วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หมวย (Sehun x Luhan) (17)











Title: หมวย (17)
Image: SEHUN x LUHAN
Author: RUNAWAY05
  Note: เมี้ยว...



หลังจากที่ต้นหอมตายไปได้ปีกว่าๆ เราก็มีแมวตัวใหม่ชื่อไอ้ไข่ต้ม...

ไข่ต้มเป็นแมวจรตัวผู้ตัวดำสนิท มีแต่ดวงตาสีเทาที่ทำให้มันไม่หายไปกับความมืด ไข่ต้มอายุน่าจะประมาณสามสี่เดือน ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน เพราะจำได้ว่าวันนั้นเรากับคุณชุนไปซื้อของเข้าห้อง พอรื้อถุงแทนที่จะมีแต่ของ กลับมีแมวติดถุงมาได้ซะนี่ คุณชุนเดาว่ามันอาจจะขึ้นรถมาด้วย เพราะวันนั้นเราเอาอีแก่ไปซื้อของกัน รอให้คุณชุนเจอรถใหม่ที่ถูกใจแทนคันเดิมที่เละไปแล้วเสียก่อน

การเลี้ยงแมวครั้งที่สองของเราไม่ลำบากนัก แต่ต้องแอบหน่อยเพราะที่คอนโดไม่อนุญาต ต้องแอบเลี้ยง ข้าวของก็ใช้ของเดิมของต้นหอม ไข่ต้มเป็นแมวที่กินง่ายอยู่ง่าย ไม่ให้มันก็ไม่กิน ไม่ตะเบ็งเสียงใส่เหมือนแมวจรตัวอื่นที่เราเคยเห็น เหมือนเป็นต้นหอมเวอร์ชั่นผู้ชายที่หน่อมแน้มขึ้นมานิดหนึ่ง หากต้นหอมชอบคลอเคลียคุณชุน ไข่ต้มมันก็ชอบคลอเคลียแต่กับเรา เราไปไหนมันไปด้วย แต่ถ้าบอกว่าไม่ต้องตาม มันก็รอที่เดิม คุณชุนชอบไข่ต้มมาก เพราะมันเหมือนแมวฝึก แต่ไข่ต้มดูไม่ชอบคุณชุนเท่าไหร่ อุ้มทีไรต้องมีการแจกแผลให้คุณเขาร้องโอดร้องโอยตลอด แล้วก็มาทำแผลไปบ่นมันไปอยู่แถวๆโซฟา

“ไข่ต้มไม่รักพ่อเหรอครับ..ข่วนพ่ออีกแล้วนะ”

ไม่รู้เป็นอะไรเวลาคุณเขาแทนตัวเองว่าพ่อแล้วเรารู้สึกเขินขึ้นมาแปลกๆ จะให้โทษคุณชุนแกไปหมดก็ทำไม่ได้เพราะแกก็แทนตัวเองกับสัตว์เล็กสัตว์น้อยแบบนี้อยู่แล้ว ไข่ต้มมีปลอกคอ แต่ไม่ใส่กระดิ่ง เลี้ยงแบบปิดอยู่ในห้องเพราะเรากลัวมันจะไปกินอะไรมั่วๆ เรามีบทเรียนจากต้นหอมมาแล้วและไม่อยากให้มันตายไปอีกตัว และมันก็ไม่งอแงเสียด้วย

เห็นคนนั้นคนนี้บอกว่าเลี้ยงแมวดำไม่ดีนัก มันไม่เป็นมงคล แต่เรากับคุณชุนไม่ได้เชื่อคำพูดเหล่านั้น เพราะคุณชุนเองเคยอ่านป้ายแมวมงคลในวัด และแมวมงคลทั้งหลายเป็นแมวดำเสียส่วนมาก และสำหรับเราแมวมันเลือกสีเกิดไม่ได้ ถ้าเกิดมาดำแล้วจะมีคนคิดว่ามันเป็นแบบนั้นแบบนี้ มันก็คงอยากเกิดมาสีอื่น แมวมันย้อมสีขนเองไม่ได้เหมือนคนย้อมผม มันไม่มีทางเลือก เราเลยไม่อยากให้ไปคิดร้ายใจร้ายกับมันนัก

“พี่หมวย...ดูลูกพี่สิ”

“ครับ?”เราที่กำลังพับผ้าหันไปก็ขำ ไอ้ไข่ต้มนอนมุดเป้าพ่อมันที่นอนอยู่ตรงโซฟา ไข่ต้มมันก็เป็นแมวนิสัยท่าทางไม่ตรงกับใจไปอย่างนั้น เห็นข่วนคุณชุนจนได้แผล สักพักก็มาดมๆทำท่าจะเลียแผลให้แล้ว รักรุนแรงกันไปตามประสานั่นแหล่ะ

แต่ก่อนไข่ต้มนอนอยู่ในห้องนอน มันไม่ค่อยมาเบียดแทรกกลางตอนพวกเรานอน มันนอนในที่นอนของมันสงบเสงี่ยมเรียบร้อย แต่วันไหนคุณชุนแกเริ่มจะอยากฟัดเราขึ้นมา ตลบตัวมาขึ้นคร่อม เป็นได้มีไอ้ไข่ต้มมานั่งจ้องเป๋งอยู่ข้างเตียงทุกทีไป จนหลังๆมามันไปนอนห้องนั่งเล่น เราก็พยายามไม่ส่งเสียงดัง เพราะถ้าไข่ต้มมันได้ยินเสียงเราร้อง มันจะรีบมาตะกุยประตูให้เปิด จะฉลาดแค่ไหนมันก็แมวล่ะ มันไม่รู้หรอกว่าคนเขาทำอะไร (คิดว่านะ) เลี้ยงมันไปได้สักพัก เจ๊จุ๋มก็พาสาวมาแนะนำให้ไข่ต้มรู้จัก ชื่อแม่มะลิ แม่มะลิเป็นแมวสฟิ้งซ์ราคาแพง ขนแทบไม่มี ตัวย่นๆเหมือนแมวเรื้อน ชอบแสงแต่ทนร้อนไม่ได้ แม้รูปร่างจะน่ากลัว แต่แม่มะลิเป็นแมวน่ารัก ถ้าไม่ให้ขึ้นโซฟาก็จะไม่ยอมขึ้น ถ้าไม่อนุญาตแม่มะลิจะนั่งนิ่งๆอยู่อย่างนั้น ไข่ต้มมันก็กลัวแม่มะลิอยู่พัก พอมาเจอหน้ากันบ่อยๆมันก็ชินของมัน เราก็ได้แต่ดูแมวจีบกันไป

เชื่อไหมตอนนั้นเราจินตนาการตอนลูกของไอ้ไข่ต้มกับแม่มะลิออกมาไม่ได้จริงๆ...

เราคุยกับเจ๊จุ๋มที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือนหลังจากงานบวชคุณชุน ได้ข่าวว่าน้องมินลาออกจากออฟฟิศมาทำงานเป็นเลขาให้เจ๊จุ๋มแล้ว เพราะคุณเต๋าแกออกทุนให้เจ๊จุ๋มทำธุรกิจ ช่วยกันทำมาหากิน ฟังเรื่องคุณเต๋าจากเจ๊จุ๋มก็ตลกนัก คุณเต๋าเป็นคนตัวสูง หน้าคมดุเหมือนมาเฟีย แต่แกกลัวหนอน กลัวผี กลัวที่มืดๆ ปิดไฟนอนไม่ได้ ต้องเปิดไฟไว้สักมุมในห้อง เจ๊จุ๋มว่ามีผัวเหมือนมีลูก เหนื่อย แต่มีความสุขเวลาได้ใช้เวลาดีๆด้วยกัน เราก็ดีใจที่เจ๊จุ๋มมีความสุข เพราะเราเองไม่มีพี่น้อง ก็นับถือแกเหมือนพี่สาวคนหนึ่ง

“แล้วใจคอจะอยู่แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่”เจ๊จุ๋มถามเรา เราก็นึกอยู่พักก่อนจะสั่นหน้ากลับ

“ไม่รู้เหมือนกันครับ”

“เอ้าทำไมไม่รู้...จนป่านนี้ก็จัดงานจัดการให้เรียบร้อยซิ คุณริณก็ไปแล้วนี่”

“คุณริณไปครอบครัวเธอก็อยู่ครับ ผมยังไม่อยากให้มีอะไรมาก อยากให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปก่อน”

“น่ะ...ก็รักเขาล่ะใช่ไหม”เจ๊จุ๋มว่า “นี่พ่อแม่คงจะโอเคกันหมดแล้วล่ะสิ เสียดายแกท้องไม่ได้ ไม่งั้นก็ป่องโชว์ไปเลย จะได้เลิกพิรี้พิไรสักที”

“มันก็นะครับเจ๊...”

“ทำกันบ่อยล่ะสิ เก้านิ้วครึ่งเป็นยังไงบ้างล่ะ”

“...”เราอึ้งอิมกี่มองเจ๊จุ๋มที่ยิ้มหวานพร้อมกับมองแม่มะลิที่ขยับตัวมองเราไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ๊จุ๋มบัญชีออฟฟิศหรือไฮโซจุ๋ม ความมองขาดทุกอย่างของแกยังน่าสะพรึงจริงๆ



หากนิยามว่าแมวก็เหมือนเจ้าของ...แม่มะลินี่ก็เหมือนเจ๊จุ๋มจนน่ากลัว...
โชคดีนะไข่ต้ม...




เรื่องที่ออฟฟิศเราไม่ได้ถามคุณชุนว่ามีใครมาทำอะไรตรงนี้บ้าง เราไม่ไปยุ่ง ไม่อยากให้ใครครหาว่าพอคุณริณไม่อยู่แล้วเราไปเชิดหน้าชูตา คุณชุนก็ไปทำงานตามปกติ เลิกงานไม่แวะที่ไหน กลับบ้านตรงเวลา คุณชุนไม่รับเลขา เราเพิ่งมารู้ว่าเราเป็นเลขาคนแรกและคนเดียวของแก คุณชุนไม่ให้ใครมาทำหน้าที่แม้จะถูกเลียบถามหลายๆครั้ง หลังจากน้องมินออก คุณชุนก็ให้เจ๊แตมาทำบัญชีออฟฟิศนี้ ใครเกาะกลุ่มเกาะก้อนอยู่อีกตึก แกจับแยกหมด ยัยน้องจอยก็ถูกย้ายไปตึกโน้น ตั้งตำแหน่งเทียบเจ๊แต คราวนี้เจ๊หยองที่ทำงานมานานก็เลยแตกคอกันกับยัยน้องจอย ส่วนออฟฟิศนี้นอกจากเจ๊แต คุณชุนก็รับเด็กมาอีกสองคน คนหนึ่งชื่อสุวดี สุวดีเป็นเหมือนร่างแยกเจ๊จุ๋ม นิสัยไม่เอาพรรคพวก เข้าได้กับทุกคน แต่ไม่เข้าฝ่ายไหน ไม่สองหัว มีจุดยืนว่ามาเพื่อทำงาน ส่วนอีกคนชื่อกิรตา แรกๆก็เป็นสาวสวยขวัญใจหนุ่มๆอยู่ แต่พอรู้ว่าเป็นสาวซ่อน ฟาดสาวตึกข้างๆเรียบหนุ่มๆก็เลยพากันขยาด ส่วนพี่ป๋อพอฝึกงานในออฟฟิศเรียบร้อยก็กลับไปทำงานที่บริษัทพ่อของพี่ป๋อแถวๆนวนคร

ส่วนตัวเรานอกจากรับงานเล็กๆน้อยๆไปตามเรื่อง และปล่อยห้องหอพักให้เพื่อนไอ้น้องหล่อเช่าต่อ ของบางส่วนเราขนกลับบ้าน บางส่วนก็เอามาไว้ห้องคุณชุน ใช้ชีวิตกึ่งแม่บ้านโดยสมบูรณ์ เช้ามาทำกับข้าว ส่งลูกชายไปทำงาน  ให้ข้าวแมว เก็บอึแมว กวาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ทำมันทุกอย่าง ติดว่าเป็นคนทำงานเร็ว และมีช่วงหนึ่งที่ยังไม่มีงานเข้ามา เราเลยเปิดทีวีไม่ให้เงียบ จนเผลอเดินเข้าสู่ศาสตร์หนทางของแม่บ้านนั่นคือติดซีรี่ส์...

พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย เหมือนเปิดมิติใหม่ให้กับโลกใบเล็กของลวินท์ ตนนั้นเป็นแค่รีรันครึ่งชั่วโมง เราก็หลงมนุษย์ต่างดาวหนุ่มหัวปักหัวปำ ถึงขั้นบอกคุณชุนว่าจะไปรอแถวๆหน้าออฟฟิศ ไว้ไปเทอร์มินอลด้วยกัน คุณเขาก็คงเห็นเราอยู่แต่ห้องคงเบื่อเลยตามใจพาออกมาเที่ยว เราก็ได้แผ่นคุณมนุษย์ต่างดาวมาล่ะ นั่งดูมันจนจบเรื่อง เกาพุงไอ้ไข่ต้มไปด้วย นวดไหล่ให้คุณชุนไปด้วย ตานี่จ้องจอไม่กระพริบ พอจบแล้วร่างทรงพ่อให้ไปนอน เรื่องมันยังวนเวียนในสมอง มันสนุกเหลือเกิน เพราะตอนที่คุณชุนเจ็บอยู่โรงพยาบาลหรือบวชอยู่ เราไปๆมาๆ ไม่มีเวลามานั่งดูแบบนี้ ดูนานๆก็ล้า หัวถึงหมอนก็หลับ สมองมันยังแล่นนะ ว่าจบแล้วจะเป็นยังไงต่อ ไว้กลับมาดูใหม่ พอรุ่งขึ้นเรามาดูใหม่ ดูซ้ำจนจำได้ ก็ไปเห็นว่าคุณมนุษย์ต่างดาวรับจ๊อบเรื่องอื่นอีก ตามไปดูอีก ชีวิตวนเวียนกับคุณมนุษย์ต่างดาวอยู่อย่างนั้น

“พี่หมวย เลิกดูซีรี่ส์เถอะครับ ตาพี่โหลหมดแล้วนะ”คุณชุนทักเราในเย็นวันหนึ่งขณะที่เรากำลังหาแผ่นของสักเรื่องมาเปิดดู ชั้นใต้ทีวีจากที่ว่างโล่งตอนนี้มีกล่องวีซีดีเรียงรายไปหมด อีกอย่างตอนนี้เราร้องเพลงประกอบละครได้แล้วด้วย ...

“พี่ไม่เป็นไรครับ...เอ...แผ่นสองอยู่ไหนนะ”

“พี่หมวย กลิ่นอะไรไหม้ๆน่ะ”เราหันตามคุณชุนแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าอุ่นมัสมั่นเอาไว้ เราตามคุณชุนไปที่ครัว โชคดีที่ไฟยังไม่ไหม้ แต่กลิ่นไหม้ก็คลุ้งจนไข่ต้มมันวิ่งมาแอบอยู่ข้างหลัง ยังไม่ทันที่คุณชุนจะจิ๊กกิ้วใส่ เราก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนเคว้งไปเสียก่อน จำได้แค่ว่าเสียงคุณชุนร้องเรียกเราลั่น ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป แล้วเราก็ไม่รู้สึกตัวอีกหลังจากนั้น

เราลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อมีอะไรเย็นๆเช็ดที่แก้ม กับกลิ่นฉุนๆจนเราเบ้หน้า ลืมตาก็เจอคุณชุนนั่งหน้างอคอหักใส่ กับไอ้ไข่ต้มที่ชะโงกหน้ามามองเรา ไม่ทันจะถามว่าเกิดอะไร คุณเขาก็ชิงตอบเรามาเสียก่อน

“พี่เป็นลมล้มลงกลางห้องน่ะครับ...นี่พี่ไม่กินข้าวกินปลาเลยเหรอ?”

“...”เราเงียบก้มหน้า...

“พี่หมวย...”

“อย่าดุนะครับ”เราชิงขอก่อนเพราะกลัวปากคุณชุนแก ไม่รู้ว่าทำสีหน้าอะไรไป คุณชุนถึงได้เบ้ปากยิ้มๆกลับมา

“ยังไม่ได้ดุสักหน่อย...ผมเป็นห่วง คิดถึงใจผมสิครับ อยู่ๆพี่ก็วูบไปต่อหน้า แล้วผมจะอยู่ยังไง”แกกอดเราไว้พร้อมกับหอมขมับเบาๆ “พี่มีหนังดูหลายเรื่อง จะดูเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ผมมีพี่คนเดียวนะ”

“ขอโทษครับ...”เรารับคำอ่อยๆแล้วถามคุณชุนไปเบาเบา “หิวรึยังครับ เดี๋ยวพี่อุ่นแกงให้ใหม่นะ”

“ยัง..ครับ...อยากกินอย่างอื่นก่อน”แกว่าเท่านั้นเราก็รู้ชะตากรรมทีเดียว ไอ้ไข่ต้มถึงกับถอนหายใจใส่ มันกระโดดแผล็วออกไปข้างนอกและคุณชุนก็โน้มตัวลงทับเราไว้ จะเรียกอึดอัดก็ไม่ใช่ จะว่าเคยชินก็ไม่เชิง จนตอนนี้เราถึงนึกได้ว่าปล่อยคุณชายว้าเหว่เอกามาหลายวัน เราหลับตาเมื่อแกจูบแก้มเบาๆ ปัดป่ายลมหายใจอย่างไม่เจาะจงนัก สรุปว่าเสร็จโจรป่าละเมาะ เรายังชอบกอดคุณชุนไว้เสมอ บางครั้งก็รู้สึกโชคดีที่บ่าของแกกว้างพอที่จะให้เราซบหน้าลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นด้วยความสัตย์ซื่อ เราเต็มใจทั้งสิ้น แรกเริ่มเราอาจจะประหม่ากลัว เพราะเราไม่มั่นใจ พูดได้ว่าเรายังมองไม่เห็นความยั่งยืน แต่พอเรากระโดดจากดาดฟ้าชั้นที่แปดสิบมาแล้วเรารอด เราก็ไม่กลัวอะไรอีกเลย


ไม่ใช่...
แค่มีคุณชุนอยู่...เราก็คิดว่าเราไม่กลัวอะไรอีก...



หลังจากนั้นเราก็เพลาๆเรื่องติดซีรี่ส์ลง แล้วมานั่งรอดูคุณแกต่อกันพลาลูกรักของแก ไข่ต้มมันไม่เคยแตะ เวลาพ่อมันจับมันก็นั่งตาแป๋วนิ่งๆ เพราะคุณชุนบอกว่าถ้าทำหุ่นพังจะไม่รัก จะเอาไปทิ้งถังขยะ มันก็นั่งหงอรอให้คุณชุนมากอดมาโอ๋มัน เราก็ช่วยคุณชุนแกโมเดลจากกล่องบ้าง ทำกิจกรรมร่วมกันทั้งเลี้ยงพวกกระบองเพชรแคระ (ศัตรูของแม่มะลิ) หรือไม่มีอะไรทำก็ปิดเน็ต นั่งเล่นไดโนเสาร์กระโดดข้ามต้นกระบองเพชร ใครทำคะแนนได้เยอะกว่าจะสามารถสั่งให้คนแพ้ทำอะไรก็ได้ เป็นเกมที่คุณชุนชื่นชอบแต่เราไม่นิยมนัก เราไม่ถนัด และค่อนข้างจะเปลืองตัวทุกทีพิกล (...)

วันนี้เป็นวันหยุด คุณนายลดาก็ชวนเรากับคุณชุนมากินข้าวที่บ้านสาทร หลังจากที่เจ้าสัวได้ฤกษ์ยามตัดหัวปลีหลังคฤหาสน์ เรามาถึงบ้าน คุณแจ็คก็ออกไปเล่นที่บ้านหญิงยายเหมือนเดิม คุณนายลดาแกลงมือทำอาหารเองตลอด แกไม่ชอบให้ใครมาช่วย แกว่าเกะกะ เตรียมของเอาไว้ก็พอ เราเลยไม่ได้ไปคลุกวงในอะไรในครัวกับคุณนายนัก เมนูวันนี้มีแต่กล้วย ทั้งผัดกะเพรากล้วยดิบ ผัดหัวปลี ต้มข่าไก่หัวปลี ยำหัวปลี ทอดมันหัวปลี ตบท้ายด้วยกล้วยบวชชี และกล้วยบวชพระ ตอนแรกเราก็งงว่าบวชพระยังไง สรุปคือก็กล้วยบวชชีล่ะ แต่เอาน้ำกะทิมาปั่นใส่เนื้อฟักทองต้มจนเป็นครีมสีเหลือง (ส่วนกล้วยบวชพระที่ใส่กล้วยลูกเล็กๆสุกงอมทั้งลูก เจ้าสัวแกบอกเรียกกล้วยบวชเณร... ตามใจฝรั่งเถอะ)

สวนหลังบ้านคุณชุนร่มรื่น ถึงแม้จะทำสวนเกษตรพอเพียงตามอารมณ์เจ้าสัว แต่ก็มีทางที่ยกพื้นเพื่อตรงไปยังฝั่งริมแม่น้ำ เรายังรู้สึกดีที่มีบรรยากาศแบบนี้อยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง พวกเราสองคนพิงแขนกับราวเหล็ก มองแม่น้ำพวกนั้นจนคุณชุนพูดขึ้น

“อยู่ๆผมก็นึกถึงตอนที่ผมไปเล่นกับพี่ตอนเด็กๆ แม่ให้ผมไปวันละห้าสิบ ซื้อไอติมเลี้ยงพวกพี่กับตัวเองก็ยี่สิบบาทแล้ว”

“จะเช็คบิลย้อนหลังเหรอครับ”เราถามแล้วแกก็ยิ้ม

“เปล่าครับ ตอนนั้นผมกลัวจะไม่ได้เล่นกับพี่มากกว่า คิดแล้วก็ตลกดีครับ ตอนเรายังเด็กเรามีความสุขได้ง่ายมากเลย... พอเราโตขึ้น ความต้องการปรับเปลี่ยน แต่ก่อนเราก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินทองนี่ครับ มีพ่อแม่ มีของกิน มีของเล่น เรามีความสุข พอเราโตขึ้นมาสิ่งที่เราอยากได้มากขึ้น แล้วก็รู้ว่าสิ่งที่จะทำให้เราได้มามันคือเงิน”

เรามองคุณชุนที่เหยียดแขนไปกับราวอยู่อย่างนั้น...

“พอเรามีเงินเติมเต็มทุกอย่าง เราถึงได้รู้ว่าบางสิ่งเงินก็เติมเต็มไม่ได้ ในแง่ของความรู้สึก แต่จะให้พูดว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ก็ออกจะสร้างภาพไปหน่อยนะครับ ฮ่ะๆ”

“อะไรที่คุณชุนคิดว่าเงินเติมเต็มมันไม่ได้ครับ?”

“ผมคิดว่าพี่”

“โอนมาสองล้านสิครับ เดี๋ยวพี่มีความสุขให้ดู”เราว่าก่อนจะโดนยีศีรษะ ตอนแรกว่าคิดในใจแต่มีเสียง...ไม่โดนจับเหวี่ยงลงเจ้าพระยาก็ดีแค่ไหน...

“อย่างน้อยหัวใจพี่ก็ใช้เงินซื้อไม่ได้”คุณชุนยิ้ม “สงสัยผมจะปลงเยอะ อีกเดี๋ยวก็หยุดยาว...ไปบ้านพี่กันมั้ยครับ?”

“พ่อกับแม่พี่ท่านก็บอกว่าวันหยุดยาวให้มาอยู่ดูแลที่นี่ซะบ้างครับ คงเกรงใจที่คุณชุนไปหาทุกวันอาทิตย์”

“เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็ไปเที่ยวต่างประเทศอีกครับ ยิ่งแม่ร่ำๆว่าอยากไปฮ่องกง ผมไม่อยากให้พี่นอนดูซีรี่ส์ ผมเบื่อ”แกว่าใส่เราสีหน้าไม่จริงจัง “ไปเที่ยวกันมั้ยครับ? ไข่ต้มก็ฝากพี่จุ๋มไว้ มันคงไม่เตลิดไปไหน”

“แล้วคุณชุนจะไปไหน”เราถาม แล้วแกก็เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะส่งยิ้มให้

“ชะอำ...”

“ไม่ไปแล้วครับ”เราแทรกเพราะรู้นัยยะ... ก็เล่นพาเราไปเสียตัวซะไกล...

“แล้วพี่อยากไปไหนดี?”

“อยากไปฝั่งเหนือหน่อยครับ แต่ไม่ไปหาไอ้อี้นะ พี่เบื่อหน้ามัน”เราพูด และคิดว่าถ้ามันไดยินคงด่าเราแน่ๆ

“งั้น...ไปเที่ยวจังหวัดเลยมั้ยครับ เดี๋ยวจองโรงแรมแล้วก็ตั๋วเครื่องบินไว้ด้วย”คุณชุนแนะนำอีกครั้งซึ่งเราก็เห็นด้วย ออกไปเที่ยวสักครั้งหลังจากเจอเรื่องหนักๆแล้วก็ทำงานหนักๆนี่ก็ดีเหมือนกัน...

ตื่นเต้นขึ้นมาแล้วแฮะ...



:D
แท็ก #คุณชุนพี่หมวย คับพ้ม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น