Title : Baby and The Bear 3/5
Author : RUNAWAY05
Couple : SEHUN x LUHAN
Note : เซฮุนหนึ่งคนจะทนไม่หมีได้นานแค่ไหน ....
*********************************************
“นักเรียนทุกคนกลับไปทบทวนหน้าที่หนึ่งร้อยสามสิบ
ทำแบบฝึกที่ครูแจกให้แล้วรวบรวมมาส่งครูช่วงเย็นนะครับ
และการบ้านวันนี้ก็ทำแบบฝึกท้ายบทมาส่งครูในชั่วโมงถัดไป วันนี้พอเท่านี้ก่อนครับ”
เสียงนุ่มนวลจากคุณครูหนุ่มดังขึ้นหลังจากการเรียนการสอนจบลงแทบจะเป็นไดอะล็อก
เด็กน้อยทั้งหลายก็ขานรับหน้ามุ่ยเพราะวิชาเรียนที่ชอบหมดลงอีกครั้งเป็นไดอะล็อกเช่นกัน
แต่ไม่นานเด็กๆในห้องก็แปลกใจเมื่อทีชเชอร์หน้าหล่อก็เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ
“ลู่หาน
พักเที่ยงไปพบครูที่ห้องพักครูด้วยนะครับ”
“ค...ครับ”เจ้าตัวขยับแว่นหนาๆรับคำอย่างแปลกใจท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ
ซึ่งแม้จะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่ท่าทีเรียบเฉยและน้ำเสียงดุดูทำให้เหล่าเด็กน้อยปักใจว่าเพื่อนร่วมห้องต้องทำอะไรผิดแน่นอน
“นายแว่นนั่นคะแนนตกมากละมั้ง
ทีชเชอร์ถึงเรียกไปพบ”
“ชิงชิงว่าเรามาช่วยเขาติวดีมั๊ย?”
“อย่าเลยชิงชิง
ติวไปเดี๋ยวได้คะแนนเยอะกว่าพวกเราก็แย่สิ ดโยว่าถ้านายแว่นมาถามชิงชิงก็บอกไม่รู้นะ”
“อะ..อื้อ”
ลู่หานยืนเกาแก้มอยู่พักใหญ่
ก่อนจะลุกเดินถือกล่องข้าวไปอย่างเงียบๆ
โดยเพื่อนๆก็มองตามหลังทั้งสงสัยและให้กำลังใจจนลู่หานเดินมาถึงห้องพักครูที่อีกคนนัดเอาไว้
ลู่หานกลืนน้ำลายอยู่พักก่อนจะเคาะประตูแล้วส่งเสียงเบาๆ
“ขออนุญาตครับ”
“ครับ”เมื่ออีกฝ่ายตอบรับลู่หานก็เดินเข้าไปด้านใน
แล้วพบว่าโอเซฮุนกำลังตรวจการบ้านนักเรียนอยู่ ใบหน้าคมคายกำลังจริงจังตั้งใจทำให้ลู่หานไม่รู้จะทำยังไงดี
จึงได้แต่ขยับตัวเองไปวางกล่องข้าวกับโต๊ะเล็กแล้วนั่งตัวตรงรอซอนแซงนิมของตนอยู่แบบนั้น
ไม่มีคำพูดระหว่างกันจนกระทั่งคิ้วเข้มที่ขมวดตรวจคำตอบเด็กๆจนเรียบร้อย
จึงหยิบกล่องข้าวที่แวะซื้อมาจากร้านข้างล่างคอนโดขึ้นก่อนจะกล่าวยิ้มๆ
“เรียบร้อยครับ ไปกันเถอะ”
“ครับ”แม้จะมีแว่นกั้นแต่เซฮุนก็มองเห็นว่าเด็กน้อยกำลังยิ้มจนตาหยี
เขาไม่คิดเลยว่าชีวิตหมีๆของเขาจะมามีโมเมนท์เหมือนพลอตการ์ตูนตาหวานแบบนี้
ชายวัยยี่สิบหกเลี้ยงต้อยเด็กอายุสิบสี่สนองอารมณ์หื่นของตัวเองนี่มันผิดศีลธรรมสิ้นดี
แถมยังเป็นลูกศิษย์ของตัวเองอีก...
เห็นซี่กรงมาแต่ไกล...
“ดาดฟ้าตึกนี้ไม่เคยมาเลยครับ สวยจัง”
“ก็เขาไม่ให้นักเรียนขึ้นมานี่ครับ”
“แล้วเราขึ้นมาได้เหรอครับ?”
“ก็ครูไม่ใช่นักเรียนนี่นา”
ทั้งคู่นั่งอยู่กับกล่องข้าวและน้ำผลไม้กระป๋องกับเวลาพักเก้าสิบนาที
จริงๆแล้วไม่ใช่ครั้งแรกที่นั่งทานข้าวกลางวันด้วยกัน
และความสัมพันธ์(แบบแอบจิต)นี้ก็ดำเนินมาได้สักพักหลังจากคืนนั้น เมื่อลูกแกะน้อยทำการอุทิศเนื้อให้หมา(หมี)ป่าไป
เซฮุนกับลู่หานก็อยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น
ลู่หานไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงชอบที่จะอยู่กับซอนแซงนิมบ่อยๆ ชอบที่จะได้คุยกัน
พอไม่ได้คุยกันก็รู้สึกแปลกไป
ในขณะที่เซฮุนฟันธงตัวเองแล้วว่ากำลังหลงรักเด็กและไม่ยอมให้ใครมาแย่งจีบแน่นอน
ชอนซาหายากมากนะสำหรับเขาน่ะ...
“ซอนแซงนิม
ตรงนี้ผมไม่เข้าใจครับ”เด็กน้อยกางสมุดให้ดูโดยชายหนุ่มก็รับไปดู
มันไม่ใช่สมุดเรียนแต่กลับไปสมุดโน้ตที่จดคำศัพท์แปลกๆเอาไว้มากมายเต็มไปหมด
“ผมดูหนังฉากนึงเมื่อวานนี้ ผู้ชายบอกกับเพื่อนว่า Break a leg
ทำไมเขาต้องแช่งให้เพื่อนขาหักด้วยล่ะครับ”
“Break a leg เป็นสำนวนอเมริกันครับ มันมีความหมายเหมือน
Good luck แต่เหมือนเป็นการพูดแก้เคล็ดน่ะ
ถ้าพูดร้ายจะกลายเป็นดี”
“ผมก็ว่าทำไมแช่งกัน... ซอนแซงนิมเก่งจังเลย”
“ตอนเด็กๆครูเรียนที่โรงเรียนคริสเตียนครับ
เป็นโรงเรียนกินนอนที่นั่น เรียนตั้งแต่ประถมจนจบมัธยมปลายเลย
มีแต่ครูฝรั่งเต็มไปหมด”เซฮุนหัวเราะเบาๆ “แต่ครูก็เคยโดดหออยู่ครั้งสองครั้งนะ
กลับมาโดนฟาดขาลายเลย...”
ชายหนุ่มก้มหน้าลงเมื่อรู้สึกว่าอีกคนเงียบไป
และก็พบว่าลู่หานกำลังเอาคางเกยต้นแขนของเขาพร้อมกับทำตาปรือสีหน้าใกล้หลับเต็มที ...แล้วจำเป็นมั๊ยที่จะต้องง่วงได้น่ารักน่าชังแบบนี้นี่ห๋า?
“ชอนซา...”
“...”
“หลับแล้วเหรอครับ?”เอานิ้วจิ้มแก้มนุ่มๆจนโย้ไปข้างหนึ่งแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจากเด็กน้อย
กลิ่นหอมๆและใบหน้าหวานๆที่หลับพริ้มไปแล้วนั้นทำให้เซฮุนยื่นนิ้วขึ้นมาเกี่ยวเอากับคานแว่นเพื่อมองใบหน้าของอีกฝ่ายให้ชัด
พลังโลลิตอนนี้ช่างคุกรุ่นกระจายเกลื่อนจนหมีตัวหนึ่งเริ่มจะอดรนทนไม่ไหว
“ไม่ได้นะครับ”ลู่หานปรือตาขึ้นพร้อมกับใช้สองมือจับขาแว่นของตนไว้เพื่อไม่ให้เซฮุนดึงแว่นออกไปได้
“ซอนแซงนิมกินนาน เดี๋ยวผมจะไปเรียนไม่ทันนะ”
“ชิมก็ได้ครับ”เอ่ยอ่อยพลางทำท่าจะถอดแว่นออกอีกครั้งโดยเด็กชายก็หนีบขาแว่นไว้พร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไม่ได้ครับ”
“ทำไมล่ะ?”
“ถ้าถอดแว่นออก..เดี๋ยวผมมองหน้าซอนแซงนิมไม่ชัด”เอ่ยเบาๆโดยที่เซฮุนหัวเราะหึเบาๆพร้อมกับจิ้มหน้าผากเด็กน้อยอย่างนุ่มนวล
“สายตาสั้นถ้าอยู่ใกล้ๆก็มองเห็นครับ”
“...”
“สายตาสั้นทำให้เราเห็นอะไรใกล้ตัวมากขึ้นนะ”กล่าวเท่านั้นพร้อมกับกดจูบริมฝีปากนุ่มนิ่มอย่างไม่ทันให้อีกคนได้ตั้งตัว
ตอนนี้เซฮุนไม่ได้รู้สึกถึงโรคที่กำเริบ
แต่เป็นความเอ็นดูที่อยากจะเล่นจะหยอกกับเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
และเขารู้ดีว่ามันเป็นการกระทำของคนรัก...
“ครับโอเค รีบมาด่วนเลยครับ”
แบคฮยอนกำชับก่อนจะวางสายพร้อมกับร้องเรียกพยาบาลสาวๆในคลินิกด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นักกับเคสที่ได้รับในวันนี้เพราะมันช่างเสียเวลาเล่นคุ๊กกี้รันของเขาเหลือเกิน
ชายร่างเล็กหันหลังขวับพลันตะโกนสั่งงานลั่น “เตรียมเตียงพยาบาลกับแอลกอฮอล์ด่วนเลยนะ
เอาอะซิโตนออกมาด้วย...ไอ้คุณอู๋นี่มันจะมากไปละ”
“เกิดอะไรขึ้นคะหมอ?”
“ไอ้คนไข้แขนเขียวเมื่อวานนี้หยิบผิดงาน
เอากาวทาตูดเมียแทนเจลหล่อลื่นนี่สิ
ลำบากฉันมั๊ยวะ”แบคฮยอนที่เป็นทั้งเภสัชกรและหมอฉุกเฉินในบางกรณีรีบสวมถุงมือยางเตรียมพร้อมทันทีที่เฟอรารี่คันหรูจอดหน้าคลินิกโดยที่ชายหนุ่มตัวสูงก็เร่งแบกเด็กหนุ่มที่เพิ่งมาเมื่อวานนี้
โดยคนตัวโตก็ร้องไห้ร้องห่มส่วนอีกคนสีหน้าเหมือนอยากตายอยู่ในชุดนอนหมีน้ำตาลพาดตัวไปกับไหล่กว้างๆนั่น
“ตัวเอง...ตัวเองต้องไม่เป็นไรนะ..ตัวเองตูดตันเค้าจะอยู่ยังไง..”
“คนอย่างมึงชักว่าวไปจนตายเหอะไอ้สัส!! กูต่อโมเดลงานดีๆมาจับกูตุ๋ยซะงั้นไม่รู้เวล่ำเวลาไอ้เชี่ย!!”
“ใจเย็นๆนะครับ วางเมียลงแล้วตั้งสติ
ผมจะได้รักษาได้”คุณหมอตัวเล็กรีบห้ามการทะเลาะก่อนที่อีกฝ่ายจะยอมวางร่างสูงโปร่งลงกับเตียงฉุกเฉินและอีกคนก็บ่นอีกครั้ง
“แม่ง คนเห็นกูใส่ชุดนอนแต๋วแตกแบบนี้เพราะมึงเลย
กูทำตูดเสร็จก่อนนะมึงกูกลับไปฟาดดากแตก”
“ฮือ..เค้าหน้ามืด...เค้าขอโทษ”
“ใจเย็นๆนะครับ เดี๋ยวพาคนไข้ไปล้างกาวก่อนนะ”บยอนแบคฮยอนที่ชักจะหมั่นไส้บทโศกก็เข็นชานยอลเข้าไปโดยที่อี้ฟานก็ส่งเสียงโหยหวน
“ห้ามถ่ายคลิปเมียผมนะหมอ!!”
เสียงโวยวายนั้นทำให้จงแดหันไปมองทางประตูห้องก่อนจะหันกลับมายังคนไข้ทั้งสองคนที่มาขอคำปรึกษาในวันนี้ต่อ
ซึ่งคนทั้งคู่ก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าเหลียวมองต้นเสียงแล้วหันกลับมาที่เดิมเช่นกัน
“อันดับแรก...ผมไม่นึกเลยนะครับว่าพวกคุณจะมาพบรักกันที่คลินิกของผม
ยินดีด้วย”จงแดยิ้มเผื่อนๆไปให้คนทั้งสอง “ว่าแต่ที่มานี่เพราะมีปัญหาจากรสนิยมของแต่ละคนเหรอครับ?”
“มันก็นิดหน่อยครับ
เขาบอกให้ผมใส่ชุดนางพยาบาลบ่อยๆกับถุงน่องตาข่าย แล้วคือผมไม่ชอบ”
“แล้ววันนี้คุณแต่งชุดอะไรครับ”
“เซเลอร์มูนครับ”
“ผมว่าเซเลอร์มูนมันบ่อยไปครับ
แล้วผมขี้เกียจแต่งเป็นหน้ากากทักซิโด้ด้วย”ชายอีกคนพูดขึ้นโดยที่จงแดก็จดบันทึกคนไข้ของตนเองต่อ
“คุณคิมจงอินอายุยี่สิบสอง มีอาการทรานเวสทิซึม(ชอบแต่งตัวเป็นเพศตรงข้าม
มีความสุขกับการลักเพศ) ตอนนี้มีปัญหาไม่อยากใส่ชุดนางพยาบาล
แต่อยากใส่ชุดเซเลอร์มูนใช่มั๊ยครับ?”
“ใช่ครับ”เจ้าของร่างสีแทนในวิกสีเหลืองอ๋อยและชุดแปลงร่างเต็มยศกำลังนั่งฟังคุณหมออย่างตั้งใจ
โดยที่ชายอีกคนก็ทำหน้าระอานิดๆ
“เอาอย่างนี้มั๊ยครับ เจอกันคนละครึ่งทาง
เป็นเซเลอร์มูนในชุดนางพยาบาล หรือจะเปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนญี่ปุ่นดี
คุณก็เหมาะกับชุดนักเรียนญี่ปุ่นนะ”จงแดแนะนำและสร้างกำลังใจเพิ่มลงไปทำให้คนทั้งคู่นั่งครุ่นคิดอย่างคล้อยตาม
“แต่ยังไงผมว่าคุณลองแต่งชุดแนวนี้แค่ตอนอยู่กันสองคนมันจะตื่นเต้นกว่านะครับ เพราะคุณแต่งตลอดเวลาแฟนของคุณก็คงจะเบื่อ”
“แต่ผมชอบแต่งแบบนี้นี่นา.__.”
“แต่คุณเป็นถึงวิศวกรนะครับ
แบกคอสตูมไปไม่ไหวหรอก ใส่ตอนอยู่ด้วยกันแฟนคุณก็จะรู้สึกพิเศษ
ใช่มั๊ยครับ?”จงแดหันไปหาชายหนุ่มอีกคนที่รีบพยักหน้าสนับสนุนสุดตัว
“ใช่ครับ แบบผมเห็นคนเดียวแล้วมันสุดยอดดด”
“โอเคๆ...ผมแต่งตอนอยู่บ้านก็ได้”
“แต่พวกเทศกาลคอสเพลย์คุณก็ได้เป็นตัวเองนะ
จะได้ไม่กดดันเกินไปครับ”จิตแพทย์หนุ่มแนะนำอีกครั้งส่งผลให้อีกคนยิ้มหวาน
“ใช่เลยครับหมอ ขอบคุณนะครับ”
“แล้วคุณหวงจื่อเทาที่มีอาการสคอปท็อปลิเลีย(ชอบถ้ำมอง)มีปัญหาจุดไหนเพิ่มเติมเหรอครับ?”ชายหนุ่มใบหน้าหล่อคม
ดวงตาเฉี่ยวรูปร่างดูดีที่นั่งข้างถอนใจพรืดก่อนจะเอ่ยตอบอ่อยๆ
“เพราะแฟนผมไม่ยอมใส่ชุดนางพยาบาลผมเลยเก็บกดครับ
กลับไปถ้ำมองลูกค้าในฟิตเนสอีกแล้ว ผมรู้สึกผิดมากเลยครับเนี่ย..”
“เท่านั้นไม่พอนะหมอ เขาเปิดหนังโป๊เอาไว้แล้วเข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า
แอบดูหนังโป๊อยู่ในตู้อะ”ชายหนุ่มในชุดเซเลอร์มูนฟ้องเล่นเอาอีกคนรีบยิงฟัน
“ก็เพราะตัวใส่แต่ชุดเซเลอร์มูนนี่ครับ
เค้าก็ไม่พีคอะ”
“สรุปอาการพวกคุณเกี่ยวโยงกันนะครับ
แก้ที่คุณจงอินรบกวนเปลี่ยนไปใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นอยู่บ้าน ลองเปลี่ยนถุงน่องเป็นลูกไม้แทนมั๊ยครับ
เพราะประวัติเมื่อปีก่อนเห็นคุณชอบใส่อยู่ช่วง
ถ้าสร้างความตื่นเต้นให้กับคุณจื่อเทาได้ ก็จะได้ไม่กลับไปถ้ำมองลูกค้าที่ฟิตเนสอีก”
“เออ ลูกไม้ เข้าท่า”
“จริงด้วย ไม่ได้ใส่มาเกือบครึ่งปีแล้ว...
ขอบคุณนะครับคุณหมอ สบายใจขึ้นมากเลย”
“ขอบคุณนะหมอ”
“ไม่เป็นไรครับ
ยังไงก็ไปรับวิตามินซีที่เคาน์เตอร์และรับใบเสร็จไว้ด้วยนะครับ”จงแดกล่าวพร้อมกับเสียงครางที่แว่วออกมาทางส่วนฉุกเฉินพร้อมกับเสียงใหญ่ๆที่ร้องไห้ใจจะขาด
เวลาลูกค้าพิเศษของเขามารวมตัวกันทีไรจงแดก็ยิ่งรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชที่เคยทำ
ถ้าเจ้าหมีเพดโด้นั่นมาอีกคนมีหวังแบคฮยอนต้องโกรธทะลุจุดเดือดจนคลินิกระเบิดแน่นอน
“อ่า...ซอนแซงนิม..”
ในช่วงห้าโมงเย็นที่ไม่มีใครอยู่ในโรงเรียนแล้ว
ทีห้องพักครูห้องหนึ่งของฝ่ายภาษาอังกฤษ
ลู่หานกำลังนั่งอยู่บนตู้เอกสารแบบบานเลื่อนขนาดกลาง สองมือขยุ้มไหล่กว้างที่กำลังซุกไซ้สูดกลิ่นกับระหว่างขาของตนแม้ว่าจะไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออกสักชิ้น
เซฮุนตะปบต้นขาเล็กๆนั่นไว้แล้วกับลากลิ้นเลียไปตามเนื้อผ้าช่วงโคนขาเหมือนสัตว์ป่า
โดยเด็กน้อยก็เชิดหน้าแดงก่ำขึ้นเพราะอารมณ์ตื่นตัว
หลังจากเคยถูกกินไปครั้งและพบว่าตัวเองไม่ตายแต่ดันรู้สึกแปลกๆแถมความแปลกนั้นมันเป็นไปในทางที่ดี
ลู่หานผ่อนลมหายใจช้าๆพลางห่อไหล่สั่นเมื่อถูกงับเบาๆกับเนื้อผ้าส่วนกลางลำตัว
เซฮุนมุดหน้าตัวเองอยู่อย่างนั้นสักพักจนกระทั่งรู้สึกดีขึ้น
จึงลุกขึ้นพาลู่หานลงมายืนกับพื้นแล้วเอ่ยเบา
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวครูพาไปส่งที่บ้านนะ”
ลู่หานพยักหน้า
หลังจากเอางานมาส่งซึ่งหน้าที่นี้ซึลกิยกให้เขาทำไปแล้วนั้น
ซอนแซงนิมก็บอกว่าหายใจไม่ออก แล้วก็มาหาอากาศกับเขาเกือบๆครึ่งชั่วโมง
ลู่หานไม่ได้คัดค้านอะไร มิหนำซ้ำยังรู้สึกแปลกๆเหมือนมีอะไรค้างๆคาๆ
มันเป็นอารมณ์อาการที่ค่อนข้างจัดการได้ยากกับลู่หานที่ใช้ชีวิตกับไซไฟแฟนตาซีมาสิบสี่ปีจนไม่ได้นึกถึงเรื่องอิโรติก
หรือเรื่องรักใคร่เหมือนคนรุ่นเดียวกัน
“คุณแม่จะไปไหนเหรอครับ?”เมื่อคุณครูหนุ่มมาส่งที่หน้าบ้านเด็กชายก็เอ่ยทักเมื่อเข้ามาในบ้านแล้วพบว่าแม่ตนกำลังเก็บกระเป๋าอย่างเร่งรีบ
โดยที่เธอก็บอกกับลูกชายด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
“พ่อไม่สบายจ้ะ แม่คงต้องไปดูแล”
“แล้วผมล่ะ?”
“แม่กำลังคิดว่าจะไปฝากป้าข้างบ้านไว้ดีมั๊ย?”เธอว่าโดยที่ลู่หานก็ส่ายหน้าดิก
“ผมอยู่บ้านคนเดียวได้ครับ
แม่ก็รู้ว่าลูกสาวบ้านเขาไม่ชอบเรา”
“อา..แม่ไม่อยากให้อยู่คนเดียวนี่สิ..หนูไปด้วยกันมั๊ยล่ะ?”
“ผมมีเก็บคะแนนวันพรุ่งนี้ฮะ”
“อ่า...เอายังไงดีนะ”เธอรำพึงพร้อมกับเซฮุนที่ส่งเสียงอยู่นอกรั้วเมื่อเก็บของๆเด็กชายไว้ได้ก่อนจะออกรถ
“ขอโทษครับ ลู่หานทำกุญแจตกไว้ในรถน่ะครับ”
“นึกออกแล้วล่ะ
หนูเก็บของก่อนนะเดี๋ยวแม่ไปหาคุณครูก่อน”
“เอ๋?”
“น่า”ผู้เป็นแม่ว่า
ก่อนจะเดินไปหาเซฮุนที่ยังยืนอยู่หน้ารั้ว
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อจัดท่าทางผู้ดีที่ในมือมีพวงกุญแจตุ๊กตากวางกำลังเกาะรั้วรอเหมือนเด็ก
เธออมยิ้มเอ็นดูก่อนจะเข้าไปทัก “ค่ะคุณครู”
“ลู่หานทำกุญแจตกในรถน่ะครับ ผมเลยวกมาคืนให้”
“ครูคะ”
“ครับ?”
“ยังไงฉันขอฝากครูดูแลลู่หานสักสองสามวันได้มั๊ยคะ?
ฉันต้องไปดูแลสามีที่ต่างจังหวัดน่ะค่ะ ฉันเองก็ไม่มีญาติแถวนี้
ยังไงขอรบกวนคุณครูได้รึเปล่าคะ?”
“ครับ เอ่อ..ได้สิครับ ไม่เป็นไรครับ”เซฮุนตอบรับ
“ผมจะแวะมาดูแลให้ครับ”
“ไม่ใช่ค่ะ หมายถึงขอฝากลู่หานไว้กับครูน่ะค่ะ
แฟนครูจะว่าอะไรมั๊ยคะ? ดิฉันจำเป็นจริงๆค่ะ”
“เอ๋?...
ผมไม่มีแฟนครับ...”ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่
นั่นหมายความว่าคุณแม่ของลู่หานจะฝากเด็กน้อยไว้กับเขาสองสามวันอย่างนั้นหรือ?
ดวงตาคมกะพริบปริบๆและสุดท้ายก็ตอบรับความช่วยเหลือของแม่เด็กไปอย่างที่ใจไม่ได้คิดปฏิเสธอยู่แล้วตั้งแต่ต้น..
ส่งนางฟ้ามาให้หมีชัดๆ...ให้ตายเถอะ...
“อย่างนี้ผมก็ได้ไปนอนบ้านซอนแซงนิมสิครับ”
ลู่หานว่าขึ้นพร้อมกับหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กที่บรรจุเสื้อกับชุดนักเรียนอีกชุดตามคนตัวสูงต้อยๆขึ้นไปยังคอนโดหลังจากที่เซฮุนอาสาไปส่งแม่ของลู่หานที่สถานีรถ
ชายหนุ่มเม้มปาก..ชีวิตพลุ่งพล่านเหลือเกิน เขาจะทำยังไงดีเนี่ย...
“ก็...เดี๋ยวครูไปนอนโซฟาก็ได้ครับ
เรานอนบนเตียงครูแล้วกัน”เซฮุนสรุปให้เด็กชายพร้อมกับรูดคีย์การ์ดเปิดประตูห้อง
ลู่หานหันมองห้องที่แสนสะอาดและเป็นระเบียบเหลือเกินนั้นอย่างพอใจ
เพราะยังไงคนตัวเล็กก็รู้ดีว่าซอนแซงนิมของตัวเองเป็นคนเจ้าระเบียบพอตัว
เซฮุนรับกระเป๋าเสื้อผ้าของลู่หานไปจัดให้พร้อมกับบอกให้นักเรียนของตนอาบน้ำเสีย
เขาจะได้เอาชุดนักเรียนของลู่หานมาซักตาก และเด็กชายก็ทำตามอย่างว่าง่าย
ลู่หานเดินถือชุดกับผ้าขนหนูที่อีกคนส่งให้เข้าห้องน้ำไป ทันทีที่เสียงบานห้องน้ำปิดตัวลง
เซฮุนก็หยิบชุดที่ลู่หานใส่แล้วมาดมทันที
หอมจัง.... *อิโมหมีเบิกบาน*
“ซอนแซงนิมครับ”
เฮือก...
เซฮุนยัดผ้าลงถังพร้อมกับหันไปหาลู่หานที่โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ
“ยาสีฟันจะหมดแล้วนะครับ ซอนแซงนิมซื้อสำรองไว้รึเปล่า?”
“ครู..ไม่ได้ซื้อไว้ครับ”
“ซูเปอร์ลดราคาอยู่นะครับ
ซอนแซงนิมน่าจะซื้อมาตุนไว้”ว่าเท่านั้นแล้วเลื่อนบานปิดพร้อมกับเสียงน้ำฝักบัวที่ดังขึ้น
ปล่อยให้เซฮุนยืนดราม่ากับผ้าเปียกในถัง.. เปียกไปแล้วแบบนี้เขาก็เอามาดมไม่ได้แล้วน่ะสิ
หลังจากซักผ้าให้เด็กพร้อมกับทำกับข้าวซึ่งก็แค่รามยอนแห้งแบบถูกๆประสาข้าราชการเงินเดือนพลางเปิดดูหนังแอคชั่นเรื่องโปรดของคนตัวน้อย
เซฮุนที่แม้จะรู้สึกนิดหน่อยว่ากำลังเลี้ยงลูกชายก็นั่งมองลู่หานซึ่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากไปกับฉากตลกของหนัง
มันนานเหลือเกินที่ไม่ได้รู้สึกมีความสุขกับการตกหลุมรักใครแบบนี้...
“ครูไปอาบน้ำก่อนนะ”ว่าแล้วก็ผุดลุกขึ้นโดยที่ลู่หานก็มองตามพลันพยักหน้ารับ
ลู่หานยังนั่งดูทีวีต่อไปจนเริ่มรู้สึกหิวน้ำ
และเมื่อยังเห็นว่าซอนแซงนิมยังไม่ออกมาก็เลยถือวิสาสะไปที่ครัวเพื่อหาน้ำดื่ม
ลู่หานเดินผ่านถังขยะก่อนจะสะดุดใจกับอะไรบางอย่าง
นี่มันหมอนอิงที่เขาเคยกอดไว้ในรถนี่นา...
ทำไมมาอยู่ในถังขยะ...
ร่างเล็กย่อตัวลงนั่งพลันดึงหมอนใบน้อยออกจากถังขยะมาดู
ก่อนจะขมวดคิ้วหนักเมื่อเห็นคราบสีขาวเลอะหมอนใบนั้น..
“มันซักไม่ออกเหรอไงนะ...สงสัยจะเป็นกาวละมั้ง”
ลู่หานคิดก่อนจะทิ้งมันลงในถังเหมือนเดิม เขาเดินไปล้างมือแล้วกดน้ำกับตู้เย็นด้านนอก
กลับไปนั่งที่เดิมเพื่อดูหนังต่อจนกระทั่งเซฮุนออกมา
ชายหนุ่มเช็ดหยาดน้ำบนศีรษะก่อนจะเตรียมที่นอนให้กับลู่หานและตัวเอง
เซฮุนไม่กล้าพอที่จะทำอะไรสุ่มเสี่ยงอีก
เขากลัวว่าตัวเองยั้งไม่ได้แล้วมันจะไปกันใหญ่
“ง่วงนอนรึยังครับ?”หันมาถามเด็กชายที่เพิ่งแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยพลันจ้องคุณครูหนุ่มที่เดินอุ้มหมอนและผ้าห่ม
“ซอนแซงนิมไปไหนเหรอครับ?”
“ครูจะไปนอนโซฟาน่ะครับ”
“โซฟานอนสบายมั๊ยครับ”
“สบายสิ..ไม่มีปัญหาหรอก”เซฮุนส่งยิ้มเป็นสัญญาณให้ลู่หานไปนอนที่เตียงเสีย
แต่ว่าอีกคนกลับเดินไปหยิบหมอนแล้วเดินมาหาชายหนุ่มที่ยืนขมวดคิ้ว
“งั้นผมนอนโซฟาด้วยนะครับ ซอนแซงนิมบอกว่าสบาย”
“...”
“ปกติซอนแซงนิมไม่นอนเตียงเหรอครับ แปลกจัง”
เอาเข้าไป....
ไม่ไหวแล้วนะ!!
เซฮุนที่สุดทนก็โยนหมอนลงเตียงพร้อมกับเทคเด็กลงไปฟัดกับเตียงให้หายหมันเขี้ยวโดยที่ลู่หานหัวเราะออกมาอย่างจั๊กจี้
จนกระทั่งลมหายใจสม่ำเสมอนั้นดังขึ้นทีละหน่อยพร้อมกับจูบที่กดย้ำลงกับเนินไหปลาร้า
ลู่หานหรี่ตาเล็กน้อยพร้อมกับเซฮุนที่มีอาการอีกครั้ง
แต่เด็กชายก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรที่อีกคนจะเริ่มกินเขาอีกครั้งหนึ่ง
ชายหนุ่มแทรกตัวเข้าไปกลางหว่างขาของลู่หานพร้อมกับกดจูบตามผิวเนื้อ
แม้กลิ่นครีมอาบน้ำจะเปลี่ยนเป็นกลิ่นแบบผู้ชายที่เขาใช้
แต่ความรู้สึกกลับเปลี่ยนไปราวกับไม่ใช่ของชิ้นเดียวกัน
ปากเล็กอ้าครางเบาๆเมื่อถูกเซฮุนรวบมือทั้งสองข้างมาพรมจูบพร้อมกับดูดปลายนิ้วผะแผ่ว
อกบางขยับไหว ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดขึ้นเบาๆ
“ซอนแซงนิม...”
“...”
“ทำ...เหมือนพ่อกับทำแม่เลย”ลู่หานว่าเบาๆให้กับเซฮุนที่ผ่อนลมหายใจช้าลง
แม้ชอนซาจะทำให้เขามีอาการได้ตลอดแต่ก็สามารถทำให้มันหายไปตลอดได้เหมือนกัน
ดวงตาคมมองใบหน้าแดงก่ำของลู่หาน ก่อนจะกดจูบพวงแก้มนุ่มนิ่มอย่างอดไม่ได้
“ทำแบบไหนครับ?”
“จูบมือน่ะครับ..ในนิยายบางเรื่องตอนจบพระเอกก็จูบหลังมือนางเอกด้วย”
“แบบนี้เหรอ?”ถามพลางดึงฝ่ามือเรียวมากดจูบพร้อมสบดวงตากลมโตที่จ้องมองก่อนจะเบี่ยงไปข้างๆ
“แต่มันไม่จบนะ”
“ผม..ไม่รู้”
“นิยายมันไม่มีเรื่องที่จบจริงหรอกครับ
นอกจากเราจะตาย”เซฮุนส่งยิ้มให้เด็กน้อยที่ทำตาปริบๆ “มันต้องมีอะไรดำเนินไปเรื่อยๆ
ตอนจบของเรื่องเท่านั้นแหล่ะที่เรารู้”
“ผมไม่เข้าใจ...”
“นิยายจะจบ
ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปไงล่ะครับ”เซฮุนลูบริมฝีปากกับข้างแก้มของลู่หานพลางกระชับกอด
จนเป็นลู่หานเองที่ถอดแว่นออกวางกับโต๊ะหัวเตียง
“นิยายจบมันเกี่ยวกับที่ซอนแซงนิมนอนที่โซฟารึเปล่าครับ?”
“ก็..ไม่เกี่ยวหรอกครับ”
“แล้วทำไมถึงไม่นอนด้วยกันล่ะครับ”
“อ่า..”เซฮุนครางให้กับคำถามที่คนตัวเล็กยิงเป็นชุด
ก่อนจะพูดขึ้นในที่สุด “ถ้านอนด้วยกันบ่อยๆ มันคือแฟนกันแล้วนะ”
“...”
“ถ้าเป็นแฟนกัน ก็จะให้คนอื่นกินไม่ได้”
“แต่ซอนแซงนิมกินผมไปแล้วนี่”
“งั้นเราก็เป็นแฟนกัน”เซฮุนสรุปรวบรัดเอาดื้อๆทำเอาลู่หานขมวดคิ้วมุ่นอยู่พักพลางเอียงคอว่าตัวเองฟังอะไรผิดไปหรือไม่
“เอ๋?”
“ก็กินไปแล้ว..ก็ต้องเป็นแฟนกันน่ะสิ”
“อือ...”ลู่หานย่นคิ้ว
“ถ้าไม่ชอบกันจะเป็นแฟนกันได้ยังไงล่ะครับ”
“แล้วทำไมถึงให้ครูกินได้ล่ะครับ?”
ดวงตากลมโตกลอกไปข้างๆพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ก็ซอนแซงนิมเป็นหมาป่า...
พอผมรู้ว่าซอนแซงนิมเป็นหมาป่า ผมก็กลัวคนอื่นจะรู้ พอเราสนิทกันมากขึ้นผมก็อยากคุยกับซอนแซงนิมทุกวัน”
“...”
“ผมอยากเจอซอนแซงนิมทุกวัน...เวลาไม่เจอผมก็รู้สึกเหมือนคิดถึงเลย...ผมเลยให้ซอนแซงนิมกิน
เราจะได้อยู่ด้วยกันทุกวัน...ขนาดตอนผมพูดอยู่นี้ผมยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่เลยครับ
ท้องผมปั่นป่วนไปหมดเลย ผมเลยคิดว่าผมเป็นเหมือนตัวละครในนิยายที่ชอบเป็นกัน”
“...”
“เหมือน...จะชอบเลย”
โอเซฮุนมองใบหน้าหวานระยะประชิดที่สองแก้มขึ้นสีระเรื่อ
ก่อนจะแนบจูบลงมาอย่างนิ่มนวล เขากอดร่างเล็กๆเอาไว้โดยลู่หานก็กอดตอบอย่างเงอะงะ
จมูกโด่งกดไล่ไปกับขมับของเด็กน้อยพร้อมกับพูดเบาๆ
“ถ้าอย่างนั้น...เราก็ควรเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอครับ?”
“...”
“เพราะครูก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”เขาจ้องลงไปในแก้วตาหวานที่ก้มเบี่ยงหลบก่อนจะคลี่ยิ้มน้อยๆเมื่อลู่หานเม้มปากพลันมองชายหนุ่มตอบ
“งั้นผมก็เป็นแฟนซอนแซงนิมแล้วใช่มั๊ยครับ”
ใบหน้าคมพยักรับก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงพร้อมกับรับร่างของลู่หานมาไว้ในอ้อมกอด
ร่างขาวนุ่มนิ่มราวกับขนมโมจิซุกกับตัวของชายหนุ่มเหมือนเด็กขี้อ้อน ให้ตาย
เงาตะรางมาแต่ไกลแต่เหมือนเขาจะห้ามความรู้สึกไม่ได้เอาเสียเลย
ไม่ว่าจะคนรสนิยมไหน...เวลามีความรักก็ช่างสุขจนน่ากลัว...
แม้ทุกคนจะแปลกใจที่วันนี้ทีชเชอร์สุดหล่อเป็นคนพาเด็กแว่นมาส่งที่โรงเรียน
แต่พอได้คำตอบจากชายหนุ่มว่ามารดาของนักเรียนสนิทกับเขาและเอาลูกชายมาฝากไว้
ลู่หานก็ดูเหมือนจะเป็นที่อิจฉาของเหล่าเพื่อนไปโดยปริยาย
ลู่หานรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถพูดได้แน่นอนว่าแท้แล้วเขาเป็นอะไรกับซอนแซงนิม
ไม่อย่างนั้นผอ.จะโกรธ และซอนแซงนิมจะถูกไล่ออกไปเป็นหมาป่าที่อื่น
จนในช่วงเย็นที่ลู่หานเข้าไปซูเปอร์กับคุณครูหนุ่ม
ซึ่งของกำลังลดราคาและเหล่าแม่บ้านก็ฟาดฟันกันจนน่ากลัว
ลู่หานที่ตัวเล็กกว่าก็อาสาจะเข้าไปซื้อของด้านในและให้ชายหนุ่มรอด้านนอก
ซึ่งเซฮุนก็ย้ำนักย้ำหนาว่าเกิดอะไรขึ้นให้รีบออกมาทันที เพราะเขาจะรออยู่หน้าร้าน
เซฮุนยืนเช็คมือถือก่อนจะรู้สึกแปลกเหมือนถูกจ้องมอง
เขาเงยหน้าขึ้นก่อนจะรู้สึกตกใจเพราะไม่นึกว่าจะเจอคนๆนี้ในเวลาแบบนี้
“พี่จุนมยอน..”
“นายจริงๆด้วยสินะไอ้เด็กโรคจิต”ชายหนุ่มร่างเล็กดวงตาดำขลับสีหน้าไม่สบอารมณ์จ้องมองเซฮุนอย่างไม่ชอบใจนัก
โดยที่ชายหนุ่มก็กลืนน้ำลายเล็กน้อย
ฝ่ามือเริ่มสั่นเมื่อสายตาของจุนมยอนกวาดมองหัวจรดเท้า “ทำงานอะไรอยู่ล่ะ?
หรือตกงาน?”
“เป็นครูครับ”
“โฮ่...โรคจิตอย่างนายเป็นครูได้ด้วยเหรอ
ข่มขืนเด็กไปกี่คนแล้วล่ะ”อีกฝ่ายยังใช้วาจาเชือดเฉือนร่างสูงที่ยืนฟังอย่างอดทน
ดวงตาของคิมจุนมยอนหรี่ลงพร้อมกับคำพูดที่ค่อนแคะความรู้สึกของเซฮุนทุกถ้อยคำ
“นิสัยอย่างนายมันไม่มีทางแก้ได้หรอก หรือนายจะลืมไปแล้วกันนะว่าเคยปล้ำหลานฉัน?
มินซอกมีอนาคตที่ดีแล้ว ไม่ตกเป็นของโรคจิตอย่างนายแน่นอน”
“...”
“แล้วเรียนอยู่ไหนล่ะ?
ที่นั่นรู้มั๊ยว่านายมันพวกวิตถารทำอนาจารเด็ก”
เซฮุนกำหมัดแน่นก่อนจะเบิกตาเมื่อถุงใส่กล่องยาสีฟันถูกเหวี่ยงไปตีกับร่างของคู่สนทนา
ผู้ใหญ่ทั้งสองก้มมองร่างเล็กๆของเด็กน้อยที่กอดถุงช็อปปิ้งอีกข้างเหวี่ยงกล่องยาสีฟันไปมาอย่างหาเรื่อง
“อย่ามาว่าซอนแซงนิมนะครับ”
“อะไรกันเด็กนี่..”จุนมยอนพึมพำโดยที่เซฮุนก็รับถุงมาจากลู่หานที่จ้องมองอย่างไม่พอใจ
“ลู่หาน..ไม่เอาครับ”
“ซอนแซงนิมเป็นคนดี คุณห้ามมารังแกคนดีสิ
คุณแม่บอกว่าคนที่รังแกคนดีคือคนเกเร”
“นายจะไปรู้อะไร? นี่ลูกศิษย์นายเหรอ?
ฉันจะบอกให้นะว่าหมอนี่มันโรคจิต ชอบข่มขืนเด็กหรือคนที่หน้าเด็กๆอยู่แล้ว
เอาเสื้อผ้าชาวบ้านไปดม พวกคนผิดปกติวิตถาร ถ้าไม่อยากเสียใจก็ถอยไปดีกว่า!!”จุนมยอนส่งเสียงเถียง
“คุณที่เอาแต่กล่าวหาคนอื่นก็ไม่ปกติเหมือนกันนั่นแหล่ะ!”ลู่หานโพล่งขึ้นสีหน้าเขม็ง
โดยที่เซฮุนก็รีบบีบมือของลู่หานเอาไว้ก่อนจะหันไปพูดกับอีกคนเรียบๆ
“ขอโทษแทนเด็กด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อน”
ว่าดังนั้นก่อนจะพาตัวลู่หานที่มีท่าทีฉุนเฉียวประสาเด็กวัยรุ่นออกไป
โดยที่เด็กชายก็เอ่ยอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมซอนแซงนิมไม่ว่าเขาไปบ้างล่ะครับ
ปล่อยให้เขาว่าอยู่คนเดียวแบบนั้น”
“...”
“ซอนแซงนิม?”ลู่หานพึมพำเมื่อตัวของเซฮุนเริ่มสั่น
ก่อนที่ชายหนุ่มจะกอดตัวเองแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“เขาพูดถูกแล้วล่ะ”
“...”
“ครูเป็นแบบที่เขาว่าจริงๆ”เซฮุนถอนหายใจยาวก่อนจะก้าวไปยงรถของตนปล่อยให้ลู่หานมองตามอย่างสงสัย
ทั้งคำพูดและสิ่งที่เจอทำให้เด็กน้อยเริ่มประกอบเรื่องราวในสมอง
เขาไล่สายตามองแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างไม่สบายใจนัก
ในขณะเดียวกันจุนมยอนที่ยืนผ่อนลมหายใจอยู่พักจนสีหน้าเป็นปกติหลังจากรู้สึกฉุนที่ถูกเด็กต่อว่าต่อหน้าผู้คน
เขาหยิบมือถือขึ้นต่อสายหาใครสักคนก่อนจะกรอกเสียงลงไป
“พี่ชางมินครับ...ช่วยหาให้ผมหน่อยว่าโอเซฮุนมันสอนที่โรงเรียนไหน...ผมจะตามไปแฉมันที่นั่นแหล่ะ
หาข้อมูลเด็กแว่นที่อยู่กับมันช่วงนี้ด้วย ครับ.. ให้ไม่มีใครจ้างมันสักคน
ให้สมที่มันทำกับหลานผมไว้.. ขอบคุณครับพี่”
เขากดวางสายก่อนจะปรับลมหายใจรุนแรงให้แผ่วเบาเป็นปกติขึ้น พวกวิตถารพวกนี้มันช่างน่าขยะแขยง
พวกผิดศีลธรรมไม่ควรจะที่ยืนในสังคม แค่คุยด้วยก็น่าขยะแขยงแล้ว...
หายตัวไปซะเถอะ..โอเซฮุน..
****************************
จุ๋มใจเย็นจุ๋ม
ขอพลังหมีจงอยู่กับท่าน
#ฟิคพี่หมีฮุน
ตัวเอง...ตัวเองต้องไม่เป็นไรนะ..ตัวเองตูดตันเค้าจะอยู่ยังไง..”
ตอบลบเซฮุนยืนดราม่ากับผ้าเปียกในถัง.. เปียกไปแล้วแบบนี้เขาก็เอามาดมไม่ได้แล้วน่ะสิ
แล้วก้ต้องดรามาต่อช้ะป่ะ นี่อุตส่าหวานแล้วนะ จุนมยอนจะแฉจิงดิ่ เน่มันหายแล้วนะจิง จิ๊ง
เห้ยยยยย กัวหมีไม่ได้อยู่กะชอนชาอ่ะ อย่าแฉเรยพี่จุ๋มมมม
ตอบลบ