วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

[SF] Baby and The Bear {SEHUN x LUHAN} 3/5






Title : Baby and The Bear 3/5
Author : RUNAWAY05
Couple : SEHUN x LUHAN
Note : เซฮุนหนึ่งคนจะทนไม่หมีได้นานแค่ไหน ....

*********************************************



“นักเรียนทุกคนกลับไปทบทวนหน้าที่หนึ่งร้อยสามสิบ ทำแบบฝึกที่ครูแจกให้แล้วรวบรวมมาส่งครูช่วงเย็นนะครับ และการบ้านวันนี้ก็ทำแบบฝึกท้ายบทมาส่งครูในชั่วโมงถัดไป วันนี้พอเท่านี้ก่อนครับ”

เสียงนุ่มนวลจากคุณครูหนุ่มดังขึ้นหลังจากการเรียนการสอนจบลงแทบจะเป็นไดอะล็อก เด็กน้อยทั้งหลายก็ขานรับหน้ามุ่ยเพราะวิชาเรียนที่ชอบหมดลงอีกครั้งเป็นไดอะล็อกเช่นกัน แต่ไม่นานเด็กๆในห้องก็แปลกใจเมื่อทีชเชอร์หน้าหล่อก็เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ

“ลู่หาน พักเที่ยงไปพบครูที่ห้องพักครูด้วยนะครับ”

“ค...ครับ”เจ้าตัวขยับแว่นหนาๆรับคำอย่างแปลกใจท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ ซึ่งแม้จะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่ท่าทีเรียบเฉยและน้ำเสียงดุดูทำให้เหล่าเด็กน้อยปักใจว่าเพื่อนร่วมห้องต้องทำอะไรผิดแน่นอน

“นายแว่นนั่นคะแนนตกมากละมั้ง ทีชเชอร์ถึงเรียกไปพบ”

“ชิงชิงว่าเรามาช่วยเขาติวดีมั๊ย?”

“อย่าเลยชิงชิง ติวไปเดี๋ยวได้คะแนนเยอะกว่าพวกเราก็แย่สิ ดโยว่าถ้านายแว่นมาถามชิงชิงก็บอกไม่รู้นะ”

“อะ..อื้อ”


ลู่หานยืนเกาแก้มอยู่พักใหญ่ ก่อนจะลุกเดินถือกล่องข้าวไปอย่างเงียบๆ โดยเพื่อนๆก็มองตามหลังทั้งสงสัยและให้กำลังใจจนลู่หานเดินมาถึงห้องพักครูที่อีกคนนัดเอาไว้ ลู่หานกลืนน้ำลายอยู่พักก่อนจะเคาะประตูแล้วส่งเสียงเบาๆ

“ขออนุญาตครับ”

“ครับ”เมื่ออีกฝ่ายตอบรับลู่หานก็เดินเข้าไปด้านใน แล้วพบว่าโอเซฮุนกำลังตรวจการบ้านนักเรียนอยู่ ใบหน้าคมคายกำลังจริงจังตั้งใจทำให้ลู่หานไม่รู้จะทำยังไงดี จึงได้แต่ขยับตัวเองไปวางกล่องข้าวกับโต๊ะเล็กแล้วนั่งตัวตรงรอซอนแซงนิมของตนอยู่แบบนั้น ไม่มีคำพูดระหว่างกันจนกระทั่งคิ้วเข้มที่ขมวดตรวจคำตอบเด็กๆจนเรียบร้อย จึงหยิบกล่องข้าวที่แวะซื้อมาจากร้านข้างล่างคอนโดขึ้นก่อนจะกล่าวยิ้มๆ

“เรียบร้อยครับ ไปกันเถอะ”

“ครับ”แม้จะมีแว่นกั้นแต่เซฮุนก็มองเห็นว่าเด็กน้อยกำลังยิ้มจนตาหยี เขาไม่คิดเลยว่าชีวิตหมีๆของเขาจะมามีโมเมนท์เหมือนพลอตการ์ตูนตาหวานแบบนี้ ชายวัยยี่สิบหกเลี้ยงต้อยเด็กอายุสิบสี่สนองอารมณ์หื่นของตัวเองนี่มันผิดศีลธรรมสิ้นดี แถมยังเป็นลูกศิษย์ของตัวเองอีก...

เห็นซี่กรงมาแต่ไกล...


“ดาดฟ้าตึกนี้ไม่เคยมาเลยครับ สวยจัง”

“ก็เขาไม่ให้นักเรียนขึ้นมานี่ครับ”

“แล้วเราขึ้นมาได้เหรอครับ?”

“ก็ครูไม่ใช่นักเรียนนี่นา”

ทั้งคู่นั่งอยู่กับกล่องข้าวและน้ำผลไม้กระป๋องกับเวลาพักเก้าสิบนาที จริงๆแล้วไม่ใช่ครั้งแรกที่นั่งทานข้าวกลางวันด้วยกัน และความสัมพันธ์(แบบแอบจิต)นี้ก็ดำเนินมาได้สักพักหลังจากคืนนั้น เมื่อลูกแกะน้อยทำการอุทิศเนื้อให้หมา(หมี)ป่าไป เซฮุนกับลู่หานก็อยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น ลู่หานไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงชอบที่จะอยู่กับซอนแซงนิมบ่อยๆ ชอบที่จะได้คุยกัน พอไม่ได้คุยกันก็รู้สึกแปลกไป ในขณะที่เซฮุนฟันธงตัวเองแล้วว่ากำลังหลงรักเด็กและไม่ยอมให้ใครมาแย่งจีบแน่นอน ชอนซาหายากมากนะสำหรับเขาน่ะ...

“ซอนแซงนิม ตรงนี้ผมไม่เข้าใจครับ”เด็กน้อยกางสมุดให้ดูโดยชายหนุ่มก็รับไปดู มันไม่ใช่สมุดเรียนแต่กลับไปสมุดโน้ตที่จดคำศัพท์แปลกๆเอาไว้มากมายเต็มไปหมด “ผมดูหนังฉากนึงเมื่อวานนี้ ผู้ชายบอกกับเพื่อนว่า Break a leg ทำไมเขาต้องแช่งให้เพื่อนขาหักด้วยล่ะครับ”

Break a leg เป็นสำนวนอเมริกันครับ มันมีความหมายเหมือน Good luck แต่เหมือนเป็นการพูดแก้เคล็ดน่ะ ถ้าพูดร้ายจะกลายเป็นดี”

“ผมก็ว่าทำไมแช่งกัน... ซอนแซงนิมเก่งจังเลย”

“ตอนเด็กๆครูเรียนที่โรงเรียนคริสเตียนครับ เป็นโรงเรียนกินนอนที่นั่น เรียนตั้งแต่ประถมจนจบมัธยมปลายเลย มีแต่ครูฝรั่งเต็มไปหมด”เซฮุนหัวเราะเบาๆ “แต่ครูก็เคยโดดหออยู่ครั้งสองครั้งนะ กลับมาโดนฟาดขาลายเลย...”

ชายหนุ่มก้มหน้าลงเมื่อรู้สึกว่าอีกคนเงียบไป และก็พบว่าลู่หานกำลังเอาคางเกยต้นแขนของเขาพร้อมกับทำตาปรือสีหน้าใกล้หลับเต็มที ...แล้วจำเป็นมั๊ยที่จะต้องง่วงได้น่ารักน่าชังแบบนี้นี่ห๋า?

“ชอนซา...”

“...”

“หลับแล้วเหรอครับ?”เอานิ้วจิ้มแก้มนุ่มๆจนโย้ไปข้างหนึ่งแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจากเด็กน้อย กลิ่นหอมๆและใบหน้าหวานๆที่หลับพริ้มไปแล้วนั้นทำให้เซฮุนยื่นนิ้วขึ้นมาเกี่ยวเอากับคานแว่นเพื่อมองใบหน้าของอีกฝ่ายให้ชัด พลังโลลิตอนนี้ช่างคุกรุ่นกระจายเกลื่อนจนหมีตัวหนึ่งเริ่มจะอดรนทนไม่ไหว

“ไม่ได้นะครับ”ลู่หานปรือตาขึ้นพร้อมกับใช้สองมือจับขาแว่นของตนไว้เพื่อไม่ให้เซฮุนดึงแว่นออกไปได้ “ซอนแซงนิมกินนาน เดี๋ยวผมจะไปเรียนไม่ทันนะ”

“ชิมก็ได้ครับ”เอ่ยอ่อยพลางทำท่าจะถอดแว่นออกอีกครั้งโดยเด็กชายก็หนีบขาแว่นไว้พร้อมกับขมวดคิ้ว

“ไม่ได้ครับ”

“ทำไมล่ะ?”

“ถ้าถอดแว่นออก..เดี๋ยวผมมองหน้าซอนแซงนิมไม่ชัด”เอ่ยเบาๆโดยที่เซฮุนหัวเราะหึเบาๆพร้อมกับจิ้มหน้าผากเด็กน้อยอย่างนุ่มนวล

“สายตาสั้นถ้าอยู่ใกล้ๆก็มองเห็นครับ”

“...”

“สายตาสั้นทำให้เราเห็นอะไรใกล้ตัวมากขึ้นนะ”กล่าวเท่านั้นพร้อมกับกดจูบริมฝีปากนุ่มนิ่มอย่างไม่ทันให้อีกคนได้ตั้งตัว ตอนนี้เซฮุนไม่ได้รู้สึกถึงโรคที่กำเริบ แต่เป็นความเอ็นดูที่อยากจะเล่นจะหยอกกับเด็กคนหนึ่งเท่านั้น


และเขารู้ดีว่ามันเป็นการกระทำของคนรัก...




“ครับโอเค รีบมาด่วนเลยครับ”

แบคฮยอนกำชับก่อนจะวางสายพร้อมกับร้องเรียกพยาบาลสาวๆในคลินิกด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นักกับเคสที่ได้รับในวันนี้เพราะมันช่างเสียเวลาเล่นคุ๊กกี้รันของเขาเหลือเกิน ชายร่างเล็กหันหลังขวับพลันตะโกนสั่งงานลั่น “เตรียมเตียงพยาบาลกับแอลกอฮอล์ด่วนเลยนะ เอาอะซิโตนออกมาด้วย...ไอ้คุณอู๋นี่มันจะมากไปละ”

“เกิดอะไรขึ้นคะหมอ?”

“ไอ้คนไข้แขนเขียวเมื่อวานนี้หยิบผิดงาน เอากาวทาตูดเมียแทนเจลหล่อลื่นนี่สิ ลำบากฉันมั๊ยวะ”แบคฮยอนที่เป็นทั้งเภสัชกรและหมอฉุกเฉินในบางกรณีรีบสวมถุงมือยางเตรียมพร้อมทันทีที่เฟอรารี่คันหรูจอดหน้าคลินิกโดยที่ชายหนุ่มตัวสูงก็เร่งแบกเด็กหนุ่มที่เพิ่งมาเมื่อวานนี้ โดยคนตัวโตก็ร้องไห้ร้องห่มส่วนอีกคนสีหน้าเหมือนอยากตายอยู่ในชุดนอนหมีน้ำตาลพาดตัวไปกับไหล่กว้างๆนั่น

“ตัวเอง...ตัวเองต้องไม่เป็นไรนะ..ตัวเองตูดตันเค้าจะอยู่ยังไง..”

“คนอย่างมึงชักว่าวไปจนตายเหอะไอ้สัส!! กูต่อโมเดลงานดีๆมาจับกูตุ๋ยซะงั้นไม่รู้เวล่ำเวลาไอ้เชี่ย!!

“ใจเย็นๆนะครับ วางเมียลงแล้วตั้งสติ ผมจะได้รักษาได้”คุณหมอตัวเล็กรีบห้ามการทะเลาะก่อนที่อีกฝ่ายจะยอมวางร่างสูงโปร่งลงกับเตียงฉุกเฉินและอีกคนก็บ่นอีกครั้ง

“แม่ง คนเห็นกูใส่ชุดนอนแต๋วแตกแบบนี้เพราะมึงเลย กูทำตูดเสร็จก่อนนะมึงกูกลับไปฟาดดากแตก”

“ฮือ..เค้าหน้ามืด...เค้าขอโทษ”

“ใจเย็นๆนะครับ เดี๋ยวพาคนไข้ไปล้างกาวก่อนนะ”บยอนแบคฮยอนที่ชักจะหมั่นไส้บทโศกก็เข็นชานยอลเข้าไปโดยที่อี้ฟานก็ส่งเสียงโหยหวน

“ห้ามถ่ายคลิปเมียผมนะหมอ!!




เสียงโวยวายนั้นทำให้จงแดหันไปมองทางประตูห้องก่อนจะหันกลับมายังคนไข้ทั้งสองคนที่มาขอคำปรึกษาในวันนี้ต่อ ซึ่งคนทั้งคู่ก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าเหลียวมองต้นเสียงแล้วหันกลับมาที่เดิมเช่นกัน

“อันดับแรก...ผมไม่นึกเลยนะครับว่าพวกคุณจะมาพบรักกันที่คลินิกของผม ยินดีด้วย”จงแดยิ้มเผื่อนๆไปให้คนทั้งสอง “ว่าแต่ที่มานี่เพราะมีปัญหาจากรสนิยมของแต่ละคนเหรอครับ?”

“มันก็นิดหน่อยครับ เขาบอกให้ผมใส่ชุดนางพยาบาลบ่อยๆกับถุงน่องตาข่าย แล้วคือผมไม่ชอบ”

“แล้ววันนี้คุณแต่งชุดอะไรครับ”

“เซเลอร์มูนครับ”

“ผมว่าเซเลอร์มูนมันบ่อยไปครับ แล้วผมขี้เกียจแต่งเป็นหน้ากากทักซิโด้ด้วย”ชายอีกคนพูดขึ้นโดยที่จงแดก็จดบันทึกคนไข้ของตนเองต่อ

“คุณคิมจงอินอายุยี่สิบสอง มีอาการทรานเวสทิซึม(ชอบแต่งตัวเป็นเพศตรงข้าม มีความสุขกับการลักเพศ) ตอนนี้มีปัญหาไม่อยากใส่ชุดนางพยาบาล แต่อยากใส่ชุดเซเลอร์มูนใช่มั๊ยครับ?”

“ใช่ครับ”เจ้าของร่างสีแทนในวิกสีเหลืองอ๋อยและชุดแปลงร่างเต็มยศกำลังนั่งฟังคุณหมออย่างตั้งใจ โดยที่ชายอีกคนก็ทำหน้าระอานิดๆ

“เอาอย่างนี้มั๊ยครับ เจอกันคนละครึ่งทาง เป็นเซเลอร์มูนในชุดนางพยาบาล หรือจะเปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนญี่ปุ่นดี คุณก็เหมาะกับชุดนักเรียนญี่ปุ่นนะ”จงแดแนะนำและสร้างกำลังใจเพิ่มลงไปทำให้คนทั้งคู่นั่งครุ่นคิดอย่างคล้อยตาม “แต่ยังไงผมว่าคุณลองแต่งชุดแนวนี้แค่ตอนอยู่กันสองคนมันจะตื่นเต้นกว่านะครับ เพราะคุณแต่งตลอดเวลาแฟนของคุณก็คงจะเบื่อ”

“แต่ผมชอบแต่งแบบนี้นี่นา.__.

“แต่คุณเป็นถึงวิศวกรนะครับ แบกคอสตูมไปไม่ไหวหรอก ใส่ตอนอยู่ด้วยกันแฟนคุณก็จะรู้สึกพิเศษ ใช่มั๊ยครับ?”จงแดหันไปหาชายหนุ่มอีกคนที่รีบพยักหน้าสนับสนุนสุดตัว

“ใช่ครับ แบบผมเห็นคนเดียวแล้วมันสุดยอดดด”

“โอเคๆ...ผมแต่งตอนอยู่บ้านก็ได้”

“แต่พวกเทศกาลคอสเพลย์คุณก็ได้เป็นตัวเองนะ จะได้ไม่กดดันเกินไปครับ”จิตแพทย์หนุ่มแนะนำอีกครั้งส่งผลให้อีกคนยิ้มหวาน

“ใช่เลยครับหมอ ขอบคุณนะครับ”

“แล้วคุณหวงจื่อเทาที่มีอาการสคอปท็อปลิเลีย(ชอบถ้ำมอง)มีปัญหาจุดไหนเพิ่มเติมเหรอครับ?”ชายหนุ่มใบหน้าหล่อคม ดวงตาเฉี่ยวรูปร่างดูดีที่นั่งข้างถอนใจพรืดก่อนจะเอ่ยตอบอ่อยๆ

“เพราะแฟนผมไม่ยอมใส่ชุดนางพยาบาลผมเลยเก็บกดครับ กลับไปถ้ำมองลูกค้าในฟิตเนสอีกแล้ว ผมรู้สึกผิดมากเลยครับเนี่ย..”

“เท่านั้นไม่พอนะหมอ เขาเปิดหนังโป๊เอาไว้แล้วเข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า แอบดูหนังโป๊อยู่ในตู้อะ”ชายหนุ่มในชุดเซเลอร์มูนฟ้องเล่นเอาอีกคนรีบยิงฟัน

“ก็เพราะตัวใส่แต่ชุดเซเลอร์มูนนี่ครับ เค้าก็ไม่พีคอะ”

“สรุปอาการพวกคุณเกี่ยวโยงกันนะครับ แก้ที่คุณจงอินรบกวนเปลี่ยนไปใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นอยู่บ้าน ลองเปลี่ยนถุงน่องเป็นลูกไม้แทนมั๊ยครับ เพราะประวัติเมื่อปีก่อนเห็นคุณชอบใส่อยู่ช่วง ถ้าสร้างความตื่นเต้นให้กับคุณจื่อเทาได้ ก็จะได้ไม่กลับไปถ้ำมองลูกค้าที่ฟิตเนสอีก”

“เออ ลูกไม้ เข้าท่า”

“จริงด้วย ไม่ได้ใส่มาเกือบครึ่งปีแล้ว... ขอบคุณนะครับคุณหมอ สบายใจขึ้นมากเลย”

“ขอบคุณนะหมอ”

“ไม่เป็นไรครับ ยังไงก็ไปรับวิตามินซีที่เคาน์เตอร์และรับใบเสร็จไว้ด้วยนะครับ”จงแดกล่าวพร้อมกับเสียงครางที่แว่วออกมาทางส่วนฉุกเฉินพร้อมกับเสียงใหญ่ๆที่ร้องไห้ใจจะขาด เวลาลูกค้าพิเศษของเขามารวมตัวกันทีไรจงแดก็ยิ่งรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชที่เคยทำ ถ้าเจ้าหมีเพดโด้นั่นมาอีกคนมีหวังแบคฮยอนต้องโกรธทะลุจุดเดือดจนคลินิกระเบิดแน่นอน





“อ่า...ซอนแซงนิม..”

ในช่วงห้าโมงเย็นที่ไม่มีใครอยู่ในโรงเรียนแล้ว ทีห้องพักครูห้องหนึ่งของฝ่ายภาษาอังกฤษ ลู่หานกำลังนั่งอยู่บนตู้เอกสารแบบบานเลื่อนขนาดกลาง สองมือขยุ้มไหล่กว้างที่กำลังซุกไซ้สูดกลิ่นกับระหว่างขาของตนแม้ว่าจะไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออกสักชิ้น เซฮุนตะปบต้นขาเล็กๆนั่นไว้แล้วกับลากลิ้นเลียไปตามเนื้อผ้าช่วงโคนขาเหมือนสัตว์ป่า โดยเด็กน้อยก็เชิดหน้าแดงก่ำขึ้นเพราะอารมณ์ตื่นตัว หลังจากเคยถูกกินไปครั้งและพบว่าตัวเองไม่ตายแต่ดันรู้สึกแปลกๆแถมความแปลกนั้นมันเป็นไปในทางที่ดี ลู่หานผ่อนลมหายใจช้าๆพลางห่อไหล่สั่นเมื่อถูกงับเบาๆกับเนื้อผ้าส่วนกลางลำตัว เซฮุนมุดหน้าตัวเองอยู่อย่างนั้นสักพักจนกระทั่งรู้สึกดีขึ้น จึงลุกขึ้นพาลู่หานลงมายืนกับพื้นแล้วเอ่ยเบา

“ขอบคุณครับ เดี๋ยวครูพาไปส่งที่บ้านนะ”

ลู่หานพยักหน้า หลังจากเอางานมาส่งซึ่งหน้าที่นี้ซึลกิยกให้เขาทำไปแล้วนั้น ซอนแซงนิมก็บอกว่าหายใจไม่ออก แล้วก็มาหาอากาศกับเขาเกือบๆครึ่งชั่วโมง ลู่หานไม่ได้คัดค้านอะไร มิหนำซ้ำยังรู้สึกแปลกๆเหมือนมีอะไรค้างๆคาๆ มันเป็นอารมณ์อาการที่ค่อนข้างจัดการได้ยากกับลู่หานที่ใช้ชีวิตกับไซไฟแฟนตาซีมาสิบสี่ปีจนไม่ได้นึกถึงเรื่องอิโรติก หรือเรื่องรักใคร่เหมือนคนรุ่นเดียวกัน

“คุณแม่จะไปไหนเหรอครับ?”เมื่อคุณครูหนุ่มมาส่งที่หน้าบ้านเด็กชายก็เอ่ยทักเมื่อเข้ามาในบ้านแล้วพบว่าแม่ตนกำลังเก็บกระเป๋าอย่างเร่งรีบ โดยที่เธอก็บอกกับลูกชายด้วยสีหน้าไม่ดีนัก

“พ่อไม่สบายจ้ะ แม่คงต้องไปดูแล”

“แล้วผมล่ะ?”

“แม่กำลังคิดว่าจะไปฝากป้าข้างบ้านไว้ดีมั๊ย?”เธอว่าโดยที่ลู่หานก็ส่ายหน้าดิก

“ผมอยู่บ้านคนเดียวได้ครับ แม่ก็รู้ว่าลูกสาวบ้านเขาไม่ชอบเรา”

“อา..แม่ไม่อยากให้อยู่คนเดียวนี่สิ..หนูไปด้วยกันมั๊ยล่ะ?”

“ผมมีเก็บคะแนนวันพรุ่งนี้ฮะ”

“อ่า...เอายังไงดีนะ”เธอรำพึงพร้อมกับเซฮุนที่ส่งเสียงอยู่นอกรั้วเมื่อเก็บของๆเด็กชายไว้ได้ก่อนจะออกรถ

“ขอโทษครับ ลู่หานทำกุญแจตกไว้ในรถน่ะครับ”

“นึกออกแล้วล่ะ หนูเก็บของก่อนนะเดี๋ยวแม่ไปหาคุณครูก่อน”

“เอ๋?”

“น่า”ผู้เป็นแม่ว่า ก่อนจะเดินไปหาเซฮุนที่ยังยืนอยู่หน้ารั้ว ชายหนุ่มใบหน้าหล่อจัดท่าทางผู้ดีที่ในมือมีพวงกุญแจตุ๊กตากวางกำลังเกาะรั้วรอเหมือนเด็ก เธออมยิ้มเอ็นดูก่อนจะเข้าไปทัก “ค่ะคุณครู”

“ลู่หานทำกุญแจตกในรถน่ะครับ ผมเลยวกมาคืนให้”

“ครูคะ”

“ครับ?”

“ยังไงฉันขอฝากครูดูแลลู่หานสักสองสามวันได้มั๊ยคะ? ฉันต้องไปดูแลสามีที่ต่างจังหวัดน่ะค่ะ ฉันเองก็ไม่มีญาติแถวนี้ ยังไงขอรบกวนคุณครูได้รึเปล่าคะ?”

“ครับ เอ่อ..ได้สิครับ ไม่เป็นไรครับ”เซฮุนตอบรับ “ผมจะแวะมาดูแลให้ครับ”

“ไม่ใช่ค่ะ หมายถึงขอฝากลู่หานไว้กับครูน่ะค่ะ แฟนครูจะว่าอะไรมั๊ยคะ? ดิฉันจำเป็นจริงๆค่ะ”

“เอ๋?... ผมไม่มีแฟนครับ...”ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่ นั่นหมายความว่าคุณแม่ของลู่หานจะฝากเด็กน้อยไว้กับเขาสองสามวันอย่างนั้นหรือ? ดวงตาคมกะพริบปริบๆและสุดท้ายก็ตอบรับความช่วยเหลือของแม่เด็กไปอย่างที่ใจไม่ได้คิดปฏิเสธอยู่แล้วตั้งแต่ต้น..


ส่งนางฟ้ามาให้หมีชัดๆ...ให้ตายเถอะ...





“อย่างนี้ผมก็ได้ไปนอนบ้านซอนแซงนิมสิครับ”

ลู่หานว่าขึ้นพร้อมกับหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กที่บรรจุเสื้อกับชุดนักเรียนอีกชุดตามคนตัวสูงต้อยๆขึ้นไปยังคอนโดหลังจากที่เซฮุนอาสาไปส่งแม่ของลู่หานที่สถานีรถ ชายหนุ่มเม้มปาก..ชีวิตพลุ่งพล่านเหลือเกิน เขาจะทำยังไงดีเนี่ย...

“ก็...เดี๋ยวครูไปนอนโซฟาก็ได้ครับ เรานอนบนเตียงครูแล้วกัน”เซฮุนสรุปให้เด็กชายพร้อมกับรูดคีย์การ์ดเปิดประตูห้อง ลู่หานหันมองห้องที่แสนสะอาดและเป็นระเบียบเหลือเกินนั้นอย่างพอใจ เพราะยังไงคนตัวเล็กก็รู้ดีว่าซอนแซงนิมของตัวเองเป็นคนเจ้าระเบียบพอตัว เซฮุนรับกระเป๋าเสื้อผ้าของลู่หานไปจัดให้พร้อมกับบอกให้นักเรียนของตนอาบน้ำเสีย เขาจะได้เอาชุดนักเรียนของลู่หานมาซักตาก และเด็กชายก็ทำตามอย่างว่าง่าย ลู่หานเดินถือชุดกับผ้าขนหนูที่อีกคนส่งให้เข้าห้องน้ำไป ทันทีที่เสียงบานห้องน้ำปิดตัวลง เซฮุนก็หยิบชุดที่ลู่หานใส่แล้วมาดมทันที


หอมจัง.... *อิโมหมีเบิกบาน*


“ซอนแซงนิมครับ”

เฮือก...

เซฮุนยัดผ้าลงถังพร้อมกับหันไปหาลู่หานที่โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ “ยาสีฟันจะหมดแล้วนะครับ ซอนแซงนิมซื้อสำรองไว้รึเปล่า?”

“ครู..ไม่ได้ซื้อไว้ครับ”

“ซูเปอร์ลดราคาอยู่นะครับ ซอนแซงนิมน่าจะซื้อมาตุนไว้”ว่าเท่านั้นแล้วเลื่อนบานปิดพร้อมกับเสียงน้ำฝักบัวที่ดังขึ้น ปล่อยให้เซฮุนยืนดราม่ากับผ้าเปียกในถัง.. เปียกไปแล้วแบบนี้เขาก็เอามาดมไม่ได้แล้วน่ะสิ

หลังจากซักผ้าให้เด็กพร้อมกับทำกับข้าวซึ่งก็แค่รามยอนแห้งแบบถูกๆประสาข้าราชการเงินเดือนพลางเปิดดูหนังแอคชั่นเรื่องโปรดของคนตัวน้อย เซฮุนที่แม้จะรู้สึกนิดหน่อยว่ากำลังเลี้ยงลูกชายก็นั่งมองลู่หานซึ่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากไปกับฉากตลกของหนัง

มันนานเหลือเกินที่ไม่ได้รู้สึกมีความสุขกับการตกหลุมรักใครแบบนี้...

“ครูไปอาบน้ำก่อนนะ”ว่าแล้วก็ผุดลุกขึ้นโดยที่ลู่หานก็มองตามพลันพยักหน้ารับ ลู่หานยังนั่งดูทีวีต่อไปจนเริ่มรู้สึกหิวน้ำ และเมื่อยังเห็นว่าซอนแซงนิมยังไม่ออกมาก็เลยถือวิสาสะไปที่ครัวเพื่อหาน้ำดื่ม ลู่หานเดินผ่านถังขยะก่อนจะสะดุดใจกับอะไรบางอย่าง

นี่มันหมอนอิงที่เขาเคยกอดไว้ในรถนี่นา... ทำไมมาอยู่ในถังขยะ...

ร่างเล็กย่อตัวลงนั่งพลันดึงหมอนใบน้อยออกจากถังขยะมาดู ก่อนจะขมวดคิ้วหนักเมื่อเห็นคราบสีขาวเลอะหมอนใบนั้น..

“มันซักไม่ออกเหรอไงนะ...สงสัยจะเป็นกาวละมั้ง” ลู่หานคิดก่อนจะทิ้งมันลงในถังเหมือนเดิม เขาเดินไปล้างมือแล้วกดน้ำกับตู้เย็นด้านนอก กลับไปนั่งที่เดิมเพื่อดูหนังต่อจนกระทั่งเซฮุนออกมา ชายหนุ่มเช็ดหยาดน้ำบนศีรษะก่อนจะเตรียมที่นอนให้กับลู่หานและตัวเอง เซฮุนไม่กล้าพอที่จะทำอะไรสุ่มเสี่ยงอีก เขากลัวว่าตัวเองยั้งไม่ได้แล้วมันจะไปกันใหญ่

“ง่วงนอนรึยังครับ?”หันมาถามเด็กชายที่เพิ่งแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยพลันจ้องคุณครูหนุ่มที่เดินอุ้มหมอนและผ้าห่ม

“ซอนแซงนิมไปไหนเหรอครับ?”

“ครูจะไปนอนโซฟาน่ะครับ”

“โซฟานอนสบายมั๊ยครับ”

“สบายสิ..ไม่มีปัญหาหรอก”เซฮุนส่งยิ้มเป็นสัญญาณให้ลู่หานไปนอนที่เตียงเสีย แต่ว่าอีกคนกลับเดินไปหยิบหมอนแล้วเดินมาหาชายหนุ่มที่ยืนขมวดคิ้ว

“งั้นผมนอนโซฟาด้วยนะครับ ซอนแซงนิมบอกว่าสบาย”

“...”

“ปกติซอนแซงนิมไม่นอนเตียงเหรอครับ แปลกจัง”


เอาเข้าไป....


ไม่ไหวแล้วนะ!!

เซฮุนที่สุดทนก็โยนหมอนลงเตียงพร้อมกับเทคเด็กลงไปฟัดกับเตียงให้หายหมันเขี้ยวโดยที่ลู่หานหัวเราะออกมาอย่างจั๊กจี้ จนกระทั่งลมหายใจสม่ำเสมอนั้นดังขึ้นทีละหน่อยพร้อมกับจูบที่กดย้ำลงกับเนินไหปลาร้า ลู่หานหรี่ตาเล็กน้อยพร้อมกับเซฮุนที่มีอาการอีกครั้ง แต่เด็กชายก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรที่อีกคนจะเริ่มกินเขาอีกครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มแทรกตัวเข้าไปกลางหว่างขาของลู่หานพร้อมกับกดจูบตามผิวเนื้อ แม้กลิ่นครีมอาบน้ำจะเปลี่ยนเป็นกลิ่นแบบผู้ชายที่เขาใช้ แต่ความรู้สึกกลับเปลี่ยนไปราวกับไม่ใช่ของชิ้นเดียวกัน ปากเล็กอ้าครางเบาๆเมื่อถูกเซฮุนรวบมือทั้งสองข้างมาพรมจูบพร้อมกับดูดปลายนิ้วผะแผ่ว อกบางขยับไหว ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดขึ้นเบาๆ

“ซอนแซงนิม...”

“...”

“ทำ...เหมือนพ่อกับทำแม่เลย”ลู่หานว่าเบาๆให้กับเซฮุนที่ผ่อนลมหายใจช้าลง แม้ชอนซาจะทำให้เขามีอาการได้ตลอดแต่ก็สามารถทำให้มันหายไปตลอดได้เหมือนกัน ดวงตาคมมองใบหน้าแดงก่ำของลู่หาน ก่อนจะกดจูบพวงแก้มนุ่มนิ่มอย่างอดไม่ได้

“ทำแบบไหนครับ?”

“จูบมือน่ะครับ..ในนิยายบางเรื่องตอนจบพระเอกก็จูบหลังมือนางเอกด้วย”

“แบบนี้เหรอ?”ถามพลางดึงฝ่ามือเรียวมากดจูบพร้อมสบดวงตากลมโตที่จ้องมองก่อนจะเบี่ยงไปข้างๆ “แต่มันไม่จบนะ”

“ผม..ไม่รู้”

“นิยายมันไม่มีเรื่องที่จบจริงหรอกครับ นอกจากเราจะตาย”เซฮุนส่งยิ้มให้เด็กน้อยที่ทำตาปริบๆ “มันต้องมีอะไรดำเนินไปเรื่อยๆ ตอนจบของเรื่องเท่านั้นแหล่ะที่เรารู้”

“ผมไม่เข้าใจ...”

“นิยายจะจบ ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปไงล่ะครับ”เซฮุนลูบริมฝีปากกับข้างแก้มของลู่หานพลางกระชับกอด จนเป็นลู่หานเองที่ถอดแว่นออกวางกับโต๊ะหัวเตียง

“นิยายจบมันเกี่ยวกับที่ซอนแซงนิมนอนที่โซฟารึเปล่าครับ?”

“ก็..ไม่เกี่ยวหรอกครับ”

“แล้วทำไมถึงไม่นอนด้วยกันล่ะครับ”

“อ่า..”เซฮุนครางให้กับคำถามที่คนตัวเล็กยิงเป็นชุด ก่อนจะพูดขึ้นในที่สุด “ถ้านอนด้วยกันบ่อยๆ มันคือแฟนกันแล้วนะ”

“...”

“ถ้าเป็นแฟนกัน ก็จะให้คนอื่นกินไม่ได้”

“แต่ซอนแซงนิมกินผมไปแล้วนี่”

“งั้นเราก็เป็นแฟนกัน”เซฮุนสรุปรวบรัดเอาดื้อๆทำเอาลู่หานขมวดคิ้วมุ่นอยู่พักพลางเอียงคอว่าตัวเองฟังอะไรผิดไปหรือไม่

“เอ๋?”

“ก็กินไปแล้ว..ก็ต้องเป็นแฟนกันน่ะสิ”

“อือ...”ลู่หานย่นคิ้ว “ถ้าไม่ชอบกันจะเป็นแฟนกันได้ยังไงล่ะครับ”

“แล้วทำไมถึงให้ครูกินได้ล่ะครับ?”

ดวงตากลมโตกลอกไปข้างๆพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ก็ซอนแซงนิมเป็นหมาป่า... พอผมรู้ว่าซอนแซงนิมเป็นหมาป่า ผมก็กลัวคนอื่นจะรู้ พอเราสนิทกันมากขึ้นผมก็อยากคุยกับซอนแซงนิมทุกวัน”

“...”

“ผมอยากเจอซอนแซงนิมทุกวัน...เวลาไม่เจอผมก็รู้สึกเหมือนคิดถึงเลย...ผมเลยให้ซอนแซงนิมกิน เราจะได้อยู่ด้วยกันทุกวัน...ขนาดตอนผมพูดอยู่นี้ผมยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่เลยครับ ท้องผมปั่นป่วนไปหมดเลย ผมเลยคิดว่าผมเป็นเหมือนตัวละครในนิยายที่ชอบเป็นกัน”

“...”

“เหมือน...จะชอบเลย”

โอเซฮุนมองใบหน้าหวานระยะประชิดที่สองแก้มขึ้นสีระเรื่อ ก่อนจะแนบจูบลงมาอย่างนิ่มนวล เขากอดร่างเล็กๆเอาไว้โดยลู่หานก็กอดตอบอย่างเงอะงะ จมูกโด่งกดไล่ไปกับขมับของเด็กน้อยพร้อมกับพูดเบาๆ “ถ้าอย่างนั้น...เราก็ควรเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอครับ?”

“...”

“เพราะครูก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”เขาจ้องลงไปในแก้วตาหวานที่ก้มเบี่ยงหลบก่อนจะคลี่ยิ้มน้อยๆเมื่อลู่หานเม้มปากพลันมองชายหนุ่มตอบ

“งั้นผมก็เป็นแฟนซอนแซงนิมแล้วใช่มั๊ยครับ”

ใบหน้าคมพยักรับก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงพร้อมกับรับร่างของลู่หานมาไว้ในอ้อมกอด ร่างขาวนุ่มนิ่มราวกับขนมโมจิซุกกับตัวของชายหนุ่มเหมือนเด็กขี้อ้อน ให้ตาย เงาตะรางมาแต่ไกลแต่เหมือนเขาจะห้ามความรู้สึกไม่ได้เอาเสียเลย


ไม่ว่าจะคนรสนิยมไหน...เวลามีความรักก็ช่างสุขจนน่ากลัว...





แม้ทุกคนจะแปลกใจที่วันนี้ทีชเชอร์สุดหล่อเป็นคนพาเด็กแว่นมาส่งที่โรงเรียน แต่พอได้คำตอบจากชายหนุ่มว่ามารดาของนักเรียนสนิทกับเขาและเอาลูกชายมาฝากไว้ ลู่หานก็ดูเหมือนจะเป็นที่อิจฉาของเหล่าเพื่อนไปโดยปริยาย ลู่หานรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถพูดได้แน่นอนว่าแท้แล้วเขาเป็นอะไรกับซอนแซงนิม ไม่อย่างนั้นผอ.จะโกรธ และซอนแซงนิมจะถูกไล่ออกไปเป็นหมาป่าที่อื่น

จนในช่วงเย็นที่ลู่หานเข้าไปซูเปอร์กับคุณครูหนุ่ม ซึ่งของกำลังลดราคาและเหล่าแม่บ้านก็ฟาดฟันกันจนน่ากลัว ลู่หานที่ตัวเล็กกว่าก็อาสาจะเข้าไปซื้อของด้านในและให้ชายหนุ่มรอด้านนอก ซึ่งเซฮุนก็ย้ำนักย้ำหนาว่าเกิดอะไรขึ้นให้รีบออกมาทันที เพราะเขาจะรออยู่หน้าร้าน เซฮุนยืนเช็คมือถือก่อนจะรู้สึกแปลกเหมือนถูกจ้องมอง เขาเงยหน้าขึ้นก่อนจะรู้สึกตกใจเพราะไม่นึกว่าจะเจอคนๆนี้ในเวลาแบบนี้

“พี่จุนมยอน..”

“นายจริงๆด้วยสินะไอ้เด็กโรคจิต”ชายหนุ่มร่างเล็กดวงตาดำขลับสีหน้าไม่สบอารมณ์จ้องมองเซฮุนอย่างไม่ชอบใจนัก โดยที่ชายหนุ่มก็กลืนน้ำลายเล็กน้อย ฝ่ามือเริ่มสั่นเมื่อสายตาของจุนมยอนกวาดมองหัวจรดเท้า “ทำงานอะไรอยู่ล่ะ? หรือตกงาน?”

“เป็นครูครับ”

“โฮ่...โรคจิตอย่างนายเป็นครูได้ด้วยเหรอ ข่มขืนเด็กไปกี่คนแล้วล่ะ”อีกฝ่ายยังใช้วาจาเชือดเฉือนร่างสูงที่ยืนฟังอย่างอดทน ดวงตาของคิมจุนมยอนหรี่ลงพร้อมกับคำพูดที่ค่อนแคะความรู้สึกของเซฮุนทุกถ้อยคำ “นิสัยอย่างนายมันไม่มีทางแก้ได้หรอก หรือนายจะลืมไปแล้วกันนะว่าเคยปล้ำหลานฉัน? มินซอกมีอนาคตที่ดีแล้ว ไม่ตกเป็นของโรคจิตอย่างนายแน่นอน”

“...”

“แล้วเรียนอยู่ไหนล่ะ? ที่นั่นรู้มั๊ยว่านายมันพวกวิตถารทำอนาจารเด็ก”

เซฮุนกำหมัดแน่นก่อนจะเบิกตาเมื่อถุงใส่กล่องยาสีฟันถูกเหวี่ยงไปตีกับร่างของคู่สนทนา ผู้ใหญ่ทั้งสองก้มมองร่างเล็กๆของเด็กน้อยที่กอดถุงช็อปปิ้งอีกข้างเหวี่ยงกล่องยาสีฟันไปมาอย่างหาเรื่อง

“อย่ามาว่าซอนแซงนิมนะครับ”

“อะไรกันเด็กนี่..”จุนมยอนพึมพำโดยที่เซฮุนก็รับถุงมาจากลู่หานที่จ้องมองอย่างไม่พอใจ

“ลู่หาน..ไม่เอาครับ”

“ซอนแซงนิมเป็นคนดี คุณห้ามมารังแกคนดีสิ คุณแม่บอกว่าคนที่รังแกคนดีคือคนเกเร”

“นายจะไปรู้อะไร? นี่ลูกศิษย์นายเหรอ? ฉันจะบอกให้นะว่าหมอนี่มันโรคจิต ชอบข่มขืนเด็กหรือคนที่หน้าเด็กๆอยู่แล้ว เอาเสื้อผ้าชาวบ้านไปดม พวกคนผิดปกติวิตถาร ถ้าไม่อยากเสียใจก็ถอยไปดีกว่า!!”จุนมยอนส่งเสียงเถียง

“คุณที่เอาแต่กล่าวหาคนอื่นก็ไม่ปกติเหมือนกันนั่นแหล่ะ!ลู่หานโพล่งขึ้นสีหน้าเขม็ง โดยที่เซฮุนก็รีบบีบมือของลู่หานเอาไว้ก่อนจะหันไปพูดกับอีกคนเรียบๆ

“ขอโทษแทนเด็กด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อน”

ว่าดังนั้นก่อนจะพาตัวลู่หานที่มีท่าทีฉุนเฉียวประสาเด็กวัยรุ่นออกไป โดยที่เด็กชายก็เอ่ยอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมซอนแซงนิมไม่ว่าเขาไปบ้างล่ะครับ ปล่อยให้เขาว่าอยู่คนเดียวแบบนั้น”

“...”

“ซอนแซงนิม?”ลู่หานพึมพำเมื่อตัวของเซฮุนเริ่มสั่น ก่อนที่ชายหนุ่มจะกอดตัวเองแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“เขาพูดถูกแล้วล่ะ”

“...”

“ครูเป็นแบบที่เขาว่าจริงๆ”เซฮุนถอนหายใจยาวก่อนจะก้าวไปยงรถของตนปล่อยให้ลู่หานมองตามอย่างสงสัย ทั้งคำพูดและสิ่งที่เจอทำให้เด็กน้อยเริ่มประกอบเรื่องราวในสมอง เขาไล่สายตามองแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างไม่สบายใจนัก

ในขณะเดียวกันจุนมยอนที่ยืนผ่อนลมหายใจอยู่พักจนสีหน้าเป็นปกติหลังจากรู้สึกฉุนที่ถูกเด็กต่อว่าต่อหน้าผู้คน เขาหยิบมือถือขึ้นต่อสายหาใครสักคนก่อนจะกรอกเสียงลงไป

“พี่ชางมินครับ...ช่วยหาให้ผมหน่อยว่าโอเซฮุนมันสอนที่โรงเรียนไหน...ผมจะตามไปแฉมันที่นั่นแหล่ะ หาข้อมูลเด็กแว่นที่อยู่กับมันช่วงนี้ด้วย ครับ.. ให้ไม่มีใครจ้างมันสักคน ให้สมที่มันทำกับหลานผมไว้.. ขอบคุณครับพี่” เขากดวางสายก่อนจะปรับลมหายใจรุนแรงให้แผ่วเบาเป็นปกติขึ้น พวกวิตถารพวกนี้มันช่างน่าขยะแขยง พวกผิดศีลธรรมไม่ควรจะที่ยืนในสังคม แค่คุยด้วยก็น่าขยะแขยงแล้ว...



หายตัวไปซะเถอะ..โอเซฮุน..



****************************
จุ๋มใจเย็นจุ๋ม
ขอพลังหมีจงอยู่กับท่าน

#ฟิคพี่หมีฮุน

2 ความคิดเห็น:

  1. ตัวเอง...ตัวเองต้องไม่เป็นไรนะ..ตัวเองตูดตันเค้าจะอยู่ยังไง..”
    เซฮุนยืนดราม่ากับผ้าเปียกในถัง.. เปียกไปแล้วแบบนี้เขาก็เอามาดมไม่ได้แล้วน่ะสิ
    แล้วก้ต้องดรามาต่อช้ะป่ะ นี่อุตส่าหวานแล้วนะ จุนมยอนจะแฉจิงดิ่ เน่มันหายแล้วนะจิง จิ๊ง

    ตอบลบ
  2. เห้ยยยยย กัวหมีไม่ได้อยู่กะชอนชาอ่ะ อย่าแฉเรยพี่จุ๋มมมม

    ตอบลบ