วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หมวย (Sehun x Luhan) (10)












Title: หมวย (10)
Image: SEHUN x LUHAN
Author: RUNAWAY05
Note: ///-///..




พี่ป๋อเป็นลูกครึ่ง พ่อแกเป็นคนจีนมาทำธุรกิจในไทย และพบรักกับแม่แกที่ขายส้มตำอยู่ในร้านเล็กๆแถวห้าแยกเมืองอุดร...

นี่เป็นชีวประวัติเล็กๆที่ไอ้อี้บอกมา พี่ป๋อแกเป็นหนุ่มหน้าตาดี คิ้วเข้มหน้าตี๋ ผิวขาวรูปร่างสูงโปร่ง เก่งทั้งเรียนทั้งกีฬา เป็นขวัญใจสาวๆ (และหนุ่มๆ?) มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมอยู่อุดรธานี จนมาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยก็ยังพวกความเป็นลูกข้าวเหนียวมาอย่างเต็มเปี่ยม เราเลยนึกออกอีกรอบก็ตอนที่แกชอบนัดไอ้อี้มันไปจกลาบน้ำตกแถวๆมหาลัยบ่อยๆนั่นแหล่ะ

พี่ป๋อแกมาเรียนงานอยู่ออฟฟิศข้างๆซึ่งตรงนั้นจะเป็นพวกงานเกี่ยวกับธุรกิจออกแบบที่เจ้าสัวเป็นหุ้นส่วนหนึ่งของบริษัทก่อสร้างและขายเฟอร์นิเจอร์ชื่อดัง (ซึ่งคุณริณก็เรียนงานอยู่ตึกนั้น) บางครั้งเราก็ต้องรับสายคุณริณที่จู่ๆเอาเบอร์ตึกมาขอสายคุณชุน และคุณชุนก็ต้องเขียนใส่กระดาษว่าแกไปตรวจงาน ไปคุยธุระ ไปเข้าห้องน้ำ ให้คุณริณหมายหัวเราเล่นๆ แต่ยังดีที่คุณริณแกเชื่อว่าเรากับเจ๊จุ๋มเป็นผัวเมียกัน แกเลยไประบายกับพวกเจ๊หยองตึกโน้นว่ามันเป็นปัญหาระหว่างแฟนเก่าและเพื่อนสนิทแฟนเก่าให้เขาเอามานินทาเล่นๆ

หลังจากพี่ป๋อปรากฏตัว คุณชุนก็ไม่ค่อยให้เราออกไปไหน ถ้าไม่มีธุระจำเป็นแกก็ให้เราเฝ้าห้องไปเสียอย่างนั้น แต่ถึงอย่างนั้นพี่ป๋อแกก็ยังไม่ลดละเลิก ส่งไลน์มาคุยกับเราบ่อยๆ (แม้ว่าเราจะลากให้ไปแอดไอ้อี้มันแล้วก็ตาม) ฝากขนมมากับน้องมินแทบจะทุกวันให้คุณชุนแกหรี่ตามองถามตลอดว่าของใคร แม้จะพบว่าน้องมินหิ้วมาให้แกก็ยังไม่เลิกมองแรง จากเหตุการณ์หลายๆอย่างเราก็รู้ว่าคุณชุนเป็นคนขี้หึงพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงกับก้าวก่ายเราทุกอย่าง อย่างมากก็แค่ซักไซ้ ยิ่งมาอยู่ด้วยกัน ก็มีโอกาสพูดคุยกันบ่อยขึ้น เราก็อธิบายกับแกบ่อยๆว่าพี่ป๋อกับเราไม่มีอะไรกัน คุณชุนแกก็พูดกับเราบ่อยๆเหมือนกัน

“ผมไว้ใจพี่นะ แต่ผมไม่ไว้ใจเขา”

ยิ่งระยะนี้คุณชุนมักโดนคุณนายลดาเรียกให้ไปสอนงานคุณริณอีกตึก เราก็ต้องตามไปด้วยเพราะเป็นเลขา เรารู้สึกเหมือนถูกคุณริณกันออกมา คุณชุนจะว่าอะไรก็ไมได้มากเพราะเกรงใจแม่แก เราเลยออกมาช่วยงานเอกสารเล็กๆน้อยๆข้างนอก และมีโอกาสเจอกับพี่ป๋อบ่อยขึ้น

“เฮ้ยหมวย มาทำอะไรแถวนี้”

“เจ้านายผมมาสอนงานคุณริณข้างในน่ะครับ ผมเลยออกมาช่วยงานข้างนอกแทน”

“เอ้า เป็นงั้น นี่ๆมาดูงานแผนกพี่ก็ได้ พี่หัดอยู่ สวยมั้ย?”พี่ป๋อแกพาเรามาดูแบบแปลนที่แกวาดเตรียมไว้ เราก็ยอมรับฝีมือแกเลยว่าระดับมืออาชีพ หลังจากนั้นเมื่อมาตึกนี้ คุณริณก็กันคุณชุนไปอยู่ที่ห้องทำงาน เราเลยต้องออกมาข้างนอกและคุยเล่นกับพี่ป๋อบ่อยๆ พี่แกยังไม่มีเมีย เห็นว่าจะรับช่วงงานพ่อให้เรียบร้อยแล้วค่อยหา แกไม่ค่อยเคร่งมากนัก แกเป็นคนยิ้มเก่ง แล้วก็หัวเราะง่าย (บางเรื่องเราก็ว่ามันไม่น่าหัวเราะนะ) ระยะนี้ยิ่งหนักขึ้น คุณริณแกเกาะคุณชุนไม่ปล่อย ชอบนัดทานข้าวกลางวันกับคุณนายลดา ละไม่อนุญาตให้ขี้ข้าอย่างเราตามไป กว่าจะกลับมาก็บ่ายสอง เราก็เลยกินข้าวกับพี่ป๋อ พาแกมากินข้าวกับเจ๊จุ๋มน้องมิน เพราะพี่ป๋อแกไม่ค่อยอยากออกนอกตึกตามพวกในแผนกไปเท่าไหร่นัก แกว่าครั้งแรกที่ออกไปด้วยโดนรับน้องให้จ่ายค่าน้ำมันตั้งห้าร้อย แกเลยเข็ด

“เข้ากันได้ดีนะคะเนี่ย คราวหลังก็ไปช่วยคุณเขาที่นี่เลยก็ได้นะคะ เดี๋ยวพี่ชุนริณดูแลเอง”สรุปว่านี่คือประโยคปิดท้ายหลังจากถูกแยกมาตลอดการทำงานทั้งสัปดาห์ เรากับคุณชุนเริ่มทานข้าวเย็นโดยไม่คุยกันมากขึ้น เหมือนพวกเรามีอะไรในใจกันทั้งคู่ สำหรับเราแน่นอนก็คือเราเหนื่อยกับคุณริณที่ไม่ยอมสักที ส่วนคุณชุนก็คงจะเรื่องพี่ป๋อนั่นแหล่ะ พวกเรานั่งนิ่งๆอยู่บนรถที่ติดทอดยาวเป็นประจำเพื่อกลับบ้านในเย็นวันเสาร์ เรากะจะขอคุณชุนกลับไปนอนที่เยาวราช แต่คุณเขาก็พูดขึ้นมาก่อน

“พี่หมวย ไปชะอำกันมั้ย?”

“ครับ?”

“ไปเที่ยวกัน พี่ขับรถแข็งแล้วนี่ ไว้เปลี่ยนผมขับนะ”

“จะไปเอาเสื้อก่อนมั้ยครับ? มันด่วนมากเลยนะ”เราหันไปถามคุณชุนและแกก็ส่ายหน้าเบาเบา

“ไปหาเอาข้างหน้าครับ ป่ะ”

“โอเคครับ”เราก็ตอบรับไป ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าๆขับมาจนถึงชายหาด เราวนหาที่พักสองสามรอบก็มาเจออยู่ที่หนึ่ง ไม่มีป้ายชื่อ ห้องเล็กห้าร้อย ห้องใหญ่ไม่ติดระเบียงหกร้อย ติดระเบียงเจ็ดร้อย พวกเราเลยตัดสินใจเอาห้องติดระเบียง เสียงคลื่นดังมาก และรู้สึกว่าใกล้กว่าตอนไปพัทยามากๆ เราไม่รู้ว่าคุณชุนแกคิดอะไร นอกจากเดินตามแกไปเรื่อยๆจนจ่ายค่าห้องพักก่อนจะไปหาซื้อเสื้อกับรองเท้าแตะ ซึ่งเป็นทัวร์ไปตายเอาดาบหน้าสไตล์แก ทว่าจู่ๆคุณชุนแกก็ยืนคำขาดกับเราก่อน

“ปิดมือถือกันนะครับ”

“เอ๊ะ?”

“เรื่องงานไม่ต้องห่วง ชุนแจ้งให้มีอะไรเมลทิ้งไว้ งานด่วนก็โอนให้ริณทำไปเลยจะได้หัดเขาด้วย ชุนอยากอยู่กับพี่หมวย..อยู่แบบไม่ต้องนึกถึงคนอื่น”เราพยักหน้ารับแกไป แล้วก็ออกไปซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ชุดแปรงสีฟัน ตามด้วยอาหารทะเลกับเบียร์ของคุณชาย ตอนนี้ก็สองสามทุ่มแล้ว เราสองคนเลยกลับมากินที่ห้อง ไว้พรุ่งนี้ไปเดินชายหาด แล้วค่อยกลับห้องตอนดึกๆ

สรุปคือเราก็นั่งดื่มโค้กเคี้ยวปลาหมึกย่างดูคุณชุนดื่มเบียร์แกะกุ้งกินกันที่ระเบียง ผู้คนยังคงมากมายแม้จะเข้าสู่ช่วงมืดค่ำ พวกเราอยู่กันเงียบๆแบบนั้นจนคุณชุนแกก็เปรยขึ้นมา

“ถ้าผมอายุสามสิบแล้วพวกเรายังรักกันอยู่...ผมอยากแต่งงานกับพี่”

“ครับ?”

“พ่อบอกว่าถ้าผมสามสิบแกจะปล่อยให้รับผิดชอบชีวิตเอง...ตอนนี้ผมยี่สิบสามแล้วนะ พี่รอผมหน่อย..อีกเจ็ดปีนะ”

“พี่กลัวว่ากว่าเราจะได้แต่งกัน...คุณลดาจะจับคุณชุนไปแต่งงานก่อน พี่ก็ขึ้นคานฟรีสิ”เราว่าให้แกขำ แต่คุณเขาดูจะไม่ขำไปด้วย

“อย่าให้พูดเลยครับผมทะเลาะกับแม่มาสองสามวันแล้ว ดีขนาดนั้นทำไมไม่แต่งเองล่ะ”

“ไม่เอาน่ะคุณชุน...ไม่พูดแบบนั้น ท่านเป็นแม่คุณชุนนะ”

“เพราะคำว่าแม่นี่แหล่ะครับ ผมถึงทนมาตอนนี้”แกถอนหายใจ “สักวันแม่จะเปลี่ยนใจ...แม่จะต้องรักพี่เหมือนที่ผมรัก”

“...”พอได้ยินแบบนี้เรารู้เลยว่าก่อนหน้านี้คุณชุนต้องพูดเรื่องเรากับคุณนายลดาไปแล้วแน่นอน จะโทษคุณชุนก็ไม่ถูก เพราะแกก็คงไม่อยากให้คุณริณมีความหวังมาเกาะแกะ เราไม่ได้ถามว่าทำไมทั้งสองคนเลิกกัน แต่ดูคุณริณเป็นผู้หญิงมั่น ออกจะถือความคิดตัว ส่วนคุณชุนก็นิสัยชอบปกครอง ชอบดูแลคนอื่น เหมือนน้ำกับน้ำมัน อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ขนาดสอนงานกันเรายังได้ยินเสียงทะเลาะกันเลย

เบ็ดเสร็จพ่อคุณท่านก็ซัดเบียร์ไปครึ่งลัง เราคิดว่าเพราะปัญหาหลายๆเรื่องเลยทำให้คุณชุนอยากจะดื่มเยอะๆจะได้พักผ่อน เราเก็บกวาดซากแล้วพาแกมาที่เตียง (แม้จะโงนๆเงนๆเพราะคนละไซส์ตัว) เอาผ้าขนหนูของที่พักชุบน้ำเช็ดหน้าให้แกอยู่สักพักก่อนจะตั้งท่าจะไปอาบน้ำ

“พี่หมวย..”

“?”คุณชุนแกจับข้อมือเราไว้ เราไม่ได้ถามว่าคุณชุนเรียกเราทำไม และแกก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น คุณชุนขยับลุกขึ้นโดยที่เรากลับพลิกถดลงไปกับเตียง เรารู้ว่าคุณชุนคิดจะทำอะไร... และครั้งนี้เรายอม อาจเป็นเพราะว่าเราอยากชัดเจนกับความสัมพันธ์จะได้ไม่ต้อมาหงุดหงิดเรื่องคุณริณ และอยากให้คุณชุนรู้ว่าเราเป็นของคุณชุน... จะได้ไม่ต้องระแวงเรื่องพี่ป๋ออีก

แกจูบเราเบาๆและสั่นเทา ก่อนจะสอดลิ้นเข้าหา มันมีกลิ่นของเบียร์และรสชาติขมปนอยู่นิดๆ แต่ตัวคุณชุนร้อนไปถึงลมหายใจ ไม่รู้ว่าเราทั้งคู่จูบกันไปกี่ครั้ง แต่ก็เนิ่นนานพอที่ทำให้แกปลดประดุมชุดทำงานและถอดกางเกงของเราออก  เราแกะกระดุมถอดเสื้อให้คุณชุน แล้วก็โดนจูบที่ขมับ ไล่ลงที่ต้นคอ แกจูบย้ำๆถกเสื้อเราร่นออกเหมือนแกพยายามจะย้ำความรู้สึกกับเรา ฝ่ามืออีกข้างของแกก็ลูบเบาๆกับแผ่นหลัง ให้พูดกันก็ยอมรับว่าเราละลายไปแล้ว... ยอมสิ้นทุกสิ่งตั้งแต่แกจูบ และหลังจากนั้นคุณชุนก็ป่ายมือลงกับต้นขาเรา เกี่ยวชั้นในเราลง มันน่าอายนะ... แต่เพราะมันเป็นความสุขของคนที่เรารัก เราเลยไม่ได้มาพะวงกับเรื่องอายไม่อายอีก

“คุณชุน...”

“...”

“ร้อน”เราบอกแบบนั้นเมื่อคุณเขาจับมือเราให้ไปแตะตรงนั้นของแก แม้แสงในห้องจะสลัวแต่เราก็เห้นว่าคุณชุนแกพยายามจะมองเราทั้งที่แกก็เมาจนตาเยิ้มไปครึ่ง พวกเราทำกันเหมือนเดิม แกปลดซิปกางเกงให้เราช่วยลูบ และก็จูบสลับกับดูดไปทั่วหน้าอกเรา เสียงร้องเราแทบไม่เป็นภาษา แต่คุณชุนก็จูบริมฝีปากเราอีกครั้งหนึ่ง หัวสมองเราโล่งไปหมด ลืมเรื่องทุกคนรอบตัวจนเหลือคุณชุนคนเดียว จนเราลงไปคุกเข่าอยู่ข้างเตียงและคุณชุนก็นั่งอยู่ขอบเตียง ก็มือๆปากๆเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ คับปากคับคอไปหมดจนน้ำตาจะไหล ไม่ได้เอร็ดอร่อยอะไรเพราะมันไม่ใช่อาหาร แต่เราก็ทำ เหตุผลเหมือนเดิมว่าเพราะมันเป็นความสุขของคนที่เรารัก เราถึงทำ สุดท้ายก็ดันให้เราหยุดแล้วยกเรามาวางบนเตียง เรายังจำสัมผัสได้ดีที่แกเบียดตัวเราอยู่บนเตียง เสียงกระซิบของคุณชุนนั้นหวาน...ทั้งหวานทั้งเว้าวอน

“พี่หมวย..ชุนขอได้มั้ย?”

“...”

“ให้ชุนนะ”แกรำพึงและจูบลงที่เปลือกตาเราเบาเบา เราไมได้ตอบอะไรนอกจากกอดแกเอาไว้ ก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรเปียกๆลื่นๆถูลงตรงนั้น เราผ่อนลมหายใจช้าๆเมื่อรู้สึกว่านิ้วแกดันๆเข้ามา แกทั้งจูบปลอบ ทั้งซุกซอกคอเรา ทั้งประโลมว่าอย่าเกร็ง จนรู้สึกเจ็บตึงๆเหมือนเข้ามาอีกนิ้วนั่นแหล่ะ เราร้องไห้เลย น้ำตาเราไหลไม่หยุดเพราะมันเจ็บ เรากอดคุณชุนร้องไห้ แกถามเราว่าให้หยุดก่อนไหม...ตอนนั้นเรากลับส่ายหน้า เราพยายามถอนลมหายใจจนรู้สึกว่าแกเอามือออก และขาเราก็ถูกดันแยก พร้อมกับบางสิ่งร้อนๆที่ถูไถไปกับตรงนั้น เราพูดไม่ออก...มันเจ็บมากๆ เราร้องไห้แล้วร้องไห้อีก ถึงกับบอกให้เอาออก เราไม่ไหว มันแสบมันร้อนไปหมด เรารู้สึกเลยว่าเลือดต้องออกแน่ๆ ไม่เห็นจะเหมือนท้องเสียแบบที่ไอ้อี้มันว่าเสียหน่อย เหมือนกำลังจะโดนฆ่าอย่างไรก็ไม่รู้

เราหลับตาแน่น..ไม่อยากรับรู้อะไรที่จะเกิดจากนี้อีก จนรู้สึกว่าคุณชุนขยับตัวเข้าหาเราช้าๆเป็นจังหวะมากขึ้น เราลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าคุณชุนโน้มตัวลงมา ตอนนั้นถึงได้เห็นว่าขาเราค้างอยู่บ่าแกได้น่าอายเหลือเกิน เราเม้มปากแน่น แกก็ไล่จูบจนเราหลุดร้อง จากที่จุกๆเจ็บ ก็รู้สึกมวนๆหวิวๆช่องท้อง เรากอดคุณชุนแน่น ความรู้สึกสะท้านสะเทิ้นนี่เราก็นิยามไม่ถูก เอาเป็นว่ามันช่างน่าอาย แต่ก็หวามไหวไปในคราเดียวกัน เราร่ำร้องออกมาเป็นภาษาอะไรก็จำไม่ได้ สักพักเราก็รู้สึกเหมือนปวดฉี่อีกแล้ว คุณชุนบอกให้เราเอาออกมา เราก็เชื่อแกพร้อมกับความรู้สึกร้อนวาบมันไหลเข้ามาในตัว เราหอบแฮ่ก ปวดต้นขาด้านในขึ้นมา มันเมื่อยมันล้าจนพูดไม่ถูก เราปรือตามองเพดานนิ่งๆไม่พูดอะไร จนรู้สึกว่าถูกคุณชุนจูบเข้าขมับอีกครั้งหนึ่ง

“ขอบคุณนะครับ”

“...”

“พี่ไหวมั้ย?”แกเพิ่งมาถามเราทั้งที่ตอนทำแกไม่ได้ฟังเลยว่าเราบอกอะไรไปบ้าง แต่ด้วยความที่ว่าแกคงจะเมาๆและเราก็รัก เราเลยมอบความจริงใจให้ด้วยการส่ายหน้าดิก

“อาบน้ำนะ”คุณชุนหัวเราะเบาๆแบกเราขึ้นไปห้องน้ำ แต่มันเหมือนเราไม่มีขายืนแทบไม่อยู่ อาบน้ำเสร็จเราก็นอนนิ่งๆไม่ใส่เสื้อผ้าให้คุณชุนแกกอดแกหอมอยู่อย่างนั้น เราจำได้อย่างเดียวว่าแกอย่างแต่งงานกับเรา แกอยากไปจดทะเบียนที่เมืองนอก รับเด็กมาเลี้ยงหรือไม่ก็อุ้มบุญเด็ก เป็นครอบครัวอยู่ด้วยกัน แกบอกแกรักเรามาก แกรักของแกมานาน เป็นรักครั้งแรกของแก เราก็ฟังบ้างไมได้ฟังบ้างเพราะเพลีย คุณชุนคงเห็นเราจวนจะเหลับถึงได้จูบกับข้างแก้มของเราอีกครั้งแล้วแกก็เงียบไปเหลือแต่เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ เราถึงยอมหลับตาตามไปในที่สุด



กว่าเราจะตื่นก็จวนบ่าย เราเห็นคุณชุนแกเปลี่ยนชุดเรียบร้อย แต่เรานี่สิรู้สึกว่ามันระบม... เจ๊จุ๋มแกพูดไว้ไม่มีผิดจริงๆ เพราะถ้านี่ไม่ใช่วันหยุดเราก็คงไปทำงานไม่ได้ คุณชุนเข้ามาเช็ดตัวให้ เอาเสื้อผ้าให้ใส่แล้วก็ดึงผ้าปูส่งซักไป ข้าวที่แกสั่งก็มาส่ง แกก็แกะข้าวแกะยาป้อนเรายิ่งกว่าพ่อดูแลเราตอนไม่สบายอีก

“คุณชุน..พี่กินเองได้นะ”เราว่าเมื่อคุณชุนแกตั้งหน้าตั้งตาจะป้อนปลาหมึกผัดไข่เค็มให้เรา

“พี่หมวยเป็นเมียผมแล้วนะ แค่นี้ทำไมจะดูแลให้ไม่ได้ล่ะ”

“พี่เป็นผู้ชายนะครับ”

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะครับ”เมื่อคุณชุนร่างทรงพ่อว่ามาแบบนั้น เราก็สงบปากสงบคำกินข้าวกินยาและนอนพักอีกนิด คุณชุนก็นอนเกาะนอนเกยเป็นแมวอยู่ข้างๆ จนเราตื่นอีกทีก็ช่วงบ่ายคล้อย ไม่ค่อยเจ็บมากแล้ว เริ่มซ่าเดินไปไหนมาไหนได้ ก็เลยพากันลงมาแถวๆชายหาด แต่ไม่มีใครคิดจะเล่นน้ำทะเลกัน

“พี่หมวย”

“ครับ?”เราหันไปก็เจอคุณชุนแกชูมือถือใส่ แกเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆโดยที่เราก็ย้อนถามแก

“ไหนว่าปิดเครื่องไงครับ”

“เปิดโหมดเครื่องบินไว้ครับ วิวสวยๆแบบนี้ไม่ถ่ายเสียดายแย่เลย”แกว่าแล้วเราก็เห็นด้วย จนเราสองคนนั่งอยู่ตรงชายหาดเมื่อแดดร่มลมตก คุณชุนก็จับมือเราไว้พร้อมกับบีบเบาๆ

“พี่...ชุนพูดจริงๆนะ เมื่อคืน”

“ครับ?”

“ที่ว่าจะแต่งงาน...ชุนอยากทำจริงๆ ตอนนี้ชุนอาจจะเด็กมาก แต่หลายๆปีข้างหน้า ชุนเชื่อว่าชุนจะโตพอที่จะดูแลพี่ได้”

เรายิ้มจางๆไปให้แก...

“ผมจะไม่คิดเรื่องคนอื่น ทั้งริณ หรือรุ่นพี่ของพี่... ผมจะเชื่อพี่ ผมจะเชื่อเรา..พี่จะเชื่อเหมือนผมมั้ยครับ?”

“พี่จะเชื่อพวกเราครับ”เราตอบรับและบีบมือแกกลับไป ลมทะเลทั้งเหนียวทั้งเค็ม แต่เรากลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แม้จะมีปัญหารออยู่หลายข้อ แต่เพียงแค่เราสองคนจับมือกัน เพียงแค่รอยยิ้มของคุณชุน สายตา และคำพูดของแก มันทำให้เรารู้สึกเหมือนยืนบนดาดฟ้าชั้นที่แปดสิบ สมองหลั่งอะดรีนาลีนพร้อมกับบังคับเส้นประสาทให้ถอยหลังและบอกเราว่าถ้าโดดลงไปเราตายแน่ๆ แต่หัวใจที่ทำงานเป็นจังหวะถี่กว่าเดิมเล็กน้อยกลับพูดกับเราว่ารออะไรอยู่ โดดไปเถอะ ต่อให้ต้องกระแทกพื้นตายเราก็จะได้สัมผัสลมที่พัดผ่านตัวโดยที่บางคนไม่มีทางได้สัมผัสแบบนี้... ความรักทำให้เรากล้าหาญที่จะไปรบแม้จะรู้ว่ารบแล้วต้องตายอย่างไรอย่างไรอย่างนั้น


เราแค่รู้สึกว่า...หากการที่เรารักผู้ชายคนนี้คือเรื่องผิดพลาด...เราก็ไม่อยากได้ความถูกต้องที่ไหนอีกแล้ว...



:D

แท็ก #คุณชุนพี่หมวย จ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น