วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

[SF] Baby and The Bear {SEHUN x LUHAN} 5/5







Title : Baby and The Bear 5/5
Author : RUNAWAY05
Couple : SEHUN x LUHAN
Note : ปิดตำนานบักหมีว์...

*********************************************



แสงแดดอ่อนๆส่องเข้ามาในห้องนอนของชายคนหนึ่งในช่วงใกล้หมดเช้ามืด บนเตียงนั้นปรากฏร่างของคนสองคนนอนกอดก่ายกันอยู่โดยไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น จนกระทั่งเซฮุนรู้สึกตัวตื่นขึ้นก่อน เขาลุกขึ้นพิจารณาลู่หานซึ่งกำลังนอนหลับ ผิวเนื้อนวลมีจ้ำแดงประปราย เจ้าตัวหลับปุ๋ยราวกับนางฟ้าตัวน้อยที่ขดซุกกับผ้าห่ม จงทำให้ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มนุ่มๆอย่างบางเบาพร้อมกับความรู้สึกเสียดายที่จะไมได้อยู่ด้วยกันอีก เพราะเขาต้องปล่อยให้อีกคนกลับบ้านเพราะวันนี้แม่ของลู่หานก็จะกลับมาจากต่างจังหวัด

เซฮุนแปลกใจตัวเองเล็กน้อยว่าเซ็กซ์เมื่อคืนมันดีมากและเขาไม่มีความรู้สึกใคร่กระหายใดใด เขารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังเติมเต็มความรักลงไปมากกว่าเก็บเกี่ยวหนทางสำเร็จความใคร่ เด็กคนนี้น่ากลัวเหลือเกิน...เขายอมรับในใจ ลู่หานรักษาสิ่งที่ติดอยู่ในใจของเขาได้อย่างน่าประหลาด และเขาก็รู้สึกดีทีได้รับความรักเหล่านั้น แม้จะไม่ได้พูดคำว่ารักต่อกันแม้แต่น้อย

“อรุณสวัสดิ์ครับ”ลู่หานป้องปากหาวพร้อมกับค่อยๆเดินหน้าง่วงออกมาอย่างน่ารักน่าชังหลังจากอาบน้ำและใส่ชุดนักเรียนที่เซฮุนรีดเตรียมไว้ให้ เด็กน้อยนั่งกัดไส้กรอกกับนมสดและขนมปังแผ่นก่อนที่ชายหนุ่มจะถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“เจ็บอยู่มั๊ยครับ?”

“เจ็บฮะ...แต่ผมไปเรียนได้”

“ทานยาด้วยนะครับ”เซฮุนส่งยาแก้อักเสบให้ลู่หานที่พยักหน้าให้ “ถ้าไม่ไหวให้เพื่อนมาบอกนะ หรือไปพักห้องพยาบาล เดี๋ยวจะไปหา”

“ได้ครับ”

เมื่อทานมื้อเช้าเรียบร้อยและขับรถมาถึงโรงเรียนเซฮุนกับลู่หานก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ตามปกติ แม้ว่าเด็กชายจะเจ็บขัดอยู่บ้างแต่ก็ยืนยันว่าตัวเองมาเรียนไหวอยู่ ทั้งคู่ต่างแยกย้ายที่ของตนเอง โดยเซฮุนก็สอนเด็กชั้นอื่นๆในช่วงเช้าจนเรียบร้อยกลับมาที่ห้องพักเพื่อเตรียมไปสอนห้องของลู่หาน ทว่าเขากลับรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น

“คุณครูเซฮุนคะ ผู้อำนวยการให้มาเชิญไปพบท่านที่ห้องค่ะ”คุณครูสาวอีกคนเดินมาทัก ทำให้ชายหนุ่มแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมไปที่ห้องของผู้อำนวยการโดยดี ทันทีที่เขาเข้ามาดวงตาของเซฮุนก็หรี่ลงเมื่อพบใครที่นั่งอยู่กับผู้อำนวยการโรงเรียน

“พี่จุนมยอน...”

“เห็นมั๊ยล่ะครับ ผมบอกแล้วว่าผู้ชายคนนี้รู้จักผม”ชายร่างเล็กยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ “โอเซฮุนคนโรคจิต”

“ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณคิมจุนมยอน ที่ผมเชิญเขามาเพราะอยากให้คุณพูดคุยทำความเข้าใจก่อน เพราะคุณครูเซฮุนเป็นที่รักของนักเรียน ประพฤติตัวดีมาตลอด ผมจึงจำเป็นต้องเรียกคุณครูเซฮุนมาเพื่อรับฟังความเห็นของทั้งสองฝ่ายครับ”อีซูมานผู้อำนวยการโรงเรียนออกปาก

“มันก็ชัดแล้วนี่ครับว่าผู้ชายคนนี้รู้จักผม”จุนมยอนลุกขึ้นเดินรอบเซฮุนที่ยืนนิ่ง “และเขาก็เป็นโรคคลั่งเด็ก สูดดมกลิ่นเด็กๆ ผู้อำนวยการจะเอาผู้ชายคนนี้มาไว้สอนนักเรียนจริงๆเหรอครับ?”

“...”

“ผมว่าใจเย็นๆก่อนนะครับ...”

“ไม่เย็นหรอกครับ..เพราะผมมีหลักฐานใหม่ว่านายคนนี้คิดจะเคลมลูกศิษย์ตัวเอง”จุนมยอนดึงภาพของออกมากระเป๋าด้านในโค้ท ซึ่งเป็นซองสีน้ำตาลด้านในบรรจุภาพระหว่างลู่หานกับโอเซฮุนตามที่ต่างๆ เซฮุนขมวดคิ้วเล็กน้อยโดยที่ผู้อำนวยการอีซูมานก็มองภาพเหล่านั้นก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างไม่อยากเชื่อ

“อ้อ....แล้วเรื่องนี้ผมติดต่อผู้ปกครองของเด็กแล้วด้วย อีกไม่นานก็คงมาแล้วล่ะ”




ฟากลู่หานที่นั่งอยู่ในห้องพร้อมเด็กๆคนอื่นที่รอเรียนกับทีชเชอร์คนโปรดก็เฝ้าชะเง้อคอยแล้วคอยเล่า คุณครูในดวงใจก็ไม่มาเสียที จนกระทั่งเด็กคนหนึ่งที่เป็นหน่วยสอดแนมของห้องก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาท่ามกลางสีหน้าตื่นตระหนกของคนในห้อง

“เฮ้ ทีชเชอร์มารึยัง”

“ทะ..ทีชเชอร์โดนเรียกไปห้องผอ.แหล่ะ”เพื่อคนนั้นกล่าวทำเอาเด็กๆทั้งห้องมองหน้ากันอย่างโกลาหล

“ทำไมต้องไปห้องผอ.ด้วยล่ะ”

“นั่นสิ ไปทำไมนะ”ทุกคนคุยกันเซ็งแซ่จนเด็กคนเดิมก็เอ่ยพูดข้อมูลที่ตนได้รับมาอีกครั้ง

“เห็นคุณครูที่ธุรการคุยกันบอกว่า มีผู้ชายคนนึงบอกว่าซอนแซงนิมเป็นโรค”ลู่หานเบิกตามองทันทีท่ามกลางสีหน้าตกตะลึงของเด็กๆทุกคน เด็กชายขยับแว่นก่อนจะนึกถึงเบอร์โทรที่พอจำลางๆได้ก่อนจะเห็นโดคยองซูกำลังนั่งเล่นมือถือฆ่าเวลาประสาเด็กเรียนที่ไม่สนบรรยากาศห้องนอกจากนั่งรอทีชเชอร์ที่รักอย่างอดทน ลู่หานไม่รอช้ารีบเข้าไปหาคยองซูพร้อมกับเอ่ยปากทันที

“นี่ เรายืมมือถือหน่อยสิ”

“อะไรน่ะนายแว่น เราไม่ให้หรอกนะ!!

“ลู่หานจะโทรหาใครเหรอ ยืมของเราก็ได้นะ”เสียงซึลกิดังขึ้นพร้อมกับโทรศัพท์สีชมพูของเจ้าตัวยื่นให้โดยลู่หานก็รีบรับมาท่ามกลางสายตาไม่พอใจของคยองซู ลู่หานรีบพรมนิ้วลงไปก่อนกรอกน้ำเสียงอย่างเร่งรีบ

“คุณหมอจงแดครับ มาที่นี่หน่อยได้มั๊ยครับ...ซอนแซงนิม...เซฮุนเค้ากำลังโดนแกล้ง! เร็วๆนะครับ”เขากดวางก่อนจะยื่นมือถือคืนซึลกิพร้อมกับวิ่งออกไปทันทีท่ามกลางสายตางุนงงเพราะลู่หานเอ่ยชื่อของทีชเชอร์อย่างเต็มปากเต็มคำ ร่างน้อยสาวเท้าลงจากอาคารก่อนจะพบใครคนหนึ่งที่ทางเดินซึ่งทำเอาหัวใจของลู่หานแทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

“ที่ห้องผู้อำนวยการใช่มั๊ยคะ อ่อได้สิคะ...ลู่หานลูก..พาแม่ไปที่ห้องผู้อำนวยการหน่อยซิจ๊ะ”





“ครับ เข้าใจแล้ว จะรีบไปเดี๋ยวนี้”

จงแดรับสายก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากห้องพร้อมกับต่อสายหาคนอีกคนจนเรียบร้อย แต่ก็ชะงักเมื่อคนไข้พิเศษทั้งสี่ดันโผล่มาพร้อมกัน จงแดขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถามแต่ละคนที่สภาพไม่ปกตินัก “มีอะไรกันครับเนี่ย”
“คือก็มีปัญหานิดหน่อยครับเลยว่าจะมาปรึกษา...”

“คือตอนนี้หมอยังไม่ว่างครับ มีเคสนอกสถานที่ ยังไงช่วยเฝ้าคลินิกให้ก่อนนะครับ ใครมาบอกว่าหมอไม่อยู่ แบคฮยอน! ฝากคลินิกด้วยนะ!”จงแดตะโกนบอกเภสัชหุ้นส่วนที่เงยหน้าจากเกมมือถือ

“เฮ้ยไปไหน”

“ไอ้หมีซวยแล้ว ฉันต้องไปช่วยมันก่อน การ์ดนางฟ้าทำงานแล้ว”

“เออๆไปเลยเดี๋ยวฉันเฝ้าเอง”

“ฉันให้คนไข้ของเราอยู่เป็นเพื่อนนายนะ ไปล่ะ”จงแดว่าก่อนรุดหน้าออกไปทิ้งให้แบคฮยอนยืนมองผู้ชายขอบตาคล้ำๆที่มองหน้าเขาแวบหนึ่งแล้วรีบหลบตา ผู้ชายคนหนึ่งในชุดพริ้ตตีเคียว ผู้ชายคนหนึ่งสีหน้ายัวะๆเป็นนิจเคียงข้างกับอีกคนที่กำลังมีความสุขกับการแกะแผลคิ้วแตกของตนเอง ทุกอย่างเงียบงันอยู่อย่างนั้นและก็เป็นแบคฮยอนที่ทำลายความเงียบด้วยคำพูดอุทานกับตนเองอย่างนุ่มนวล

“ชิบหายเอ๊ย...”



ทางด้านลู่หานที่ทำสีหน้าไม่ถูกเมื่อมารดาปรากฏตัวขึ้น ดวงตากลมโตใต้แว่นหนาๆนั้นเหลือบมองมารดาเป็นระยะระหว่างที่กำลังไปยังห้องของผู้อำนวยการ โดยที่คุณแม่ก็กล่าวต่อไปเรื่อยๆ

“แม่ก็นึกว่าหนูเป็นอะไรซะอีกถึงได้โทรให้แม่มาหา แม่วางกระเป๋าลงบ้านไม่ถึงห้านาทีเลย มีเรื่องอะไรรึเปล่าจ๊ะ หรือว่าโรคจิตนั่นมาทำอะไรอีก”

“ผมไม่รู้เหมือนกันครับ”ลู่หานตอบเบา

“แล้วคุณครูดูแลหนูดีรึเปล่าลูก”

“ดีมากเลยครับ”

“อย่างนี้แม่ก็วางใจได้ซะที”เธอว่า ก่อนที่ลู่หานจะกลั้นใจเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป โดยสิ่งที่ลู่หานคิดไว้ก็ถูกต้อง เซฮุนกำลังอยู่กับคนใจร้ายและผู้อำนวยการ โดยสายตาของคนๆนั้นที่มองมาทำให้ลู่หานหรี่ตาลงเล็กน้อยเพราะไม่ชอบใจ ก่อนจะมองเซฮุนที่มีสีหน้าอึดอัดและค่อนข้างสั่นในแววตานั้น

โดนแกล้งอยู่แน่เลยๆ..

“ไม่นึกเลยนะครับ ว่าผู้เสียหายกับผู้ปกครองจะมาพร้อมกัน ทีนี้ก็จะได้ทำอะไรได้ง่ายมากขึ้น”จุนมยอนว่า “เชิญคุณนั่งก่อนนะครับ แล้วผมจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียด”

“คุณเหรอคะที่โทรไปหาฉันเมื่อเช้านี้”

ใช่ครับ..ผมเอง ผมแค่อยากจะบอกว่าคุณคิดผิดแล้วที่พาลูกชายไปฝากไว้กับผู้ชายคนนี้ หมอนี่น่ะเป็นโรคจิต เป็นโรคคลั่งเด็ก ชอบสูดกลิ่นแล้วก็ทำอนาจารเด็ก ถามลูกชายคุณดูสิครับว่าถูกหมอนี่หลอกทำอนาจารอะไรรึเปล่า”

“ลู่หาน...”ผู้เป็นแม่หันมองลูกชายที่เม้มปากแน่น ก่อนที่เจ้าตัวจะกล่าวนิ่งๆอย่างเด็ดเดี่ยว

“ไม่ครับ..เขาไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น”

“จริงเหรอ?”จุนมยอนหรี่ตาพลันสังเกตเห็นบางอย่างก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ “ขอโทษนะ”

!?”ลู่หานก้มมองทันทีเมื่อจุนมยอนเปิดปกเสื้อตนเองออกพบกับรอยจูบที่ต้นคอ ลู่หานเม้มปากแน่นพร้อมกับอีกฝ่ายที่หัวเราะอย่างขำขัน “นายจะบอกเหรอว่านายเต็มใจกับเรื่องที่เกิด”

“...”

“ถึงตัวนายจะสมยอม แต่ในทางกฎหมายมันเป็นไปไม่ได้หรอก”อีกฝ่ายหรี่ตา “แต่เป็นเด็กแท้ๆสมยอมให้คุณครูนี่มันก็ค่อนข้างจะหาทางลัดไปหน่อยนะ”

“พี่จุนมยอนอย่าว่าลู่หานเลยครับ ทั้งหมดมันเป็นความต้องการของผมเอง”เซฮุนโพล่งขึ้น “ลู่หานไม่ผิด...อย่ากล่าวหาเขาแบบนั้น”

“โอ้...ปกป้องใครเป็นด้วยเหรอ? แล้วตอนที่มินซอกขอให้นายช่วยทำไมนายถึงไม่ช่วยล่ะ?”

!!

“ว่าไง?”

“...ถ้าผมในตอนนี้ผมปกป้องแน่นอนครับ แต่ผมตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้นะครับ ผมก็ไม่ได้อยู่ในจุดเดิมแบบนั้นเหมือนกัน”

“เปลี่ยนยังไง? เปลี่ยนจากคนที่พาเพื่อนไปให้คนอื่นทำร้ายเป็นไอ้โรคจิตคิดไม่ดีไม่ร้ายกับเด็กเหรอ? ดูสิครับผู้อำนวยการว่าหมอนี่มันภัยสังคมขนาดไหน”

“คุณเลิกทำตัวมีปัญหาซะทีเถอะครับ!”ลู่หานเถียงขึ้นมาบ้าง “คุณไม่รู้หรอกว่าเซ...ซอนแซงนิมผ่านอะไรมาก่อนจะมาสอนที่นี่ มันไม่เข้าท่าเลยที่คุณจะไปเที่ยวทำลายโอกาสของเขาจนเขามาที่นี่และคุณก็จะทำลายมันไปอีก”

“นายมันไม่รู้อะไรมากพอที่จะขึ้นเสียงกับฉันหรอกนะ! อยากให้รู้ไว้!!

“คุณมันคนใจร้าย!!

“ลู่หานไม่เอาลูก”มารดารีบเข้าปลอบโดยที่เซฮุนทำอะไรไม่ได้เลย เขาไม่สามารถปกป้องลู่หานได้แม้แต่คำพูด เขาเกลียดตัวเองและสงสัยเหลือเกินว่าทำไมเขาถึงได้อ่อนแอมากแบบนี้...

ทำไมถึงทำอะไรไม่ได้...

“เอาอย่างนี้มั๊ยล่ะ เรื่องอนาจารเด็กเนี่ย...ลองคุยกับตำรวจดูมั๊ยถึงจะเคลียร์?”

“คุณ!”ลู่หานอ้าปากจะเถียงอีกครั้ง แต่ประตูห้องก็เปิดออกก่อนพร้อมกับร่างของคิมจงแดและใครคนหนึ่งซึ่งทำให้เซฮุนเบิกตากว้าง

“พอซักทีเถอะครับ!

“มินซอก...”

“ขอโทษนะเซฮุน..แต่ฉันว่าฉันต้องพูดมันสักที”ชายรูปร่างเล็กใบหน้าหวานน่ารักราวกับเด็กน้อยแต่สวมชุดเหมือนพนักงานออฟฟิศที่จ้องเขม็งไปหาจุนมยอนที่กัดฟันแน่น

“ใครบอกให้นายออกมาเจอหมอนี่”

“ผมต้องเจอครับ ไม่อย่างนั้นอาก็จะรังควานเขาไปเรื่อยๆ ซึ่งผมไม่ต้องการเลย”

“นี่มัน..อะไรกัน”เซฮุนครางเบาพร้อมกับจงแดที่หลับตาถอนใจก่อนจะกล่าวขึ้น

“จริงๆแล้ว คุณคิมมินซอกเป็นคนรักของผมเองครับ เขาให้ผมไปรักษาคุณโดยการแนะนำคลินิกของผมกับแม่ของคุณ เขาเล่าอาการของคุณทั้งหมดและต้นตอสาเหตุ ซึ่งมันก็ตรงกับที่คุณเล่าเหมือนกัน ผมจึงตัดสินใจรักษาคุณอย่างไม่ให้ยาที่เป็นยาสำหรับรักษาอาการ เพราะมันเป็นเรื่องของสภาพจิตใจ ขอโทษที่ผมต้องทำแบบนี้ แต่ผมแค่อยากสานเจตนาของมินซอกที่อยากให้คุณหายดีขึ้นในสักวัน”

“เดี๋ยวนะครับ..แล้วสรุปคุณครูเซฮุน...”ผู้อำนวยการกล่าวขึ้นอย่างงุนงง

“ครับ...เขาเป็นเพดโดฟิเลียหรืออาการชื่นชอบเด็ก แต่อยู่ในขั้นของการรักษาเรียบร้อยจนปกติดี การรู้สึกรักใคร่เด็กไม่จำเป็นต้องเป็นเชิงชู้สาวเสมอไป หากรู้วิธีรักษาและทำความเข้าใจอาการของเขาให้ถูกต้อง บุคคลที่มีอาการนี้สามารถทำประโยชน์เกี่ยวกับเด็ก เอื้อเฟื้อต่อเด็กได้มากกว่าคนธรรมดาทั่วไปนะครับ”จงแดอธิบาย

“แล้วที่คุณคิมพูดถึงดมกลิ่น...”

“ครับ? ผู้อำนวยการชอบกลิ่นหอมมั๊ยครับ? นั่นแหล่ะครับ มันแค่รสนิยมและการดำเนินชีวิต คุณโอสอนที่นี่มาก็เป็นปีไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แปลว่าคุณโอเองก็มีเครดิตการสอนอยู่พอสมควรนะครับ ผู้อำนวยการเลือกที่จะเชื่อคนนอกมากกว่าบุคลากรในองค์กรตัวเองมันก็ค่อนข้างจะใจร้ายไปหน่อยนะครับ”จิตแพทย์หนุ่มใช้คำพูดเชิงจิตวิทยากับผู้อำนวยการอีซูมานที่เริ่มเหงื่อตก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ

“ไม่ครับ..ผมไม่ได้ปักใจว่าคุณครูเซฮุนเป็นแบบนั้นนะครับ ผมแค่เรียกตัวมาเพื่อสอบถาม...”

“ผมเป็นคุณหมอเจ้าของไข้ของเขาครับ และสามารถยืนยันได้ว่าคุณโอเซฮุนสามารถสอนอยู่ในโรงเรียนนี้ได้ตามปกติ และฟีดแบ็คที่ผมทราบมา เขาก็เป็นที่รักของนักเรียนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ... ไม่ว่าใครที่เคยทำผิดก็ต้องการโอกาสกันทั้งนั้น”จงแดผินหน้าไปหาจุนมยอนที่กำหมัดก่อนจะส่งเสียงออกมาอีก

“แล้วเรื่องของเด็กคนนี้ล่ะ!! ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวของสองคนนี้น่ะ มันเกิดจากโรคประหลาดนั่นไม่ใช่รึไง!

“คุณคะ”แม่ของลู่หานเอ่ยเสียงเรียบๆ “เท่าที่ฉันฟังคุณหมอ..มันไม่ใช่โรคประหลาดนะคะ คุณครูแค่มีรสนิยมที่แตกต่างจากคนอื่น แตกต่างไมได้แปลว่าประหลาดนะคะคุณ การที่คุณยิ่งพูดคุณก็จะยิ่งแย่เองนะคะ เพราะมันแปลว่าคุณกดขี่และไม่ให้โอกาสคนอื่น สรุปคุณโทรหาฉันและมาที่นี่ เพื่อที่จะมาพูดถึงรสนิยมของคุณครูเซฮุนเหรอคะ?”

“...”

“เรื่องที่ไปนอนด้วยกันฉันเป็นคนฝากฝังไว้เอง คุณครูเซฮุนเคยไปนอนบ้านเรามาแล้วค่ะ และฉันก็ชอบคุณครูเอามากๆด้วย ฉันเองก็เพิ่งรู้เรื่องของลูกชายฉันและคุณครูด้วยเหมือนกัน หากเป็นอย่างนั้นจริงดิฉันก็ยินดีนะคะ เพราะถึงลูกชายฉันยังเด็ก แต่แกก็มีความคิดพอ และแยกแยะอะไรเป็นค่ะ การที่เขายังเด็ก ไม่ได้แปลว่าเขาจะโง่ เขาจะไม่รู้เรื่องหรือต้องทนฟังคำพูดดูถูกจากผู้ใหญ่ได้หรอกนะคะ และที่เด็กเขาไม่ได้โต้ตอบ เพราะจิตสำนึกของเขาถูกสอนไม่ให้เถียงผู้ใหญ่ แต่มันไม่ได้แปลว่าผู้ใหญ่จะพูดจาเอาแต่ใจกับเด็กยังไงก็ได้ไม่ใช่เหรอคะ”

“แม่ครับ...”ลู่หานเอ่ยเรียกแม่ของตนเบาๆ ส่วนมินซอกก็เดินมาจับมือจุนมยอนที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่

“ไม่ต้องสู้เพื่อผมแล้วนะครับ พอเถอะ...ปล่อยวางกันเถอะครับ เราจะได้มีความสุขกันสักที”

“...”

“เซฮุนเขารู้สึกผิดแล้วล่ะครับ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีอาการแบบนี้ ผมเองก็ไมได้เสียหายอะไรจากตอนนั้นเลย ...นะครับ...”

“ฮึ่ม..”จุนมยอนถอนใจในที่สุด “ฉันจะรอดูว่านายจะดูแลเด็กแว่นนี่ไปได้นานแค่ไหน ครั้งนี้ฉันจะปล่อยนายไป แต่ถ้านายทิ้งขว้างเด็กนี่ล่ะก็ ฉันก็จะตามล้างตามผลาญนายไปทุกที่นั่นแหล่ะ”

“...”

“ส่วนเรื่องวันนี้ ขอโทษผู้อำนวยการกับคุณน้าด้วยนะครับที่รบกวน”

“อ่า..เข้าใจกันได้ก็ดีแล้วครับ ผมเองก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องอดีตอะไรของคุณครูเซฮุน แค่ตอนนี้เขาเป็นครูที่ดีมากๆ ผมก็พอใจมากแล้ว ส่วนเรื่องคุณครูกับลูกศิษย์ หากผู้ปกครองอนุญาตผมก็ไม่ก้าวก่าย เพราะผมเชื่อว่าคุณครูเซฮุนจะสามารถควบคุมพฤติกรรมกันและกันได้ดี”

“ผมดีใจนะครับที่คุณโอได้ทำงานกับคนใจกว้างอย่างคุณ”จงแดว่า โดยที่เซฮุนที่รู้เรื่องราวทั้งหมดทีหลังก็ขอบคุณทั้งหมอจงแดและเปิดใจคุยกับมินซอกเป็นครั้งแรกหลังไม่เจอกันหลายปี ทุกอย่างคลี่คลายและลงตัวด้วยดีโดยที่ลู่หานก็กอดแม่ของตัวเองที่ลูบหลังเบาๆ

“ไม่เอานะลูก..ไม่เป็นไร...หนูรักใครแม่ก็รักนะ”

“ผมเป็นเด็กไม่ดีรึเปล่าครับ...”

“หนูดีที่สุดสำหรับแม่แล้วจ้ะ”เธอกอดรัดลูกชายของตนอย่างอ่อนโยนพร้อมกับลูบข้างแก้มเบาๆ “แม่เชื่อในการตัดสินใจของหนูนะ”

“ขอบคุณครับ”ลู่หานยิ้มรับก่อนจะหันไปขอบคุณผู้อำนวยการก่อนจะออกจากห้องไป ลู่หานไม่ได้คุยอะไรกับเซฮุนอีกตลอดทั้งวัน เขาปล่อยให้เซฮุนได้คุยกับเพื่อนเก่าที่สนิทสนมและเฝ้ามองท่าทางโล่งใจไม่ตื่นกลัวของโอเซฮุนคนนั้น เขาคิดว่าเขาโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดี มีแม่ที่เข้าใจและพ่อที่ใจดี เขาถึงได้ทำเรื่องที่ทำให้ใจของเขามีความสุขที่สุดอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถทำได้




โลกที่ยืนอยู่ สิ่งที่ชอบ อะไรที่เป็นเราสามารถเลือกมันได้...

ทุกอย่างอยู่ที่หัวใจของตัวเอง...








“อ๋า..น่ารักจังเลย ทำไมแก้มน่าบีบแบบนี้ อยากแกล้งให้ร้องไห้เลย...”

ปาร์คชานยอลพร่ำพูดออกมาเหมือนไม่สามารถเก็บความซาดิสม์ในตัวเองได้ ในขณะที่พวกเขากำลังจ้องสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆตากลมๆและแว่นหนาๆที่นั่งกอดกระเป๋าเป้เรียนที่ห้อยพวงกุญแจลูกกวางที่คลินิกของหมอจงแด หลังจากที่แม่ของลู่หานได้ขอฝากฝังลูกชายไว้กับคุณครูอีกครั้ง ความจริงเธออยากอยู่ดูแลสามีต่ออีกสักหน่อย แต่จำต้องกลับมาเพราะเป็นห่วงลูกชายและไม่อยากรบกวน แต่พอได้พูดคุยถึงอาการและการใช้ชีวิตของเซฮุนเธอก็วางใจมากยิ่งขึ้น

และลู่หานก็รบเร้าให้เซฮุนพามาที่คลินิกอย่างเสียไม่ได้...

“นี่ครับ”อู๋อี้ฟานยื่นไม้บรรทัดเหล็กให้ลู่หานที่ทำหน้างง “ช่วยฟาดก้นพี่ทีครับ เอาแบบสุดแรงเลยนะ กางเกงขาดได้ยิ่งดี พี่ชอบ”

“ถ้าใส่ชุดเซเลอร์มูนน้อยต้องน่ารักมากแน่ๆ สนใจมั๊ยครับ”

“เฮ้ยๆคุณคนไข้เก็บอาการกันหน่อยสิครับ”แบคฮยอนเดินมาพร้อมกับกดเครื่องดื่มมาให้ลู่หานซึ่งรับมาพลางกล่าวขอบคุณ โดยที่ดวงตากลมโตก็หันไปมองชายอีกคนที่แอบดูเขาอยู่หลังเสามาเกือบชั่วโมง “เซฮุนคงต้องคุยกับหมอจงแดหลายเรื่อง ฉันเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าที่เซฮุนมารักษาที่นี่มีจุดประสงค์”

“ครับ...”เด็กชายรับคำเบาๆโดยที่ดวงตาคมด้วยอายไลเนอร์ก็ปัดมอง

“ฉันล่ะไม่แปลกใจเลยที่เซฮุนมันอาการกำเริบ นายเป็นพวกเซ็กซ์แอพพีลสูงมาก ระดับความน่าดึงดูดอยู่ในเกณฑ์สูงเลยนะ ไม่มีคนในห้องมาสารภาพรักเหรอ”

“ไม่มีฮะ”

“มีหรือไม่รู้?”แบคฮยอนถาม “ก็นะ พวกเด็กๆไม่รู้จักหรอก อาจจะดึงดูดพวกที่โตกว่า น่าทะนุถนอม น่าปกป้อง แนวๆนี้”

“มันคืออะไรเหรอครับ”

“แรงดึงดูดเพศตรงข้ามหรือเพศตรงกันน่ะ เป็นคนที่มีฟีโรโมน สามารถกระตุ้นความรู้สึกรักใคร่ชอบพอ หรือกระตุ้นความอยากสืบพันธุ์ด้วย”แบคฮยอนเหล่ตามองคนไข้พิเศษอีกสามคนที่นั่งมองตาเยิ้มรวมทั้งหลบหลังเสาอีกหนึ่ง

“ผมแค่เด็กแว่น ไม่มีใครมาสนใจหรอกครับ”

“มีสิครับ...ที่ทำงานพี่ชอบพูดตลอดว่าหนุ่มแว่นสุดยอดดด”อี้ฟานส่งเสียงก่อนจะหน้าคว่ำเพราะโดนลูกตบจังๆของปาร์คชานยอล

“อย่างน้อยเซฮุนก็สนใจนายนะ หมอนั่นน่ะ...น่ารักใช่มั๊ยล่ะ”

“ครับ...”ลู่หานพยักหน้าก่อนจะส่งยิ้มให้แบคฮยอน “เท่ด้วย ใจดี แล้วก็ดีมากๆเลยครับ”

“...นายนี่มันตัวอันตรายชัดๆ”แบคฮยอนหันหน้าแดงๆออกไปพร้อมกับลู่หานที่เอียงคอมองเมื่อคุณหมอทำท่าแปลกๆ ก่อนที่เซฮุนจะเปิดประตูห้องออกมา

“ทำอะไรกันน่ะครับ”

แบคฮยอนนั่งไขว่ห้างมองอยู่ที่เก่าในขณะที่คนอื่นรีบวิ่งไปนั่งเป็นระเบียบอยู่กับที่ โดยที่จงแดก็ค้อมศีรษะให้กับลู่หานเล็กน้อยพลันเอ่ยเรียก “พวกคุณทั้งสี่ครับ มาพร้อมกันเลยก็ได้ครับ”

“ได้เลยครับหมอ”ทั้งสี่คนลุกขึ้นตามหมอจงแดไปด้านในแต่ไม่วายก็ยังหันมามองลู่หานตาละห้อย ซึ่งเด็กชายก็ลุกขึ้นเดินตามเซฮุนไปที่รถโดยแบคฮยอนก็ออกมาส่ง

“ต่อจากนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วนะ”

“ไม่มีแล้วล่ะครับ ผมหวังว่ามันจะโอเค”

“โชคดีแล้วกัน ว่างๆก็แวะมาเล่นบ้างล่ะ”แบคฮยอนกล่าว โดยที่ทั้งคู่ก็พยักหน้าพลางเอ่ยขอบคุณก่อนจะขึ้นรถไป แบคฮยอนยิ้มส่งก่อนจะริบรอยยิ้มเมื่อสังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตแปลกๆที่มีผ้าโพกหัวลายดอกกับแว่นตาดำอยู่ในชุดนักเรียนกำลังแอบข้างกระถาง นี่คนไข้พิเศษของจงแดรึเปล่า

“ฮือ...ทำไมนายแว่นไปกับทีชเชอร์ ดโยว่าแล้วเชียวทำไมถึงไปส่งงานทุกวัน ทีชเชอร์ไม่มีที่ในใจให้ดโยแล้ว ดโยเสียใจ ดโยจะฟ้องชิงชิง”

“นี่..มาทำลับๆล่อๆอะไรอยู่หน้าคลินิกน่ะ เย็นป่านนี้ทำไมไม่กลับบ้าน”ชายหนุ่มเอ็ดเบาๆก่อนที่เด็กคนนั้นจะหันมามองคุณหมอหนุ่มตัวเล็กผิวขาว กับผมบ็อบสีคาราเมล ดวงตาเรียวที่เด่นชัดด้วยอายไลเนอร์...

นี่พระเอกการ์ตูนนี่นา...

“หล่อ...”

“?”

“หมอที่นี่เหรอ...ทำไมหล่อจังเลย....ฮืออ ดโยจะไปฟ้องชิงชิง...ฮือออ!!”เด็กคนนั้นวิ่งพล่านออกไปปล่อยให้แบคฮยอนยกมือค้างก้อนจะวกมาเกาศีรษะแกรกๆแล้วเดินกลับเข้าคลินิกด้วยความงุนงง..

นับวันคนที่ใจมีปัญหายิ่งเยอะแฮะ...





วันเวลาผ่านไปจากเรื่องราวในวันนั้น แม้จะเพิ่งเจอกันไม่กี่วันแต่เซฮุนก็ได้รับความเข้าใจจากแม่ของลู่หานเป็นอย่างดี รวมทั้งข่าวที่ส่งมาจากพ่อของลู่หานที่ยินดีหากเซฮุนกล้าพอที่จะรักและดูแล แต่ยังไงก็อยากให้ดูใจกันไปเสียก่อน(ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ได้แต่บอกว่าคงไม่ทันแล้ว) และเพราะมีเซฮุนคอยดูแลลู่หาน มารดาของเขาเลยสามารถออกไปหางานทำเพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่ง ส่วนเรื่องพ่อแม่ของเซฮุน ลู่หานได้ข่าวว่าทั้งคู่อยู่ที่ต่างประเทศ และชาติกำเนิดของแฟนคนแรกก็ยังเป็นความลับที่ลู่หานเบื่อที่จะถาม

วันนี้ก็แค่วันหนึ่งไม่ต่างอะไรกับการไปโรงเรียนทุกวัน แต่เหมือนคุณอู๋บอกว่าจะเลี้ยงฉลองที่ลู่หานสอบ(เก็บคะแนนสามสิบนาที)เสร็จ จึงอาจจะได้ไปเที่ยวเล่นในเย็นวันนี้ โดยที่พ่อแม่ของลู่หานก็วางใจที่จะให้ลู่หานค้างบ้านของเซฮุน เด็กหนุ่มรูปร่างเล็กใบหน้าหวานหยดที่วันนี้ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตอีกสิ่งคือการใส่คอนแทคเลนส์มาโรงเรียน ทำให้ทุกคนแทบจ้องมองกันจวนเหลียวหลังอย่างหลงนึกว่าเป็นเด็กใหม่

“ลู่หาน ทางนี้ๆ”ซึลกิโบกมือเรียกลู่หานที่ส่งยิ้มหวานก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหา ตามด้วยร่างกลมๆของใครคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามากอดเอวเขาแน่น

“นี่นายแว่น เอ้ย ลู่หาน บอกดโยหน่อยสิว่าคุณหมอที่เขียนอายไลเนอร์อยู่คลินิกตรงนั้นชื่ออะไร...มีเบอร์รึเปล่า พระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นของดโยเลยนะ!!

“เอ๊ะ..ชื่อแบคฮยอนน่ะ...คุณหมอบยอนแบคฮยอน...”

“อ๊า! น่ารัก!! ชื่อน่ารักจัง แบคฮยอน...แบคฮยอน... ชิงชิง เราไปทำคุณไสย์กันเถอะ! ดโยเอาแป้งโดมาด้วย เรามาปั้นคุณหมอแบคฮยอนกัน”ร่างป้อมๆวิ่งไปอย่างมีความสุขปล่อยให้อี้ชิงเดินตามอย่างอ่อนใจ ตามด้วยลู่หานและซึลกิที่เดินขึ้นห้องเรียนไปในที่สุด

ชีวิตของลู่หานกับเซฮุนยังปกติแม้อายุจะห่างกันมากกว่าสิบปี ความเข้ากันได้อย่างน่าประหลาดคือบางเรื่องเซฮุนก็เป็นเด็กกว่า และลู่หานก็แก่กว่าในบางเรื่อง ซึ่งโรคที่ว่าก็ได้รับการแก้ไขว่าโอเซฮุนเป็นโรคกระเพาะ อยากจะหยุดลาพัก จึงไม่มีเด็กคนไหนสงสัยในโรคที่ทีชเชอร์เป็นอีก รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครที่คัดค้านอะไรกันมากมาย ด้วยความเข้าใจอย่างผิดๆว่าที่จริงทั้งคู่เกี่ยวดองกันอยู่แล้ว ซึ่งพวกเขาก็อาศัยจังหวะให้ทุกคนเข้าใจผิดไปแบบนั้น

“ขออนุญาตครับ”ลู่หานเคาะประตูก่อนจะเอาแบบฝึกมาวาง เขามองชายหนุ่มที่ยังดูดีอยู่เสมอกำลังตรวจงานพร้อมกับวางเรียงอย่างเรียบร้อย และลู่หานก็เริ่มกลับไปเรียกอีกฝ่ายด้วยสรรพนามเดิมเพราะรู้สึกเขินหากจะต้องเรียกแฟน พี่หรือเรียกชื่อเฉยๆ

“ซอนแซงนิม..อย่าลืมนัดของคุณอู๋นะครับ”

“ไม่ลืมหรอกครับ เดี๋ยวไว้เราไปกัน”

“เสาร์อาทิตย์เราไปหาคุณพ่อกันได้มั๊ยครับ”

“ได้สิครับ ไปเที่ยวพูซานก็ดีเหมือนกันนะ”ร่างเล็กลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามชายหนุ่มก่อนจะยกมือเท้าคางมองเซฮุนที่ตรวจการบ้านและแบบฝึกไปเรื่อยๆจนหมด ชายหนุ่มจัดวางเอกสารเรียงกันเรียบร้อยก่อนจะสังเกตใบหน้าของลู่หาน

“วันนี้...ทำไมไม่ใส่แว่นล่ะครับ”เอ่ยทักเพราะวันนี้ทั้งวันชายหนุ่มไม่ได้ไปสอนห้องของอีกฝ่ายเลย แถมไมได้นอนด้วยกัน ที่ติดต่อกันก็ทางมือถือที่เจ้าตัวเพิ่งได้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสไปเมื่อเดือนก่อนๆ

“คุณแม่บอกว่าถ้าไม่ใส่แว่นซอนแซงนิมจะชอบครับ แต่ผมเอาตลับกับน้ำยามาด้วยนะ แต่กว่าจะใส่ได้ กลัวตั้งนานแน่ะครับ”





แม่ยายรู้ใจมากครับ... *อิโมหมียกนิ้วโป้ง*




“พูดถึงตอนนั้นแล้วอดเฟลไม่ได้เลย...ขอโทษนะครับที่ตอนนี้พูดปกป้องเราไม่ได้เลย โดนพี่เขาดักหมดทุกทาง”เซฮุนถอนใจน้อยๆให้กับลู่หานที่อมยิ้มแล้วส่ายหน้า

“ถึงผมจะไม่เห็นความสำเร็จ..แต่ผมเห็นความพยายามของซอนแซงนิมนะ เก่งแล้วครับ”

“ขอถามบางอย่างได้มั๊ยครับ”

“?”

“ถ้าเกิดว่าครูไม่หาย...”

“ก็ไม่เป็นไรครับ...ผมจะให้ซอนแซงนิมกินอยู่ดีแหล่ะ แต่ซอนแซงนิมห้ามไปเป็นหมาป่าใส่คนอื่นนะ”

“ทำไมน่ารักแบบนี้กันน้า”เซฮุนเปรยเบาๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเท้าแขนลงกับโต๊ะ ชายหนุ่มโน้มหน้าลงจนใบหน้าชิดกับลู่หานซึ่งเลิกคิ้วนิดหน่อย “ครูว่าครูหายใจไม่ค่อยออกอีกแล้วครับ”

ลู่หานหัวเราะเบาๆก่อนจะวกหน้าไปกดริมฝีปากกับเรียวปากคุณครูเล็กน้อย รสจูบนุ่มนวลที่ทำให้หัวใจของพวกเขามีความสุขอยู่เสมอ เป็นรสจูบที่ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของพวกเขากำลังเต้นไปพร้อมกันๆ นั่นคือความสุข... เซฮุนยอมรับว่าเขาสุขมากเหลือเกิน กับคนที่เคยทำอะไรพลาดอย่างเขาได้นางฟ้าตัวน้อยมาเป็นรางวัล ได้พบคนที่เข้าใจปัญหาที่เป็นจนคลี่คลาย ได้จูบริมฝีปากนุ่มๆอยู่อย่างนี้...




เขาเชื่อว่าเขาคงเป็นหมีที่โชคดีที่สุดในฝูงหมีหลายล้านตัวบนโลกเลยล่ะ...

ขอบคุณนะครับ..ชอนซา





*******************************
ปิดคดีพี่หมีเพดแล้วครัช.__.
แง ขอบคุณที่ชอบนะขรั่บ สกรีมมากมายเลย
แต่มันแค่ห้าตอนแหล่ะ 5555
พลังหมีจงสถิตย์ในตัวท่าน..

#ฟิคพี่หมีฮุน จ้า

2 ความคิดเห็น:

  1. “...นายนี่มันตัวอันตรายชัดๆ”แบคฮยอนหันหน้าแดงๆออกไปพร้อมกับลู่หานที่เอียงคอมอง
    หลงเลยอะ กรี้ดลั่นห้อง มันหวานนมากกก

    ตอบลบ