเทาจนต้องกอดตัวเองเอาไว้นั้นทำให้มารดาชะงักนิ่ง
“ลู่หาน”
“...”
“อย่ามองแม่แบบนั้น...แม่แค่...”
“ทำไมแม่...ตบตีพวกเรา...ได้หน้าตาเฉย”
“ลู่หาน...”
“ใช่...พวกเรานอนด้วยกัน...”ลู่หานยอมรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“แม่ก็จะตีผมเหมือนที่ตีพี่ใช่มั๊ย?”
“ไม่!! เด็กคนนั้นต้องบังคับลูก!
เจ้าเด็กนั่นต้องหาเรื่องรังแกลูกของแม่!! แม่ทำเพื่อลูกนะลู่หาน..
แม่รักลูกและแม่จะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว! อย่าทิ้งแม่ไปนะลูก ฮือ..ฮือ...”หล่อนโผเข้ากอดลู่หานที่ยืนนิ่งพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้น
แต่ลู่หานในวันนี้กลับยืนนิ่งและมีแค่น้ำตาที่ไหลออกมาเท่านั้น
ลู่หานคิดว่าเพราะความเย็นชาและเกลียดชังของเซฮุนเริ่มเข้ามาอิทธิพลกับเขาอย่างเรื่อยๆ
บางครั้ง..คนเราก็ใช้คำว่ารักเป็นเหตุผลในการจองจำคนอื่น...
“ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้กันนะ”
ผู้เป็นพ่อถอนหายใจออกมาขณะที่นั่งบนโซฟาในห้อง
หลังจากไล่เกาหลีมุงออกไปเขากับเลขาคนสนิทก็พาลูกชายเข้ามาด้านในพร้อมกับพูดคุย
โดยที่หญิงสาวใบหน้าอ่อนโยนในชุดเครื่องแบบสำนักงานก็ใช้ผ้าเย็นแตะมุมปากของเด็กหนุ่มอย่างบางเบา
“คุณเซฮุนเจ็บรึเปล่าคะ?”
“ไม่เป็นไร..ทำแผลเถอะ”เขาตอบ โดยที่บิดาก็ยิงคำถามอีกครั้ง
“แล้วเป็นแบบนี้กันนานรึยัง? ถึงปีมั๊ย?”
“ไม่ครับ...ช่วงที่เขาอกหัก”
“เฮ้อ”ผู้เป็นพ่อถอนหายใจ “แกกำลังจะทำสิ่งที่สังคมเขายอมรับไม่ได้...
ทั้งผู้ชายด้วยกันเป็นพี่น้องกันไม่พอ พวกแกเป็นแฝดกัน นี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?”
“ผม...ไม่รู้สึกอะไรแล้วครับ”เซฮุนเอ่ย
“...”
“มันเป็นไปไม่ได้ และมันไม่ยั่งยืน...ผมรู้
มันเป็นแค่เรื่องตลกที่มีคนได้ยิน
และพวกเขาก็จะทำหน้าขยะแขยงเมื่อผมย้ำว่ามันคือความจริง
และเขาจะมองผมเหมือนกับสัตว์ตัวหนึ่ง”
“แล้วแกบังคับน้องเหมือนที่แม่แกว่ารึเปล่า?”
“ผม..ผมแค่ฉวยโอกาส...ตอนเขาไม่มีใคร”
“เซฮุน...”
“ถ้าทำให้เขาไม่เจ็บ...ให้เขาไม่ตาย...ผมยอมที่จะเป็นคนวิปริตแบบที่แม่ว่า...เพราะผมรักเขา
ผมเชื่อว่าโลกนี้ไม่มีใครปกป้องเขาได้อีกนอกจากผม ผมจะใช้ความเกลียดที่ผมมีทำให้เขาเกลียดผมจนลืมที่จะเจ็บปวด
ผมจะเป็นคนโยนเขาลงเหวเพื่อให้เขาเรียนรู้ที่จะปีนขึ้น”
“...”
“ผมผิดมากมั๊ยครับ?”
“ขอโทษนะคะ”เลขาลีกล่าวพร้อมกับแปะพลาสเตอร์ไปที่มุมปากของเซฮุน
พร้อมกับส่งผ้าขนหนูให้เด็กหนุ่มประคบแก้ม “ขอฉันพูดอะไรได้มั๊ยคะ? ฉันเคยได้ยินว่าคนเป็นฝาแฝดกันจะมีความรู้สึกที่สื่อถึงกันได้
และหากฉันพูดกับคุณเซฮุน คุณลู่หานต้องเขาใจได้แน่นอน”
“ฮโยริ...”พ่อของเซฮุนเรียกหญิงสาวที่ค้อมศีรษะให้กับเด็กหนุ่ม
“หากมีการฟ้องร้องแบ่งแยกสินสมรส
แม่ของคุณต้องรับคุณลู่หานไปอย่างแน่นอน คุณเองก็รู้ดี..
ฉันรู้ค่ะว่าความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้
แต่สุดท้ายแล้วคนเราก็ต้องมีชีวิตของตัวเองนะคะ
เราไม่สามารถผูกขาดใครไว้กับเราอย่างตลอดไป”
“...”เซฮุนมองหน้าหญิงสาวที่กล่าวออกมาอย่างแน่วแน่
“ถ้าเป็นอย่างนั้น... คุณเซฮุนคะ
ได้โปรดทำเพื่อคุณพ่อของคุณอีกสักครั้งเถอะค่ะ...
หากความรู้สึกรักของคุณที่มีให้คุณลู่หานนั้นเป็นความรักของคนหนึ่งต่อคนหนึ่งจริงๆ
ที่ผ่านมา ถือว่าคุณได้ทำในสิ่งที่ใจคุณคิดไปแล้ว
หน้าที่กับสิ่งที่อยากทำไม่เหมือนกัน ฉันรู้ค่ะว่าคุณรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร”
“ผมรู้...”
“และฉันจะอยู่อย่างเจียมตัว จะไม่แตะต้องก้าวก่ายสมบัติที่เป็นของคุณ...
ช่วยทำให้สิ่งที่ท่านหวังเป็นจริงด้วยเถอะนะคะ”
เซฮุนเงยหน้ามองบิดาที่เบนหน้าไปข้างๆ
พ่ออยากเป็นสถาปนิกและขอให้เขาทำอย่างที่พ่อหวัง
และบังเอิญว่าสิ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาชอบเช่นกัน
ในบ้านแม้พ่อจะดูดุและดูไม่สนใจใคร แต่กับเซฮุนนั้นพ่ออ่อนโยนกับเขามาก
พ่อไม่เคยบังคับเคี่ยวเข็ญอะไรถ้าไม่ใช่กับการเรียน
พ่อไม่อยากให้เขาไปทำงานอิสระที่ดูไม่มั่นคง
พ่อไม่อยากให้เขาล้มเหลวกับการไม่เคยเผชิญหน้า
พ่อเลี้ยงเขามาอย่างแข็งกระด้างเพื่อให้เขาต่อสู้ไปบนโลกใบนี้ได้
และเพราะแบบนั้นพ่อถึงไม่มีปฏิสัมพันธ์กับลู่หานที่ถูกแม่เลี้ยงมาอย่างทะนุถนอม
เขายังจำตอนที่พ่อตีเขาเพราะเขามีเรื่องชกต่อยได้
พ่อทำแบบนั้นเพราะพ่อไม่อยากให้เขาเป็นอันธพาล ท่ามกลางความเจ็บปวดจากการสั่งสอน เซฮุนก็เห็นลู่หานที่ยืนมองเขาโดนตีก่อนจะมองพ่อด้วยสายตาผิดหวัง
ลู่หานถอยหนีจากพ่อไปและเขาก็เห็นความเจ็บปวดในแววตาของพ่อ...
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่พ่อปล่อยลู่หานให้แม่ดูแลอย่างไม่เข้าไปก้าวก่ายใดใดอีก
“เยอรมัน...ใช่มั๊ยครับ?”เขาเอ่ยถามคนเป็นพ่อ
โดยที่เจ้าตัวก็ตอบกลับมา
“ใช่...ที่พ่อเคยพาแกกับน้องไปเที่ยวเมื่อปีที่แล้ว ที่นั่นดีที่สุด...และพ่ออยากให้แกลองไป”
“...”
“พ่อรู้ว่าตบตีด่าทอแกยังไงก็ย้อนเรื่องราวของแกกับน้องไม่ได้...
แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกเซฮุน...เชื่อพ่อนะ ไปอยู่เยอรมัน
ตั้งใจเรียนแล้วกลับมาทำงานกับบ้านเรา สร้างครอบครัวกันใหม่ ไม่มีแม่ก็ไม่เป็นไร
แกคนเดียวพ่อเลี้ยงได้ พ่อดูแลได้”
“พ่อ...”
“พ่อขอร้องนะเซฮุน...สักครั้งนึง...ให้พ่อ...”
หลังจากเรื่องนั้นผ่านไปเป็นอาทิตย์
ลู่หานสีหน้าอึดอัดเมื่อในบ้านไม่มีพ่อและเซฮุน พ่อไม่กลับบ้านมาหลายวันแล้วและเซฮุนก็เช่นกัน
และตอนนี้แม่ของเขาก็พาผู้ชายคนหนึ่งมาที่บ้านได้อย่างสะดวกใจขึ้นทุกๆวัน
จนใกล้ถึงวันที่แม่และเขาต้องเดินทางกลับจีน
เขายังคงทำหน้าไม่ถูกเมื่อต้องมาร่วมโต๊ะกับใครก็ไม่รู้ในบ้าน
เป็นชายท่าทางกรุ้มกริ่มอยู่คนและเด็กผู้ชายท่าทางเกเรอีกคน
ชายคนนั้นมองไปรอบบ้านอย่างพออกพอใจก่อนจะกล่าวกับแม่ของเขา
“บ้านนี้ท่าทางจะราคาสูงนะครับ”
“ค่ะ ที่ดินตรงนี้เป็นที่ๆดีที่สุดในละแวกของโซลด้วย”
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะช่วยคุณฟ้องร้องจนได้มาแน่นอน
พอขายมันไปแล้วเราก็จะไปสร้างบ้านกันใหม่ที่ปักกิ่ง
คุณจะได้ไม่ต้องพะวงกับเรื่องพ่อแม่ของคุณอีก”
“ขอบคุณนะคะ ลู่หาน.. ขอบคุณอาเขาสิจ๊ะ”เธอหันมาทางลูกชายและพบสายตาว่างเปล่าของลู่หานที่มองตอบ
ร่างเล็กลุกขึ้นก่อนจะเดินขึ้นห้องไปอย่างไม่เอ่ยปากอะไรแม้แต่นิด
ปล่อยให้เธอหันมาแก้สถานการณ์กับชายคนรักที่ยังมองตาม
“เอ่อ...ลู่หานไม่ใช่เด็กแบบนี้หรอกค่ะ
แต่ก่อนแกเป็นเด็กน่ารัก...เป็นแบบนี้เพราะเคยโดนชักจูง อธิบายกับแกสักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้น”
“อ๋อ..ผมเข้าใจครับ”เขากล่าวตอบ
“งั้นเอาเป็นว่าคืนนี้เราจะไปที่เดิมกันรึเปล่า? หากเป็นอย่างนั้นผมขอฝากเจ้าลูกชายค้างที่นี่สักคืนนะครับ
ไหนๆเราก็จะเดินทางกันพรุ่งนี้แล้ว”
“ได้สิคะ ค้างที่ห้องตรงข้ามห้องลู่หานชั้นบนเลยค่ะ ไม่มีใครมาอยู่แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันดีกว่าครับ”ชายคนนั้นลุกขึ้นก่อนจะลูบศีรษะเด็กหนุ่มที่ยังนั่งเขี่ยอาหารในจาน
“อยู่กับลู่หานเขานะลูก..อี้ฟาน”
ลู่หานกดวางสาย...
ในตอนนี้เขาแทบไม่มีเรื่องของโอเซฮุนอยู่ในสมอง แต่เขาพยายามโทรหาเซฮุนแต่ไม่มีคนรับ
ครั้นจะโทรไปหาบยอนแบคฮยอนก็ไม่มีใครรับสายเช่นกัน
ลู่หานนั่งถอนใจอยู่ในห้องก่อนจะลุกขึ้นมองที่หน้าต่าง
และพบว่ารถคันหนึ่งกำลังแล่นออกไป
“โล่งใจอยู่ล่ะสิ”เสียงๆหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับลู่หานที่หันมาเจออี้ฟานที่อยู่ตรงประตู
ลู่หานหงุดหงิดนิสัยเคยตัวไม่ยอมปิดประตูก็วันนี้
โดยที่อีกคนก็ทิ้งสายตาใส่พลันเข้ามาข้างในพร้อมกับส่งเสียง “ขอเข้ามานะ”
“นายจะทำอะไร”
“ไม่ทำอะไรหรอก...ไม่มีอะไรให้ฉันทำ”อี้ฟานนั่งลงกับพื้นพร้อมกับเปิดมือถือเล่น
“พักนี้แม่นายมีอะไรก็มาฟ้องพ่อฉันหมด ทุกเรื่องเลยด้วยซ้ำ แม้เรื่องนายกับแฝดนาย”
“...”
“ทำกับพี่น้องด้วยกันไม่รู้สึกแปลกๆเหรอ?”
“พูดมากน่ะ”ลู่หานส่งเสียงไม่พอใจ ก่อนจะเลิกคิ้วพร้อมกับรับมือถือที่อี้ฟานโยนให้
ในหน้าจอนั้นปรากฏภาพเจ้าตัวกับใครคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียงพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ดวงตาดำขลับใบหน้าหวานหยดอ่อนโยนกำลังส่งยิ้มให้กล้อง ท่ามกลางเสียงของอี้ฟานที่พูดพลางดันหลังชนประตูปิด
“คนนั้นชื่อจางอี้ชิง...เป็นพี่และคนรักของฉันเอง”
“...”
“เรื่องมันเริ่มจากพ่อของฉันเป็นเซลล์ขายเครื่องกรองน้ำที่โดนเมียทิ้งหลังจากคลอดฉันไม่ถึงปี
เป็นคนปากหวานและใช้ปากยกระดับชีวิตมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งมีเศรษฐีนีคนหนึ่งยอมตกลงปลงใจแต่งกับเขา
โดยที่หล่อนก็มีลูกติด...นั่นคือเขาล่ะ เขาแก่กว่าก็เลยเป็นพี่”
“...”
“แต่เพราะเขาเป็นโรคหัวใจ ต้องใช้เงินผ่าตัดมหาศาล
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นเสียพ่อของฉันก็พบว่ามรดกของหล่อนเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นของลูกชายที่เหลือเป็นของพ่อ
และนับวันมันก็ร่อยหรอลงเต็มทีเพราะพ่อเองก็ติดพนัน...
แต่ความรักของฉันที่ให้เขามันดันเป็นของจริง และฉันไม่อยากให้พ่อไปปอกลอกเขาอีก”
“พ่อนายเลยมาปอกลอกแม่ฉันสินะ”
“แม่นายโง่จะตาย”อี้ฟานพูดตรงๆให้ลู่หานเขม่นตามอง
“คนดีๆที่ไหนจะเอาเรื่องครอบครัวมาพูดกับคนที่คุยกันไม่กี่เดือน
คุยกันมานานไม่ได้แปลว่ารู้จักกันดีซะหน่อย ฉันสงสารนายหรอกนะก็เลยบอกไว้ก่อนว่า
พ่อฉันติดต่อพวกสส.ในจีนเอาไว้ วันไหนแม่นายเงินหมด
นายนั่นแหล่ะตัวทำเงินรายต่อไป”
“พ่อนาย...ทั้งที่เป็นแบบนี้...ทำไมนายไม่ห้าม”
“นายควรจะรู้นะว่าการที่เขาให้ฉันอยู่กับนายสองคนคืนนี้เพื่ออะไร
นั่นคือข้อต่อรอง”อี้ฟานถอนหายใจ “ฉันไม่โอเค แต่ฉันก็ห้ามไม่ได้
เหมือนที่นายห้ามแม่ของนายไม่ได้ ลูกบางคนไม่เคยทำอะไรถูกในสายตาพ่อแม่กันหรอก”
“ฉัน...ฉันเหนื่อย...”ลู่หานยกมือปิดหน้าพรูลมหายใจ โดยที่อี้ฟานก็มองนิ่งๆ
“ฉันว่านี่มันปัญหาครอบครัวชัดๆ สัมพันธ์ครอบครัวนายก็เหมือนร่างกายคน
ยิ่งอ่อนแอพวกเชื้อโรคก็จะเข้ามาได้ง่าย แม้แต่เมื่อกี้ที่นายเดินขึ้นมา
แม่นายก็ไม่เคยโทษนายเลย แม่นายโทษคนอื่นไปหมด...
ฉันบอกเลยว่าแม่นายน่ะเกินเยียวยา”
“เลิกว่าแม่ฉันซะทีเถอะ!”ร่างเล็กขึ้นเสียงและอี้ฟานก็หัวเราะหึ
“ถ้าแม่นายดีจริงฉันจะเอาอะไรมาว่าได้..จริงไหม?”
“...”
“ฉันขอย้ำอีกครั้งนะว่าฉันสงสารนายจริงๆถึงพูดแบบนี้...นายยังมีทางที่จะแก้ไขอนาคตตัวเองได้
พ่อฉันไม่ได้รักแม่นายจริงหรอก...ไม่สิ นอกจากแม่ฉันพ่อฉันก็ไม่รักใครอีก...ฉันรู้จักพ่อฉันดี
ฉันเอง...ถ้ากลับจีนก็แยกตัวจากพ่อ อยู่กับคนที่ฉันรัก นั่นคือสิ่งที่ฉันเลือก
ฉันเลือกที่จะปกป้องเขา”
“...”
“นายล่ะ? อยากปกป้องใครบ้างรึเปล่า?”
“ฉัน...”ลู่หานพึมพำเบาๆก่อนเม้มริมฝีปากแน่น
“หากนายสงสารฉัน...พาฉันไปที่ๆนึงได้มั๊ย?”
ลู่หานคิดว่าตัวเองโชคดีที่ตอนนั้นคว้าคีย์การ์ดออกมาด้วย...
หลังจากที่อี้ฟานพามาส่งที่หน้าอพาร์ตเม้นต์ของเซฮุน
เจ้าตัวก็ได้สำทับว่าจะมารับตอนหกโมงเช้า เพราะอี้ฟานรู้ดีว่าแม่ของลู่หานไม่มีทางกล้าด่าเขาแน่นอน
และระหว่างนี้อี้ฟานจะไปเที่ยวเล่นกับนอนที่ไหนสักที่เพราะเจ้าตัวเองก็ไม่สะดวกใจที่จะนอนบ้านคนอื่นนัก
ลู่หานเลยก่ำกึ่งไม่รู้จะโมโหหรือขอบคุณอี้ฟานดี
เพราะพ่อของคนๆนี้กำลังคิดไม่ดีกับแม่ของเขา แต่อีกนัยหนึ่งตัวของอี้ฟานเองไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วย
แต่ไม่รู้จะว่าอย่างไรเหมือนกับเขาที่รู้สึกกับแม่ตน
“?”
ดวงตากลมโตเบิกเล็กน้อยเมื่อพบว่าในห้องนั้นปรากฏลังหลายๆใบซ้อนกัน
ไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ ไม่มีข้าวของเครื่องใช้
เหมือนกับว่ามันถูกจัดลงกล่องไว้พร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หนึ่งใบ
ไม่มีแม้แต่ม่านที่อยู่ตรงกระจก ทุกอย่างถูกเก็บไปหมดจนเหลือเพียงที่นอนกับเตียงเปล่าๆ
ไม่มีแม้แต่ร่างของโอเซฮุนอยู่ในห้อง
ลู่หานใจหายราวกับตายไปแล้วครึ่งตัวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ดวงตาร้อนผ่าวจนหยาดน้ำจะหยดไหล แต่ก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าเซฮุนอาจจะเก็บของเพื่อกลับบ้านก็ได้
ลู่หานแค่เกลียดแสงที่ส่องเข้ามา...
แสงที่ส่องมาในห้องนั่นช่างแสบตา...เขาไม่ต้องการแสงสว่างใดใดอีกต่อไปแล้ว...
“เข้าห้องคนอื่นไม่ปิดประตูนี่อยากให้โจรเข้ามาฆ่ามากเหรอ?”
เสียงของเซฮุนดังขึ้นและลู่หานก็หันไปมอง
ก่อนจะพบโอเซฮุนที่ยืนหอบต่อหน้าของเขา พี่ชายฝาแฝดผลักบานประตูปิดล็อคพร้อมกับเอาแผ่นหลังดันเพื่อพักหายใจ
ใบหน้าไม่มีรอยฟกช้ำใดใดเป็นปกติ ลู่หานมองนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนไม่ต่างกันนั้น
แล้วปากก็เอ่ยทักออกมา
“ไปไหนมาเหรอ?”
“ไปบ้าน”
“?”
“ฉันต้องเอาคีย์การ์ดคืนเขา”เซฮุนถอนใจ “ก็กะว่าจะไปลา”
“ลา?”ลู่หานขมวดคิ้วฉงน “ลาไปไหน...”
“จำที่ๆพ่อเคยพาไปปีที่แล้วได้มั๊ย นั่นแหล่ะ...ฉันจะไปเรียนที่นั่น
แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะเหงานะ ฉันโทรไปบอกไอ้หวงจื่อเทาแล้วว่าถ้าไม่มีงานก็รับสายนายบ้าง
ตอบแชทนายบ้าง หมอนั่นสัญญามาแล้ว”
“...”
“แต่ถ้ามันไม่ทำตามที่บอก...รีบโทรมาบอกทันทีเลยนะ”
“ไม่เอา”
“...”
“ไม่ไปนะ...ฉัน...เราไม่ไป...พวกเราต้องไม่ไป”ลู่หานส่ายหน้าเอาคีย์การ์ดไปไว้ข้างหลังเหมือนเด็ก
โดยเซฮุนก็มองท่าทีเหล่านั้นก่อนจะถอนใจเบา
“ไม่ใช่เวลามาเล่นสนุกแล้วล่ะ... ก็ดีนะที่พ่อไม่กระทืบฉันตายไปอีกคน...
ใช่...เลขาลีพูดถูก ว่าเรื่องของพวกเรามันแค่ช่วงหนึ่งในชีวิต
พวกเรามีอนาคตมากกว่านี้ นายไม่จำเป็นต้องมีฉัน
และฉันไม่ควรผูกขาดกับนายไปทั้งชีวิต”
“...”ลู่หานกัดริมฝีปากร้องไห้โดยที่เซฮุนก็ถอนใจยาว
“ไม่มีฉันแล้ว...ก็เลิกร้องไห้ เลิกทำตัวน่าสงสาร
เลิกมานั่งคิดว่าคนนั้นคนนี้เกลียดได้แล้วนะ โลกนี้ไม่ได้รักเราหรอก
นายก็แค่หาอะไรที่นายรักและอยู่กับมันก็พอ และลืมเรื่องพวกเราไปซะ
จะได้ไม่มีฉันคอยดุนาย ว่านาย ค่อนแคะนายให้เจ็บใจ มันก็ควรเป็นอย่างนั้นล่ะนะ”
“น่ารำคาญน่ะ”
“...”เซฮุนเลิกคิ้วเมื่อประโยคนั้นดังออกมาจากลู่หานที่อ่อนแอและอ่อนโยนคนนั้น
ลู่หานโยนคีย์การ์ดไปที่ไหนสักที่ในห้องก่อนจะก้าวเร็วๆเข้ามาแนบตัวเข้าชิดกับเซฮุนที่เลิกคิ้วเล็กน้อย
“ความกระด้างของนายมันกัดกินฉันไปหมดแล้ว...แต่ฉันแค่ขี้ขลาดปกป้องนายบ้างไม่ได้เท่านั้นเอง”
“ลู่หาน...”
“ฉันไม่อยากฟังเหตุผลงี่เง่าของนายอีกแล้ว จูบฉันก็พอ”
“...”
“ฉันคิดหลายครั้งแล้วว่าจูบของนายมันเหมือนมอร์ฟีน...
มันช่วยแก้อาการอยากตายของฉันได้หลายครั้ง”ลู่หานกวาดดวงตาไปทั่วใบหน้าอีกคนอย่างไม่ประหวั่นกลัวอีกต่อไป
“ได้โปรด”
เซฮุนไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธนอกจากรั้งลู่หานเข้ามาจูบทั้งที่พิงอยู่หน้าประตู
ริมฝีปากและเรียวลิ้นที่โจนจ้วงเข้าหาไม่ได้ทำให้ลู่หานรู้สึกแปลก...
เขาตอบกลับด้วยสัญชาติของคนไม่ใช่สัตว์ป่า เขาแค่มองเซฮุนเป็นคนๆหนึ่งที่ไม่ได้หน้าตาเหมือนเขา
ทั้งเขาและเซฮุนมีจิตใจ มีเลือดเนื้อ มีความรู้สึกนึกคิดและหนทางของการแสดงออก
และลู่หานอยากจะทำทุกทางให้เซฮุนอยู่กับเขาตรงนี้
เขาไม่รู้สึกอะไรอย่างอื่นเลยด้วยซ้ำแม้อีกคนจะเอ่ยถึงหวงจื่อเทาในช่วงประโยคหนึ่ง
“อื้ม..อืม...อ่า..”อ้าปากฮุบลมหายใจเพื่อจะได้มีลมเหลือสำหรับการบดเบียดริมฝีปากอีกครั้ง
ลู่หานยังคงสับสนเล็กน้อย เขายังกล้าๆกลัวๆเหมือนลูกนกที่กำลังจะออกจากเปลือกไปสู่โลกกว้างขณะที่ลูบไปตามตัวของเซฮุนพร้อมกับกดจูบที่ลำคออีกคน
และรู้สึกถึงฝ่ามือที่ขยำตรงสะโพก เขานึกถึงนาทีที่ตัวเองเปิดโลชั่น กลิ่นผลไม้หน้าร้อนออกมาท่ามกลางคำพูดของคงตรงหน้า
รสชาติเปรี้ยวและขมผิดกับกลิ่นหอมหวาน นึกถึงวินาทีที่ตัวเองผูกผ้าปูที่นอนกับขอบหน้าต่างโรงพยาบาล
แต่คำต่อว่าให้เจ็บใจของอีกฝ่ายทำให้เขาทำไม่ลง
นึกถึงสารพัดวิธีที่จะฆ่าตัวเองให้ตาย แต่ทุกอย่างก็ล้มเลิกลงในวันที่เซฮุนพูดออกว่า‘ฉันคิด’
เขาคิดมาตลอดว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่พี่ชายฝาแฝดของตัวเอง เป็นคนๆหนึ่ง
มันอาจจะง่ายที่เขาจะรักโดยไม่สนใจใคร
และในตอนนี้ลู่หานก็คิดว่า...ถึงเซฮุนจะไม่ใช่คนอื่น...ก็ไม่เป็นไร...
“อ่า..ลู่หาน...อ่า...อืม..”เซฮุนครางเบาๆพร้อมกับแหงนหน้าขึ้นเมื่อลู่หานถดตัวลงปลดซิปกางเกงของเขาและจัดการเขาซะตรงนั้น...
ตรงหน้าประตูห้อง ปลายลิ้นนุ่มนวลและช่องปากนิ่มๆยังทำหน้าที่ได้ดีเหมือนเดิมเสมอ
ลิ้นเล็กๆสีแดงสดตวัดเลียลากไล้ไปตามความยาว
ซุกไซ้พื้นที่โดยรอบอย่างไม่รู้สึกเคอะเขินหรือติดขัดในใจใดใด
ลู่หานไม่ได้เมาและรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไร เขาไม่หยุดการขยับไหวของตนเองแม้เซฮุนจะพยายามห้ามและดันเขาออก
เขากลับรู้สึกพอใจที่คาวน้ำนั้นค้างในริมฝีปากของเขาและเลอะไปกับข้างแก้ม
บางทีลู่หานก็คิดว่าเขาเองก็คงสติแตกพอๆกับแม่เขานั่นแหล่ะ
“สมน้ำหน้า บอกแล้วว่าให้พอ”เซฮุนทรุดลงนั่งเช็ดคราบเหนียวออกจากใบหน้าของคนเป็นน้องที่แค่หัวเราะเบาๆในลำคอ
ก่อนที่ลู่หานจะลุกขึ้นถอดกางเกงยางยืดขายาวและชั้นในออกจากขาตนโยนไปข้างๆแบบไม่ใส่ใจนัก
“ต่อสิ”
“...”ลู่หานมองเซฮุนที่สีหน้าชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะพลิกลู่หานชนกับผนังห้อง
เขาขยับตัวเข้าแทรกเรียวขานั้น
จับท่อนขาคนน้องพาดกับบ่าตัวเองก่อนจะเป็นฝ่ายใช้ปากบ้าง
ลู่หานจิกนิ้วสอดเข้าไปในกลุ่มผมนั้นพร้อมกับสวนสะโพกขึ้นเบาๆ ห้องที่สว่างเพียงแค่เสียงจากหน้าต่างไม่มีม่านนั้นทำให้บรรยากาศให้ห้องแปลกไป
และมันน่าตลกที่พวกเขายังอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“อ๊ะ..อา...ฮึ้ก..อึ้ก..ฮ้า..อาา”
ริมฝีปากเล็กๆส่งเสียงครางรัญจวนออกมาก่อนจะถูกพลิกให้หันหน้าหาประตู
ลู่หานเท้ามือกับประตู
นิ้วขูดไปกับบานไม้นั้นยามที่นิ้วอีกคนใช้คราบคาวเป็นตัวช่วยให้แทรกเข้าหา เซฮุนโอบตัวของลู่หานจากด้านข้างเมื่อขยับนิ้วสอดเข้าไปสองพร้อมกับบดจูบกับอีกคนอีกอยู่อย่างนั้น
รอเวลาให้มันพร้อมด้วยการขยับวนและถอยเข้าออก
ลู่หานละริมฝีปากออกมองใบหน้าอีกคนก่อนจะจูบมุมปากเบาๆให้รู้ว่าพร้อม เซฮุนจึงได้ยอมขยับมือออกเพื่อที่จะได้แทรกกายเข้าไป
“ไม่ไหวก็บอกนะ”
“อื้ม..อือ...อ่า...”ลู่หานครางในลำคออย่างยากลำบากเมื่อความแข็งตึงรุกล้ำเข้ามาภายใน
ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย
สองมือครูดจิกบานประตูพร้อมกับการขยับไหวที่เริ่มขึ้น
ลู่หานแอ่นสะโพกพร้อมกับส่งเสียงออกมาอย่างลืมอาย
จนกระทั่งถูกเบียดเข้ากับประตูพร้อมกับการขยับไหวรุนแรงนั้น เซฮุนกัดเบาๆที่ต้นคอของลู่หานสลับกับไล่จูบลำคอระหงอย่างหวงแหน
ก่อนจะเอาแขนล็อคช่วงเอวอีกคนให้ขยับหาตัวพร้อมกับเสียงร้องครางเนืองๆ สุดท้ายเซฮุนเองก็เท้าแขนกับบานประตูขยับตัวเข้าโดยใช้แขนอีกข้างค่ำข้อพับขาของลู่หานให้การสอดใส่สะดวก
“เมื่อย..อ่า..รึเปล่า?”
“อื้อออ”ลู่หานสั่นหน้าพร้อมกับก้มหน้าครางออกมาอีกรอบ จนเซฮุนค่อยพลิกลู่หานหันมาหาตนเอง
แขนเรียวเกี่ยวกระหวัดบ่าของคนพี่ไว้พร้อมกับท่อนแขนที่ช้อนน้องกันพลัดตก
การเชื่อมต่อเกิดขึ้นอีกครั้งโดยที่ลู่หานถูกทลายความติดขัดในใจลงทีละน้อย เซฮุนเหมือนคนๆหนึ่งที่หน้าคล้ายเขาก็เท่านั้นเอง
“อ๊ะ..อา...เจ็บหลัง..”
เอ่ยอ้อนเอากับคนที่ขยับตัวและจังหวะพวกนั้นก็ชะงักนิ่งโดยฉับพลัน
เซฮุนอุ้มลู่หานไว้กับตัวอย่างไม่มีท่าทีเหนื่อยหน่ายเข้าไปด้านในจนถึงเตียงก่อนจะวางน้องลงบนที่นอน
แสงจากหน้าต่างที่ส่องเข้าขับให้ผิวของลู่หานยิ่งขาวนวล
ฉ่ำหยาดเหงื่อแวววาวราวกับตุ๊กตากระเบื้อง ลู่หานยังน่าถนอมเสมอผิดกับเขา
ทั้งผิวนวลที่เป็นปื้นแดง รอยจูบตามตัวลำคอที่เปิดเผยให้เก็บเกี่ยวตามแต่ใจ
ไล่ขึ้นไปยังปลายคางเล็กๆ
ริมฝีปากน้อยๆที่ตอนเด็กๆคอยเบะจะร้องเวลาเขาทำอะไรที่ดื้อรั้น
จมูกโด่งเล็กรั้นประสาคนดื้อเงียบ ดวงตาหวานปรือฉ่ำไปด้วยกามารมณ์ เส้นผม คิ้ว
พวงแก้ม ใบหู ทุกอย่าง...
เซฮุนแค่อยากจะเก็บทุกอย่างของลู่หานเอาไว้ในความทรงจำก็ยังดี....
เพราะมันต่างกับเวลาเขาส่องกระจกอย่างแน่นอน....
เพราะลู่หานน่าถนอมเสมอ...
“ร้องไห้ทำไม...?”
ลู่หานถามเบาๆพลางยกมือเช็ดหยดน้ำที่ร่วงลงมาจากดวงตาของเซฮุน
และเขาเองก็แค่ยิ้มและส่ายหน้าให้เท่านั้น
เขาดำเนินทุกอย่างต่อไปอีกครั้งท่ามกลางแสงด้านนอกที่สาดมาจนสว่างจ้า
ไม่อายต่อความรู้สึก ไม่ต้องมานั่งพะวงกับจิตใต้สำนึก
ปล่อยความรู้สึกของตัวเองไปสู่โลกกว้าง เซฮุนขยับตัวกระทั้นพลางเฝ้ามองลู่หานที่ร้องครางออกมาอย่างสุขสม
เขายังจำได้เสมอในตอนที่พวกเขายังเด็ก
ลู่หานที่ทำไอศกรีมโคนสตรอเบอรี่ตกดินได้แต่นั่งร้องไห้งอแง เซฮุนที่อยู่กับไอศกรีมช็อคโกแลตไม่รู้จะช่วยอย่างไรนอกจากแบ่งของตนเองไปให้
แต่ลู่หานก็ปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่ามันเหมือนก้อนดิน
ตอนนั้นเขาขู่ว่าจะฟ้องแม่ที่ลู่หานทำไอศกรีมตก
น้องชายฝาแฝดถึงยอมกินก้อนดินเย็นๆนั้นและพบว่าแท้จริงแล้วมันคือช็อคโกแลตรสหวานหอม...
ตั้งแต่นั้นลู่หานก็ติดช็อคโกแลตเหมือนที่เขาชอบบุหรี่ช็อคโกแลต
ยังมีอะไรหลายอย่างบนโลกที่ลู่หานไม่กล้ากินไม่กล้าทำ
และเขาไม่มีโอกาสได้แนะนำมันอีกต่อไป...
ไม่มีโอกาสแม้แต่จะจูบลา...
เมื่อช่วงเช้ามาถึง
ลู่หานผุดลุกขึ้นจากบนเตียง
แสงของวันใหม่ส่องเข้ามาและพวกเขาก็มีแต่ผ้าปูเตียงคลุมตัว
ลู่หานทำได้แค่ลุกไปอาบน้ำและล้างหน้าอย่างลวกๆพร้อมกับแต่งตัวก่อนจะเดินออกมามองเซฮุนที่ยังนอนหลับบนเตียง
นี่คือทางแยกที่พวกเขาเข้าใจดี ความถูกใจกับความถูกต้องบางครั้งก็ไม่ได้อยู่คู่กัน
พวกเขาเข้าใจทุกอย่าง...
ลู่หานคิดว่ามันถึงเวลาที่ควรจะทำอะไรให้มันถูกต้องเสียที...
“ไปแล้วนะ”
เขาพูดเบาๆก่อนจะก้มลงกดริมฝีปากกับเรียวปากของเซฮุน
ก่อนจะหยิบคีย์การ์ดที่ตัวเองโยนทิ้งไปเมื่อคืนขึ้นวางให้ข้างๆ
ลู่หานเปิดประตูก่อนจะกดล็อคปิดให้แล้วเดินลงไปข้างล่างเพื่อไปหาอี้ฟานที่ขับรถมารออยู่
และทันทีที่เสียงประตูปิดลง... โอเซฮุนก็ลืมตาขึ้น
ก่อนจะนอนร้องไห้ให้กับความจริงอย่างเงียบๆ...
ความจริงที่ว่า...แม้แต่คำว่ารักก็ไม่มีสิทธิ์หรือโอกาสจะได้พูด...
เซฮุนเกลียดตัวเอง....
*********************
#LoatheSELU
โอ้ยยยย หน่วงงง
ตอบลบ