ทันทีที่เก๋งคันสีครีมขาวดับเครื่องลงที่บ้านหลังหนึ่ง
ชายหนุ่มก็เหลียวมองลวินท์ที่สอดส่องสายตาไปรอบๆ อย่างคิดถึง สุหฤทธิ์ก้าวขาลงเมื่อคนขับรถจากทางบ้านเปิดประตูเข้ามาให้
คนใช้ต่างเข้ามาขนข้าวของเข้าไปในบ้าน ชายหนุ่มร่างสูงผมสีทองธรรมชาติ
พาคนตัวเล็กๆขยับฝีเท้าลงจากรถพร้อมกับเด็กชายคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาหา
“พี่ชุน! สวัสดีฮะ”
“สวัสดีครับคุณแจ็ค ตัวสูงขึ้นเยอะเลยนะ”ลูบศีรษะน้องชายที่เกาะอาวตนแน่นหนึบ
พร้อมกับดวงตาใสแจ๋วหันไปมองลวินท์ที่ยืนมองตาปริบๆไม่ไกล เด็กชายแย้มริมฝีปากก่อนจะพนมมือไหว้ชายหนุ่มร่างกะทัดรัดอย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับพี่หมวย”
“จำพี่ได้ด้วย”ใบหน้าหวานขยับยิ้ม “อยู่ป.ไหนแล้วครับ?”
“เกรดห้าแล้วครับ”ลวินท์เอียงหน้าเล็กน้อยเมื่อนึกได้ว่าบ้านนี้ส่งลูกชายเรียนนานาชาติ
คุณแจ็คส่งยิ้มพร้อมกับจูงมือพี่ๆทั้งสองเข้ามาในบ้านก่อนจะพบหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งที่แม้เวลาจะผ่านไปก็ไม่อาจทำอะไรหล่อนได้
คุณนายลดายังมีผมยาวสีดำขลับ มีดเปียไพล่บ่า เรือนผมเหนือใบหูผูกด้วยดอกจำปี
ดวงตางามนั้นหันมามองคนทั้งสองก่อนจะวางพัดในมือลง
ไม่มีคำทักใดมาจากคุณนายลดาเสียนอกจากเข้ากอดลวินท์ไว้จนจมอก
พร้อมกับสองพี่น้องที่มองหน้ากันยิ้มๆเพราะรับรู้ความรู้สึกของผู้เป็นมารดามาตลอด
“นึกว่าชีวิตนี้จะไม่ได้เจอเธอเสียแล้ว”หล่อนพูดเสียงเจือเครือเล็กน้อย
พร้อมกับลวินท์ที่หลับตาแน่นอยู่พักหนึ่ง
“หากเป็นอย่างนั้นผมคงเสียดายแย่ครับ
สวัสดีครับคุณนาย...”พูดไม่ทันจบดีก็โดนตีเบาๆที่มือดวงตางามเบิกถลึงเล็กน้อยพลันเอ่ยปาก
“จนป่านนี้เรียกแม่ได้แล้วล่ะ มาถึงขั้นนี้แล้ว”
“ครับ”เสียงแผ่วเบาตอบรับก่อนจะเรียกอ้อมแอ้ม “คุณแม่”
“มาเหนื่อยๆไปพักผ่อนก่อน เดี๋ยวแม่ให้เด็กเอาน้ำใบเตยไปให้
จะให้สดชื่นขึ้น”เอ่ยกล่าวใส่เหมือนกับลืมว่าลูกชายคนโตยังยืนหัวโด่เด่
สุหฤทธิ์ขยับยิ้มพลันออกปากเนิบนาบ
“ไม่เจอลูกชายตั้งนาน จะไม่คิดถึงหน่อยเหรอครับคุณลดา”
“ฉันเบื่อหน้าเธอแล้ว”สัพยอกโดยรอยยิ้มพร้อมกับโอบสมาชิกคนใหม่ของบ้านไปโอ๋จนสองพี่น้องต้องยักไหล่มองหน้ากันยิ้มๆ
“โอเคครับ พ่อไปไหนแล้ว”เอ่ยถามมารดาที่ยังลูบผมลวินท์ซึ่งทำหน้าไม่ถูก
ซึ่งชายหนุ่มก็มองว่าน่ารักดี
“อยู่สวนหลังบ้านนั่นแหล่ะ ว่ายน้ำอยู่บ่อบัว
วันนี้คงได้ต้มกะทิสายบัวกินอีกอย่าง” ชายหนุ่มพยักหน้ารับเมื่อมารดาหันมาสำทับ “ไปพักผ่อนก่อนเถอะ
คุณแจ็คอย่าลืมเก็บตำราไปชั้นบนด้วยนะคะ”
“ครับ”สองพี่น้องรับคำพร้อมกัน และเป็นคุณแจ็คที่เดินไปเก็บหนังสือเรียนบนโต๊ะไม้หน้าบ้าน
และตัวเขาซึ่งพาคนรักขึ้นมาชั้นบน
กระเป๋าถูกจัดวางไว้หน้าห้องเพราะเดิมทีเจ้าของห้องไม่อนุญาตให้คนใช้เข้าไปโดยพลการ
“ขนเข้าไปวางก่อนก็ได้ครับ ยังไงก็แค่เอามาเก็บอยู่แล้ว
เขาพูดพลางเลือนกระเป่าเข้าไปในห้องก่อนจะล้มตัวลงนอน “เฮ้อ...เมื่อยชะมัด”
“กับข้าวที่แม่ฝากมาล่ะครับ”ลวินท์เอ่ยถามชายหนุ่มที่นอนเอกเขนกอยู่ก่อนที่เสียงทุ้มๆจะดังขึ้น
“แม่บ้านยกไปแล้วครับ มาให้นอนกอดหน่อยเร็ว”นอนชูแขนไปมาเหมือนเด็กเล็กๆทำเอาลวินท์แย้มริมฝีปาก
เขาขยับกายลงพลันนอนลงข้างๆให้โนดึงไปกอดไปหอมอัตโนมัติ
“พี่ช้ำหมดแล้วครับคุณชุน เล่นฟัดพี่เป็นแมวตะปบไหมพรมแบบนี้”เจ้าตัวว่า
“จริงสิ...ไข่ต้มล่ะ?”
“ลืมหน้าพี่แล้วมั้งครับ”แสร้งว่าพลันมองปฏิกิริยาของอีกฝ่ายที่เบะหน้าออกมาทันควัน
“ไม่นะ...”
“ล้อเล่นนะครับ ไข่ต้มจะลืมแม่มันได้ยังไง
สงสัยตามพ่อไปที่สวนนั่นแหล่ะครับ”แกล้งเสร็จก็กอดปลอบคนที่ทำหน้างอพร้อมกับลูบหลังไปมา
ลวินท์เขม่นตามองคุณชุนของตนอยู่พักก่อนจะพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี
“ไม่เจอพี่ร้องไห้แน่ๆ”
“แม่เลี้ยงมันดีจะตายครับ มาเจออาจจะจำไม่ได้แล้วก็ได้
เพราะจากแมวมันก็กลายเป็นหมีดำไปแล้ว”กล่าวว่าพลันหัวเราะในลำคอเบาๆ
ลวินท์เหลือกตาขึ้นฟ้า พร้อมกับมองใบหน้าของชายหนุ่มอีกหนหนึ่ง
“คิดถึงจังนะครับ”
เพียงแค่ประโยคสั้นๆกลับทำให้รู้สึกถึงความหมายแทบจะทั้งหมด
ดวงตาคมจดจ้องใบหน้าหวานหยดนั้นพลางขยับเข้าหอมหน้าผากอย่างบางเบา พร้อมกับเสียงของชายหนุ่มที่เอ่ยกล่าวอย่างนุ่มนวล
“ผมก็คิดถึงพี่ครับ”
“แง้ว”
ไม่ทันไร เสียงเรียกร้องที่ริมหน้าต่างก็ดังขึ้น
ชายหนุ่มเหลียวหน้าไปก็พบไข่ต้มนั่งเอาขาหน้าแปะหน้าต่างกระจกโยที่คุณลวินท์ก็ลุกขึ้นพรวดพลันดิ่งไปหาแทบจะทันที
เขาลุกขึ้นก้าวตามพลันเปิดหน้ต่างให้เจ้าแมวดำตัวอวบอ้วนเข้ามาหาเจ้าของ
“โธ่..ไข่ต้ม..เด็กน้อย ทำไมตัวย้วยแบบนี้เนี่ย”มันดมๆฟุดฟิดก่อนจะไถหัวอ้อน
ฝ่ามือใหญ่ลูบขนแผ่นหลังมันบางเบาแล้วจึงปิดหน้าต่างลง
พร้อมกับคนตัวเล็กที่อุ้มมันหมุนไปรอบๆ “ดูซิ..เป็นหมีจริงๆด้วย... คุณชุน”
“ครับ?”
“พี่เอาไข่ต้มไปเล่นบนเตียงได้มั้ย”หากเป็นคำขอคนอื่นชายหนุ่มคงตอบว่าไม่
หากนี่คือลวินท์...หรือพี่หมวยคนดีของน้องชุน ที่ขอไม่พอมีสายตามาเป็นตัวช่วยเสริม
ทำให้ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้ม
ลองไม่ให้สิ...อดนอนกอด...ไม่พอคืนนี้คงหนีไปนอนห้องอื่น...
“ไข่ต้มอยากนอนแล้ว มานอนกันครับ”เจ้าตัวส่งเสียงใสแต่อีกคนอยากจะจ้องเพดานสักห้านาที
แผนจะฟัดให้หนำใจต้องพับไปก่อน เพราะต้องกลับไปนอนแบบพ่อแม่ลูกอีกครั้ง บางครั้งเขาก็ยังคิดถึงอดีต
แต่ก็รู้ดีว่าถ้าจมกับอดีตเขาก็จะไม่มีทางอยู่กับอนาคต
จริงอยู่ที่ก่อนนี้เขาอยู่กับอดีตที่มีอีกคนอยู่ข้างๆ แต่ในเมื่อปัจจุบันนี้เขามีอีกคนข้างกาย
ดังนั้น อดีตก็เป็นความทรงจำดีๆแต่ไม่มีผลต่อจากนี้ของเขาอีกต่อไป
เขาขยับกายตะแคงตัว
ต่างคนต่างนอนมองเพดานโดยมีเจ้าไข่ต้มนอนคุดคู้คั่นกลาง เขามองลวินท์ยื่นแขนชูไปบนความว่างเปล่านั้นพร้อมกับเสียงอีกฝ่ายที่เปรยออกมาเบาๆ
“คุณชุน...ทั้งที่ระหว่างนั้นจะไปมีชีวิตใหม่ก็ได้
แต่ก็ยังรอพี่อยู่...พอคิดแบบนี้แล้วพี่คิดว่าคุณชุนดีเกินไปแล้ว...
คุณชุนดีกับพี่มากเลย”เอ่ยเบาพร้อมกับนิ้วยาวที่แตะลงปรางแก้ม
“ผมดีกับพี่เพราะผมรักพี่... ผมก็ธรรมดา
ไม่ได้ดีกับทุกคนหรอกครับ”ชายหนุ่มยิ้ม “เอาไว้พี่ได้ของจากริณแล้วจำไม่ได้
ผมไปหาก็จำไม่ได้ หรือพี่พร้อมจะมีคนอื่น ตอนนั้นผมถึงจะไป”
“...”
“ผมก็แบบนี้ของผมแหล่ะครับ”ว่าเท่านั้นพลันเอื้อมมือเข้ากุมมือเอาไว้
แล้วจึงวาดแขนโอบอีกฝ่ายเข้าหา ชายหนุ่มลูบแผ่นหลังบางสักพักก็นิ่งหลับไปโดยง่าย
ลวินท์เองพอมองเห็นอีกคนนอนหลับพักผ่อนไปแล้ว จึงได้ยอมหลับตาพักผ่อนลงไปเสียบ้าง แต่ก็ยังเกาะกุมฝ่ามือคุณชุนของตนเอาไว้ราวกับกลัวหาย
ผ่านไปสักพักร่างสูงก็รู้สึกตัวตื่น หมีดำได้โดดแผล็วหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้
มองคนตัวเล็กๆคู้กายหลับอยู่ข้างตัวจึงก้มจูบขมับเบาพร้อมกับลุกขึ้นล้างหน้าและลงไปด้านล่าง
บรรยากาศที่บ้านสาทรไม่ได้เก่าลงไปกว่าเดิมนัก
แต่ยังดูใหม่เพราะมีการต่อเติมและตกแต่งอยู่เรื่อยๆ
ซึ่งเจ้าสัวสมคิดคนเดิมก็นุ่งผ้าขาวม้าใส่เสื้อน้ำมันเครื่องไปทาสีรั้วเหล็กดัดกับพวกลูกน้อง
ถูกๆผิดๆก็เอาสนุกสนาน โดยคุณแจ็คก็ใส่ผ้าปิดปากไปร่วมด้วยช่วยกัน
เขาสาวเท้ายาวๆไปหามารดาที่รอดูคนใช้เตรียมของสดให้ปรุงก่อนจะสวมกอดเอวแล้วหอมแก้มเบาๆ
“ตาเถร! แม่ตกใจหมด นึกว่าพ่อเกือบหันไปตบแล้วเชียว”
“แม่จะตีชุนเหรอครับ”เอาหัวไถๆบ่ามารดาเหมือนยังเล็กทำเอาคุณนายลดาแย้มริมฝีปากไปพร้อมกับคนใช้ทั้งหลายที่เหลือบมอง
“หมวยยังไม่ตื่นเหรอ?”
“ให้เขานอนเถอะครับ ตื่นมาใส่บาตรกับทางบ้านตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง
ผมแอบนอนไปตอนสาย แต่เขาดูงานที่อู่เลยไม่ได้นอนอีก”
"ทางโน้นว่ายังไงบ้างล่ะ"มารดาเอ่ยถามชายหนุ่มที่แย้มริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย
“เขาว่าแล้วแต่บ้านเราครับ พวกท่านไม่ได้ว่าอะไร
ถ้ายังจะแต่งกันอยู่แล้ว ถ้าเห็นว่ามันสมควรเขาก็ตกลงครับ”ดวงตาคมชายลงเล็กน้อย “แล้วพวกลุงใหญ่...”
“ช่างเขา ไม่ใช่ญาติเรา ถือว่าเป็นแค่คนสกุลพ้อง แม่ยอมเขามาเยอะแล้ว
ชุนกับหมวยต้องทำเด็กมาเลี้ยงเป็นผู้ชาย สามคนด้วยนะ
แม่จะทำสายตระกูลแม่ใหม่เหมือนกัน สกุลพ่อ สกุลแม่ สกุลบ้านหมวยด้วย”
“อื้อหือ...ทำหนักอยู่นะครับเนี่ย”แสร้งทำหน้าเป็นใส่มารดาจนได้ฝ่ามือมาผัวะหนึ่ง
“อะไรหนัก ประเดี๋ยวเถอะ”
“หมายถึง ค่าใช้จ่ายเยอะ ต้องทำงานหนักครับ”ทำปากเป็ดใส่มารดาไปอีกหนจนคุณนายลดาต้องเบ้ปากหัวเราะ
“จริงเร้อ...หมวยตัวเล็กนิดเดียว
ไปฟัดพี่เขามากเดี๋ยวจะช้ำไปก่อนหรอก”
“ผมก็เบามือแล้วนะแม่...”
“จำได้ว่าตอนเด็กๆเราน่ะผอมกะหร่องกว่าพี่เขาอีก
ได้พ่อมาเยอะสิโตเอาโตเอา”หล่อนเบนหน้าไปมองเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังพูดถึงกำลังเดินเข้ามาทำท่าเลียบๆมองๆ
“มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่าครับ?”
“มีจ้า มาเลย เข้าครัวกันเลย เดี๋ยวจะไปอยู่ที่แคนาดานี่
อย่าให้ตาชุนโทรมาบอกอยากอาหารไทยนะ”คุณนายผละออกจากลูกชายเข้าไปดึงคนตัวเล็กๆที่หน้าเหวอเมื่อเข้าเปิดครัวกับคุณนายอีกครั้ง
ชายหนุ่มนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวยิ้มๆพร้อมกับน้ำกระเจี๊ยบแช่เย็นก็เข้ามาวางเสิร์ฟ
หลังจากที่เจ้าสัวและคุณแจ็คไปอาบน้ำเรียบร้อยดี ก็ลงมานั่งรอตามกลิ่นอาหารที่ลอยมาพร้อมกับเสียงสอนทำกับข้าวของคุณนาย
“เขาก็แสดงความรักของเขาแบบนั้นแหล่ะ
แม่เขาไม่มีลูกสาว ก็เลยจับหัด ตายไปไม่รู้จะเอาตำราไปไว้ไหน”เจ้าสัวกล่าวพร้อมกับจิบน้ำรอ
“เดี๋ยวกลับไปที่นู่น ชุนก็บอกปู่นะว่าเดี๋ยวตาแจ็คจบเกรดเก้าพ่อจะให้ไปเรียนอยู่นั่น
เราก็กลับมาพอดี บ้านนี้ต้องมีลูกอยู่อย่างน้อยคนนึงล่ะ แม่ขี้บ่นขนาดนี้ หูพ่อชา”
“คุณปู่ก็ถามอยู่เหมือนกันครับ
ตอนนั้นผมยังไม่กล้าตอบเพรากลัวน้องไม่พร้อม”เขาหันไปหาเด็กชายที่นั่งเช็ดช้อนเช็ดส้อมรอไปตามประสา
“คุณแจ็คอยากไปอยู่กับคุณปู่หรือยังครับ?”
“แล้วแต่คุณพ่อกับพี่ชุนฮะ ถ้าว่าดี ผมก็ว่าดี”
“เนี่ย มันน่ารักแบบเนี้ยะ”หันไปดึงแก้มลูกชายคนเล็กพร้อมกับลูกชายตนโตที่มองอย่างเอ็นดู
ไม่นานกับข้าวก็ถูกจัดวาง ทั้งต้มสายบัวปลาทูกลิ่นกรุ่น ปลานิลทอดน้ำปลา ผัดผักรวมที่ใช้น้ำมันน้อยๆพอขลุกขลิกแต่เข้มข้นจนแค่คลุกข้าวก็อร่อย
ตามด้วยน้ำพริกกะปิที่ตำด้วยกะปิอย่างดี ไม่ใช่กะปิโคลนกับหลนกุ้งร้อนๆจัดลงถ้วย แนมด้วยผัดสดสวนหลังบ้านกับผักต้ม
และน้ำปลาพริกสดรสจัดจ้าน แค่ซอนพริกขี้หนูหอมใส่น้ำปลาดีกับมะนาว
ปรุงรสให้กลมกล่อม เดาะชูรสสักน้อย ฝานกระเทียมใส่ไม่ต้องละเอียด
ดองน้ำปลาไว้สักพักก็สำเร็จไปได้หนึ่งมื้อ กลิ่นควันลอยขึ้นพร้อมกับข้าวหอมมะลิอย่างดีเรียงตัวสวยถูกตักแบ่งสำหรับห้าที่
“เดี๋ยวรอข้าวลืมผัวของพ่อเกี่ยวเสร็จก่อน
จะให้แม่หุงกินดู”
“กินทั้งกระสอบหญิงก็ไม่ลืมคุณพี่หรอกค่ะ
อย่าให้ลืมแล้วกัน แล้วจะอดกินกับข้าวแบบนี้ จะไล่ไปซื้อแกงถุง”คุณนายว่าพลางค้อนประหลับหระเหลือกใส่เจ้าสัวที่รีบเกาะแขนทันที
“โธ่...ใจร้ายกับพ่อจัง”
“คุณพี่ชอบหยอกหญิงแบบนี้นี่คะ”ว่าพลางหน้าบึ้งแต่ก็ยอมห่อผักราดน้ำพริกให้สามีกิน
ชายหนุ่มมองพ่อแม่ตนเองก่อนจะหันมามองพี่หมวยที่อมยิ้มตามไปด้วย
เพราะบ้านของเขาถึงจะเป็นตระกูลใหญ่ แต่เป็นครอบครัวเล็กๆไม่ต่างกับอีกฝ่ายนัก เห็นพ่อออกปากว่าพรุ่งนี้จะพาลูกน้องไปจับปลาช่อนในนาสวนผสม
เอามาทำเมี่ยงปลาก็ดี ปลานึ่งก็ดี ส่วนคุณนายก็ว่าพรุ่งนี้จะทำข้าวแช่ให้กินกัน
ทำเอาคุณแจ็คชอบอกชอบใจ แต่ดูพี่หมวยจะเหงื่อตกเพราะว่าต้องไปเป็นลูกมือทำเครื่องเคียง
หลังจากทานสัปปะรดหวานฉ่ำเป็นของหวานล้างปากก็แยกย้ายแปรงฟันนอน
คุณนายก็ไปอุ่นน้ำเต้าหู้ให้สองพ่อลูกที่ทำท่าโอดโอยไม่อยากกิน แต่เขากับคุณลวินท์ชินเสียแล้วเพราะทานตั้งแต่ทำงานที่อโศก
เขากล่าวราตรีสวัสดิ์ก่อนจะพาอีกฝ่ายกลับมาที่ห้อง
พร้อมกับพี่หมวยที่เอ่ยขึ้นมาเบาๆ
“ถ้าสองบ้านไปเที่ยวด้วยกันน่าจะสนุกนะครับ
พี่อยากให้ไปเที่วด้วยกันบ้าง”
“นั่นสินะครับ ระหว่างรอเล่มพี่
ไปเที่ยวด้วยกันก็คงดี ชวนเด็กๆบ้านพี่ไปด้วย”เขาว่า
เพราะตอนกลับไปที่บ้านพี่หมวยที่เยาวราช
เขาก็พูดคุยกับพวกเด็กช่างก็พบว่าถูกคอกันอย่างบอกไม่ถูก พวกเด็กวัยนี้กำลังมีไฟ
มีอิสระทางความคิด จะไต่ถามอะไรก็ได้คำตอบที่ไม่ต้องจริงจังกับสังคมมากนัก
เลยกลายเป็นต่างฝ่ายต่างถูกคอกันไปโดยปริยาย
“คุณชุนไปสนิทกับพวกไอ้น้องบี้แล้วเหรอครับ
ว่าแล้วเชียว”ใบหน้าหวานหยดนั้นขยับยิ้มก่อนจะกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้ “คุณชุน”
“ครับ?”
“พี่...ทำให้คุณชุนมีความสุขเหมือนก่อนหน้านี้รึเปล่าครับ?
ตรงไหนที่พี่ขาดไป บอกพี่ได้นะครับ...บางทีพี่อาจจำได้ไม่หมดมากนัก ...
กับบางเรื่องพี่ก็ยังงงๆอยู่”ริมฝีปากเล็กๆย่นยู่ และเขาก็ทำได้แค่ยิ้มให้เหมือนคนที่ฟังภาษาไม่ออก
“อันไหนจำไม่ได้ พี่ถามผมได้เลยนะครับ ผมจะอธิบายทุกอย่างให้เอง
ผมบอกพี่แล้วว่าผมจะทำให้พี่จำได้”
“...”
“ผมรักพี่...แค่เราอยู่ข้างๆกัน ขาดบ้างเกินบ้าง
แต่มันจะไม่เป็นไรครับ”เขาส่งยิ้มให้ชายที่ชื่อลวินท์ที่เลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะแย้มริมฝีปากตาม
“ครับ”
“จริงสิครับ...แม่บอกว่า ให้เรามีลูกสักสามคน
เป็นสกุลพ่อคนนึง สกุลแม่คนนึง สกุลพี่อีกคน”เข้าโน้มหน้าลงไปหาอีกฝ่ายที่มองเขาพลางเบิกตาเล็กน้อย
“ครับ?”
“สามคนเลยนะครับ...รีบทำกันเถอะ”กล่าวชวนพลันรวบร่างเล็กๆลงที่นอน
พร้อมกับคนตัวน้อยที่ยิ้มจนตาหยี
พวกเขาสองคนส่งยิ้มให้กันและเป็นตัวเขาที่เริ่มแนบริมฝีปากบดจูบลงไป รสจุมพิตตอบรับนั้นอ่อนหวาน..มากเสียจนเด็กชายสุหฤทธิ์ในวัยเด็กไม่มีทางจินตนาการออกเป็นแน่ว่าริมฝีปากของพี่หมวยผู้ให้ความคุ้มครองในวัยเยาว์จะมีจูบที่อ่อนหวาน
มีการกระทำที่ลึกซึ้ง มีหัวใจที่ไว้ใช้สำหรับความรู้สึก
มีสิ่งที่สามารถทำให้คนอย่างเขารักจนไม่สามารถเลิกได้
ทั้งที่ตัวเขาเองก็ยังประหลาดใจเพราไม่เคยคิดว่าว่าชีวิตนี้จะรักใครคนหนึ่งได้ยาวนานมากได้ขนาดนี้...
ตอนนี้สุหฤทธิ์ในวัยจวนสามสิบมีเป้าหมายใหม่...
จะเป็นบ้านของหัวใจให้กับลวินท์ไปจนกว่าลมหายใจจะหมดลง...
:D
จบสเปแล้วต้ะ
ปิดเรื่องแล้วน้า ; ^ ;
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอดคับ
เป็นฟิคง่ายๆแต่เต็มไปด้วยการเปรียบเทียบและกดดันแบบหนักหน่วง
(สังเกตว่าตอนแรกอัพแล้วหายไป เหนื่อยใจ ๕๕๕๕)
ขอบคุณอีกครั้งที่ติดตามรับชมจย้า รายละเอียดอุดหนุนออกตอนดึกๆนะก๊ะ
รัก
สุหฤทธิ์ ♥ ลวินท์
๒๕/๑๐/๒๕๕๘
แท็ก #คุณชุนพี่หมวย อย่าลืมหนาจา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น