Title: หมวย (17)
Image: SEHUN x LUHAN
Author: RUNAWAY05
Note: เมี้ยว...
หลังจากที่ต้นหอมตายไปได้ปีกว่าๆ
เราก็มีแมวตัวใหม่ชื่อไอ้ไข่ต้ม...
ไข่ต้มเป็นแมวจรตัวผู้ตัวดำสนิท มีแต่ดวงตาสีเทาที่ทำให้มันไม่หายไปกับความมืด
ไข่ต้มอายุน่าจะประมาณสามสี่เดือน ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน
เพราะจำได้ว่าวันนั้นเรากับคุณชุนไปซื้อของเข้าห้อง พอรื้อถุงแทนที่จะมีแต่ของ
กลับมีแมวติดถุงมาได้ซะนี่ คุณชุนเดาว่ามันอาจจะขึ้นรถมาด้วย เพราะวันนั้นเราเอาอีแก่ไปซื้อของกัน
รอให้คุณชุนเจอรถใหม่ที่ถูกใจแทนคันเดิมที่เละไปแล้วเสียก่อน
การเลี้ยงแมวครั้งที่สองของเราไม่ลำบากนัก
แต่ต้องแอบหน่อยเพราะที่คอนโดไม่อนุญาต ต้องแอบเลี้ยง
ข้าวของก็ใช้ของเดิมของต้นหอม ไข่ต้มเป็นแมวที่กินง่ายอยู่ง่าย ไม่ให้มันก็ไม่กิน
ไม่ตะเบ็งเสียงใส่เหมือนแมวจรตัวอื่นที่เราเคยเห็น เหมือนเป็นต้นหอมเวอร์ชั่นผู้ชายที่หน่อมแน้มขึ้นมานิดหนึ่ง
หากต้นหอมชอบคลอเคลียคุณชุน ไข่ต้มมันก็ชอบคลอเคลียแต่กับเรา เราไปไหนมันไปด้วย
แต่ถ้าบอกว่าไม่ต้องตาม มันก็รอที่เดิม คุณชุนชอบไข่ต้มมาก เพราะมันเหมือนแมวฝึก
แต่ไข่ต้มดูไม่ชอบคุณชุนเท่าไหร่
อุ้มทีไรต้องมีการแจกแผลให้คุณเขาร้องโอดร้องโอยตลอด
แล้วก็มาทำแผลไปบ่นมันไปอยู่แถวๆโซฟา
“ไข่ต้มไม่รักพ่อเหรอครับ..ข่วนพ่ออีกแล้วนะ”
ไม่รู้เป็นอะไรเวลาคุณเขาแทนตัวเองว่าพ่อแล้วเรารู้สึกเขินขึ้นมาแปลกๆ
จะให้โทษคุณชุนแกไปหมดก็ทำไม่ได้เพราะแกก็แทนตัวเองกับสัตว์เล็กสัตว์น้อยแบบนี้อยู่แล้ว
ไข่ต้มมีปลอกคอ แต่ไม่ใส่กระดิ่ง เลี้ยงแบบปิดอยู่ในห้องเพราะเรากลัวมันจะไปกินอะไรมั่วๆ
เรามีบทเรียนจากต้นหอมมาแล้วและไม่อยากให้มันตายไปอีกตัว และมันก็ไม่งอแงเสียด้วย
เห็นคนนั้นคนนี้บอกว่าเลี้ยงแมวดำไม่ดีนัก
มันไม่เป็นมงคล แต่เรากับคุณชุนไม่ได้เชื่อคำพูดเหล่านั้น เพราะคุณชุนเองเคยอ่านป้ายแมวมงคลในวัด
และแมวมงคลทั้งหลายเป็นแมวดำเสียส่วนมาก และสำหรับเราแมวมันเลือกสีเกิดไม่ได้
ถ้าเกิดมาดำแล้วจะมีคนคิดว่ามันเป็นแบบนั้นแบบนี้ มันก็คงอยากเกิดมาสีอื่น
แมวมันย้อมสีขนเองไม่ได้เหมือนคนย้อมผม มันไม่มีทางเลือก เราเลยไม่อยากให้ไปคิดร้ายใจร้ายกับมันนัก
“พี่หมวย...ดูลูกพี่สิ”
“ครับ?”เราที่กำลังพับผ้าหันไปก็ขำ ไอ้ไข่ต้มนอนมุดเป้าพ่อมันที่นอนอยู่ตรงโซฟา
ไข่ต้มมันก็เป็นแมวนิสัยท่าทางไม่ตรงกับใจไปอย่างนั้น เห็นข่วนคุณชุนจนได้แผล
สักพักก็มาดมๆทำท่าจะเลียแผลให้แล้ว รักรุนแรงกันไปตามประสานั่นแหล่ะ
แต่ก่อนไข่ต้มนอนอยู่ในห้องนอน มันไม่ค่อยมาเบียดแทรกกลางตอนพวกเรานอน
มันนอนในที่นอนของมันสงบเสงี่ยมเรียบร้อย แต่วันไหนคุณชุนแกเริ่มจะอยากฟัดเราขึ้นมา
ตลบตัวมาขึ้นคร่อม เป็นได้มีไอ้ไข่ต้มมานั่งจ้องเป๋งอยู่ข้างเตียงทุกทีไป จนหลังๆมามันไปนอนห้องนั่งเล่น
เราก็พยายามไม่ส่งเสียงดัง เพราะถ้าไข่ต้มมันได้ยินเสียงเราร้อง
มันจะรีบมาตะกุยประตูให้เปิด จะฉลาดแค่ไหนมันก็แมวล่ะ มันไม่รู้หรอกว่าคนเขาทำอะไร
(คิดว่านะ) เลี้ยงมันไปได้สักพัก เจ๊จุ๋มก็พาสาวมาแนะนำให้ไข่ต้มรู้จัก
ชื่อแม่มะลิ แม่มะลิเป็นแมวสฟิ้งซ์ราคาแพง ขนแทบไม่มี ตัวย่นๆเหมือนแมวเรื้อน ชอบแสงแต่ทนร้อนไม่ได้
แม้รูปร่างจะน่ากลัว แต่แม่มะลิเป็นแมวน่ารัก ถ้าไม่ให้ขึ้นโซฟาก็จะไม่ยอมขึ้น
ถ้าไม่อนุญาตแม่มะลิจะนั่งนิ่งๆอยู่อย่างนั้น ไข่ต้มมันก็กลัวแม่มะลิอยู่พัก
พอมาเจอหน้ากันบ่อยๆมันก็ชินของมัน เราก็ได้แต่ดูแมวจีบกันไป
เชื่อไหมตอนนั้นเราจินตนาการตอนลูกของไอ้ไข่ต้มกับแม่มะลิออกมาไม่ได้จริงๆ...
เราคุยกับเจ๊จุ๋มที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือนหลังจากงานบวชคุณชุน
ได้ข่าวว่าน้องมินลาออกจากออฟฟิศมาทำงานเป็นเลขาให้เจ๊จุ๋มแล้ว
เพราะคุณเต๋าแกออกทุนให้เจ๊จุ๋มทำธุรกิจ ช่วยกันทำมาหากิน ฟังเรื่องคุณเต๋าจากเจ๊จุ๋มก็ตลกนัก
คุณเต๋าเป็นคนตัวสูง หน้าคมดุเหมือนมาเฟีย แต่แกกลัวหนอน กลัวผี กลัวที่มืดๆ
ปิดไฟนอนไม่ได้ ต้องเปิดไฟไว้สักมุมในห้อง เจ๊จุ๋มว่ามีผัวเหมือนมีลูก เหนื่อย
แต่มีความสุขเวลาได้ใช้เวลาดีๆด้วยกัน เราก็ดีใจที่เจ๊จุ๋มมีความสุข เพราะเราเองไม่มีพี่น้อง
ก็นับถือแกเหมือนพี่สาวคนหนึ่ง
“แล้วใจคอจะอยู่แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่”เจ๊จุ๋มถามเรา
เราก็นึกอยู่พักก่อนจะสั่นหน้ากลับ
“ไม่รู้เหมือนกันครับ”
“เอ้าทำไมไม่รู้...จนป่านนี้ก็จัดงานจัดการให้เรียบร้อยซิ
คุณริณก็ไปแล้วนี่”
“คุณริณไปครอบครัวเธอก็อยู่ครับ
ผมยังไม่อยากให้มีอะไรมาก อยากให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปก่อน”
“น่ะ...ก็รักเขาล่ะใช่ไหม”เจ๊จุ๋มว่า “นี่พ่อแม่คงจะโอเคกันหมดแล้วล่ะสิ
เสียดายแกท้องไม่ได้ ไม่งั้นก็ป่องโชว์ไปเลย จะได้เลิกพิรี้พิไรสักที”
“มันก็นะครับเจ๊...”
“ทำกันบ่อยล่ะสิ
เก้านิ้วครึ่งเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“...”เราอึ้งอิมกี่มองเจ๊จุ๋มที่ยิ้มหวานพร้อมกับมองแม่มะลิที่ขยับตัวมองเราไปด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นเจ๊จุ๋มบัญชีออฟฟิศหรือไฮโซจุ๋ม
ความมองขาดทุกอย่างของแกยังน่าสะพรึงจริงๆ
หากนิยามว่าแมวก็เหมือนเจ้าของ...แม่มะลินี่ก็เหมือนเจ๊จุ๋มจนน่ากลัว...
โชคดีนะไข่ต้ม...
เรื่องที่ออฟฟิศเราไม่ได้ถามคุณชุนว่ามีใครมาทำอะไรตรงนี้บ้าง
เราไม่ไปยุ่ง ไม่อยากให้ใครครหาว่าพอคุณริณไม่อยู่แล้วเราไปเชิดหน้าชูตา คุณชุนก็ไปทำงานตามปกติ
เลิกงานไม่แวะที่ไหน กลับบ้านตรงเวลา คุณชุนไม่รับเลขา เราเพิ่งมารู้ว่าเราเป็นเลขาคนแรกและคนเดียวของแก
คุณชุนไม่ให้ใครมาทำหน้าที่แม้จะถูกเลียบถามหลายๆครั้ง หลังจากน้องมินออก
คุณชุนก็ให้เจ๊แตมาทำบัญชีออฟฟิศนี้ ใครเกาะกลุ่มเกาะก้อนอยู่อีกตึก แกจับแยกหมด
ยัยน้องจอยก็ถูกย้ายไปตึกโน้น ตั้งตำแหน่งเทียบเจ๊แต คราวนี้เจ๊หยองที่ทำงานมานานก็เลยแตกคอกันกับยัยน้องจอย
ส่วนออฟฟิศนี้นอกจากเจ๊แต คุณชุนก็รับเด็กมาอีกสองคน คนหนึ่งชื่อสุวดี
สุวดีเป็นเหมือนร่างแยกเจ๊จุ๋ม นิสัยไม่เอาพรรคพวก เข้าได้กับทุกคน แต่ไม่เข้าฝ่ายไหน
ไม่สองหัว มีจุดยืนว่ามาเพื่อทำงาน ส่วนอีกคนชื่อกิรตา แรกๆก็เป็นสาวสวยขวัญใจหนุ่มๆอยู่
แต่พอรู้ว่าเป็นสาวซ่อน ฟาดสาวตึกข้างๆเรียบหนุ่มๆก็เลยพากันขยาด
ส่วนพี่ป๋อพอฝึกงานในออฟฟิศเรียบร้อยก็กลับไปทำงานที่บริษัทพ่อของพี่ป๋อแถวๆนวนคร
ส่วนตัวเรานอกจากรับงานเล็กๆน้อยๆไปตามเรื่อง
และปล่อยห้องหอพักให้เพื่อนไอ้น้องหล่อเช่าต่อ ของบางส่วนเราขนกลับบ้าน
บางส่วนก็เอามาไว้ห้องคุณชุน ใช้ชีวิตกึ่งแม่บ้านโดยสมบูรณ์ เช้ามาทำกับข้าว
ส่งลูกชายไปทำงาน ให้ข้าวแมว เก็บอึแมว
กวาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ทำมันทุกอย่าง ติดว่าเป็นคนทำงานเร็ว
และมีช่วงหนึ่งที่ยังไม่มีงานเข้ามา เราเลยเปิดทีวีไม่ให้เงียบ จนเผลอเดินเข้าสู่ศาสตร์หนทางของแม่บ้าน… นั่นคือติดซีรี่ส์...
พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย
เหมือนเปิดมิติใหม่ให้กับโลกใบเล็กของลวินท์ ตนนั้นเป็นแค่รีรันครึ่งชั่วโมง เราก็หลงมนุษย์ต่างดาวหนุ่มหัวปักหัวปำ
ถึงขั้นบอกคุณชุนว่าจะไปรอแถวๆหน้าออฟฟิศ ไว้ไปเทอร์มินอลด้วยกัน คุณเขาก็คงเห็นเราอยู่แต่ห้องคงเบื่อเลยตามใจพาออกมาเที่ยว
เราก็ได้แผ่นคุณมนุษย์ต่างดาวมาล่ะ นั่งดูมันจนจบเรื่อง เกาพุงไอ้ไข่ต้มไปด้วย
นวดไหล่ให้คุณชุนไปด้วย ตานี่จ้องจอไม่กระพริบ พอจบแล้วร่างทรงพ่อให้ไปนอน
เรื่องมันยังวนเวียนในสมอง มันสนุกเหลือเกิน เพราะตอนที่คุณชุนเจ็บอยู่โรงพยาบาลหรือบวชอยู่
เราไปๆมาๆ ไม่มีเวลามานั่งดูแบบนี้ ดูนานๆก็ล้า หัวถึงหมอนก็หลับ สมองมันยังแล่นนะ
ว่าจบแล้วจะเป็นยังไงต่อ ไว้กลับมาดูใหม่ พอรุ่งขึ้นเรามาดูใหม่ ดูซ้ำจนจำได้
ก็ไปเห็นว่าคุณมนุษย์ต่างดาวรับจ๊อบเรื่องอื่นอีก ตามไปดูอีก
ชีวิตวนเวียนกับคุณมนุษย์ต่างดาวอยู่อย่างนั้น
“พี่หมวย เลิกดูซีรี่ส์เถอะครับ
ตาพี่โหลหมดแล้วนะ”คุณชุนทักเราในเย็นวันหนึ่งขณะที่เรากำลังหาแผ่นของสักเรื่องมาเปิดดู
ชั้นใต้ทีวีจากที่ว่างโล่งตอนนี้มีกล่องวีซีดีเรียงรายไปหมด อีกอย่างตอนนี้เราร้องเพลงประกอบละครได้แล้วด้วย
...
“พี่ไม่เป็นไรครับ...เอ...แผ่นสองอยู่ไหนนะ”
“พี่หมวย กลิ่นอะไรไหม้ๆน่ะ”เราหันตามคุณชุนแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าอุ่นมัสมั่นเอาไว้
เราตามคุณชุนไปที่ครัว โชคดีที่ไฟยังไม่ไหม้ แต่กลิ่นไหม้ก็คลุ้งจนไข่ต้มมันวิ่งมาแอบอยู่ข้างหลัง
ยังไม่ทันที่คุณชุนจะจิ๊กกิ้วใส่ เราก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนเคว้งไปเสียก่อน
จำได้แค่ว่าเสียงคุณชุนร้องเรียกเราลั่น ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป แล้วเราก็ไม่รู้สึกตัวอีกหลังจากนั้น
เราลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อมีอะไรเย็นๆเช็ดที่แก้ม
กับกลิ่นฉุนๆจนเราเบ้หน้า ลืมตาก็เจอคุณชุนนั่งหน้างอคอหักใส่ กับไอ้ไข่ต้มที่ชะโงกหน้ามามองเรา
ไม่ทันจะถามว่าเกิดอะไร คุณเขาก็ชิงตอบเรามาเสียก่อน
“พี่เป็นลมล้มลงกลางห้องน่ะครับ...นี่พี่ไม่กินข้าวกินปลาเลยเหรอ?”
“...”เราเงียบก้มหน้า...
“พี่หมวย...”
“อย่าดุนะครับ”เราชิงขอก่อนเพราะกลัวปากคุณชุนแก ไม่รู้ว่าทำสีหน้าอะไรไป
คุณชุนถึงได้เบ้ปากยิ้มๆกลับมา
“ยังไม่ได้ดุสักหน่อย...ผมเป็นห่วง
คิดถึงใจผมสิครับ อยู่ๆพี่ก็วูบไปต่อหน้า แล้วผมจะอยู่ยังไง”แกกอดเราไว้พร้อมกับหอมขมับเบาๆ
“พี่มีหนังดูหลายเรื่อง จะดูเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ผมมีพี่คนเดียวนะ”
“ขอโทษครับ...”เรารับคำอ่อยๆแล้วถามคุณชุนไปเบาเบา
“หิวรึยังครับ เดี๋ยวพี่อุ่นแกงให้ใหม่นะ”
“ยัง..ครับ...อยากกินอย่างอื่นก่อน”แกว่าเท่านั้นเราก็รู้ชะตากรรมทีเดียว
ไอ้ไข่ต้มถึงกับถอนหายใจใส่ มันกระโดดแผล็วออกไปข้างนอกและคุณชุนก็โน้มตัวลงทับเราไว้
จะเรียกอึดอัดก็ไม่ใช่ จะว่าเคยชินก็ไม่เชิง จนตอนนี้เราถึงนึกได้ว่าปล่อยคุณชายว้าเหว่เอกามาหลายวัน
เราหลับตาเมื่อแกจูบแก้มเบาๆ ปัดป่ายลมหายใจอย่างไม่เจาะจงนัก สรุปว่าเสร็จโจรป่าละเมาะ
เรายังชอบกอดคุณชุนไว้เสมอ บางครั้งก็รู้สึกโชคดีที่บ่าของแกกว้างพอที่จะให้เราซบหน้าลงไป
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นด้วยความสัตย์ซื่อ เราเต็มใจทั้งสิ้น
แรกเริ่มเราอาจจะประหม่ากลัว เพราะเราไม่มั่นใจ พูดได้ว่าเรายังมองไม่เห็นความยั่งยืน
แต่พอเรากระโดดจากดาดฟ้าชั้นที่แปดสิบมาแล้วเรารอด เราก็ไม่กลัวอะไรอีกเลย
ไม่ใช่...
แค่มีคุณชุนอยู่...เราก็คิดว่าเราไม่กลัวอะไรอีก...
หลังจากนั้นเราก็เพลาๆเรื่องติดซีรี่ส์ลง
แล้วมานั่งรอดูคุณแกต่อกันพลาลูกรักของแก ไข่ต้มมันไม่เคยแตะ เวลาพ่อมันจับมันก็นั่งตาแป๋วนิ่งๆ
เพราะคุณชุนบอกว่าถ้าทำหุ่นพังจะไม่รัก จะเอาไปทิ้งถังขยะ
มันก็นั่งหงอรอให้คุณชุนมากอดมาโอ๋มัน เราก็ช่วยคุณชุนแกโมเดลจากกล่องบ้าง
ทำกิจกรรมร่วมกันทั้งเลี้ยงพวกกระบองเพชรแคระ (ศัตรูของแม่มะลิ) หรือไม่มีอะไรทำก็ปิดเน็ต
นั่งเล่นไดโนเสาร์กระโดดข้ามต้นกระบองเพชร
ใครทำคะแนนได้เยอะกว่าจะสามารถสั่งให้คนแพ้ทำอะไรก็ได้ เป็นเกมที่คุณชุนชื่นชอบแต่เราไม่นิยมนัก
เราไม่ถนัด และค่อนข้างจะเปลืองตัวทุกทีพิกล (...)
วันนี้เป็นวันหยุด คุณนายลดาก็ชวนเรากับคุณชุนมากินข้าวที่บ้านสาทร
หลังจากที่เจ้าสัวได้ฤกษ์ยามตัดหัวปลีหลังคฤหาสน์ เรามาถึงบ้าน
คุณแจ็คก็ออกไปเล่นที่บ้านหญิงยายเหมือนเดิม คุณนายลดาแกลงมือทำอาหารเองตลอด แกไม่ชอบให้ใครมาช่วย
แกว่าเกะกะ เตรียมของเอาไว้ก็พอ เราเลยไม่ได้ไปคลุกวงในอะไรในครัวกับคุณนายนัก
เมนูวันนี้มีแต่กล้วย ทั้งผัดกะเพรากล้วยดิบ ผัดหัวปลี ต้มข่าไก่หัวปลี ยำหัวปลี
ทอดมันหัวปลี ตบท้ายด้วยกล้วยบวชชี และกล้วยบวชพระ ตอนแรกเราก็งงว่าบวชพระยังไง
สรุปคือก็กล้วยบวชชีล่ะ แต่เอาน้ำกะทิมาปั่นใส่เนื้อฟักทองต้มจนเป็นครีมสีเหลือง
(ส่วนกล้วยบวชพระที่ใส่กล้วยลูกเล็กๆสุกงอมทั้งลูก
เจ้าสัวแกบอกเรียกกล้วยบวชเณร... ตามใจฝรั่งเถอะ)
สวนหลังบ้านคุณชุนร่มรื่น
ถึงแม้จะทำสวนเกษตรพอเพียงตามอารมณ์เจ้าสัว
แต่ก็มีทางที่ยกพื้นเพื่อตรงไปยังฝั่งริมแม่น้ำ เรายังรู้สึกดีที่มีบรรยากาศแบบนี้อยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง
พวกเราสองคนพิงแขนกับราวเหล็ก มองแม่น้ำพวกนั้นจนคุณชุนพูดขึ้น
“อยู่ๆผมก็นึกถึงตอนที่ผมไปเล่นกับพี่ตอนเด็กๆ
แม่ให้ผมไปวันละห้าสิบ ซื้อไอติมเลี้ยงพวกพี่กับตัวเองก็ยี่สิบบาทแล้ว”
“จะเช็คบิลย้อนหลังเหรอครับ”เราถามแล้วแกก็ยิ้ม
“เปล่าครับ ตอนนั้นผมกลัวจะไม่ได้เล่นกับพี่มากกว่า
คิดแล้วก็ตลกดีครับ ตอนเรายังเด็กเรามีความสุขได้ง่ายมากเลย... พอเราโตขึ้น
ความต้องการปรับเปลี่ยน แต่ก่อนเราก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินทองนี่ครับ มีพ่อแม่
มีของกิน มีของเล่น เรามีความสุข พอเราโตขึ้นมาสิ่งที่เราอยากได้มากขึ้น แล้วก็รู้ว่าสิ่งที่จะทำให้เราได้มามันคือเงิน”
เรามองคุณชุนที่เหยียดแขนไปกับราวอยู่อย่างนั้น...
“พอเรามีเงินเติมเต็มทุกอย่าง
เราถึงได้รู้ว่าบางสิ่งเงินก็เติมเต็มไม่ได้ ในแง่ของความรู้สึก
แต่จะให้พูดว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ก็ออกจะสร้างภาพไปหน่อยนะครับ ฮ่ะๆ”
“อะไรที่คุณชุนคิดว่าเงินเติมเต็มมันไม่ได้ครับ?”
“ผมคิดว่าพี่”
“โอนมาสองล้านสิครับ เดี๋ยวพี่มีความสุขให้ดู”เราว่าก่อนจะโดนยีศีรษะ
ตอนแรกว่าคิดในใจแต่มีเสียง...ไม่โดนจับเหวี่ยงลงเจ้าพระยาก็ดีแค่ไหน...
“อย่างน้อยหัวใจพี่ก็ใช้เงินซื้อไม่ได้”คุณชุนยิ้ม “สงสัยผมจะปลงเยอะ
อีกเดี๋ยวก็หยุดยาว...ไปบ้านพี่กันมั้ยครับ?”
“พ่อกับแม่พี่ท่านก็บอกว่าวันหยุดยาวให้มาอยู่ดูแลที่นี่ซะบ้างครับ
คงเกรงใจที่คุณชุนไปหาทุกวันอาทิตย์”
“เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็ไปเที่ยวต่างประเทศอีกครับ
ยิ่งแม่ร่ำๆว่าอยากไปฮ่องกง ผมไม่อยากให้พี่นอนดูซีรี่ส์ ผมเบื่อ”แกว่าใส่เราสีหน้าไม่จริงจัง
“ไปเที่ยวกันมั้ยครับ? ไข่ต้มก็ฝากพี่จุ๋มไว้ มันคงไม่เตลิดไปไหน”
“แล้วคุณชุนจะไปไหน”เราถาม
แล้วแกก็เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะส่งยิ้มให้
“ชะอำ...”
“ไม่ไปแล้วครับ”เราแทรกเพราะรู้นัยยะ... ก็เล่นพาเราไปเสียตัวซะไกล...
“แล้วพี่อยากไปไหนดี?”
“อยากไปฝั่งเหนือหน่อยครับ แต่ไม่ไปหาไอ้อี้นะ
พี่เบื่อหน้ามัน”เราพูด และคิดว่าถ้ามันไดยินคงด่าเราแน่ๆ
“งั้น...ไปเที่ยวจังหวัดเลยมั้ยครับ
เดี๋ยวจองโรงแรมแล้วก็ตั๋วเครื่องบินไว้ด้วย”คุณชุนแนะนำอีกครั้งซึ่งเราก็เห็นด้วย
ออกไปเที่ยวสักครั้งหลังจากเจอเรื่องหนักๆแล้วก็ทำงานหนักๆนี่ก็ดีเหมือนกัน...
ตื่นเต้นขึ้นมาแล้วแฮะ...
:D
แท็ก #คุณชุนพี่หมวย คับพ้ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น