วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หมวย (Sehun x Luhan) (9)











Title: หมวย (9)
Image: SEHUN x LUHAN
Author: RUNAWAY05
Note: ไม่เกี่ยวกับแทค..





แมวตัวแรกในชีวิตของเราชื่อว่าต้นหอม...

มันเป็นแมววิเชียรมาศตัวเมียหน้าจิกๆหน่อย เราจำได้ว่าครั้งแรกที่เจอมันนั้นคุณชุนแกไปเก็บมาจากข้างออฟฟิศในวันที่ฝนพรำ ขามันหักเสียด้วย โชคยังดีที่บ้านคุณเชนทร์แกเป็นคลินิกสัตว์เลี้ยง เลยเอามันไปรักษาจนหายดี ทว่าปัญหาคือคอนโดคุณชุนไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ เราเลยอาสาเลี้ยงมันไว้ที่นี่ แค่เก็บข้าวของไม่ให้มันไปซนก็พอ สรุปคือยืดระยะเวลาไปอยู่กับคุณชุนได้ระยะหนึ่ง

ต้นหอมวันแรกที่เข้ามาอยู่ในห้องเรา มันมองเราจิกยิ่งกว่าคุณริณเสียอีก ดูเหมือนมันจะไม่ชอบเรานักและนิยมคลอเคลียผู้ชาย (คุณชุน) เสียมากกว่า ซึ่งพ่อคุณก็ควักเงินซื้ออาหารให้ต้นหอม ทั้งที่นอน ถาดห้องน้ำห้องท่า ยาวิตามิน หมดไปเป็นพันๆจนแกต้องมานั่งกินข้าวกับกานาฉ่ายกับเราเพราะไม่มีเงินสดติดตัว แกขี้เกียจไปกดตู้ ซึ่งหลังจากสอดโน้ตไปที่ห้องไอ้น้องหล่อ เราก็ได้ขนมเค้กและโน้ตขอโทษกลับมา จากนั้นไอ้น้องหล่อก็มักจัดข้างนอก คืนนั้นเลยเป็นคืนที่ดีเพราะนอนด้วยกันสามพ่อลูก เรานอนชิดผนัง คุณชุนนอนอีกฝั่งโดยมีนังต้นหอมนอนพาดหัวพวกเราสองคน

นังต้นหอมเป็นแมวจรที่ฉลาด ต่อให้ปกติมันจะจิกหน้าใส่ ถ้าหิวเมื่อไหร่มันก็มาเดินมาถูๆไถๆขา ส่งเสียงร้องเหมียวๆหง่าวๆไปตามมารยาสาไถย พออิ่มก็สะบัดก้นหนีไปนอนบนเก้าอี้ มันเป็นแมวหัวสูง พื้นไม่ชอบนอน วันไหนคุณชุนไม่มานอนที่หอเรา (นั่งต่อกันพลาอยู่คอนโด) พื้นที่ข้างเราคือที่ของนังต้นหอม ทำเอาที่นอนแมวสีชมพูที่คุณชุนซื้อให้แทบไม่มีความหมาย

ส่วนเจ๊จุ๋มและน้องมินซึ่งเป็นทาสแมวตัวยงพอรู้เรื่องก็คอยให้คำปรึกษาเรื่องแมวเต็มที่ แต่ที่บ้านน้องมินเลี้ยงแมวไม่ได้ น้องว่าคุณพ่อเป็นหอบหืด ส่วนเจ๊จุ๋มก็อยากเลี้ยง แต่ติดปัญหาเจ้าของห้องพักไม่ให้เลี้ยงสัตว์อีกเช่นกัน เราเลยไม่แปลกใจที่สองสาวจะมีงานอดิเรกประจำวันอาทิตย์คือไปนั่งเอาใจแมวอ้วนๆที่คาเฟ่แมว เราเคยไปอยู่ครั้ง ร้านแคทเธอเดย์แถวราชเทวี มีแมวอ้วนๆขนปุยๆเป็นร้านคาเฟ่ เราไปเพราะวันนั้นคุณชุนแกไปคุยธุระฝั่งตรงข้ามฟากถนน เลยปล่อยเรามานั่งเป็นทาสแมวที่นอนอืดกันเต็มร้าน (เขาก็คงเหนื่อยละมั้ง แมวก็เหมือนคนล่ะ) ส่วนตัวแล้วเราชอบพวกแมวจรที่เดินเพ่นพ่านนอกร้านเสียมากกว่า แมวพวกนี้มันเลือกเกิดไม่ได้ หากมันเลือกได้ มันก็อยากเป็นแมวสวยๆอยู่ในร้านคาเฟ่เหมือนกัน

“ต้องกินยาถ่ายพยาธิด้วยนะพี่ เม็ดละยี่สิบห้ามั้ง แต่หอพี่ไม่อับเนอะ เปิดพัดลมหรือไฟเหลืองก็ได้ ระวังพวกยุงนะคะ มันพาหะพยาธิหัวใจแมวด้วย”

“ถ้าแมวมันไม่อยากอาหาร เอาขนมแมวหลอดๆไปล่อให้มันกินก่อน หลังๆค่อยเอาคลุกพวกข้าวปลาทูอะไรก็คลุกไป แมวจร มันไม่กินหรูหรอก”

“คุณชุนซื้ออาหารแมวมาเป็นกระป๋องเลยครับเจ๊”

“อาหารแมวมันแพงนะแก เก็บเงินไว้ซื้อพวกทรายแมวก็พอ เดี๋ยวฉันจดวิธีทำให้ ไม่แพงด้วย”เจ๊จุ๋มพอรู้เรื่องอาหารแกก็แนะนำมา เราได้สูตรมาจากเจ๊จุ๋มที่เคยทำสมัยแกยังเป็นสาวสวยดาวมหาลัยเชียงใหม่ หลังเลิกงานเราเลยแวะตลาดโดยมีคุณชุนเดินไปทำหน้าที่เด็กหิ้วของ เมื่อแกรู้สูตรอาหารก็ทักเราขึ้นมาสีหน้าสงสัย

“มันกินได้เหรอพี่หมวย”

“เจ๊จุ๋มว่ามาแบบนี้น่ะครับ เดี่ยวลองทำดู จะได้ประหยัดเงินคุณชุนไว้ซื้อกันพลาตัวใหม่ไง”เราว่าและดูคุณชุนจะเห็นด้วย เราก็เพิ่งรู้ว่าแกชอบต่อหุ่นกันพลาก็ตอนไปคอนโดแกครั้งแรก แกใส่ในตู้โชว์ มีเป็นคอลเลคชั่นซีรี่ส์ ตัวหนึ่งนี่เผลอทำหักทีมีไตสิบข้างก็ไม่พอ

“แล้วเย็นนี้เรากินอะไรกันดี”

“ข้าวหน้าไก่แล้วกันนะครับ กินกับแมว”เราว่าแล้วคุณชุนแกก็เบ้ปากยิ้มๆกลับมา เราเริ่มรู้สึกถึงความเป็นศรีภรรยาที่น่ารักขึ้นมาแล้วแฮะ จะให้พูดตรงๆก็พูดตรงๆว่าหลังจากที่มือๆปากๆกันบ่อยๆเราดูสนิทกันมากขึ้น และคุณชุนก็ดูหวงเรามากขึ้นเช่นกัน นี่ยังนึกไม่ออกถ้าไปขั้นสุดซอยแกจะเป็นยังไง...

สรุปได้เนื้อไก่กับผักแถมด้วยปอเปี๊ยะสด (ที่คุณชุนบอกว่าที่ไปกินบ้านเราอร่อยกว่า) กลับมาทำกับข้าวให้นังต้นหอม แต่พอมาถึงก็พบว่าไอ้น้องหล่อไม่รู้ว่าแมวใคร เลยซื้ออาหารแมวซองละสิบกว่าบาทให้ นางถึงได้ฤกษ์กลับมาหาคุณชุนหลังจากไปนอนห้องผู้ชายข้างห้องเรามา เมื่อวางของที่ซื้อมาจากตลาดดื่มน้ำเย็นกันคนละอึก ปฏิบัติทำอาหารแมวก็เริ่มขึ้น

เราจัดการต้มเนื้อไก่จนสุก เอาถุงมือพลาสติกให้คุณชุนใส่ ช่วยกันฉีกเนื้อไก่อยู่หน้าทีวีโดยมีนังต้นหอมนอนเคลียต้นขาคุณชายแกอยู่ข้างๆ เสร็จแล้วก็เอาไปต้มกับน้ำต้มไก่ใหม่ เราแยกน้ำต้มไก่ไว้ส่วนหนึ่งทำกับข้าวคน เราต้มไปเรื่อยๆพร้อมกับข้าวหน้าไก่ที่เสร็จและข้าวที่หุงไว้ก็สุกพอดี ใส่เจลลาตินแช่น้ำลงไป เจ๊จุ๋มบอกว่าเจลาตินมันจะช่วยเก็บสารอาหาร ไม่ให้เสียง่ายด้วย เรารอจนมันเย็นลงหน่อยก็เติมชีสนมแพะหยอดไปหน้าถ้วย แล้วก็นั่งมองคนและมองที่นั่งกินไก่อย่างมีความสุข แม้จะมีเสียงรีมิกซ์ตู้มๆจากห้องเยื้องซ้ายลั่นมาก็ตาม

“พี่หมวย...”

“ครับ?”

“พี่โอเครึยังครับ”นั่น..หลังจากอาบน้ำเตรียมนอนพร้อมกับห้องตรงข้ามด่ากันเสร็จแกก็สะกิดเราอีก เราก็เลยแซวแกไปเบาๆ

“เสียงดังนะครับ”

“ทำเหมือนเดิมก็ได้ครับ”

“เมี้ยว”ไม่ทันจะได้ตกลงอะไรกันต่อ นังต้นหอมก็นอนพาดกลางเราสองคน ประกาศสงครามเป็นแมวอวดผัวไปอีก แต่เราว่าคุณชุนจะไม่ค่อยรักมันก็เพราะแบบนี้แหล่ะ...

เราจะไม่บอกว่านังต้นหอมเป็นแมวที่ดี เราไม่รู้ว่าแมวที่ดีเป็นยังไง แต่เรารู้ว่ามันน่ารัก มันชอบเดินนวด เวลาเราหรือคุณชุนนอนคว่ำ มันจะขึ้นมาเดินเหยียบๆ ถุงพลาสติกถ้าเราลืมเก็บแล้วปลิวไปกลางห้องมันก็จะคาบมายัดใส่มุมถังขยะให้ มันชอบนั่งบนเก้าอี้เหม่อมองไปข้างนอก นังต้นหอมกลัวฟ้าร้อง ฟ้าลั่นมาทีขนนี่ตั้งชัน ซุกเข้าผ้าห่มเราแทบไม่ทัน แต่มันกลับไม่กลัวเสียงเบสห้องเยื้องซ้าย ไปเดินส่องๆดูด้วยซ้ำแล้วก็ทำหน้าเหมือนมันทำบ้าอะไรกัน..ประมาณนี้...

ต้นหอมเป็นขวัญใจเจ๊จุ๋มและน้องมิน ที่มักจะรบเร้าให้เราถ่ายรูปไปให้ดูบ่อยๆ เราเองก็เริ่มจะรักมันเหมือนกัน แม้จะลำบากตอนเอาลูกกลิ้งมาขัดขนมันออก แต่นอกนั้นต้นหอมมันก็ไม่เคยทำอะไรให้เดือดร้อน มันรู้ความ วันไหนเราหงุดหงิดมันจะไม่เข้ามาใกล้ มันจะไปแอบอยู่หลังคุณชุน วันไหนคุณชุนหงุดหงิดมันก็จะมานอนตักเรา (หนักหน่อยก็ปีนขึ้นหัว) แต่แผลข่วนมันนี่ให้นับคงถี่พอๆกับเส้นขน ทั้งเราและคุณชุนโดนมันชูกรงเล็บใส่ให้ได้แผลกันทั้งคู่ เคยมีนะ ที่เราโมโหคุณชุนเพราะแกงอนเรา เราแบตหมดไม่ได้รับสายแก จนแกขับรถมางอนใส่ถึงห้อง ง้อยังไงก็ไม่หายงอน ต่างคนต่างงอนจนลืมเอาไก่ต้มให้ต้นหอมมันกิน สรุปแมวอาละวาดแจกไปคนละแผลสองแผล ต้องมาใส่ยาให้กัน คืนดีกันโดนปริยาย

ต้นหอมอยู่กับเรามาสี่เดือนกว่าๆ วันที่เราเสียใจที่สุดก็เข้ามา... วันนั้นเรากับคุณชุนประชุมจนดึก เลยตกลงกันว่าจะนอนที่หอเรา แต่พอกลับมาที่ห้องก็เจอน้องดาวมหาลัยกำลังวิ่งออกมาจากห้อง เราใจหายวูบเมื่อเห็นน้องหล่อกำลังประคองต้นหอมที่นอนหายใจพะงาบๆ โดยมีลุงป้าที่แต่งชุดสีแสดปูหนังสือพิมพ์ให้

“พี่ๆ แมวพี่โดนยาเบื่ออะครับ”

“ต้นหอม!”เราอุทานลั่นจะเข้าไปดูมัน แต่คุณชุนก็จับไว้ให้น้องผู้หญิงเอานมกรอกให้มันอาเจียน เราได้ยินคุณชุนโทรหาคุณเชนทร์ และหัวเราก็หมุนไปหมด ต้นหอมมันไม่เคยดื้อ ไม่เคยทำร้ายใคร ทำไมต้องหยิบยื่นความตายให้มันด้วย...

“ป้าได้ยินว่ามีร้านนึงเขาเอาอาหารใส่ยาให้พวกแมวจรกิน เจ้าของร้านไม่ชอบแมว ไม่รู้ว่าใช่รึเปล่านะ”

“ลุงว่าถ้ามันไม่แหวะก็เอาไข่ดิบน่ะกรอก ตอนเด็กๆลุงเคยเห็น”ลุงพูดไม่ทันจบเราก็ได้ยินเสียงพี่แม่บ้านห้องตรงข้ามส่งเสียงมา

“จะเอามั้ยล่ะ! ฉันมีอยู่ฟอง ให้แมวดีกว่าให้ผัว!

“ขอทางหน่อยครับๆ”ไม่นานคุณเชนทร์ก็มากับพี่สาว มาช่วยกันดูแลนังต้นหอม สีหน้าของทุกคนตอนนี้ไม่ดีนัก ต้นหอมถูกปฐมพยาบาลไปนิดเดียว พี่สาวคุณเชนทร์ก็ส่ายหน้า น้องผู้หญิงข้างห้องก็เดินร้องไห้กลับห้องไปเลยทีเดียว น้องหล่อก็พยักหน้าซึมๆกลับไปที่ห้องเช่นกัน พร้อมกับลุงป้าที่บอกกับเราว่าจะสวดมนต์เผื่อให้ พี่สาวคุณเชนทร์บอกว่ามันโดนพิษมานานมาก น่าจะเดินซมกลับมาที่ห้อง เราเลยได้แต่ปูที่นอนของต้นหอมให้มันนอนหลังจากที่มันไม่แตะต้องเลย มันนอนนิ่งๆหายใจครืดคราดอยู่กลางห้อง เราไม่อาบน้ำ ไม่ทำอะไรสักอย่าง จนคุณชุนเรียกให้เราไปอาบน้ำ แกจะเฝ้าต้นหอมให้เอง เรานั่งเฝ้ามันจนถึงสี่ทุ่ม เราลูบขนมัน คิดถึงตอนที่มันทำหน้าจิกใส่ ตอนมันสะบัดก้นใส่ มันเดินมาถูขา มันมานอนเบียด มันนอนเฝ้าตอนเราทะเลาะกับคุณชุน เราพยายามจะไม่ร้องไห้ เราส่งยิ้มให้มันจนวินาทีสุดท้าย




สัญญาจะไม่ทะเลาะกันให้โดนข่วนแล้ว...ไม่ต้องห่วงนะ
ทันทีที่เสียงครืดคราดของมันหยุดลง..เราก็กอดคุณชุนร้องไห้จนเกือบเช้า...





หลังจากที่นังต้นหอมตายไป เราก็เอาศพมันไปทำพิธีโดยพี่สาวคุณเชนทร์เป็นธุระให้ เราเก็บข้าวของของต้นหอมใส่กล่องไว้หลังตู้ และเราก็เก็บของย้ายไปอยู่คอนโดคุณชุนในที่สุด แต่เรายังเช่าห้องไว้และเพื่อนบ้านรอบห้องเราก็เข้าใจดี เรายอมรับว่าถ้าเรายังอยู่ทีหอเราต้องคิดถึงต้นหอมจนทำอะไรไม่ได้ กับสิ่งที่เข้ามาในชีวิต มันจะสำคัญกับเราก็ต่อเมื่อเราเสียมันไป เราคิดว่าประโยคนี้ใช้กับต้นหอมได้ดีอยู่

“ยังร้องไห้อีกเหรอครับ”คุณชุนแกทักหลังจากเราเอาเสื้อมาแขวนไว้เรียบร้อย เราได้แต่หลับตาตอนที่คุณเขาโอบกอดเราไว้อย่างนุ่มนวลราวปลอบประโลม

“มันอดคิดถึงไม่ได้น่ะครับ”

“ไว้เราแต่งกันเมื่อไหร่ ก็ทำอุ้มบุญเด็กมาเลี้ยงสิครับ เพื่อนผมที่เมืองนอกทำมาแล้วสองคน วุ่นกว่าเลี้ยงแมวแน่”แกว่าพร้อมกับกอดเราแน่นๆมาทีหนึ่ง “ผมก็คิดถึงต้นหอมเหมือนกัน มันหมดบุญกับเราแล้ว มันไปสบายแล้ว เหลือแต่พวกเราที่ยังอยู่นะ อย่าเศร้าเลยครับ”

“ครับ”เราตอบรับ..ยังไงเสียมุมมองที่ดีของคุณชุนก็พาเราออกจากความรู้สึกเศร้าๆได้เสมอ เราหันไปกอดแกพร้อมกับได้ยินแกกระซิบเบาๆ

“อย่างนี้ต้องรีบทำลูกกันนะครับ”

“...”

ชะรอยน้องติ๋มเทอร์โบคงหายไปแล้ว...เหลือแต่นายสุหฤทธิ์หน้าใสใจหื่นนี่แหล่ะ...





หลังจากเราย้ายมาอยู่คอนโดคุณชุน สภาพแวดล้อมต่างๆก็เปลี่ยนแปรไปมาก เซเว่นปากซอยก็เป็นเซเว่นใต้คอนโด จะกินอะไรก็โทรสั่งมาส่งได้ จากหอเดิมเดินบันไดขึ้นลง มาที่นี่ก็เป็นลิฟต์เพราะเป็นคอนโดสามสิบชั้น ทั้งชั้นเงียบสงบ ต่างคนต่างมีโลกส่วนตัวจนเราเริ่มขึ้นถึงแก๊งมลพิษรอบห้องขึ้นมาเหมือนกัน เราตื่นมาหกโมง ชงกาแฟให้คุณชุน อาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ออกมาทำงาน ตกเย็นก็แวะร้านข้าว ซื้อบะหมี่ไว้กินมื้อดึกง่ายๆ บางคืนก็นั่งกอดหมอนดูคุณชายต่อกันพลาแล้วก็นอนกัน หลังๆนี่งานเยอะ ออเดอร์ใหม่เข้ามามาก ทำงานเหนื่อยกันทั้งคู่ หัวถึงหมอนก็หลับคาชุดทำงานก็มี

“พี่หมวยๆ มีชิปปิ้งมาดีลงานที่ออฟฟิศวันนี้ เตรียมกาแฟกับขนมให้ชุนสิบชุดนะครับ”

“ได้ครับ”

“เอกสารที่ชุนฝากไว้เมื่อวานครบรึยังครับ”

“นี่ครับ”

“ชุนเอาแว่นไว้ไหนนะ”

“ใต้เก๊ะชั้นสองครับ”

“โอเคครับ น่ารัก”แกจูบขมับเราเบาๆแล้วถือเอกสารออกไปทำงาน ปล่อยให้เรายืนนิ่งๆมองพวกเด็กฝึกงานที่มาเกาะประตูก่อนจะรีบหันหน้าไปทางอื่น ความประเจิดประเจ้อคุณชายยังคงเส้นคงวาไม่มีเปลี่ยน จนแขกไปครบที่ห้องประชุม เราก็เช็คของว่างที่เจ๊จุ๋มก็สั่งน้องมินกับเด็กฝึกงานให้มาช่วยเสิร์ฟเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้าไปในห้อง แต่ก็เจอผู้ชายคนหนึ่งยื่นหน้าเข้ามาให้ห้องเตรียมเสียก่อน

“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามีชารึเปล่าครับ?”

“ครับ?”เราเลิกคิ้วพร้อมกับเขาที่พูดยิ้มๆ

“พอดีประธานผมดื่มกาแฟไม่ได้ครับ ถ้าไม่ได้ก็ขอเป็นน้ำเปล่าแทน”เรานึกถึงชาผลไม้ที่ไอ้อี้มันส่งมาให้จากดอยแล้วเราเก็บไว้ที่โต๊ะทำงาน ก็เลยถามเขาไปเบาๆ

“อ่า..เป็นชาเบอรี่ได้มั้ยครับ?”

“ได้ครับ ขอบคุณมากครับ”เขาว่าแล้วก็ไปปล่อยให้เด็กสาวๆที่กรี๊ดกร๊าดตามหลังกันไม่หยุด เราก็ผู้ชายไม่เห็นจะกรี๊ดกัน..พอตระเตรียมของกันเรียบร้อยเราก็ไปร่วมประชุมจัดเอกสารเรียงชุดคอยแจกคอยถือ เราไม่รู้ว่าคนที่มาขอน้ำชาเขาเป็นใคร แต่เขานั่งร่วมโต๊ะแล้วก็มองเราบ่อยเสียเหลือเกิน

เราก็ว่าหน้าคุ้นๆอยู่นะ...

“ขอถามหน่อยนะครับ”เขาคนนั้นเดินมาทักเราอีกครั้งหลังจากที่ผู้คนเริ่มลุกขึ้นตามคุณชุนออกไปดูการทำงานภายนอกกับพวกพี่หยองอีกแผนก เรามองเขาอย่างงุนงงก็พยักหน้ารับไปเบาๆ “ใช่ลวินท์รหัสxx ไหม”

“ครับ”เราตอบรับไปเท่านั้นก็โดนขยี้กลางศีรษะอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ไอ้หมวย พี่ป๋อนะเว้ย..จำพี่ไม่ได้จริงๆเหรอวะ”

“พี่ป๋อ?”

“เออ พี่เอง”เราเริ่มนึกถึงพี่แกทีละน้อย สุดท้ายเลยจำได้ว่าพี่แกเป็นพี่รหัสของไอ้อี้มัน หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวของคณะที่เราไม่น่าลืม (แต่ก็เผลอลืมไปแล้ว...) แกกอดคอเราพร้อมกับขยี้หัวเราต่ออีกหลายยก “มาทำงานเลขาอยู่นี่เหรอ เรียนสถาปัตย์มาเนี่ยนะ”

“พี่ ไม่ทำผมก็ไม่มีกินอะ พี่ละครับทำอยู่บริษัทนี้เหรอ?”

“ใช่ๆ พี่มาทำงานอยู่นี่ ขี้ข้าเงินเดือนเหมือนกัน มีไลน์ไอ้น้องอี้มั้ย? คิดถึงมันเหมือนกันแฮะ”

“ผมไม่รู้ครับ..พอดีผมแอดเบอร์โทรศัพท์..เอาไงดี”เราตอบไปตามตรงแล้วแกก็สรุปให้

“งั้นเอาไลน์เรามาแล้วกัน แล้วลากพี่หาไอ้อี้นะ”

“อ๋อ ครับๆ”เรากำลังมึนๆก็เลยเออๆออๆให้คิวอาร์โค้ดพี่ป๋อแกไป ก่อนจะล่ำลากันจนเรียบร้อย เราหอบเอกสารพร้อมกับเดินหลบคุณชุนที่เดินจ้องเรามาติดๆ

“สนิทกันไวจังนะครับ”

“เอ้ย...พี่คนนี้เขาเป็นพี่รหัสของเพื่อนพี่ครับ แค่รู้จักกัน”

“...”คุณชุนเดินมามองหน้าเราก่อนจะมองออกไปนอกห้อง “ลูกชายประธานน่ะเหรอครับ”

“ลูกชายประธาน?!

“ใช่ครับ เห็นว่าติดต่อคุณพ่อจะเข้ามาศึกษาพวกงานออกแบบอยู่ออฟฟิศข้างๆ...มองพี่ตาเป็นมันอยู่ในห้องประชุม คิดว่าผมไม่เห็นสินะ”

“พี่ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ไม่โมโหสิครับ”เราขยำแก้มแกเล่นพร้อมกับคุณชุนที่โน้มหน้าเข้ามาหา

“ทำยังไงก่อน”

“ออฟฟิศนะครับ...”

“แล้วไงครับ...ทำไงก่อน”เราเหลือกตาขึ้นฟ้าไปหนเลยยอมตามใจคุณเขาด้วยการจูบแก้มแกเบาๆไปหนึ่งที จะว่าไปคุณชุนก็เหมือนแมวไม่หยอก คลอๆเคลียๆไปตามเรื่องราว



ส่วนเราน่ะเหรอ...ก็ทาสแมวไง....


:D
แด่ ต้นหอม 02/12/56
แท็ก #คุณชุนพี่หมวย จ้า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น